คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : หมอดูสาว
มีกฎสำคัญอยู่ว่า ผู้ที่เหมาะสมจะได้รับความสุขจำเป็นต้องมีคุณสมบัติที่คู่ควรด้วย
และถ้าหากฉันรู้กฎข้อนี้เสียก่อน จะไม่มีวันยอมอนุโลมให้กับความอ่อนไหวเป็นอันขาด
อันที่จริงเรื่องนี้ทำให้ฉันกังวลใจอยู่มาก ทั้งที่ตั้งใจว่าจะเล่าทั้งหมดให้เพื่อนๆฟังทางโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ก็นั่นแหละฉันไม่รู้จะเริ่มยังไง เพราะจะอยากเห็นว่าเพื่อนๆคิดยังไงและช่วยกันออกความคิดเรื่องนั่นด้วย แต่จนกระทั่งคาบบ่ายก็ไม่มีวี่แววว่าฉันได้เริ่มพูดเข้าเรื่องสักที “เมื่อวานนี้ฉันไปเยี่ยมโซลที่โรงพยาบาลมา” หลังจากสิ้นเสียงหัวเราะจากเรื่องตลกของ
หนิง ฉันก็เริ่มเล่าเรื่องของฉันบ้าง
“เอ๊ะ เธอไปคนเดียวเลยอย่างนั้นเหรอ” เสียงประหลาดจาก เอ็ม พลอยพาความประหม่ามาสู่ฉันจนได้ >_< เข้าใจว่าเมื่อพูดถึงผู้ชายคนนี้ ก็เหมือนกำลังกล่าวถึงเทพบุตรในนิยาย เพราะหน้าตาหล่อเหลาเข้าขั้นซุปเปอร์สตาร์ระดับเอเชีย อีกทั้งเรื่องเรียน และกีฬาก็มาเป็นอันดับต้นๆของจังหวัดจึงทำให้โซลถูกกล่าวขวัญว่าเป็น เทพบุตรในคาบนักเรียน ม.ปลาย ที่สาวน้อยใหญ่รุมกันปกป้องด้วยความรักและหวงแหน แต่เรื่องที่ฉันกำลังจะเล่า ถึงไม่อยากอ้างถึงเขาคนนั้นแต่จะเรียกว่ามันจำเป็นก็ว่าได้T^T
“อื่อ ..ฉันรีบไปทันที เพราะรู้ข่าวว่าเขาอาการหนักมากน่ะ” ตอนนี้ฉันเริ่มไม่อยากเล่าขึ้นมาซะดื้อๆ ไม่น่าเริ่มเลย
“เธอทำอย่างกับว่าเป็นอะไรกับเขาเลยเนอะ เล่าต่อสิแล้วโซลอาการเป็นยังไงบ้าง” กีตาร์ยกเอาภูเขามาวางบนอกฉันซะจริงๆเชียว -_-*
“ฉันยังมีอีกเรื่องจะบอกพวกเธอ คือว่า ..ฉันกับโซลเป็นแฟนกันได้ 2 เดือนแล้วล่ะ” พูดออกไปแล้ว เฮ้อถ้าบอกตั้งแต่แรกก็คงไม่ตกที่นั่งลำบากอย่างนี้หรอก
“อะไรนะ.. เธอกับโซลน่ะเหรอเป็นแฟนกัน นี่ขำขำใช่มั้ยอ่ะ” ปฎิกิริยาของเพื่อนสนิทฉันหนักขึ้นไปอีกทั้งหมดมองหน้ากันเลิ่กลั่ก งงงัน ก็น่าเห็นใจอยู่อะนะ O-ความเป็นน่าจะเป็นมันแทบติดลบเลยนี่นา
“นี่เธอพูดจริงเหรอ ฟรัง ” “คือว่าพวกเราไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลย” มันเป็นความผิดพลาดใหญ่เบ่อเริ่มเทิ่มที่ฉันไม่ยอมเล่าเรื่องสำคัญอย่างนี้ให้พวกเธอได้รับรู้ แต่เหตุผลมันมากมาย ทั้งเรื่องแฟนคลับของโซล แล้วก็เรื่องอื้อฉาวที่ฉันจะต้องโดนจับตามมอง ฯลฯ ฉันเลยยอมทำพลาดอย่างนี้ไงล่ะ
“มันเป็นความลับระหว่างฉันกับเขาน่ะ แต่ว่า.. เมื่อวานที่ฉันไปเยี่ยมโซลกลับจำฉันไม่ได้แล้ว” สายตาที่ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อของเพื่อนสาวที่กำลังตึงเครียดทำให้ฉันรู้สึกเจ็บแก้ม
“ว่าไงนะ !! ... ” นี่ล่ะที่ฉันกำลังกลุ้ม ...-_-^^
“ความจำเสื่อมใช่มั้ย” เอ็มสรุปอาการของโรคให้เสร็จสรรพ
“.... อื่อ ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นแหละ” ทุกคนแสดงความเห็นใจเมื่อสังเกตท่าทีเศร้าสร้อยของฉัน ยูว์ ถามถึงช่วงเวลาอันมีความสุขตอนที่ได้คบกับโซล ฉันจึงเล่าทุกรายละเอียดด้วยความรู้สึกผิดที่ปิดบังเอาไว้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับนายเทพบุตร ทุกเรื่องที่เราได้ออกไปทำด้วยกัน ทุกอย่างที่ฉันได้เรียนรู้จากเขาตลอดช่วงเวลาอันสั้น T^T
ก่อนอื่นก็ต้องขอแนะนำตัวก่อน ฉันชื่อ ฟรัง ค่ะ เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเอง เย้ยจะบ้าเหรอไม่ใช่หรอก ชื่อเนี่ยพ่อแม่ตั้งให้ตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะ ส่วนเหตุผลอะนะก็ต้องไปถามแม่ฉันดู อิอิ เอ่อ มาว่าเรื่องประวัติกันต่อดีกว่าตอนนี้ อายุ 17 ปี น้ำหนัก
ฉันก็เป็นนักเรียนมัธยมปกติคนนึงหน้าไม่สวย แต่ถ้ามองดีๆ ก็จะรู้ว่าไม่น่ามองให้ดีๆเลย เอาเป็นว่าเกือบน่ารักก็แล้วกัน ^_^* นิสัยธรรมดาๆ แต่จัดว่าเป็นคนอารมณ์ดีคนนึงชอบวาดรูปในหนังสือเรียน แล้วก็ร้องเพลงตอนแปรงฟัน โฮะๆ ๆ สุนทรีย์สุดๆใช่มั้ยล่ะ ฉันก็เลยมีเพื่อนๆ ห้อมล้อมมากมายเอ่อยังมีอีกเรื่องที่เป็นความสามารถพิเศษที่โดดเด่นของฉันล่ะ
“น้องฟรัง ...พรุ่งนี้ช่วยเอา “ไอ้นั่น” มาหน่อยดิ” ยัยเอ็มเพื่อนสาวในกลุ่มที่มีเรื่องกลุ้มใจเรื่องหนุ่มๆ ในแคทตาล็อคมากสุด แล้วไอ้นั่นที่เธอพูดถึงก็ไม่ใช่อะไรที่ต้องปกปิดปิดบังเหมือนไอ้นั่นอย่างที่เราๆ เข้าใจกันหรอกนะ
“หาพรุ่งนี้ น้องฟรังจะเอาไอ้นั่นมาเหรอ” ยูว์เงยหน้ามาจากหน้าหนังสือเรียน เอ่อตอนนี้เราอยู่ในคาบสังคมกันอยู่นะฮะฮะ แล้วไอ้ที่เรียกฉันว่าน้องเนี้ยพวกเธอเห็นว่าฉันตัวเล็กล่ะก็ไม่ว่า แต่ทำไมทั้งห้องต้องเรียกอย่างนั้นกันหมดเลย ชิ ทั้งที่ หนิง แล้วก็ยังคนอื่นๆ ที่สูงพอๆกับฉัน ถึงจะสูงกว่าจิ๊ดนึงก็เหอะ
“ไอ้นั่น ...จริงดิ งั้นจัดคิวกันเอาไว้เลยดีกว่า ใครจะต่อคิวมั่ง” หนิงเตรียมจัดระเบียบสังคมป้องกันความโกลาหลเพราะเมื่อ ไอ้นั่น มาถึงเพื่อนก็เพื่อนเหอะแซงคิวกันขึ้นมาตาย ว่าแต่เพื่อนโต๊ะใกล้ๆ เริ่มรู้ตัวกันแล้ว เกิดเสียงหึ่งๆ เหมือนรังผึ้งแตกบอกชื่อตัวเองลงในรายการคิว พลอยทำเอาตัวต้นเหตุของเรื่องอย่างฉันทำหน้าเลิกลั่ก เพราะอาจารย์หันหน้าออกมาจากกระดาน
“นี่ เบาๆกันหน่อย แม่อู๊ด เคืองแล้วนะ” หลังจากทุกคนยอมกลับคืนสู่สภาวะปกติกระดาษสมุดแผ่นนึงก็ถูกส่งมาวางไว้บนโต๊ะของฉัน O_O
“โอ้ว ..ไม่จริ๊ง” ฉันตีหน้าผากตัวเอง
“ยัยฟรังเสียงดังตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ เธอจดทันหมดแล้วใช่มั้ยบนกระดานน่ะ”
“ยังค่ะ ขอโทษค่ะอาจารย์” แง เจ้าพวกนี้ทำอาจารย์เซ็งขี้หน้าฉันอีกจนได้ แล้วนี่มันรายชื่อเพื่อนทั้งห้องเลยนี่นา ทำอย่างนี้ไม่เอาใบเช็คชื่อมาให้ฉันเลยล่ะT^T ก็มันจะอะไรซะอีกรายชื่อคนที่ฉันจะต้องดูไพ่ยิปซีให้วันพรุ่งนี้น่ะสิ..ชิ ยังไม่ทันบอกเลยว่าจะเอามา ดันเขียนชื่อกันซะเต็มหน้ากระดาษเลยนะ ใช่แล้วล่ะค่ะความสามารถพิเศษของฉันที่เป็นที่สนใจของเพื่อนๆ ก็คือการเป็นหมอดูไพ่ยิปซีนั่นแหละ จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ความสามารถพิเศษอะไรใครๆเขาก็ดูได้กันทั้งนั้นแหละ แต่ว่าขอบอกเลยว่าถ้าจะให้แม่นจริงๆ ก็ต้องฝึกฝนกันนานหน่อยน่ะนะ ตั้งแต่ 7 ขวบ ฉันก็เริ่มจับไพ่แล้วล่ะถึงจะไม่ใช่ไพ่ยิปซี แต่เป็นไพ่ป๊อกไงเล่า^^เล่นมาตั้งแต่เด็กๆแล้วด้วย แต่ว่าได้ศึกษาไพ่ยิปซีแบบจริงๆจังๆก็ตอนม.ต้น เพราะว่าไปเจอสำรับไพ่พร้อมหนังสือคู่มืออยู่ในตู้เก็บของของอาม่า ฉันก็เลยขโมยมันออกมาจาก แต่พึ่งมารู้ทีหลังว่ามันไม่ใช่ของอาม่า แต่เป็นของใครก็ไม่รู้แต่ก็ช่างมันเถอะ ว่าแต่ไอ้ไพ่พวกนั้นมันชักจะสร้างภาระให้ฉันขึ้นทุกวันแล้ว เพราะทุกเดือนเพื่อนๆของฉันเป็นต้องร้องระงมปานกบในฤดูผสมพันธุ์ไปได้ แต่ก็นะไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้นแหละเพราะวันที่ฉันย้ายโรงเรียนมาใหม่ๆ เมื่อตอนม. 4 ไม่รู้ว่าจะตีซี้กับพวกเพื่อนๆยังไงก็เลยใช่แผนนี้แต่มันมีผลเกินคาด ทำเอาฉันได้เพื่อนมาเพียบทั้งห้องเดียวกันและอีกหลายสิบห้องก็พากันอยากรู้จักฉันเพราะเจ้ายิปซีทั้ง 78 ใบเนี้ยแหละนะ
ความคิดเห็น