คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่หนึ่ง
"
ผมคิดว่า เราควรตัดไฟแต่ต้นลม กำจัดเด็กนั่นเสีย"เสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความมืดมิด"
จะดีหรือ? ผมคิดว่าเขาน่าจะมีประโยชน์ต่อองค์กรของเรา"อีกเสียงตอบ"มีประโยชน์?"
"เด็กนั่นมีความสามารถ ไม่ใช่แค่ที่เราเห็น เท่าที่ผมฟังจากหน่วยสังเกตการณ์ของเรา เด็กคนนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ เราควรจะรีบเอามันมาเป็นฝ่ายเดียวกับเรา ก่อนที่ไอ้พวกนั้นมันจะชิงตัวไป"
"อืม...ก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน เอาไว้ผมจะส่งคนไปชิงตัวมันให้เร็วที่สุด"
"ดี"ชายคนแรกกล่าว ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไป แต่ถูกชายอีกคนเรียกไว้เสียก่อน
"เดี๋ยวสิ ผมยังไม่รู้ชื่อมันเลย"
"อชิรวิทย์ รัตนพงศา"
"โครม!
" กระถางต้นไม้ต้นเล็กถูกปัดล้มลงและแตกเป็นเสี่ยงๆ ทำให้เด็กชายเจ้าของชื่อ 'อชิรวิทย์' สะดุ้งโหยงอย่างกลัวถูกจับได้ เพราะตนแอบอยู่หลังกำแพงมานานแล้ว เพื่อแอบฟังบทสนทนาของชายสองคนนี้ นานพอที่จะรู้ว่ามันพูดถึงเขา"เฮ้ย!ใครวะ"เสียงของชายคนเมื่อครู่ร้องอย่างตกใจ ทำให้ใจของเด็กชายตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร มือใหญ่ก็จับหมับเข้าที่ต้นแขนขวาแล้วบีบแน่น
"เจ็บนะ ปล่อย บอกให้ปล่อยไง แกมีสิทธิ์อะไรมาจับฉันไว้แบบนี้"เด็กชายอชิรวิทย์โวยเสียงลั่น
"ครูมีสิทธิ์อะไรอย่างนั้นหรือ?"
เสียงเข้มเอ่ยถาม ทำให้เด็กชายที่กำลังนอนหลับกลางวันในวิชาคณิตศาสตร์ต้องตื่นขึ้นจากฝันอันน่าติดตาม(ว่าตนจะตายหรือไม่) เด็กชายรู้สึกเจ็บแขน และเมื่อหันไปข้างๆ ก็ต้องอุทานออกมาดังลั่น เพราะคนที่บีบแขนเขานั้นไม่ใช่ใครอื่น อาจารย์ปากจัดของเขานั่นเอง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็ยายนี่แหละที่ไล่เขาออกไปนอกห้อง แถมยังแปลกๆ เพราะคนอื่นหลับทำเป็นมองไม่เห็น ลองเขาหลับหน่อยเดียวโดนทุกที ไม่รู้ว่ามันมีเหตุผลอะไรอาจารย์ถึงได้พิศวาสเขามากกว่าคนอื่นๆ หรือเพราะหมั่นไส้ที่เขาหลับได้หลับดีทุกชั่วโมง
ปกติถ้าเป็นวิชาอาจารย์คนอื่น เขาก็อาจจะหลับบ้าง ไม่หลับบ้าง แต่ลองเป็นคณิตของแม่อาจรย์แสนสวยคนนี้แล้วล่ะก็ อชิรวิทย์ก็จะต้องฟุบหลับลงไปกับโต๊ะทุกที หรือบางทีก็อาจจะเอาอะไรที่มันไร้เนื้อหาและสาระขึ้นมาทำคลายเครียด(แต่ก็มีบางครั้งที่เขานั่งทำหนังสือไขสมองแทน มันเป็นหนังสืออย่างเดียวที่อชิรวิทย์เห็นว่าสามารถเอามาทำแก้เบื่อได้)หรือบางทีเขาก็นั่งอ่านนิยาย โดนยึดก็ช่างปะไร มันของห้องสมุดนี่ ไม่ใช่ของ
เขาเสียหน่อย
"ออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้ อชิรวิทย์!
"อาจารย์ตะโกนลั่นห้อง ทำให้เพื่อนๆร่วมห้องนั่งแอบหัวเราะคิกๆเบาๆอย่างสมน้ำหน้าเจ้าคนขี้เซาเด็กชายยิ้มเหยๆ เพราะไม่มีอะไรจะเถียง จึงยอมเดินออกนอกห้องไปเงียบๆ
"อ้อ..อชิรวิทย์ ถ้าครูมองออกไปแล้วเห็นธํอหลับต่อล่ะก็..."อาจารย์เว้นระยะก่อนจะเอามือปาดคอเป็นความหมายว่า ตาย
"ครับ"อชิรวิทย์รับคำ พร้อมกับเตะประตูปิดเสียงดังใส่หน้าอาจรย์ที่กำลังโกรธจัดอย่างไม่มีความเคารพย่ำเกหรงอาจารย์เลยแม้แต่น้อย
"อชิรวิทย์!
" เด็กชายยิ้มแสยะเมื่อเห็นอาจารย์โกรธ การยั่วโมโหอาจารย์ก็เป็นวิธีคลายเครียดชนิดหนึ่ง เขาหันไปโบกมือลาอาจารย์ที่ยืนหน้าแดงจัดอยู่หน้าประตู แล้วเดินตัวปลิวลงบันไดไป แต่ยังมาวายหันมาแหย่อาจารย์"ขอบคุณนะครับที่ให้โอกาสผมเที่ยว บุญคุณครั้งนี้จะไม่ลืมเลือน อ้อ...ผมให้อาจารย์หักดอกเบี้ยวันละสิบคะแนนเลยถ้าผมไม่ยอมใช้หนี้อาจารย์ภายในอาทิตย์หน้า"
อาจารย์มองตามเด็กชายอย่างโกรธจัด ทั้งๆที่เธอก็หวังดี แต่เด็กคนนี้ไม่เคยทำตัวดีๆกับเธอเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะคอยให้เป็นห่วง มือขวาที่กำปากกาแท่งหนึ่งไว้ของเธอรวบแน่นเข้าจนปากกาค่อยๆร้าวและแตกเป็นเสี่ยงๆ
"เฮ้อ สบายใจจัง ยายอาจารย์วิชาด่านั่นเงียบไปเลย"
อชิรวิทย์พึมพำคนเดียว ขณะที่นอนสบายใจเฉิบอยู่บนเตียงนอนที่บ้าน ความจริง ไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอกที่จะตั้งชื่อลูกของตนว่าวิชาด่า มันเป็นชื่อที่อชิรวิทย์ใช้เรียกแทนอาจารย์คู่ปรับของเขา
เนื่องเพราะท่านอาจารย์ได้มีการดุด่าว่าตักเตือนกันทุกชั่วโมง(ส่วนใหญ่จะเป็นอชิรวิทย์)ก็เลยได้ฤกษ์เปลี่ยนชื่อ จาก 'วิชุดา'ก็เลยกลายเป็น 'วิชาด่า'
เขากำลังนึกถึงเรื่องที่ฝัน...
"
ผมคิดว่า เราควรตัดไฟแต่ต้นลม กำจัดเด็กนั่นเสีย""อชิรวิทย์ รัตนพงศา"
"
เป็นไปไม่ได้ ความฝันก็คือความฝัน"อชิรวิทย์พูดเบาๆกับตัวเอง"พี่ๆ มีคนมาหาพี่น่ะ ประหลาดดีนะ แต่งดำทั้งตัวเลย มีใครตายหรอ?"อพัสสาหรือเซนี่ น้องสาวแท้ๆของอชิรวิทย์โผล่หน้าเข้ามาในห้องเขา ผมสีดำสนิทยาวสลวย ดวงตาสีดำขลับ หน้าตาประดุจออกมาจากพิมพ์เดียวกันกับพี่ชาย เสียแต่เค้าหน้าจะอ่อนโยนกว่าพี่ชาย และผมบนหัวก็ไม่ยุ่งเหยิงแบบพี่ด้วย
คนชุดดำ หรือว่า!
"
บอกเค้าไปว่าพี่ไม่อยู่ พี่ไปโรงเรียนยังไม่กลับ""แต่ "
"ไม่มีแต่ เร็ว!
"อชิรวิทย์ตะคอกใส่น้องสาวและพยายามปีนออกนอกหน้าต่าง แต่...ไม่ทันแล้ว ชายชุดดำทั้งสองนั่งอย่าบนต้นไม้ รอยยิ้มวิปริตฉายวาบบนใบหน้าของทั้งคู่"สวัสดีครับคุณอชิรวิทย์"ชายชุดดำพูดพร้อมกับยิ้ม
"แกพวกแกมาทำอะไรที่นี่ ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!
"อชิรวิทย์ตะโกน"ผมไม่ได้เข้าไปในบ้านคุณเสียหน่อย ต้นไม้ต้นนี้ก็เป็นของบ้านข้างๆนี่ ต่อให้กิ่งมันยื่นมาที่บ้านคุณก็เถอะ แต่ต้นมันของเพื่อนบ้านคุณต่างหาก"ชายอีกคนย้อน
"นั่นมันคนของZ.R.O.นี่!
"เซนี่อุทานออกมาอย่างตกใจ"แกต้องการอะไร"อชิรวิทย์ถาม
"ฉันต้องการตัวแก"ชายชุดดำคนแรกพูดขึ้น
เสียงโทรศัพท์ดังมาจากกระเป๋าของชายคนที่พูดน้อยกว่าและดูจริงจังกว่า เขาหยิบมันขึ้นมาคุยโดยมีอีกคนยืนจ้องอชิรวิทย์และน้องสาว"ได้ครับ ครับ จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ"ชายชุดดำพูดกับบุคคลปริศนา แต่พอฟังจากเสียงที่เล็ดลอดออกมา เขาก็จำได้ว่ามันคือเสียงของชายที่อยู่ในฝันของเขา
'หรือว่า'อชิรวิทย์คิด ทำให้เค้านึกถึงคำพูดที่พูดว่า 'กำจัดเด็กนั่นเสีย' อชิรวิทย์จึงได้แต่คิดว่าขณะนี้สิ่งที่เค้าทำได้เพียงอย่างเดียวคือ วิ่ง!! อชิรวิทย์วิ่งหนีเกือบจะหลุดพ้นจากพันธนาการของชายชุดดำแต่...
"จะรีบไปไหนครับ คุณอชิรวิทย์"
" คือฉันจะไปฉิ๊งฉ่อง'
" ฉิ๊งฉ่องๆๆๆคืออะไรไม่มีไม่มีคำนี้ในโปรแกรม"เสียงของชายคนนั้นดังขึ้นอย่างงงๆ
อชิรวิทย์ ยิ้มอย่างซะใจ เขาคิดไว้ว่ารมันไม่ใช่คน แต่เป็นหุ่นยนต์ ก็เลยแกล้งพูดคำพูดที่ไม่มีในพจนานุกรม และมันก็ไม่รู้เรื่องจริงๆ
แต่พึ่งจะรู้ว่ามีหุ่นยนต์ที่เหมือนคนแบบนั้น อยู่ในประเทศไทยด้วย
อชิรวิทย์กวาดเอาแจกันใบใหญ่มา เขากะว่าจะซื้อให้เซนี่หรือจริงๆว่า อภัสสา น้องสาวของเขา แต่คงไม่มีโอกาสหลัง แจกันพร้อมดอกกุหลาบที่อยู่ข้างในถูกเหวี่ยงเข้าใส่ชายชุดดำ คนหนึ่งที่รับไว้อย่างงงๆ น้ำข้างในแจกันพร้อมดอกกุหลาบที่อยู่ข้างในถูกเหวี่ยงเข้าใส่ชายชุดดำคนหนึ่งที่รับไว้อย่างงงๆ น้ำข้างในหกใส่มือของหุ่นยนต์ตัวนั้น ชายคนข้างๆเบิกตากว้างก่อนจะโดดลงจากต้นไม้ทันที พร้อมๆกับเสียงระเบิดของหุ่นตัวนั้นที่ไฟฟ้าช็อตชายคนนั้นหันมาอย่างอาฆาตแค้น เอ่ยคำส่งท้าย
"แกหยุดหุ่นได้ แต่แกหยุดฉันไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไร แกก็ต้องมาอยู่กับเรา อชิรวิทย์!!"
อชิรวิทย์มองตามมันไป เขายืนอึ้งค้างอยู่ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
'นี่มันเกิดอะไนขึ้นกับชีวิตของเราเนี่ย มีคนต้องการตัวเรา มันจะทำอะไรกับเรา ฆ่าหรือ? ไม่ใช่ มันต้องการให้เราเข้าร่วมเป็นฝ่ายเดียวกับพวกมัน แต่เราจะร่วมกับมันไม่ได้ เราจะต้องเข้มแข็ง ไม่อ่อนตามมันเด็ดขาด!'อชิรวิทย์คิดอย่างโมโห
"อ้าว...เซนี่หายไปไหนแล้วล่ะ เมื่อกี่ยังพูดอยู่เลย"อชิรวิทย์พึมพัม ก่อนจะทรุดตัวลงนอนกับเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน ถอนใจยาว
"เราจะต้องเจอกับอะไรอีกนะ"
"พี่ พี่ ตื่นเร็ว พี่ วันนี้ไปเรียนพิเศษนะพี่"
เสียงแจ๋วๆของน้องสาว เหมือนลอยมาจากที่ไกลแสนไกล อชิรวิทย์พลิกตัวลงซุกหน้าดับหมอนพึมพัมอย่างงัวเงียง่วงนอน
"ไม่อาว ม่ายปาย จานอน"
"
พี่ ว้า...ไม่เอานะ ลุกขึ้นมาสิพี่ โถ่ ยังไงๆ ก็ต้องไปเรียนอยู่ดีนั่นแหละ ไม่ไปมันก็เปปลืองค่าเรียนนะ"เซนี่โวยวายเสียงดังลั่นบ้านอย่างที่ได้ผลทุกทีเมื่อจะปลุกพี่ชายจอมขี้เซาคนนี้"ไปก่อน เดี๋ยวจะตามไป"เสียงของน้องสาวทำให้อชิรวิทย์จำต้องยอมลุกขึ้นมานั่งหาวหวอดๆอยู่บนเตียงอย่างหลับไม่เต็มตื่น วันนี้เป็นวันเสาร์ วันหยุดแท้ๆแต่ต้องไปนั่งเรียนหลังขดหลังแข็งตั้งไม่รู้กี่ชั่วโมง แบบฝึกหัดก็แสนจะง๊ายง่ายแต่ต้องยอมจำใจเอาไปด้วย ก็มันเป็นนักเรียนห่วยแตกมาตั้งแต่ต้น ถ้าทำแบบฝึกหัดเสร็จก็เสียหน้าหมดน่ะสิ
"นี่ๆพี่ รู้จักคนนี้ป่ะ"น้องสาวยื่นรูปบุคคลปริศนามาให้อชิรวิทย์ดู
"หา! เอามาจากไหนน่ะเซนี่"อชิรวิทย์ตะโกนลั่นอย่างตกใจ เพราะคนในรูปคือชายชุดดำที่เขาเห็นในความฝันนั่นเอง
"มันตกอยู่ในห้องพี่ ไม่ใช่ห้องนี้นะ หมายถึงห้องข้างๆที่พี่เอาไว้ผสมยา"
"เซนี่!
"อชิรวิทย์ร้องออกมาอย่างโกรธสุดขีด เพราะห้องนั้นเขาสั่งห้ามไม่ให้ทุกคนเข้าไป มันเป็นห้องที่เขาเอาไว้ผสมยา ผสมสารเคมี วันๆเขาก็จะขลุกอยู่แต่ในห้องนั้น และไม่ยอมให้ใครเข้าไปเด็ดขาด เนื่องจากเหตุผลสองข้อคือไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขามีห้องนี้ไว้ทำอะไร(เขาบอกน้องและคนอื่นว่าเป็นห้องสมุดในบ้าน เละอยากจะทำความสะอาดเอง และเขาก็รู้ดีด้วยว่ามันเป็นคำแก้ตัวแบบไม่ได้เรื่องที่หลอกได้แค่เด็กสามขวบ)อีกข้อคือถ้ามันระเบิดขึ้นมาล่ะก็ เละ..."ใครสั่งให้เข้าไป เซนี่ เธอรู้ไหมว่าในนั้นมันมีอะไรบ้าง และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอ..."
"โอ๊ย! รู้อยู่แล้วแหละน่า ไม่อย่างนั้นฉันจะได้เป็น....เออๆช่างเถอะ ตกลงรู้จักหรือเปล่า"
"ไม่ เธอล่ะ"
"เปล่าซะหน่อย"
"แล้วตกลง มันเรื่องอะไรถึงเข้าไปในห้องพี่!"ตอนนี้อชิรวิทย์ยืนขึ้นแล้ว ใบหน้าเริ่มดุจนทำให้น้องสาวใจคอไม่ค่อยดี"เอ่อ เอ่อ อ้อ พี่ฉันไปเรียนล่ะนะ พอดีนัดเพื่อนไว้ว่าจะต้องไปถึงให้เร็วที่สุด ใครถึงก่อนชนะ ฉํนไปก่อนนะ บ้ายบาย"เธฮพูดด้วยน้ำเสียงใสชัดเจน แม้ว่ากำลังวิ่งเผ่นออกจากห้องของพี่ชายอย่างรวดเร็ว และเพียงชั่วครู่ ทั้งเสียงและเจ้าของเสียงก็หายไปพร้อมกับ...ลม ด้วยความที่เธอเป็นนักวิ่งอันดับหนึ่งของโรงเรียน
บางครั้งอชิรวิทย์ก็นึกสงสัย ว่าทำไมเวลาน้องสาวตัวเเสบของเขาทำอะไรจะต้อวรีบไปเสียทุกอย่าง ทำอะไรรวดเร็วทันใจจนคนอื่นชื่นชอบ เเถมเวลาวิ่งก็ไม่เคยหกล้มเลยสักครั้งเดียว บางทีก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งเธอก็วิ่ง ต่างกับพี่ชายจอมเอื่อยของเธอ ที่เวลาทำอะไรก็ช้าอืดอาด ดูอย่างเวลาเรียนสิ เซนี่จะจดมือยิบเป็นไฟ เเต่พี่ชายนี่ดูเหมือนกับว่าจะไม่เคยนอนมาเลยตั้งเเต่เกิด ถึงได้หลับเป็นตายขนาดนั้น
อชิรวิทย์คว้าเสื้อมาเปลี่ยน ก่อนจะเปิดประตูเดินลงบันไดไปชั้นล่าง
"วิกเตอร์ วิกเตอร์ อยู่ไหนน่ะวิกเตอร์"เด็กชายเรียกชื่อหมาตัวโปรด
วิกเตอร์เป็นหมาพันธุ์ผสม หน้าตาเหมือนหมาไทยพันทางทั่วไป เเต่ขนเสีเทาออกดำป็นเงางาม หูตั้งชัน หางดาบ เเถมยังซื่อสัตย์ต่อเจ้าของจนเด็กชายทั้งรักทั้งหลง
"วิกเตอร์ มากินข้าวสิ"อชิรวิทย์ร้องเรียกหาหมา พลางเคาะชามข้างหมาเข้ากับกำเเพง
"วิกเตอร์ วิก เฮ้ย! อะไรกันนี่!"เด็กชายร้องเสียงหลงอย่างตกใจ เขาเห็นข้าวของในห้องของป้าเขาถูกรื้อกระจุยกระจาย ขนหมาปลิวว่อน ปลอกคอหมาวางอยู่บนพื้น เเละเขาคาดว่า มีของเหลวสีเเดงสดจำนวนไม่น้อย เลือดอย่างนั้นหรือ?
อชิรวิทย์ก้มลงเอานิ้วเเตะๆจองเหลวนั้น เเล้วนำมาชิดจมูก
"ละ เลือด เลือดจริงๆด้วย"อชิรวิทย์ร้องย่างตกใจ เเล้วพลันเหลือบเห็นกระดาษสีขาวเปื้อนเลือดวางอยู่บนพื้นไม่ห่างจากปลอกคอหมามากนัก เขารีบหยิบขึ้นมาอ่านทันที
"ตอนนี้หมาของเเกอยู่ในกำมือฉันเเล้ว รวบทั้งยายเด็กหน้าโง่นั่นด้วย ถ้าไม่อยากให้พวกมันตาย เเกจะต้องมาหาฉันที่ตึกเเถวบริเวณถนน ภายในเวลา11.00น. ถ้าช้ากว่านั้นเเม้เเต่วินาทีเดียว ฉันไม่รับประกันความปลอดภัยของพวกมัน!"
เเละก่อนที่เขาจะรู้ตัว ขาของเขามันก็พาวิ่งไปก่อนเเล้ว
ความคิดเห็น