ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] .....MAMA Plan.....Kris x Luhan

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนพิเศษ : เซฮุน

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ค. 55


    “เซฮุน  แกกับพี่ลู่หานมีปัญหาอะไรกันรึเปล่าวะ?”  อยู่ดีๆจงอินมันก็ถามผมขึ้นมาซะเฉยๆตอนที่เรากำลังดื่มกันอยู่ที่หอพักของมัน  พอเลิกเรียนมันก็ลากคอผมกับแทมินมาที่หอของมันด้วยเหตุผลง่ายๆว่ามันอยากดื่ม  ช่วยมาดื่มเป็นเพื่อนมันที  แน่นอนว่าเพื่อนคนดีของพวกเราอย่างแทมินปฏิเสธเสียงแข็งแต่สุดท้ายก็มานั่งล้อมวงอยู่ด้วยแต่ก็ไม่ยอมดื่มอยู่ดี  มีแต่ผมกับจงอินเนี่ยแหละซัดเอาๆ

     

    “ทำไมแกคิดงั้นล่ะ”

     

    “ก็วันนั้นชั้นกับแทมินน่ะเห็......”  แทมินตกใจรีบยกมือขึ้นปิดปากจงอินที่เหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา

     

    “เห็นอะไร??”

     

    “ไม่มีอะไรหรอก  ไอ้บ้าจงอินมันคงเมาแล้วพูดเพ้อเจ้อ  อย่าไปใส่ใจมันเลย”  แทมินบอกแล้วขู่จงอินผ่านสายตาก่อนจะยอมเอามือลงปล่อยให้มันซดต่อ

     

    “แล้วตกลงว่ามีปัญหาอะไรกันรึเปล่า  กับพี่ลู่หานน่ะ  โอ้ย  แทมินจะตีทำไมเนี่ย”

     

    “นายสัญญากับชั้นแล้วว่าจะไม่พูดเรื่องนี้”  แทมินพูดเสียงเบามากแต่ผมก็พอจะจับใจความได้

     

    “นายสองคนมีอะไรปิดบังชั้นรึเปล่า”  ผมวางขวดเบียร์ลงแล้วจ้องหน้าทั้งสองคน  แทมินยิ้มให้ผมแหยๆแล้วหันไปทำหน้าดุใส่จงอินอีกรอบ

     

    “ถ้าพวกนายยังเห็นชั้นเป็นเพื่อนก็บอกมาเถอะว่าเรื่องอะไร  แล้วก็ที่แกถามว่าชั้นมีปัญหาอะไรกับพี่ลู่หานมั้ย  ชั้นตอบได้เลยว่าเปล่า  แต่แค่มันไม่เหมือนเดิม”

     

    “นั่นไง  ชั้นบอกแล้วว่ามันต้องมีอะไร”  จงอินตบเข่าฉาดแล้วยิ้มเยาะแทมิน

     

    “ที่นายว่าไม่เหมือนเดิมน่ะ  หมายถึงยังไง”  แทมินหันมาถามผมโดยไม่ได้สนใจจงอินที่ทำหน้าภูมิใจอยู่ข้างๆเลยซักนิด

     

    “ชั้นรู้สึกว่าพี่ลู่หานมีอะไรปิดบังชั้นอยู่”

     

    “นั่นไง!”  จงอินแทรกขึ้นมา

     

    “แล้วตกลงว่าพวกนายไปเห็นอะไรที่เกี่ยวกับพี่ลู่หานมาใช่มั้ย”

     

    “ก็ใช่น่ะสิ....ชั้นน่ะเห็น...โอ้ยแทมิน”  แทมินฟาดเข้าไปที่ขาจงอินจนมันร้องลั่น

     

    “ให้ชั้นพูดเองดีกว่า  เซฮุนที่จริงเรื่องนี้พวกชั้นก็ไม่ควรเอามาบอกนายหรอกนะ  แต่ไหนๆก็มาถึงขนาดนี้แล้ว  ชั้นว่าถ้านายรู้ไว้มันอาจจะดีกับตัวนายเองมากกว่า...”  แทมินหยุดเหมือนจะรอดูปฏิกิริยาจากผม  พอผมพยักหน้าแทมินก็เริ่มพูดต่อ

     

    “ตอนช่วงสอบมิดเทอมน่ะ  ชั้นกับจงอินไปเจอพี่ลู่หานเดินกับผู้ชายคนนึงอยู่ที่ห้างK...”  ผมตกใจแต่ผมก็พยายามนั่งฟังอย่างใจเย็น 

     

    “บางทีอาจจะเป็นญาติหรือเป็นเพื่อน  นายอาจจะรู้จักก็ได้  ผู้ชายคนนั้นตัวสูง  หน้าตาหล่อมาก  ผมสีทอง  นายพอจะคุ้นๆมั้ย”  เหมือนผมจะเคยเห็นคนลักษณะแบบนี้นะ  แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก  อาจจะนานมาแล้วก็ได้  อาจเป็นพวกดาราที่ผมเคยเจอล่ะมั้ง  แต่ก็ไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับพี่ลู่หานนี่  ผมเลยส่ายหน้าตอบกลับไปแต่ก็ยังกังวลอยู่

     

    “อาจจะเป็นเพื่อนใหม่”  แทมินพูดขึ้นเพื่อไม่ให้ผมกังวล

     

    “แทมินนายเลิกแถซักทีเถอะ  ชั้นบอกนายได้เลยว่าไอ้หมอนั่นกับพี่ลู่หานเค้าไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกันหรอก”

     

    “จงอิน  นายคิดว่าพูดแบบนี้แล้วเซฮุนจะรู้สึกดีอย่างงั้นหรอ?”

     

    “ชั้นพูดความจริงที่ชั้นเห็น  ไม่พยายามปิดบังเพื่อรักษาความรู้สึกเพื่อนเหมือนนายหรอก” 

     

    “หยุดๆ  ขอชั้นใช้ความคิดหน่อย”  ผมเห็นเหมือนเพื่อนสองคนเริ่มจะทะเลาะกันก็เลยพูดออกไปก่อนที่มันจะบานปลายไปมากกว่านี้  ผมคบกับทั้งสองคนมานานย่อมรู้นิสัยของพวกมันดี  จงอินเป็นคนตรงๆ  คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น  ส่วนแทมินจะเป็นคนรักษาน้ำใจเพื่อนเสมอ  แบบนี้ก็พอจะทำให้ผมเดาได้ว่าผู้ชายคนนั้นมีความเกี่ยวข้องยังไงกับพี่ลู่หาน  ผมยังจำวันนั้นที่ผมไปรับพี่ลู่หานที่มหาลัยได้  ผมชวนเค้าไปเที่ยวเหมือนปกติ  แต่วันนั้นพี่ลู่หานดูไม่มีความสุขเลยทั้งๆที่เราไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน  ดูกังวลและเหม่อลอยตลอดเวลา  ผมเองก็เริ่มสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น  ช่วงที่เราไมได้เจอกันมีอะไรที่ผมไม่รู้เกิดขึ้นรึเปล่า??  ตอนที่พี่ลู่หานออกมาจากห้องน้ำพี่ลู่หานก็ยิ่งดูแย่ลงไปกว่าเดิมอีก  ดวงตาสีแดงก่ำเหมือนผ่านการร้องไห้มา  ผมเริ่มแน่ใจว่าระหว่างเรามีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ

     

    “เซฮุน  โทรศัพท์”  ผมจมอยู่ในห้วงความคิดไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงโทรศัพท์ตัวเองดัง  จนแทมินต้องสะกิดบอก  ผมคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นมา  เห็นชื่อที่โทรมาแล้วผมยิ่งรู้สึกหนักใจ

     

    “ครับ  พี่ลู่หาน” 

     

    .................................................................................................................................................................................................................

     

    ผมมานั่งรออยู่ที่ร้านเค้กร้านโปรดของผมที่พี่ลู่หานนัดไว้  วันนี้ผมตัดสินใจแล้วว่าจะคุยเรื่องของพี่ลู่หานกับคนๆนั้นให้รู้เรื่อง  นั่งรอไม่นานพี่ลู่หานก็เข้ามา  ใบหน้าหวานยังคงแย้มยิ้มให้ผมเสมอแม้จะไม่สดใสเหมือนเก่าก็ตาม

     

    “พี่....พี่....พี่ลู่หาน”  หลังจากที่พนักงานนำเค้กมาเสิร์ฟได้ซักพักพวกเราต่างคนก็ต่างเงียบ  ผมเห็นท่าไม่ดีก็เลยกะจะชวนคุยแต่เรียกเท่าไหร่พี่ลู่หานก็ไม่ได้ยิน  สายตามีแววกังวลเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่  คงจะคิดเรื่องเค้าคนนั้นอยู่ใช่มั้ย??

     

    “อยู่ใกล้แค่นี้เอง  เรียกซะเสียงดัง” 

     

    “ผมเรียกพี่ตั้งนานแล้ว  พี่น่ะคิดอะไรอยู่  ถึงไม่ได้ยินผม” 

     

    “เปล่านี่” 

     

    “ไม่อร่อยหรอ  เห็นไม่ค่อยกินเลย”  ผมถาม  มองชิ้นเค้กที่แทบจะไม่พร่องลงเลย

     

    “พี่ลืมเอาซีดีมาคืนเซฮุนเลย”  คงเป็นเพราะที่ร้านเปิดเพลงของอี้ชิงพี่ลู่หานเลยพูดขึ้นมา

     

    “ไม่เป็นไร  พี่เก็บไว้เถอะ  ถ้าพี่ชอบ”  ผมบอก  พี่ลู่หานก็พยักหน้าเนือยๆตอบกลับมา

     

    “พี่มีอะไรอยากบอกผมรึเปล่า??”  ผมทนบรรยากาศอึดอัดของเราไม่ได้อีกต่อไปเลยเอ่ยถามขึ้น  ผมอยากให้พี่เค้าเป็นคนบอกเรื่องของคนนั้นเองมากกว่าที่ผมจะเอ่ยถาม

     

    “ไม่นี่”  แต่พี่เค้าก็เลือกที่จะไม่บอกผม

     

    “อืม  งั้นกินต่อเถอะ”  ผมยิ้มแล้วกลับมาสนใจเค้กตรงหน้าต่อ

     

    “แล้วเซฮุนมีอะไรอยากบอกพี่รึเปล่า?”  ผมมี...แต่ว่าผมควรจะพูดออกไปรึเปล่า?  แต่ถ้าผมไม่พูดบรรยากาศน่าอึดอัดนี้มันก็คงจะไม่หายไป  เพราะฉะนั้นแล้วผมควรจะพูดใช่มั้ย??  ก่อนที่จะมาที่นี่ผมก็เตรียมใจมาแล้วว่าถ้าตัดสินใจจะคุยเรื่องของคนนั้นความสัมพันธ์ของเราอาจจะจบลงวันนี้เลยก็ได้  แต่ผมก็ยังตัดสินใจว่าจะพูดมันออกไป

     

    “..คือ..พี่มีคนรู้จักเป็น...คนตัวสูง  หน้าตาดี  ผมสีทองบ้างรึเปล่า??”  พอได้ยินที่ผมพูดพี่ลู่หานก็ทำท่าตกใจจนเห็นได้ชัด  มันค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าพี่เค้าตั้งใจจะปิดบังเรื่องของคนๆนั้นกับผม 

     

    “...อืม  รู้จัก”  เสียงเบาๆตอบกลับมา  ยิ่งผมได้ยินก็ยิ่งปวดใจแต่ก็กัดฟันถามต่อไป

     

    “แล้วพี่มีอะไรจะบอกผมมั้ย  เรื่องของคนๆนั้น”

     

    “เซฮุน  พี่ขอโทษ  มัน...ไม่มีอะไรจริงๆ”  พี่ลู่หานเลื่อนมือมาจับมือผมไว้  สายตาเต็มไปด้วยความกลัวและรู้สึกผิด  มันยิ่งทำให้ยากที่จะเชื่อว่าสิ่งที่พี่ลู่หานพูดเป็นเรื่องจริง 

     

    “ถ้ามันไม่มีอะไรแล้วพี่จะขอโทษผมทำไม”  ผมเลื่อนมือหนี 

     

    “พี่...พี่....”

     

    “พี่รักเค้าใช่มั้ย...”  ในที่สุดผมก็รวบรวมสติถามไป  ผมรู้อยู่เต็มอกว่าคำตอบมันคือใช่  ท่าทางที่พี่ลู่หานแสดงออกมามันได้บอกผมแล้ว  คนที่เค้ารักไม่ใช่ผมอีกต่อไป  แต่เป็นคนๆนั้น   

     

    “...ผมไม่โกรธหรอก  แค่บอกความจริง  อย่าโกหกผมอีกเลย”  ผมยอมรับว่าเสียใจที่คนที่ผมรักทำกับผมแบบนี้  แต่ผมก็เข้าใจ

     

    “เซฮุน...”

     

    “เราเลิกกันเถอะ”  ผมตัดสินใจพูดคำนี้ออกไป  แม้ผมจะเจ็บปวดแต่เพื่อคนที่ผมรักจะได้ไม่ต้องลำบากใจที่จะพูดมันออกมา  ผมขอเป็นคนพูดมันออกมาเองดีกว่า  ซักวันมันก็ต้องมาถึง  แล้วเราจะทนแบกรับความอึดอัดเหล่านี้ต่อไปอีกทำไม  ในเมื่อมันจะจบ  มันก็ควรจะจบตั้งแต่ตอนนี้

     

    “เซฮุน...”  น้ำตาของอีกฝ่ายไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกหวั่นไหวหรืออยากคืนคำพูดแต่อย่างใด  น้ำตาที่มาจากความสงสารไม่ใช่ความเสียใจ  คนตรงหน้านี้หมดรักผมแล้ว  หรือที่จริงเค้าอาจจะไม่ได้รักผมเลย

     

    “เรายังเป็นพี่น้องกันได้นะพี่  เหมือนก่อนหน้าที่เราจะคบกันไง  อย่าร้องไห้เลย  ผมชอบพี่ที่สดใสมากกว่า”  ผมพยายามฝืนยิ้มแล้วตอบกลับไป

     

    “ทำไมถึงทำแบบนี้” 

     

    “ผมทำเพื่อพี่”  ใช่ผมทำเพื่อพี่  สิ่งสุดท้ายที่จะทำให้คนที่ผมรักได้

     

    “.....” พี่ลู่หานส่ายหน้าเหมือนจะไม่เข้าใจสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อ

     

    “ผมปล่อยให้พี่ได้ไปอยู่กับคนที่พี่รักไง”

     

    เหตุผลที่ผมยอมปล่อยเค้าไปง่ายดายแบบนี้เป็นเพราะผมไม่รู้จะยื้อเค้าไว้อีกทำไม  ในเมื่อเค้าไม่ได้รักผมแล้วหรืออาจจะไม่เคยรักผมเลย  ผมรู้ตัวมาตลอดว่าแอบชอบรุ่นพี่คนนี้และในที่สุดก่อนที่เค้าจะจบการศึกษาไปผมก็ตัดสินใจสารภาพรักและขอคบ  แล้วเค้าก็ตกลง

     

    เราคบกันก็จริง  แต่ผมก็สงสัยอยู่ตลอดว่าสิ่งที่เค้ามีให้ผมนั้นมันคือความรักแบบคนรักแน่หรอ??  ในสายตาเค้าผมอาจจะเป็นแค่น้องชายที่น่าเอ็นดู  แต่สำหรับผมแล้วมันไม่ใช่    แม้เราจะเคยจูบกันแต่ก็เท่านั้น  เค้าไม่เคยทำให้ผมแน่ใจเลยว่าความรักที่มีให้ผมนั้นมากเกินกว่าคำว่าพี่น้อง  แต่ผมก็เชื่อว่าซักวันพวกเราจะก้าวผ่านมันไปได้  โดยลืมคิดไปว่าในโลกแห่งความเป็นจริงมันไม่ได้มีแค่ผมและเค้าเท่านั้น  ผมลืมคิดถึงตัวแปรที่จะเข้ามา  ตัวแปรที่จะทำให้เค้าคิดได้ว่าผมมันก็เป็นแค่น้องชายคนนึงที่ไม่มีทางเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปได้

     

    และในเมื่อเค้ารักคนๆนั้นผมจะเอาความรักข้างเดียวของผมไปผูกมัดเค้าได้ยังไง  ผมอยากจะเห็นแก่ตัวแต่ผมก็ทำไม่ได้  เพราะผมรู้ว่าผมจะทำให้เค้าไม่มีความสุขและผมเองก็จะเจ็บปวดที่เห็นเค้าไม่มีความสุข....




    END


    -ในที่สุดก็เขียนพาร์ทของน้องฮุนออกมาจนได้  เห็นมีคนอยากอ่านไอ้เราก็อยากเขียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยจัดซะเลย XD  เป็นตอนที่แต่งได้เร็วมากไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน  ตอนพิเศษสั้นได้ไม่เป็นไรเนอะXD  ตอนนี้แต่งเองก็สงสารน้องฮุนเอง  อยากจะเสียสละตัวเองไปดามอกน้องฮุนจริงๆ ฮ่าฮ่า  ชักติดใจเขียนดราม่า  ผันตัวไปเขียนดราม่าดีมั้ยเนี่ย (ล้อเล่น:P)

    -และที่สำคัญลืมไม่ได้เลย...ขอขอบคุณสำหรับคอมเม้นมากๆค่ะ  สงสารน้องฮุนกันเป็นแถวววววว  พออ่านตอนนี้ก็จะยิ่งสงสารน้องฮุนมากขึ้นกันไปอีกแน่เลย  โฮฮฮฮฮฮฮ

    -ก่อนจะไปแต่งตอนต่อไปก็ขอฝากฟิคเรื่องนี้ด้วยนะคะ  ที่จริงพี่คริสกับน้องลู่หานเค้ารักกันแล้วมันก็ควรจะจบได้แล้วมั้ง  แต่เรายังมีอะไรอยากเขียนต่ออีกนิดหน่อย  ยังไงก็ช่วยติดตามกันต่อไปด้วยนะค้าาาาา  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×