ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hagalaz..ผนึกรัตติกาล

    ลำดับตอนที่ #7 : ผนึกที่ 6 : ข้อแลกเปลี่ยน

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 54


    ผนึกที่ 6 : ข้อแลกเปลี่ยน

    กลิ่นของจัสมินไม่เคยจางหายจากรอบกาย
    แต่ในค่ำคืนนั้น
    เจ้าของกลิ่นหอมที่ชวนให้สุขใจนั่นได้เลือนหายไป


    กึก….

    ร่างที่กำลังหลบหนีชะงักเมื่อมาถึงปลายถนนริมน้ำที่ไร้ทางต่อ กายบางใต้ชุดราตรีสีนิลมองซ้ายมองขวาหาทางที่จะไปต่อ หากแต่ไม่พบอะไร เนลล่าที่กำลังวิ่งตามมายิ้มบางๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไร้ทางไปต่อ ร่างของหญิงสาวในชุดเดรสสีรัตติกาลหันมามองเนลล่าที่วิ่งตามมาครู่หนึ่ง ริมฝีปากแดงสดคลี่ยิ้มบางราวสมเพชเหนื่อยหน่าย ก่อนจะกระโดดลงน้ำไป

    เนลล่าเบิกตากว้างมองตกใจ

    นี่กล้าถึงกับกระโดดลงน้ำไปเลยหรือ!

    ...หากเสียงที่เกิดขึ้นกลับไม่ใช่เสียงตูมใหญ่ของวัตถุที่หล่นลงสู่น้ำ

    จ๋อม..

    ปลายรองเท้าสีแดงสดเท้าสัมผัสผิวบนของน้ำ กระโปรงฟูฟ่องลากยาวนั้นระเรื่อยบนผิววารีราวกับลากไล้ไปบนผืนดิน หญิงสาวก้าวเดินอย่างสง่างามโดยไม่ลืมหันมายิ้มเย้ยหยันให้เนลล่าที่ตามตนวิ่งมา ก่อนที่จะก้าวเดินต่อไปอย่างเชื่องช้าและใจเย็น  ร่างของเด็กหนุ่มที่วิ่งตามมาหยุดลงเมื่อสุดถนนเดิน ดวงตาส่องประกายร้อนรน มองซ้ายมองขวาหาทางไป ริมฝีปากบางขบกัดแน่น ทำท่าจะก้าวลงไปในน้ำ แต่แล้วก็ถูกดึงแขนไว้ด้วยมือของชายหนุ่มร่างสูง ..เพื่อนร่วมทางของตน

    โครม!

    เนลล่าถูกดึงให้ล้มลงกับพื้นโดนแผ่นหลังพิงกับแผ่นอกของชายร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีน้ำเงิน ดวงตาที่คลอหน่วงด้วยหยาดน้ำตามองตามแผ่นหลังสีรัตติกาลไปด้วยความสับสนร้อนใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเตรียมต่อว่าผู้ที่ดึงไม่ให้ตนตามไป

    โป๊ก!


    ...........


    โอ๊ยยยยย เจ็บ !!ร้องเสียงดังแล้วกุมหัวตัวเอง ครางโหยหวนในลำคอ แล้วจึงเงยมองหน้าคมอีกครั้งด้วยแววตาที่ดีกว่าเดิมตีหัวผมทำไมครับ!

    ใครใช้ให้เธอสะบัดมือฉัน ใครใช้ให้เธอวิ่งมาโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ใครใช้ให้เธอทำท่าเหมือนจะกระโดดลงไปในน้ำให้ฉันหัวใจวายเล่นๆ หา!!

    ตะโกนใส่แล้วตบหน้าของเด็กหนุ่มเบาๆ มือสั่นด้วยระงับอารมณ์ไม่ให้ทำอะไรที่รุนแรงไปมากกว่านี้ ก่อนจะหันร่างที่เพรียวกว่าตนให้มาประจันหน้ากัน มองอย่างผู้ใหญ่ที่กำลังจะดุเด็กๆ

    ฉันเคยบอกเธอตั้งแต่วันที่เราเริ่มออกเดินทางกันแล้วใช่ไหม? ว่าฉันจะไม่ปล่อยให้เธอไปไหนคนเดียว!


    ขอโทษนะที่ปล่อยทิ้งไว้..

    จากนี้..จะไม่ปล่อยให้อยู่คนเดียวอีกแล้ว


    เนลล่าเงยมองดวงตาจริงจังของอีกฝ่าย ก่อนจะก้มหน้าแล้วเอ่ยพึมพำขึ้นมา

    “.................”

    ว่าไง?”

    ขอโทษครับ อิลเวส......

    วันนี้เธอดูสับสนมากเลยนะรู้ไหม..นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

    อิลเวสเอ่ยถาม มองเด็กหนุ่มร่างบางที่นั่งอยู่เบื้องหน้าตน เนลล่าเงยมอง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยดวงตาที่ยังสับสนอยู่

    ผม..เห็น.....เธอคนนั้นเดินออกมาจากที่เกิดเหตุโดยไม่มีทีท่าตกใจ..แล้วก็สงบนิ่งมาก นอกจากนั้น

    ...ผมได้กลิ่นของจัสมิน มาจากผู้หญิงคนนั้น...

    ผมก็เลย......


    เสียงต่อมากลืนหายไปกับความเงียบ แต่เพียงเท่านั้นก็มากพอจะทำให้ชายร่างสูงเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด

    “...เข้าใจแล้ว...

    บาดแผลทางใจ..ทั้งของเขาและของเด็กคนนี้..

    อิลเวสถอนหายใจเฮือก ก่อนจะแบกเนลล่าขึ้นพาดกับไหล่ตัวเองท่ามกลางความงุนงงของคนที่จู่ๆก็โดนจับลอยขึ้นมา เนลล่าที่กำลังอึ้งดิ้นพล่าน โวยวายขึ้นอย่างตกใจ แล้วตะโกนใส่หูคนที่ยกตัวเองลอยขึ้นด้วยความโมโหหงุดหงิดใจทำอะไรน่ะครับ!

    ก็จะข้ามน้ำนี่ไปน่ะสิ ฉันเป็นผู้ควบคุมน้ำนะ

    งั้นผมข้ามเองก็ได้ ไม่ต้องแบกหรอก

    ไม่ละ ขี้เกียจรอ เวลาเธอเดินข้ามน้ำน่ะขาสั่นประจำไม่ใช่เรอะว่าพลางกระโดดลงไปบนผิวน้ำแล้ววิ่งไปอย่างง่ายดาย รองเท้าที่สัมผัสผิวน้ำสะบัดเอาหยดน้ำให้กระจายแล้วร่วงหล่นสู่ผืนน้ำนิ่งเป็นเสียงอันแผ่วเบา พร้อมกับกระโดดขึ้นถนนไปโดยไม่ฟังคำโวยวายของเนลล่าว่าให้ปล่อยลงเสียที

    บอกมาว่ากลิ่นไปทางไหน

    ฮึ่ย...ตรงไปครับ.........เนลล่าที่เลิกจะโวยวายกล่าวขณะถูกจับพาดไหล่แล้ววิ่งไปตามถนนจนตาลาย บ่นพึมพำไม่พอใจหากก็เลิกที่จะดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์เสียที อิลเวสยิ้มอย่างพึงพอใจ ถึงปากจะบอกว่าขี้เกียจรอ แต่ใจจริงแล้ว...

    ..ก็แค่อยากแกล้งเจ้าเด็กนี่คืนบ้างก็เท่านั้น ข้อหาทำให้เป็นห่วงกับใจหายครั้งแล้วครั้งเล่า!


    ตุบ..

    ฝีเท้าหยุดลงเมื่อพบเข้ากับทางตัน ดวงตาของอิลเวสเบิกกว้างเล็กน้อยก่อนจะปล่อยร่างของเนลล่าลงกับพื้น ดวงตาสองคู่มองซ้ายแลขวาหาร่างของหญิงสาวที่พวกตนวิ่งตามมา ชายหนุ่มร่างสูงมองไปรอบกาย ก่อนจะหันไปทางเด็กหนุ่มร่างบางที่กำลังมองไปรอบด้านอย่างงุนงง

    หายไปแล้ว?”เนลล่าพึมพำ..

    แน่ใจนะว่าเธอนำมาถูกทางน่ะ เนลล่า?”

    “...ไม่รู้สิ แต่ผมได้ยินเสียงกระดิ่งดังมาทางนี้จริงๆ...ส่วนกลิ่นดูเหมือนจะจางไปแล้ว...เนลล่ากล่าว ดวงตามองไปรอบด้านซึ่งรายล้อมด้วยตึกอิฐที่ก่อร่างสูงขึ้นโอบล้อมจากทุกทิศยกเว้นด้านที่เข้ามา ลักษณะเป็นช่องว่างแคบๆที่เกิดเป็นช่องว่างระหว่างบ้านคน ตึกนี้สูงราวสามสี่ชั้นเพราะฉะนั้น สตรีที่สวมชุดกระโปรงยาวกรอมพื้นแบบนั้นคงยากที่จะปีนได้โดยเร็ว แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น

    ..เธอคนนั้นหายไปไหนแล้วล่ะ...

    แปะ แปะ แปะ

    เสียงปรบมือดังกังวานขึ้นในความเงียบงัน

    เก่งนะที่ตามมาได้ถึงขนาดนี้ ขอชมเชยจริงๆ

    กริ๊ง..

    เสียงหวานทรงเสน่ห์ดังขึ้นจากด้านบนพร้อมกับเสียงของกระดิ่งที่ดังกังวาน ดวงตาสองคู่พลันหันขวับขึ้นมองตามต้นเสียง ก่อนจะเจอร่างของหญิงสาวเจ้าของอาภรณ์สีรัตติกาลนั่งอย่างสง่างามอยู่บนหลังคาตึกสูงสีอิฐแดง มือเรียวสองข้างท้าวขอบอิฐเบ้องหลังพร้อมนั่งไขว่คว้าอย่างมั่นอกมั่นใจ ชุดกระโปรงสีรัตติกาลฟูฟ่องพลิ้วไสวตามแรงของสายลม.. อาภรณ์รุ่มร่ามจนรู้สึกร้อนแทน ร่างนั้นยิ้มลงมาให้ด้วยสีหน้าที่เดาไม่ออก..สุริยันสีแสดที่กำลังลาลับบอบฟ้านั้นสาดแสงจนร่างอาภรณ์สีดำยิ่งมืดมิดลงอย่างน่าเกรงขามและชวนหวาดหวั่น

    คุณ...

    ชู่ว..อย่าใจร้อนสิแตะนิ้วสีขาวซีดที่ริมฝีปากแดงสดของตนเป็นสัญญาณให้เงียบ ก่อนจะหัวเราะกังวานแล้วลุกขึ้นยืนจะลงไปแล้วล่ะ

    เอ่ยเสร็จก็กระชับร่มลูกไม้สีดำของตนพร้อมกางออก ก่อนจะกระโดดโรยตัวลงมาอย่างเชื่องช้าโดยมีร่มค่อยๆพยุงตัวให้ร่วงโรยอย่างงดงาม กระทั่งรองเท้านุ่มสัมผัสพื้นพร้อมเสียงกระดิ่งที่กังวานตามมา

    ..กลิ่นของดอกจัสมินหายไปแล้ว...

    ขออภัยด้วย ผู้พรากความตายทั้งสองร่างของหญิงสาวที่โรยตัวลงมาเอ่ย พับเก็บร่มสีราตรีแล้ววางไว้ข้างกายราวอาวุธประจำตัว ใบหน้างามเงยขึ้นมองแขกผู้มีเกียรติทั้งสองคนที่ตนเชิญมา  เราต้องการพบพวกเจ้า แต่มีผู้ที่เราไม่ต้องการพบตามพวกเจ้าทั้งสองมา เราจึงจำเป็นต้องหนีโดยล่อให้ทั้งสองท่านตามเรามา ..เพื่อสลัดคนผู้นั้น

    “...สลัดใคร? แล้วทำไมถึงรู้ว่าเราเป็นผู้พรากความตายอิลเวสกล่าวถาม ระแวดระวังตัวด้วยรู้สึกถึงความไม่ธรรมดาจากหญิงสาวคนตรงหน้า

    “....เราแค่ไม่อยากใครคนนั้นรู้ถึงสิ่งที่เราจะพูดกับเจ้าทั้งสองน่ะ ส่วนเรื่องที่ทำไมถึงรู้...มีคนผู้หนึ่งบอกเราเอาไว้...เกี่ยวกับผู้พรากความตายที่เฝ้าตามหาตำนานแห่งโบราณกาล..หญิงสาวเลือกที่จะเลี่ยงคำถามแรกและตอบเพียงคำถามที่สอง

    งั้นจะช่วยบอกเราหน่อยได้ไหมครับ ว่าเขาคนที่บอกคุณไว้นั้นเป็นใครเนลล่าเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม หากเนตรกลับมองเขม็งไม่ไว้ใจ หญิงสาวมองตอบกลับดวงตานั้นแล้วยิ้มเยือน ก่อนจะส่ายหัวไปมาแล้วหัวเราะแผ่วเบาเราคงไม่อาจบอกเจ้าได้ในตอนนี้ เด็กน้อย

    เนลล่าชักสีหน้า ก่อนจะยิงคำถามต่อไปงั้นขอถามอีกข้อนะครับ ทำไมคุณถึงมีกลิ่น.....ของ......ดอกจัสมิน...ติดตัว...

    ดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของเรย์

    หญิงสาวนิ่งเงียบ มองผู้พรากความตายตัวน้อย ก่อนจะว่าต่อไป

    "เราไม่ได้มีกลิ่นนั้นติดตัวหรอกนะ แต่ทำเพื่อล่อให้พวกเจ้าตามมา.. ด้วยคำแนะนำกับบุรุษคนเดียวกันนี้ ชายผู้นั้นบอกว่า..เจ้ามีความหลังกับกลิ่นของดอกจัสมิน....หากว่าใช้มันล่ะก็ จะต้องล่อให้เจ้าตามมาโดยไร้เหตุผลได้แน่นอน

    ทั้งเนลล่าและอิลเวสสะดุ้งเฮือก มองใบหน้าของหญิงสาวที่บัดนี้ส่วนหนึ่งยังคงถูกซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมหน้าอันเบาบาง ประโยคท้ายเอ่ยด้วยน้ำเสียงสนุกสนานที่ราวกับจะเคยคุ้นในอดีตกาล ..เสียงที่ไม่ใช่ของหล่อน

    เรื่องนั้น เป็นเรื่องที่รู้กันแค่พวกเขาสองคน..ในตอนนั้น..มีใครอีกที่รับรู้เรื่องนี้..

    ไม่มีแล้วไม่ใช่หรือ..?

    ..หรือว่าคนที่ว่านั่น..!

    "เขาชื่ออะไร..!!"เนลล่าเอ่ยถามร้อนรน ความหวังเหมือนจะผุดขึ้นมา และพลันดับลงด้วยคำพูดของหญิงสาว

    "ชายคนนั้นไม่ได้เป็นคนที่เจ้าคิดถึง..บุรุษผู้นั้นเป็นเพียงผู้ที่แส่เรื่องคนอื่นเสียทั่ว...เพียงเท่านั้น"

    แล้ว..ต้องการอะไรอิลเวสเอ่ยถามออกไปบ้าง ดวงตาหรี่มองด้วยแววตาที่ต้องการคำตอบ หญิงสาวผงกหัวราวกับจะบอกว่ามีเรื่องที่ต้องการให้ช่วย ก่อนจะดึงผ้าคลุมหน้าออก เผยสีผมและโครงใบหน้าให้ได้เห็นอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก

    โครงใบหน้ารูปไข่นั้นถูกล้อมกรอบด้วยเรือนผมสีขาวซีดโพลนดังหิมะที่เรียงตัวยาวตรงคลอเคลียไหล่อย่างอ่อนหวาน ผิวขาวซีดประดุจไข่มุกแห่งผืนทะเล ดวงตาสีรัตติกาลลึกล้ำคมกริบที่ราวกับจะมองทะลุถึงหัวใจของผู้คนได้ จมูกโด่งสวยรับกับใบหน้าโครงสวย ตบท้ายด้วยริมฝีปากแดงสดราวกับใช้โลหิตทาทับลงไป..

    ความงามอันลึกล้ำที่ชวนให้หวาดหวั่นมากกว่าจะหลงใหล

    เราได้ยินข่าวลือหนาหู ว่าพวกเจ้ามาที่แห่งนี้เพื่อพบภูติสายน้ำที่อาวุโสที่สุดกล่าวระหว่างทบผ้าคลุมหัวลงบนแขนตน แล้วเงยหน้าขันกล่าวด้วยสีหน้าสนุกสนานและรอยยิ้มบาง แต่คงเป็นเรื่องยากที่จะพบ เพราะภูติตนนั้นหลบอยู่ในเขตอาคมที่ลึกล้ำและแข็งแกร่งที่สุด..เขตอาคมที่มีผลอย่างยิ่งต่ออมนุษย์ทุกตน โดยเฉพาะผู้พรากความตาย..

    คำสุดท้ายราวกับจะเน้นย้ำถึงความโชคร้ายของผู้มาเยือน เนลล่ายกมุมริมฝีปาก กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวจะประชดประชัน กำลังจะบอกว่า เป็นไปไม่ได้เลยสินะครับที่พวกเราจะพบเขาได้?”

    ถูกต้อง และไม่ถูกต้องเสียทีเดียว

    “..หมายความว่า สามารถไปพบได้

    ถ้ามีใบผ่านทาง ต่อให้คนในเขตอาคมไม่เต็มใจก็ย่อมผ่านได้หญิงสาวกล่าวเนิบช้าระเรื่นหู ตอชายหนุมร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีน้ำเงิน ก่อนจะเอ่ยขึ้นและเรามีสิ่งนั้น

    หญิงสาวดีดนิ้ว พลันสายน้ำก็หมุนวนปรากฏกริชสีฟ้าสวยอันเบาบางที่ส่วนด้ามประดับด้วยหินสีขาวสวยเรียบมัน ส่วนคมของกริชนั้นวาววับราวกับทำด้วยน้ำแข็งอันไม่มีวันละลาย ร่างของสุภาพสตรีผู้งดงามกระชับมันไว้ในมือ ก่อนจะยื่นให้สองผู้พรากความตายได้เห็นชัดถนัดตา สิ่งนี้แหละ คือใบผ่านทาง ..กริชน้ำแข็งที่ลงมนต์โดยเทพแห่งเหมันต์ สิ่งที่ทำลายและผ่านเขตอาคมได้ทั้งมวล..ไม่ว่าจะเป็นเขตอาคมของธาตุใดใดในโลกก็ตาม

    ..ต้องการมันสินะ?”

    “.....แน่อนว่าต้องมีของแลกเปลี่ยน ใช่ไหม?”อิลเวสเอ่ยถามลองเชิง  และได้คำตอบเป็นเสียงหัวเระอย่างถูกอกถูกใจ

    ฉลาด..สมกับที่คงอยู่มาหลายพันปี ..ฮาร์ท เอซ(Heart Aces) แห่งโป๊กเกอร์รูล

    แม้แต่เรื่องนี้ก็รู้งั้นหรือ!

    อิลเวสกัดริมฝีปาก แม้ไม่ใช่เรื่องทีเป็นความลับแต่เขาก็ไม่เคยปริปากบอกแก่ใคร..ไม่แม้แต่คนที่อยู่ข้างกาย ตำแหน่งนั้นเป็นตำแหน่งที่น่ารำคาญเกินกว่าเขาจะต้องการมัน ดังนั้นจึงปิดเอาไว้เป็นความลับตลอด..แต่

    ..บัดนี้สายตาแห่งความสงสัยได้พุ่งตรงมาจากเนลล่าเสียแล้ว

    “..ดูเหมือนเราจะทำให้เจ้าลำบากสินะ อิลเวส ลินสแตรงก์ ... ฮาร์ทเอ๋ยหัวเราะคิกคักราวตั้งใจจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน หญิงสาวยกมือข้าหนึ่งขึ้นปิดริมฝีปากบางแดงสวยแล้วหัวเราะแผ่วเบาราวพึงใจกับการได้กลั่นแกล้งผู้อื่นนอกเหนือจากตนเอง

    ต้องการอะไรอิลเวสขมวดคิ้ว เอ่ยถามด้วยความรู้สึกที่รำคาญเต็มที่ หากเป็นที่ชอบใจนักของหญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีเหมันต์

    เจ้ารู้แล้วสินะ...คดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองนี้ ..Red Lady(สุภาพสตรีสีแดง)

    หมายถึงคดีที่คุณเดินออกมานั่นน่ะหรือครับ?”

    หญิงสาวผงกหัวยอมรับ ก่อนจะเอ่ยต่อไปเราคิดว่าพวกเจ้าคงยังไม่รู้เรื่องของคดีนี้มากนัก..ดังนั้น เราจะเล่าให้ฟัง..

    เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อราวสองสัปดาห์ก่อน

    มีผู้ได้ยินเสียงกรีดร้องของชายคนหนึ่ง เสียงกรีดร้องนั้นดังโหยหวนและขาดช่วงอย่างน่าหวาดกหวั่น ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปด้วยความหวาดกลัว กระทั่งเสียงเงียบไปจึงลองเดินไปตรวจสอบที่มาของเสียงกดู และสิ่งที่พบ..
    คือซากศพที่ถูกผ่าแยกร่างกายออกเป็นส่วนๆ

    หญิงสาวหยุดพูด ก่อนจะว่าต่อไป

    ซากศพนั้นถูกกรีดหน้าท้องออก เครื่องในทั้งหลายถูกควักออกมาประดับเรียงตามร่างกายอย่างน่าสยดสยอง ตามเนื้อตัวมีรอยกรีดแทงนีบไม่ถ้วนจนเลือดอาบย้อมร่างกายราวกับสวมชุดสีแดง ..รอยกรีดสวยมากเสียจนรู้สึกได้ว่าผู้ที่ใช้อาวุธเป็นผู้ชำนาญการ อาวุธที่ใช้เป็นของมีคมขนาดเล็กแต่มีความคมกริบ ดูจากบาดแผลที่ไม่ลากยาวเหมือนถูกบั่นกระดูก หากเป็นรอยเล็กๆที่รอยเฉือนสวยเสียจนอิจฉาเจ้าของฝีมือ..หญิงสาวหัวเราะคิกคักอีกครา

    แน่นอนว่าไร้พยานผู้พบเห็น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และฆาตกรเป็นใคร และเพราะผู้ตายเป็นโสเภณีชายที่ไร้ที่อยู่ คดีนี้จึงปิดตัวไปโดยไม่มีการสืบสวนต่อ..

    เดี๋ยวครับ โสเภณีชายที่ว่านี้..สีหน้าของเนลล่าดูซีดๆ

    ตามชื่อนั่นแหละ แค่เปลี่ยนจากหญิงเป็นชาย และคนใช้บริการก็มีทั้งบุรุษและสตรี..เมืองนี้ค่อนข้างเปิดกว้างน่ะนะหญิงสาวหัวเราะเอ็นดู แต่ตอนนี้เนลล่าแทบจะหันหลังไปอ้วกเสียแล้ว

    แต่เหตุการณ์ไม่ได้จบเพียงเท่านั้น..มีผู้ที่ได้ตายลงด้วยสภาพเช่นนี้อีกสามราย สองรายแรกเป็นโสเภณีชายเช่นเดิม หากรายหลังเป็นถึงแพทย์ที่เก่งที่สุดในเมือง ทั้งยังเป็นบุตรชายของมหาเศรษฐี...คดีนี้จึงถูกรื้อขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ยังตามมือใครมาจับดมไม่ได้ ข้อมูลตอนนี้มีเพียงสาม คือ หนึ่ง ช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น คือช่วงย่ำสนธยาโดยคลาดเคลื่อนราวสามสี่ชั่วโมง  สอง วิธีการฆ่าที่เป็นเอกลักษณ์จนได้รับฉายาว่า สุภาพสตรีสีแดง สุดท้าย...

    ผู้ตายทุกคนเป็นบุรุษเพศที่มีรูปร่างบอบบาง...และมีเสน่ห์กับเพศเดียวกัน

    “....ขอถามหน่อยได้ไหมครับ? ว่าคดีนี้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณเนลล่าที่หน้าซีดๆกับข้อมูลคดีเอ่ยถาม หญิงสาวขมวดคิ้ว ถอนหายใจยาวราวกับเด็กหนุ่มร่างบางได้ไปสะกิดเอาต่อมหงุดหงิดรำคาญของหล่อนเข้า

    ตึง!

    มือเรียวซีดขาวกระแทกปลายร่มลงกับพื้นหินโดนประสานมือไว้ที่ส่วนด้ามจับ ดวงตาเปล่งประกายอำนาจและเอ่ยกังวาน

    เราเป็นผู้คุ้มครองสนธยา  ผู้ที่มีสิทธ์กำหนดชีวิตผู้คนที่เดินย่ำอย่างโดดเดี่ยวในยามฟ้าสีแสดได้มีเพียงเรา! เราไม่อาจให้อภัยความยโสทีบังอาจคร่าชีวิตในอาณาเขตของเราได้ ...อีกทั้งถนนหนทางที่เกิดเหตุเป็นย่านถนนเลดเซที่อำนาจแห่งภูติน้ำไม่อาจเข้าถึง จึงเป็นเรื่องยากที่จะจัดการ ตัวเราเองก็ไม่อาจสืบหาเองได้ ด้วยคนผู้นั้นไวต่อกลิ่นและเสียงแห่งสนธยา..กลิ่นที่มีเพียงผู้แปดเปื้อนเลือดจักรับรู้

    ..เราจึงอยากขอแรงของพวกเจ้าทั้งสองคนให้ช่วยไขคดีนี้ โดยมีกริชน้ำแข็งนี้เป็นของแลกเปลี่ยน

    ความเงียบปกคลุมครู่หนึ่ง..สายลมแห่งยามสนธยาพัดต้องจนหนาวเหน็บ

    “......ตกลงครับ

    เนลล่ารับคำ เรียกรอยยิ้มบนใบหน้าหญิงสาว ขอบใจมาก แบบนี้ก็ค่อยโล่งไปเปลาะหนึ่ง

    หญิงสาวหันหลัง หยิบร่มขึ้นพาดกับไหล่พร้อมกางออก เดินหน้าเข้าสู่กำแพงทำท่าจะจากไป แต่อิลเวสก็เรียกรั้งไว้พร้อมเอ่ยถามขึ้น

    คำถามสุดท้าย..! เธอเป็นใคร..

    หญิงสาวหันมามอง รอยยิ้มเอื้อเอ็นดูคล้ายเหนื่อยหน่าย

    เราคือผู้ครอบครองช่วงเวลาแห่งสนธยา และเป็นผู้ที่ท่องไปในรัตติกาล ..บุคคลซึ่งบันทึกเรื่องราวและเฝ้าดูความเป็นไปภายใต้สีสันแห่งนิลกาฬ..ผู้คนเรียกเราว่าน้ำหมึกแห่งราตรี แต่...

    นามของเราคือ ซินเธีย



    สายลมพัดกรรโชกอีกครั้งจนทั้งสองคนต้องหลับตาลง และเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกที..

    สตรีแห่งอาภรณ์สีนิลก็ได้หายไปเสียแล้ว


    ++++++++++++++


    หลังจากที่ซินเธียหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว เนลล่าและอิลเวสก็พากันเดินไปยังส่วนที่มีการเช่าเรือโดยสารแล้วพากันเดินต่อมาถึงย่านทีพักของนักเดินทาง ก่อนจะไปนั่งทานอาหารในร้านข้างๆกันที่มีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา เสียงสรวลเฮฮาดังขึ้นรอบกาย หากกระนั้นความเงียบกลับคลอบคลุมรอบกายชายหนุ่มทั้งสองคนที่กำลังทานข้าวอย่างเคร่งเครียด ไร้การผ่อนคลาย

    ...กระทั่งเสียงทุ้มหวานดังขึ้นทำลายความเงียบนั้น

    เรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นพูด...เชื่อได้ไหมครับ

    อา..คิดว่านะ ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เชื่อ

    “...แล้วจะสืบหาข่าวยังไงล่ะครับ

    ก็คงต้องถามๆกันไป ไม่ก็ไปที่กรมข่าวสารเลย"

    “...........อืม..................ความเงียบปกคลุมอีกครา และพลันเสื่อมหายไปด้วยบุคคลเดิม

    อิลเวส บอกผมหน่อยสิ

    อะไร

    “...ฮาร์ท เอช

    “.........................”

    โป๊กเกอร์รูลด้วย

    “.................................”

    มันคืออะไร?”

    “…….”อิลเวสวางช้อนส้อมลงกับจานทันที ก่อนจะท้าวคางแล้วเมินหน้ามองไปทางอื่น เนลล่าที่เห็นแบบนั้นจึงยิงคำถามซ้ำอีกครั้งอิลเวส ตอบผมมานะครับ

    อิลเวสที่เมินหน้าไปเหล่มองเนลล่า ก่อนจะถอนหายใจเมื่อเผลอสบตากับเนตรใสกระจ่างคาดคั้นเข้าตรงๆ

    ..แพ้แล้ว

    “.....ผู้พรากความตายเป็นพวกที่มีอิสระ ถูกไหม?”เนลล่าผงกหัวกับคำนั้น ก่อนจะฟังชายร่างสูงกล่าวต่อไปแต่ถึงจะมีอิสระอย่างไรก็จำต้องมีกฏเกณฑ์..

    ในอดีตผู้พรากความตายเกิดขึ้น และได้พรากความตายของผู้คนไปเป็นจำนวนมาก ทำให้มีอัตราผู้อาศัยบนโลกมนุษย์กับวิญญาณในนรกไม่เท่ากัน ซึ่งสร้างปัญหาให้กับเหล่ายมทูตที่ไม่อาจรับวิญญาณผู้คนได้ตามกำหนดการ ด้วยเหตุนี้จึงมีการล้างพันธุ์ผู้พรากความตายเกิดขึ้น ด้วยไม่อาจตายได้จึงเป็นการฆ่าโดยทำลายวิญญาณ ในตอนนั้นเอง มีผู้พรากความตายคนหนึ่งยืนหยัดขึ้นมาแล้วทำสัญญากับยมทูตไว้ ว่าจะทำตามกฎที่ตั้งมา

    ข้อแรก คือจะกลืนกลินความตายของผู้คนได้ ต้องได้รับการยินยอมจากคนคนนั้น ข้อสอง ผู้พรากความตายไม่มีสิทธิจะฆ่าคนโดยเด็ดขาด และข้อสาม ต้องปฏิบัติตามคำขอร้องที่ยมทูตขอมาทั้งสิ้นโดยไม่มีการบิดพลิ้ว

    ถึงจะเป็นการทำสนธิสัญญาที่แปลกประหลาดและไม่ปรากฏผู้นำในตอนนั้น แต่ก็ทำให้มีพวกเราในวันนี้

    เรื่องนี้อิลเวสบอกผมแล้ว

    ฟังก่อนสิเอ่ยรำคาญ มองใบหน้าหวานที่ดูจะฉายแววเอือมระอาครู่หนึ่ง ท้าวคางแล้วว่าต่อตอนนั้นเองที่มีการเลือกผู้ปกครองสูงสุดของเผ่าพันธุ์ขึ้น ระดับสูงในสภามีทั้งหมด 52 คน เราเรียกพวกเขาว่า 'โป๊กเกอร์รูล' ประกอบด้วยกลุ่มคนสี่กลุ่ม คือ ดอกจิก ข้าวหลามตัด โพธิ์แดง และโพธิ์ดำ แต่ละกลุ่มประกอบด้วยคนสิบสามคน เรียงตั้งแต่สองขึ้นไปถึงแจ๊ค ควีน คิง และผู้นำสูงสุดก็คือ เอซ(Aces) ของทั้งสี่กลุ่ม โดยมีเอซโพธิดำเป็นผู้นำสูงสุด....แค่นี้คงเข้าใจสินะ?”

    ฮาร์ท เอช งั้น....อิลเวสก็เป็นหนึ่งในผู้นำสูงสุดน่ะสิ!!ทุบโต๊ะแล้วตะโกนใส่ ความรู้สึกแปลกใจปะปนกับความโกรธขึ้ง เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนด้วยแรงโกรธอันลุกโหมทันทีแล้วทำไมไม่บอกผม!!

    มันไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรซักหน่อย !!อีกอย่างที่โดนจับไปเป็นแบบนั้นก็แค่เพราะฉันอยู่มานานเท่านั้นเอง!!อิลเวสว่าพลางทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้นจ้องหน้าบ้าง คราวนี้ต่างฝ่ายเลยต่างใช้อารมณ์เข้าหากันก่อนชายหนุ่มร่างสูงจะกล่าวต่ออีกอย่างมันน่าเบื่อจะตายชัก หน้าที่ของพวกนั้นก็แค่ส่งต่องานให้พวกผู้พรากความตายที่ลงทะเบียนสาบานไว้ คอยลงโทษคนที่ทำผิดกฎ หารือเรื่องบ้าโน่นนี่อยู่ในปราสาทรูปทรงงี่เง่า เรียกประชุมอย่างไร้ประโยชน์ครั้งสองครั้ง ไม่งั้นฉันจะหนีออกมาไหมเล่า!

    เสียงทะเลาะกันของทั้งสองเริ่มดังขึ้นและกลายเป็นจุดสนใจเรื่อยๆ ต่าฝ่ายต่างเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมรามือ ผู้คนรอบด้านหัวเราะกระซิบกระซาบกันอย่างสอดรู้สอดเห็น แต่ดูเหมือนผู้แสดงโชว์ชาวบ้านชั้นเยี่ยมทั้งสองคนจะยังไม่รู้ตัว

    เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้นสิ แต่อิลเวสน่ะทำไมไม่บอกอะไรผมเลยล่ะ ไหงเพิ่งมาพูดกันตอนนี้ทั้งๆที่ผมก็เป็นผู้พรากความตายเหมือนกัน เป็นมาตั้ง 10 ปีแล้วด้วย! จะว่าไป ไอ้ทะเบียนสาบานนั้นไม่เห็นอิลเวสจะพาผมไปทำบ้าอะไรเลย!

    ก็เพราะมัน..................!!คำพูดที่กำลังจะกล่าวต่อไปถูกกลืนลงไปในลำคอ อิลเวสส่ายหัวไปมาอย่างหงุดหงิด คิ้วยังขมวดเป็นปมไม่หายก็เพราะมันไม่สำคัญ!

    ไม่สำคัญยังไงล่ะ! ทำไมอิลเวสถึงไม่เคยบอกอะไรผมเกี่ยวกับสิ่งที่ผมก็รอให้พูดอยู่ตลอดแท้ๆ ผมอยู่กับอิลเวสมาสิบปีแล้วนะ แต่แค่ปราสาทของผู้พรากความตายยังไม่เคยให้ไปด้วยเลยด้วยซ้ำ! นี่อิลเวสเห็นผมเป็นอะไรกัน.......!!

    อ๋า ระวัง.........!


    โครม!  


    ซ่า.....!!



    น้ำเหยือกใหญ่เทราดลงบนหัวของเนลล่า พร้อมกับที่เหยือกตกลงมาบนกบาลที่ปกคลุมด้วยเรือนผมสีขาวเหลือบม่วงจนเจ้าของศีรษะรู้สึกเจ็บแปลบ เนลล่าคลางเบาๆพลางลูบหัวตัวเองที่ดูท่าจะมีอะไรปูดออกมา ก่อนจะหันไปมองตัวการที่ยืนอยู่ข้างหลังตน

    อ๋า ..ขะ..ขอโทษครับ

    เจ้าของเสียงนั้นเป็นชายร่างผอมก้างก้างที่มีแววตาไม่มั่นใจ ..เจ้าของดวงตาสีฟ้าครามใสกระจ่างและเรือนผมตัดสั้นเรียบร้อยสีดำ ชายหนุ่มสวมใส่เสื้อผ้าฝ้ายสีน้ำตาลและกางเกงทรงกระบอกสีเขียวเข้ม ร่างนั้นนั่งกับพื้นหลังจากล้มโครมลงราวกับสะดุดอะไรบางอย่างจนเหยือกน้ำกระเด็นลอยมาโดนหัวเนลล่าพร้อมน้ำในเหยือกที่สาดใส่ตัวเต็มๆ ร่างนั้นรีบลนลานลุกขันมาแล้วเอาเหยือกออกจากหัวเนลล่าทันที ก่อนจะลื่นล้มลงไปอีกครั้งเพราะน้ำที่นองเต็มพื้นร้านมีน้ำตาล เป็นผลให้เสียงหัวเราะดังครืนขึ้นมา

    ขอโทษครับ ขอโทษครับ ขอโทษครับ!!เอ่ยลนลานแล้วรีบเอาผ้าที่ติดตัวตนมาเช็ดหัวของเนลล่า เด็กหนุ่มร่างบางชะงักกึกก่อนจะผลักร่างนั้นออกไปแล้วสะบัดหัวตัวเอง..หัวเย็นลงได้ทันตาเห็นเลยแฮะ

    ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษ คุณไม่ได้ตั้งใจนี่สะบัดหัวอีกรอบ สำรวจเสื้อผ้าตัวเองที่เปียกซกไปหมด ก่อนหันขวับไปทางอิลเวสที่บัดนี้กำลังนั่งกลั้นหัวเราะกับโต๊ะอยู่อย่างเต็มที่

    ได้ทีก็เอาเลยนะ!

    เอ้อ....ถ้ายังไง...น้ำเสียงนั้นเอ่ยตกใจ ตื่นเต้น ปนรู้สึกผิด ถ้ายังไง ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่บ้านของผมก่อนไหมครับ?”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×