คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : เมืองร้าง
[ไง ไม่ได้เจอกันนาน ทั้งสองคนเป็นไงกันบ้าง ได้ยินว่ากลายเป็นพ่อแม่คนแล้ว คันดะคุงเป็นคุณพ่อที่ดีไหมเอ่ย?]เสียงกวนประสาทของหัวหน้าแผนกวิทย์ดังออกมาจากหูโทรศัพท์ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่คุยอยู่คืออเลน มิเช่นนั้นโทรศัพท์อาจกลายเป็นแพะรับดาบก็เป็นได้
“ครับ..คุณโคมุอิ แล้วทางนั้นเป็นยังไงบ้างครับ แล้วมีอะไรหรือเปล่าครับถึงติดต่อมา”อเลนถามกลับ ก่อนจะเปลี่ยนคลื่นให้ทีมเพื่อให้ได้ยินกันทั้งหมด
[คืองี้นะ ขากลับพวกเธอต้องผ่านเกาะประหลาดๆด้วยใช่ไหม?]โคมุอิถาม
“ครับ หมายถึงเกาะที่เห็นรางๆตอนขามาหรือครับ”
[ใช่แล้วล่ะ...ที่นั่นน่ะ เคยได้ยินตำนานบางอย่างว่าเป็นเมืองที่เคยพัฒนาจนถึงขีดสุดแล้วล่มสลายน่ะ ก็เลยคิดว่าอาจจะมีอะไรดีๆ พอดีเห็นว่าถ้าพวกเธอจะกลับแล้วมันจะผ่านน่ะ เลยอยากขอให้ช่วยแวะที่นั่นหน่อยน่ะ]
“นี่...โคมุอิ ที่นั่นน่ะ มันปกคลุมไปด้วยหมอกนะ? จะเข้าไปยังไง”โซฟีเลียพูดขึ้น ก่อนจะอธิบายต่อ “เมืองนั้นชื่อเนเรเดียร์... ที่รู้ชื่อเมืองหรือว่าเกาะนั่นก็เพราะว่าเป็นเกาะที่เคยอยู่ในแผนที่โบราณของที่นี่ ก็อย่างที่โคมุอิพูด เป็นเมืองแบบนั้นแหละ....เมืองที่เคยพัฒนาจนถึงขีดสุดแล้วล่มสลาย ในบันทึกเก่าของที่นี่ไม่มีอะไรมากนักหรอก..”
[แต่ถึงจะพูดแบบนั้น...มันก็ยังน่าตรวจสอบอยู่ดีแหละ ยังไงก็ฝากด้วยละกันนะ อเลนคุง คันดะคุง ฝากข้อมูลแผนที่ด้วยนะครับ คุณโซฟีเลีย]โซฟีเลียพยักหน้าโอเค จากนั้นสัญญาณก็ตัดไป
“อืม...เนเรเดียร์น่ะ..อันที่จริงเป็นสถานที่ที่คล้ายกับที่นี่นะ..แผนที่ฉันพอมีอยู่หรอก เป็นแผนที่เก่าน่ะ.. แต่ถ้าเป็นข้อมูลเนี่ย..ฉันไม่มี แต่เธอลองคิด [เทียบ]กับที่นี่ดูละกันนะ เพราะทั้งสองที่นี้[กำเนิด]และ[ล่มสลาย]ลงในเวลาไล่เลี่ยกัน”โซฟีเลียพูดจบก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งให้
“แล้วพวกเธอสองคนล่ะ?”โซฟีเลียก้มลงถามเด็กน้อยทั้งสองคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้
“พวกเราจะไปด้วยครับ”รันและลูตอบ
“อืม..โอเค ที่เนเรเดียร์ช่วงนี้น่าจะหนาว...เดี๋ยวจะเตรียมเสื้อกันหนาวเผื่อละกันนะ อุเคียว อยู่ข้างนอกสินะ?”โซฟีเลียตะโกนออกไปข้างนอก
แอ๊ด...
“รู้ได้ไงคะ? ว่าฉันอยู่หน้าประตู”อุเคียวพูดโดยที่ในมือถือชุดกันหนาวสีชมพูและฟ้าในมือ
“ก็อย่างนี้ทุกที...”โซฟีเลียพูดแล้วถอนหายใจ
“ไม่ได้แอบฟังอะไรหรอกค่ะ พอดีตัดเล่นๆแล้วก็เลยอยากเอามาให้ดู แล้วก็ได้ยินพอดี เอ้า นี่จ๊ะ รัน กับ ลู คนละตัวนะ”อุเคียวหยิบเสื้อกันหนาวให้คนละตัว "มันบางหน่อยนะจ๊ะ พอดีคิดว่าไม่น่าจะหนาวมาก"
สองพี่น้องฝาแฝดรับไว้ก่อนจะกล่าวขอคุณเสียงใส
“ขอบคุณครับ พี่สาว”
“ตายแล้วว น่ารักจังเลย”ว่าแล้วก็ลงมือกอดสองพี่น้องไว้อย่างแนบแน่น “ว่างๆมาเยี่ยมบ้างนะจ๊ะ พี่จะเตรียมชุดสวยๆให้ อเลนคุงด้วยนะจ๊ะ”
“ง่า....ไม่ต้องก็ได้ครับ”
หลังจากนั้น...โซฟีเลียก็เตรียมเรือให้ ก่อนจะออกเดินทางสู่เนเรเดียร์
.
.
.
“ว้าว! ทะเลสวยจัง!”สองฝาแฝดร้องอย่างถูกใจ เป็นเพราะไม่เคยเห็นโลกภายนอก จึงไม่เคยเห็นทะเลด้วยเช่นกัน ดังนั้นสำหรับสองฝาแฝดแล้วผืนน้ำระยิบระยับที่มองออกไปไกลสุดขอบฟ้านี่ จึงเป็นสิ่งแสนมหัศจรรย์..
“สวยขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วเคยเห็นป่าไหม?”อเลนก้มลงถาม
“ไม่เคยครับ คุณแม่พาไปได้ไหมครับ”
“ต้องดูก่อนนะ..ว่าจะได้ไปหรือเปล่า...”อเลนตอบ ในขณะที่คันดะนั่งเฝ้าดูคุณแม่มือใหม่อย่างเงียบๆ ในมือกระชับดาบ พลางครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่าง
เนเรเดียร์......
เมืองร้างที่อยู่ในม่านหมอกงั้นรึ...
รู้สึก..ใจคอไม่ดีเอาเสียเลย....
“ยูครับ”
“อะ...อะไร?”คันดะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเสียงหวานเรียกขึ้นข้างๆ อเลนขมวดคิ้วนิดๆก่อนจะถามขึ้น “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ดูท่าทางไม่ค่อยสบาย...”
“ไม่มีอะไรหรอก...อเลน ว่าแต่สองคนนั้นน่ะ..รู้สึกจะระริกระรี้ใหญ่เชียว”คันดะพูดพลางมองไปทางรันกับลูที่วิ่งเล่นอยู่
“ช่างเขาเถอะครับ เด็กๆก็แบบนี้แหละ”อเลนพูดพลางหัวเราะนิดๆ
เรือล่องไปได้สองถึงสามวัน.....ก็เห็นเกาะแห่งหนึ่ง...ที่มีม่านหมอกปกคลุม
“เอ่อ....จะเข้าไปได้ไหมครับ?”อเลนถามคนจับหางเสืออย่างไม่แน่ใจ
“น่าจะได้ครับ คุณเอ๊กโซซิทส์ แต่ปัญหาคือ...เราจะไม่เห็นพวกหินโสโครก ถ้าไปชนเข้าอาจทำให้เรือเสียหาย”นายเรือพูดอย่างหนักใจ...ม่านหมอกตรงหน้าเป็นสิ่งที่ทำให้การเดินทางไม่สามารถเคลื่อนไปได้
“น่าจะไปได้.....”คันดะเปรยขึ้น
“เห...หมายความว่าไงครับยู”ร่างบางหันไปถามคนรัก
“ในบันทึกที่โซฟีเลียให้มาบอกว่า คืนพระจันทร์เต็มดวง ม่านหมอกพวกนี้จะสลายไป”คันดะแจงให้ฟัง แล้วยื่นหนังสือเล่มนั้นให้
“ยูอ่านภาษาพวกนี้ออกด้วยหรือครับ?”อเลนถาม เพราะมันไม่ภาษาอังกฤษ และไม่น่าจะเป็นภาษาใดๆบนโลกที่เขารู้จัก
“ฉันไม่ได้อ่าน.....สองคนนี้ต่างหาก”คันดะชี้ไปทางรันกับลู
“จริงเหรอครับ!!!!! รันกับลูอ่านออกเหรอ!?”อเลนถามเสียงสูงอย่างตกใจ
“ฮะ...คุณแม่”
แปลก.....อเลนคิด
ทำไมสองคนนี้ถึงอ่านออกล่ะ...
มีอะไรตื้นลึกหนาบางกันแน่....
“คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงครับ คุณเอ๊กโซซิทส์ รอหน่อยก็คงจะเข้าไปได้”นายเรือแจ้ง อเลนพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ ก่อนจะลากคันดะและลูกๆลงไปรอที่ท้องเรือ
และแล้ว....ยามค่ำคืนก็มาเยือน จันทราทรงกลมส่องแสงเรืองรองไปทั่วผืนน้ำอันกว้างใหญ่...และแล้ว..สิ่งที่ไม่อยากเชื่อก็เกิดขึ้น..
ม่านหมอกที่ปกคลุมเมืองเนเรเดียร์อยู่ค่อยๆจางหายไป...ปรากฏให้เห็นภายใน
...เมืองร้าง...
เรือค่อยๆเดินหน้าเข้าไปในเกาะ รอบข้างมีซากปรักหักพังมากมาย ความเงียบสงัดที่ทำให้นักดาบหนุ่มไม่ชอบใจเอาเสียเลย...
มันเงียบเกินไป...
ปกติแล้ว....ควรจะมีเสียงของสัตว์บ้าง...
ไม่น่าไว้ใจเลย
.
.
.
เอี๊ยด...กึง..
เสียงเรือกระทบกับฝั่งส่วนที่คล้ายๆท่าเรือดังขึ้นเบาๆ แต่ก็กังวานในสถานที่อันไร้สรรพเสียงนี้ อเลน คันดะและสองฝาแฝดเดินลงมาจากเรือ ในขณะที่นายเรือและลูกเรือคนอื่นๆรออยู่บนเรือ
“.....หนาว”อเลนพึมพำขึ้นเบาๆ ก่อนที่เสื้อตัวหนาจะคลุมลงมา
“อุ่นขึ้นไหม?”คันดะถามอย่างเป็นห่วง
“ขอบคุณครับ ยู”ร่างบางยิ้มหวาน คันดะยิ้มบางๆตอบไป
“ฮัดเช้ย!”
อเลนและคันดะหันไปตามเสียงจาม
“ขอโทษฮะ..คุณพ่อ คุณแม่ ฟืด...”ลูพูด ก่อนจะเดินไปเกาะมารดาของตน “อุ่นจังครับ”
“รัน มาสิ”อเลนเรียกรันที่ยังเดินหนาวสั่นอยู่ข้างหลัง แต่เด็กหนุ่มส่ายหน้าน้อยเป็นเชิงปฏิเสธ แต่คันดะก็ลากมาจนได้
“หนาวจนสั่นแล้วยังปากแข็งนะ”
“ขอบคุณครับ คุณพ่อ..”
อเลนหัวเราะคิกคักเบาๆกัความน่ารักของร่างสูง ก่อนจะเงียบไป เมื่อสายตาติดจะเขินๆของคันดะตวัดมา...
เป็นคุณพ่อเต็มตัวแล้วมั้ง?
ความคิดเห็น