ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Baramos&D.gray-man] วิกฤตการณ์วุ่นหลงมิติ

    ลำดับตอนที่ #7 : [nede]-[eden]-[คู่ขนาน]

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.พ. 51



    ตอนที่ 6 : [nede]-[eden]-[คู่ขนาน]





    [nade

    เป็นเชื่อเมืองโบราณที่กล่าวขานว่ามีปริศนามากที่สุด ในบรรดาเมืองโบราณของอารธรรมเก่าแก่ที่เชื่อว่ามีอินโนเซนต์สิงสถิต เพียงแต่คล้ายว่าจะมีม่านบงตาทำให้คนไม่สามารถก้าวเดินเข้าไปในเมืองนั้นได้ได้ และผุ้ที่ได้ลองก้าวเกินเข้าไปแล้วจะไม่มีวันกลับมา..

    ว่ากันว่า เมืองนี้เคยเป็นเมืองสวรรค์ที่อยุ่ในโลกมนุษย์ เป็นเมืองของเหล่าวเทวดาผู้บริสุทธิ์ แต่แล้ววันหนึ่ง เทวดาคนนึงได้ทำผิดกฏร้ายแรงด้วยการมีความรักกับมนุษย์ เพราะเหตุนี้ เหล่าเทวดาจึงมีมติให้ย้ายกันขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อป้องการซ้ำรอยเดิม..

    แต่ทว่าเมืองที่เชื่อมต่อกับโลกมนุษย์แล้วกลับไม่อาจย้ายคืนสุ่เมืองสวรรค์ได้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็วางใจให้มนุษย์เข้ามาไม่ได้..ในเมื่อมีวิทยาการมามายอยู่ในเมือง

    เมืองนี้จึงหลายเป็นเมืองปิดตาย..เมืองที่ไม่มีใครจะเข้ามาได้..]

    "แค่เนียะ!"

    "เออ"

    "แค่เนียะ!! ตำนานไอ้เมืองบ้านั่น!!"ราวี่โวยวาย ก่อนจะร้องโอ๊ยเมื่อบุ๊คแมนขว้างของใส่หัว

    "ก็มีแค่นี้น่ะสิ!!  เจ้าหลานบ้า! จะเอาอะไรอีก มันเป็นเมืองปิดตายนะ!! คิดว่าเจ้าจะได้ข้อมูลจากมันมากนักหรือไง!!"บุ๊คแมนตะโกนลั่น "เจ้าอย่ามาอารมณ์แบบนี้นะ! เจ้าคิดว่าคนอื่นไม่ร้อนรนหรือไง!!"

    "อย่างน้อยมันก็ต้องมีข้อมูลมากกว่านี้สิ!!" ราวี่เอ่ย บุ๊คแมนนิ่งไป ก่อนจะทุบมือและเอ่ยขึ้น "มีอีกตำนานจริงๆด้วย"

    โครม!!

    ราวี่ตกจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ ก่อนจะลุกขึ้นพร้อมเดินตรงเข้าไปกระชากคอปู่ "เล่าให้ฟังเดี๋ยวนี้นะ ปู่!!"

    "ไปนั่ง!!"

    เสียงพร่าเอ่ยเฉียบขาด ราวี่กุลีกุจอไปนั่งคุกเข่าอย่างเรียบร้อย ก่อนบุ๊คแมนจะกระแอมและอธิบย

    "อีกตำนานหนึ่งนั้น..

    เมืองนี้เชื่อว่าเป็นจุดเชื่อมต่อของโลกคู่ขนาน อีกโลกหนึ่งที่ถูกเรียกว่า[eden]"

    ........................


    ...................................


    ........................


    "ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"เสียงหัวเราะดังไปทั่วป้อมอัศวินอย่างครื้นเครง สองเจ้าชายน้ำแข็ง หนึ่งนักดาบหนึ่งนักเวทย์ขมวดคิ้วหันมองต้นเหตุเสียงหัวเราะด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะพบเฟรินกำลังนั่งคุยอย่างออกรส

    "แล้วก็นะ! พอแพ้รอบที่สาม เจ้าชายอาเธอร์ก็เริ่มหน้าซีด แล้วก็ขออีกตาทั้งๆที่ตอนตาแรกยังทำหน้าเชื่อมั่นอยู่เลย!! หน้าซีดเชียวนะ! หน้าซีด!! แล้วคราวนี้อเลนเลยขอให้จ่ายค่าของที่ซื้อมา แล้วก็แบบเดิม ชนะ!!!!! สะใจไหมล่ะ!! เจ้าชายอาเธอร์แพ้หมดรูปแบบนี้!!"เฟรินว่าพลางดีดนิ้ว 

    "อเลน ฉันต้องมองนายใหม่แล้วว่ะ เจ๋งมากพวก! มาเล่นกับฉันซักตาไหม!!" ว่าพลางกอดคอเด็กหนุ่มก่อน อเลนหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะมีโลหะเรียวสีเงินมาจ่อที่คอของเจ้านักดาบตาเดียว

    "คุยอะไรไร้สาระ น่ารำคาญ"เอ่ยพลางกดน้ำหนักลงไปแต่ไม่ถึงกับเรียกเลือด ซีบิลมองคันดะ และมองครี้ดที่ใบหน้าซีดลงอย่างเห้นได้ชัด ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเกรงว่าหัวเพื่อนจะหลุดลงมาซะก่อน

    "เอ่อ...คันดะ..เดี๋ยวคอครี้ดขาด..."

    "ขาดแล้วตายไปก็หัวมัน ไม่ใช่หัวฉัน"

    "แต่มันนั่นมันหัวของชาวป้อมอัศวิน......"เสียงของเสนาธิการฝ่ายซ้ายแห่งป้อมอัศวินดังขึ้น เรือนผมสีม่วงเข้มยามนี้ติดจะยุ่งเหยิงเล้กน้อยอาจเป็นเพราะงานมากมายที่ไหลมาเทมา แต่กระนั้นเจ้าชายแห่งเจมิไนผุ้เก่งกาจก็ยังคงดูดีในรูปแบบของเจ้าตัว "และแน่นอนว่าขาวป้อมอัศวินคงยอมไม่ได้"

    "ก็เรื่องของพวกแก ไม่ใช่เรื่องของฉัน"พูดโดยยังไอดาบออก เฟรินมองหน้าเพื่อนด้วยอารามสงสาร หากแต่ก็ไม่กล้าพอจะไปต่อสู้ช่วยเพื่อนอย่างองอาจ

    ครี้ดหันมองเฟริน ดวงตาหันสบดวงตาสีน้ำตาลของของหญิงสาว ออกจะขอความช่วยเหลือว่า

    [ช่วยฉันด้วย เอาดาบนี่ออกไปที]

    เฟรินยิ้มแห้งๆ ก่อนจะส่ายหัวและขยับปากให้อีกฝ่ายอ่านออก

    [โทษว่ะเพื่อน ฉันห่วงชีวิต]

    ดูเหมือนเมื่อเพื่อนคนแรกที่ขอความช่วยเหลือไม่ช่วย ชายหนุ่มก็เริ่มสอส่ายสายตามองหาคนช่วยเหลือ แต่ก็นะ..ชาวป้ออมัศวินดูเหมือนจะไม่ใครอยากยุ่งเกี่ยวกับชายหนุ่มนักดาบผู้นี้เท่าไหร่..

    ..อาเมนว่ะ.ครี้ด..

    นั่นคือความคิดของชาวป้อมอัศวินปีสามยามนี้ โรเวนยิ้มกับคำพูดของคันดะ ก่อนจะย่างก้าวเข้ามา และกำที่แขนซึ่งถือดาบแน่น "ฉันไม่อนุญาติให้เธอทำร้ายคนของฉัน"

    "อย่ามาแส่"เอ่ยพลางละจากคอของนักดาบตาเดียวมาที่ร่างของเจ้าชายแห่งเจมิไน คมดาบฟันใส่อย่างรวดเร็ว โรเวนรีบถอยหลังกลับ แต่กระนั้นก็ได้รับของรางวัลเป็นรอยแผลที่ริ้วแก้ม

    "ไม่เบา"เอ่ยพลางมองด้วยดวงตาคมกริบระริก คันะมองตอบ ก่อนจะยกดาบขึ้น "ถ้าอยากลองนักก็เข้ามา"

    "จะได้ดูมวยคู่สำคัญแล้วเฟ้ย..."เอ่ยพมึพำขกับเด็กหนุ่มข้างกายที่ตัวสูงกว่า อเลนทำหน้าลำบากใจพลางมองคนตัวเล็ก "ถึงงั้นก็เถอะครับ เฟริน แต่แบบนี้ มันดีแน่หรือครับ??"

    "ดีสิ! มวยคู่นี้ถ้าไม่ได้ชมล่ะก็เสียดายไปตลอดชี...โอ๊ยยยย ทำอะไรวะครี้ด!!"เอ่ยเสียงดังจน[มวยคู่สำคัญ]ทั้งสองคนหันมามอง วงตาของโรเวนเปลี่ยนเป็ปกติอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันไปทางอเลน

    "ฉันได้ยินว่าเธอเล่นการพนัน"

    กึก!!

    ร่างของเด็กหนุ่มผมขาวเกร็งขึ้นมาทันที รู้สึกเหมือนจะมีเหงื่อเม็ดโตๆผุดขึ้น

    "การเล่นพนันเป็นหนทางสู่อบายมุข น่าจะเคยพูดตอนที่เธอมาที่นี่ใหม่ๆแล้วว่า...ป้อมอัศวินไม่สนับสนุนการพนัน..หรือว่า..."

    "ใครบางคนแนะนำเธอ?"

    [คนแนะนำ]ถึงกับสะดุ้งเฮือก ก่อนจะตะโกนลั่น "ผมไม่ได้บอกให้เขาเล่นนะพี่โรเวน!! แล้วไหงพี่รู้เรื่องนี้ล่ะ!!เจ้าชายอาเธอร์ไปฟ้องเรอะ~!!"

    "เปล่า..เผอิญ ลูคัสไปเห็นเข้า..ปรินซือาเธอร์คงไม่กล้าพอหรอก..อา..จากที่ฟังมาเธอเก่งน่าดู..อเลน วอคเกอร์..แต่เก่งในทางนี้ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย.."เอ่ยพลางมองคนอายุน้อยกว่าเชิงตำหนิ

    "แต่ว่า..เผอิญเธอไม่ใชคนของป้อมเรา ทั้งช่วยลดภาระให้ป้อมอัศวิน..ดังนั้น..."

    เอื๊อก...

    อเลนเผลอกลืนน้ำลาย 

    "....จะไม่มีการลงโทษ.."

    "เยสสสสสสสส~!! พี่โรเวนเจ๋ง! อุ๊บ!"คนที่ตะโกนขึ้นมาคนเดียวโดนตะครุบปากทันทีโดยเจ้าชายน้ำแข็งที่นั่งนิ่งมานาน ก่อนเสียงทุ้มจะกระซิบที่หู 

    "อายเขาเป็นไหม?"

    "ก็มันเรื่องน่าดีใจไม่ใช่เรอะ ก็ต้องเฮสิ ใช่ไหมพวกเรา!!"เอ่ยจบชาวป้อมอัศวินก็เฮลั่น ก่อนโรเวนจะกมือขึ้น

    "แต่ในฐานะที่เธอชวนเขาไป เห็นทีเอต้องมารับโทษเล็กๆน้อยๆด้วยการช่วยฉันจัดเอกสารแล้วล่ะ เฟริน"

    =[]=

    "ไม่จริงน่า!!"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×