คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 7 มหาดาบผ่ามิติ 1
บทที่ 3: 7มหาดาบผ่ามิติ ตอนที่1
เรื่องย่อเกี่ยวกับดาบ: ดาบนั้นมีแค่ดาบเดี่ยวแต่สามารถแยกออกมาเป็น7ดาบได้ แต่ละดาบมีความสามารถต่างกันออกไป แต่ว่าถ้าใครสามารถเรียกออกมาได้ทั้ง7ดาบละก้อ ในตำนานเล่ากันว่าผู้นั้นจะไร้เทียมทานเลยทีเดี่ยว เคยมีคนเดี่ยวเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ นั้นก็คือ มหาจอมราชันย์ สปาด้า ซึ่งได้ใช้ดาบนี้ในการเปิดหวงมิติขึ้นในสงครามระหว่างสองเผ่า มนุษย์และปีศาจ สิ่งที่เกิดคือ เมื่อดาบได้ใช้พลังนี้ออกมาจะแยกออกมาเป็น 7 ดาบเมื่อแยกออกมาได้แล้วจะทำให้ผู้ใช้นั้นอยู่เหนือกาลเวลา เลยสามารถเปิดมิติไปที่ไหนหรือย้ายสิ่งของไปที่ไหนก็ได้ที่ต้องการ แต่กฎแลกเปลี่ยนจึงสามารถใช้พลังนี้ได้นั้นก็คือ ชีวิตของผู้ใช้นั้นเอง มหาจอมราชัยน์เมื่อใช้ออกไปแล้วเขาได้ย้ายพวกปีศาจไปไว้ในอีกมิตินึงหรือขังไว้ในมิตินั้นเอง แล้วเมื่อใช้เสร็จวิญญาณของมหาจอมราชันย์ก็ได้เข้าไปในตัวดาบหนึ่ง แล้วดาบก็แยกย้ายออกไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง คนจึงเรียกดาบนี้ว่า "7มหาดาบผ่ามิติ" แต่ใช่ว่าทุกคนสามารถควบคุมดาบได้ทุกเล่มเพราะพลังทำลายของแต่ละดาบนั้นแตกต่างกัน แต่ท่าควบคุมได้ทุกดาบแล้วให้มันมารวมกันว่ากันว่า จะได้ "พรจากพระเจ้า" คืออะไรยังไม่มีใครทราบยกเว้นมหาจอมราชันย์ที่ตอนนี้ได้สิ้นพระชนม์ไปแล้ว.......
.....
อาทิตท์ต่อมาหลังจากที่ ซื้อของสุดเหนื่อยที่เล่นเงินเขาซะเกือบหมดกระเป๋า โดยเฉพาะ เจ้าดาบราคา 100,000 เซนีนั้น ที่ใช้เงิน1/10 ในการซื้อมันมาเลยทีเดี่ยว แล้วในที่สุดก็ถึงวันรอคอยแล้ว เพราะวันนี้คือวัน........สอบเข้านั้นเอง!
"เซลตื่นเถอะ" เสียงราเซลพ่อของเซลตะโกนเรียกจากชั้นหนึ่งแต่ได้ยินถึงชั้น13 (เสียงดังสุดๆเลย)
"ง้าบบบบบบบบ..พ่อ" เซลตะโกนกลับไป แล้วก็รีบวิ่งลงบันใดวน ลงมาถึงชั้นล่าง
"อะ...ดาบของแก" ราเซลยื่นดาบสีทองเล่มใหญ่ให้เซล แต่เซลกับยื่นให้กลับ
"ผมมีดาบใหม่แล้ว...พึ่งชื้อมาเองชื่อ "สองพิภพ"" เซลบอกขณะเอาดาบสีเงินที่มีรอยต่อขึ้นมาให้พ่อของเขาดู
"เออ...ตามใจแกแล้วกัน เรียนให้สนุกนะ" ราเซลพูดพลางลูบหัวลูกชาย
"ครับพ่อ" เซลบอกขณะวิ่งออกหน้าประตูบ้านแล้ว
"พ่อ....นี่มันอะไรกันเนี่ย" เซลพูดขณะเห็นประหลาดสีดำนอนอยู่หน้าบ้าน
"ก็เจ้าสปาด์กี้ไง" เมื่อได้ยินชื่อเซลถึงกับอ้าปากค้าง
"ทำไมมันตัวใหญ่งี้ละพ่อ มะวานมันยังตัวเล็กนิดเดี่ยวเองนี่" เซลบอกอย่างสงัสยแต่ราเซลกับมือกดที่หน้าผากอย่างหมดอาลัยตายอยาก
"ไม่รู้เรอะ...ว่าเจ้าสปาด์กี้มีนเปลี่ยนขนาดได้นะ อยู่กันมาตั้ง3ปีแล้วยังไม่รู้อีกไม่ไหวเลยแกเนี่ย เอ้ารีบๆไปซะเร็ว" ราเซลตะโกนเรียกยกเซลขึ้นไปไปไว้บนหลังสปาด์กี้
"ไปเลย" ราเซลบอกขณะตบหลังเจ้าสปาด์กี้ดัง ป้าบ! ใหญ่ แล้วมันก็รีบออกตัวทันที โดนมันแค่กระพืบปีกแค่ครั้งเดี่ยวมันก็ทะยานขึ้นมาบนอากาศ 100 กว่าเมตร
“ว้าว” เสียงของเซลร้องอย่างตกใจ เมื่อเจ้าสปาด์กี้ก็กำลังงงๆ เหมือนกันว่ามันทำได้ยังไง แล้วเมือพวกเขาบินอยู่ได้ไม่นานก็เจอกับ...
“เวรแล้วลืมไปเลย...สัตว์อสูร สกอลิโอ้” แล้วมันก็มีจริงๆ สัตว์อสูรตัวใหญ่กว่า3เมตร มีปีกเหมือนนก หัวเป็นสิงโต มีตัวเป็นม้า หางเป็นงู เป็นสัตว์อสูรที่มักจะอยู่เป็นฝูงหาได้ง่ายบนท้องฟ้า แล้วที่สำคัญมันเป็นสัตว์กินเนื้อ!!
“สปาด์กี้ วิ่งลงเร็วเข้า” เซลรีบตะโกนบอกทันที เจ้าสปาด์กี้ก็พยักหน้ารับ แล้วรีบพุ้งตัวลงจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว แต่ฝูงของสกอลิโอ้ก็ตามมาติดๆ
“เดี่ยวก่อนนะ ขอนับก่อนถ้า10กว่าตัวฉันว่าฉันไหวนะ เดี๋ยวดูสิ 1..2...3..4..5...6...7.....8...15.....22......33.....55....66....75......111....125......- -.” เมื่อนับถึงตรงนี้ก็
“เร็วสิ บินเร็วเข้าเดี๋ยวฉันด้านมันไว้ก่อนแล้วกัน” เซลพูดพลางกระโดดลงบนพื้นหญ้าที่สปาด์กี้พึ่งบินผ่าน “วันแรกก็เจอเรื่องเลยโว้ย หงุดหงิด”
แล้วเมื่อเจ้าตัวพูดแล้ว ก็เอาดาบราคาแพงฉิบ ของเขาขึ้นมา
“ดูซิ ว่าสมราคาหรือเปล่า” เมื่อสกอลิโอ้ตัวแรกบินโฉบลงมา หวังจะฉีกร่างของเขาเป็นชิ้นๆ แต่เซลนั้นเมื่อรู้ทางก็ได้ตีลังกากลางอากาศไปบนหลังของเจ้าสปาดิโอ้ ตัวนั้น แล้วใช้ดาบในมือพั่กดาบในมือเต็มแรงลงไปที่หลังของมัน
เสียงโหยหวยของเจ้าสัตว์อสูรตัวแรกดังขึ้น ทำให้ตัวอื่นให้ความสนใจตัวข้างล่างที่ตอนนี้ เลือดได้กระฉูกออกมาจากแผลลึกที่หลังของมัน ที่ได้ปิดชีพมันไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เลือดนั้นก็ได้อาบอยู่ที่ใบหน้าและเสื้อของเซลเรียบร้อยแล้ว
“โธ่เว้ย เสื้อใหม่นะเนี่ย แกต้องซนใช้ด้วยเจ้าไก่....เอ่อ นกบ้า...สิงโต เฮ้อ อะไรก็ช่างเหอะที่แน่ๆแกต้องชยใช้” เสียงของเซลนั้นมีความโกรธแค้น จิตสังหารแผ่
พุ้งออกมาจากร่างกาย.......จนพื้นข้างๆตัวนั้นเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!!!
จนสัตว์อสูรบางตัวทนไม่ไหว จึงได้พุ้งตัวเข้ามาโจมตีแต่แล้วกลับ โดนฟันจนขาดครึ่ง จนตอนนี้รอบตัวของเซลนั้น คือกองเลือดของพวกสกอดิโอ้นับสิบ
“มาต่อกับเลยไหม” เสียงอันเยือกเย็นของเซลบอกต่อ เมื่อเจ้าสกอดิโอ้ได้ยินดังนั้น มันก็โกรธจัดจนดวงตาสีดำของมันกลางเป็นสีแดงทันที หัวสิงโตหลายร้อยตัวโฉบลงมาหวังฉีกเหยื่อของมันแต่กลับ
“ซอลด์ ออฟ์ ไฟเยอร์” ทันใดนั้นเอง ดาบในมือของเขาก็เกิดประกายไฟสีฟ้าเกิดขึ้นตั้งแต่ด้ามดาบจนถึงปลายแหลมของดาบเลยที่เดี่ยว
“ ก๊าซ~~~~” เสียงของสกอดิโอ้โหยหวยอย่างเจ็บปวดเมื่อ ดาบในมือของเซลได้พั่บอยู่กลางลำตัวของมันจนทะลุ
แล้วการต่อสู้ที่ดุเดือดก็เริ่มขึ้น ระหว่างฝูงของสกอดิโอ้ ที่เหลือ10กว่าตัวกับมนุษย์อีกคนที่เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย
*********************************************************************************
ณ สนามหญ้าหน้าโรงเรียนจอมเวทเบอร์ลิน
เด็กนักเรียนที่มาสมัครนั้นมีเต็มสนามไปหมด ราวๆ หมื่นๆกว่าคน แต่คนที่จะเข้าไปได้มีแค่ 80 คนเท่านั้น เด็กนักเรียนนั้นก็มีแต่พวกรวยๆมาทั้งนั้น แล้วหนึ่งในนั้นคือ เจ้าชายแห่งซาลาแซล ที่ได้รับว่าเป็นเมืองหลวงของโลกคนนั้นคือ...เจ้าชาย เซทา อเล็ก หลุยส์ ที่สอง (Prince Seta A. Louis II) หรือเรียกสั้นๆว่า เซทา หลุยส์ เจ้าชายองค์นี้เป็นเจ้าชาย รัชทายาท อันดับที่1 และมีหน้าตาหล่อเหลาที่สุดในราชวงศ์ เคยลงนิติยาสาร แนวหน้ามาแล้ว เลยได้เป็นที่จับตามองของผู้หญิง เล็ก ใหญ่ ทั่วโลก แต่ใช่ว่าเขาจะดังคนเดี่ยว อีกคนคือ จอห์น บิช สต็อน จอมเวทอันดับต้นๆของ นครแห่งเวทมนต์ โฮเวิยร์ (John B. Stone) เก่งเวทแล้วยังเป็นขวัญใจสาวๆทั่วโลกอีกด้วย เขาคนนี้ละ เคยไปกำจัดอสูรมายาทั่วโลกมาไว้ในครอบครองมาแล้ว แล้วหนึ่งในนั้นที่ ทุกคนต้องตกใจ คืออสูร ปาฮามัม (Bahamut) อสูรตัวนี้ว่ากันว่าแค่ตัวเดี่ยวก็ทำลายเมืองได้ทั้งเมืองอย่างไม่ยากเย็นนัก เป็นสัตว์อสูรที่ทุกคน ไม่เว้นแต่จอมเวทอันดับหนึ่งของโลก นั้นคือ ศ.เบอร์ลิน ผู้อำนวยการสูงสุดของโรงเรียนจอมเวทเบอร์ลินเองยังต้องอยากได้....นี้เลยเป็นที่กล่าวขวัญของคนทั่วโลก
แล้วระหว่างทุกคนกำลังคุยกันอยู่นั้นเอง ประตูโรงเรียนก็เปิดขึ้นรับผู้มาเยือนใหม่ เป็นใครไม่ได้นอกจาก....เซล กับเจ้ามังกรดำน้อย แต่ไม่น้อยแล้ว สปาด์กี้
“ถึงสักที” เซลบอกขณะเดินผ่านฝูงชนที่แตกตื่นเพราะ เสื้อผ้าของเซลตอนนี้เต็มไปด้วย.........เลือดสีแดงสด แล้วตรงหน้าก็มีรอยของ ของมีคมบาดเอาด้วยเลยเป็นรอยยาวถึงปลายคอเลย
เสียงซุบซิบเกิดขึ้นกันทันที แล้วทันใดนั้นเอง
“ว้ายๆๆๆ ตายแล้วๆ นี่เธอไปโดนอะไรมาเนี่ย เนื้อตัวดูซิดูไม่ได้เลย” อาจารย์หญิงท่านหนึ่ง รีบวิ่งมาดูอาการของเซลอย่างเป็นห่วง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่ไปสู้กับฝูงสกอดิโอ้มาเอง” อาจารย์หญิงเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“นี่เธอเป็นอะไรมากรึเปล่าเนี่ย ฝูงสกอดิโอ้นะพวกรุ่นพี่ปี 4 ปี่5 ยังเอาไม่ค่อยอยู่เลย” อาจารย์หญิงร้องถามขณะรีบเช็คตัวของเซลอย่างเร่งด่วน
“ไม่มีอะไรครับ ผมจัดการมันเรียบไปแล้ว ถ้าไม่เชื่อไปดูที่ เนินหญ้าตรงนั้นก็ได้นะครับ” เซลชี้ไปที่ถุ่งหญ้าที่ตอนนี้ มีกองซากศพของสกอดิโอ้เกลื่อนเต็มไปหมด นั้นก็ทำให้เด็กนักเรียนบางคนถึงกับอาเจียนออกมาเลยทีเดี่ยว
“นั้นเธอทำเองคนเดี่ยวเลยหรอ” อาจารย์หญิงถาม ขณะที่เซลพยักหน้ารับ “เธอตามครูมานี่นะ”
“มีอะไรหรือครับ” เซลถามขณะ นักเรียนหญิงกำลังส่งยิ้มหวานให้กับเขา (ทั้งเก่ง ทั้งน่ารัก) คงคิดกันแบบนั้นละมั้ง
“อะนา ตามครูมา” อาจารย์หญิงบอกขณะดึงเซลเข้าไปในห้องๆหนึ่งที่มืดมิด มองไม่เห็นฉายใน
อาจารย์หญิงคนนั้นเปิดไฟ พร้อมกับเห็นห้องที่มีโต๊ะ หนึ่งตัวกับอาจารย์อีกห้าคนนั่งอยู่
“เอาละ ขอบคุณมากนะ ศ.แซนเดียร” เสียงชายแก่ที่นั่งอยู่ตรงกลางโต๊ะเอ่ยถึง ขณะ ศ.แซนเดียรโน้มตัวให้ แล้วเดินออกไป
“เอาละ เข้าเรื่องเลยนะ ครูชื่อ ฮาเวียร์ เป็นผู้อำนวยการแผนกการสอบเข้า และศาสตร์ตราจารย์ ทั้งสี่ท่านนี่ก็เป็นผู้คุมการสอบนะ” ศ.ฮาเวียร์ที่ซึ่งแก่ที่สุด นั้นก็คือคนที่อยู่ตรงกลางนั้นเอง
“เอาละ ตอนนี้บอกชื่อเธอมาพ่อหนุ่ม” ศ.ฮาเวียร์บอก ขณะที่เซลที่เดินก้าวออกมาสองสามก้าว
“ผมชื่อ เซล...เซล ซามาซาส ครับ” เซลตอบอย่างภาคภูมิ
“ตระกูลซามาซาส นี่เธอเป็นญาติ ของราเซลหรอ” ศ.หญิงคนหนึ่งถามขณะนึกขึ้นได้ “ขอบโทษทีจ้ะ ครูชื่อ เมม่า จ้ะ”
“เอ่อ...นี่อาจารย์ถามผมเมื่อกี้นะครับ....ราเซลไม่ใช่ญาติผมหรอกครับ แต่เป็นพ่อของผมต่างหาก”
“พ่อหรอ/ครับ” ศ.เมม่าถามขณะที่เซลตอบเกือบจะทันที
“ก็ดีงั้นเรามาเริ่มกันเลย”
“สอบเข้าไงละจ้ะ”
จบตอนที่3แล้ว
ความคิดเห็น