ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เจ้าชายใจสิงห์หมดตัว!=[]=
“......ว่าแต่ทำไมไม่จ้างคนมาซ่อมล่ะครับ”อเลนพูดขึ้นเมื่อนึกได้ระหว่างที่นั่งพักในร้านอาหารแห่งหนึ่ง “ไม่เห็นต้องซ่อมเองเลยนี่นา ถ้าไม่อยากทำ”
“นายคิดว่าป้อมอัศวินรวยขนาดจ้างคนอื่นมาซ่อมเรอะ? คิดผิดไปถนัดแล้ว ป้อมอัศวินน่ะมันป้อมยาจกชัดๆ เฮอะ! ให้ตายสิ ว่างๆฉันยังนั่งคิดว่าทำไมไม่ไปอยู่ปราสาทขุนนางให้รู้แล้วรู้รอด..เอ...รึไม่ก็ไปขโมยเงินพวกปราสาทขุนนางมาจุนเจือ อืมๆความคิดเข้าท่าแฮะ”
“ฉันคงไม่ปล่อยให้เธอขโมยเงินของคนป้อมฉันไปง่ายๆหรอก เฟลิโอน่า เกรเดเวล เดอะ ปริ๊นเซส ออฟ บารามอส แอนด์ เดมอส”เสียงอันคุ้นเคยดังมาจากทางด้านหลัง เฟรินหันไปตามเสียง ก่อนจะยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น
“แล้วคิดว่าท่านจะหยุดหัวขโมยเก่าคนนี้ได้เหรอ? เจ้าชายอาเธอร์”
“ยังไงถ้าเกิดการขโมยขึ้นฉันก็สงสัยเธอคนแรก”
“แล้วยังกับจะมีหลักฐานในการจับผมแน่ะ?”
“หึ....กล้าจริงนะ”
ระหว่างที่อเลนหันว้ายทีหันขวาทีมองการปะทะคารม ร่างบางก็เกิดปิ๊งเรื่องดีๆขึ้นมาได้
อืม..คนคนนี้เป็นคนปราสาทขุนนางที่คุณเฟรินพูดถึงสินะ
ถ้ายังงั้น.....
“เออ.....คุณ..เอ๊ย! เจ้าชายอาเธอร์ครับผม”อเลนสะกิดแขนเสื้ออาเธอร์เบาๆ ชายหนุ่มผมดำก้มมองหน้าหวานใส ก่อนจะเอ่ยถาม
“นี่ใครน่ะ? เฟลิโอน่า”
“เพื่อนใหม่ที่ป้อมอัศวินน่ะ”เฟรินตอบ มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุข..อยากจะปล้นเจ้าชายใจสิงห็ผู้นี้เต็มที ก่อนจะกระซิบกระซาบกับอเลน “นี่ๆอเลน เดี๋ยวฉันฉกตังค์เจ้าชายแล้วเราวิ่งหนีกันเลยป่ะ?”
“ไม่ต้องครับ...ผมมีวิธีบรรเจิดกว่านั้นที่จะเอาเงินคนคนนี้”
“หา?”
เฟรินมองหน้าเพื่อนใหม่อย่างงงๆ อเลนยกมุมริมฝีปากอย่างมีเลศนัย ก่อนจะหันไปทางเจ้าชายอาเธอร์
“เจ้าชายอาเธอร์สนใจเล่นไพ่กับผมไหมครับ?”หนุ่มน้อยผมขาวเอ่ย “เล่นแค่รอบเดียวก็พอครับ ถ้าคุณชนะผม จะเอาอะไรก็ได้ แต่ถ้าผมชนะ เงินและของมีค่าทุกชิ้นที่คุณมีตอนนี้เป็นของผม”
“ขอโทษ ฉันไม่สนการพนัน”อาเธอร์พูด แล้วทำท่าจะเดินจากไป ก่อนจะชะงักด้วยคำพูดของเฟริน
“ท่านกลัวจะแพ้เด็กอายุ 15 หรือไง? เจ้าชายอาเธอร์”
ตึง!
ถุงหนังกระแทกลงบนโต๊ะสองถุง เสียงเหรียญกระทบกันดังแสดงถึงจำนวนเงินในถุง
“ได้..แต่ตาเดียวสินะ? แล้วถ้านายแพ้จะให้อะไรไม่ทราบ พ่อหนุ่มผมขาว”อาเธอร์เอ่ยถาม ร่างบางเพียงยิ้มหวานก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบปนสนุกสนาน ในมือเรียวที่สวมใส่ถุงมือสีขาวยามนี้ถือไพ่สำรับนึงอยุ่
“อะไรก็ได้ครับ”
“อืม..งั้นฉันจะขอหลังจากได้รับชัยชนะละกัน.....เอ้า!แจกไพ่เร็วพ่อหนุ่ม”
“ครับ^^”
..................................................................................
...................................................................
..................................................
.......................................
...................
“ขอ-อีก-ตา!”อาเธอร์ยกนิ้วขึ้น ขณะมองใหน้าหวานที่นั่งนิ่งยิ้มสบายๆ
“เอ...นี่มันร่วมสิบตาแล้วนะครับ แถมแพ้มาตลอดด้วย เสียเยอะแล้วนา ทั้งค่าซ่อมป้อมที่พังตอนนี้ ค่าอุปกรณ์ที่ผมซื้อมา เงินที่ผมขอตาแรก ค่าซ่อมป้อมที่พังตลอดระยะเวลา 3 เดือน.....ถ้าคราวนี้ผมชนะอีก..ผมคงต้องขอให้คุณช่วยออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดของป้อมอัศวินในระยะเวลาสามเดือนเช่นกันนะครับ...จะเอาเหรอครับผม? ท่านเจ้าชายอาเธอร์ ”อเลนพูดพลางสับไพ่ ส่วนเฟรินมองคนข้างๆอย่างอึ้งๆ
หมอนี่มันมือโกงชั้นเซียนนี่หว่า...เล่นโกงแบบคนอื่นเขาจับไม่ได้เนี่ย...
“เออน่า!”อาเธอร์ที่เริ่มหัวเสียตะโกนเสียงดัง ขณะที่คนทั้งร้านเริ่มแห่ดู “คราวนี้ฉันจะแจกไพ่เอง”
“ครับผม^^ เอาไปเลย”อเลนยื่นไพ่ให้ ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มพาดผ่าน ส่วนเฟรินก็นั่งยิ้มแฉ่งอย่างสะใจปนสนุกสนานกับท่าทางอีกดานหนึ่งเพื่อนร่วมป้อมคนใหม่
เจ้าชายอาเธอร์..ท่านจะหมดตัวก็คราวนี้แหละ....
..............................................................................
......................................................................
...............................................................
..................................................
..............................
...........
“ถ้าป้อมอัศวินขาดแคลนอะไรจะไปบอกนะคร้าบ~~~”อเลนว่าพลางโบกมือให้อาเธอร์ก่อนออกจากร้าน ในขณะที่เจ้าชายใจสิงห์นั่งฟุบกับโต๊ะอย่างหมดอาลัย...
อะไรกันฟะ...ไม่น่าตกปากเล่นพนันเล้ย..
"ได้เงินมาเยอะขนาดนี้เอาไปจ่ายค่าซ่อมป้อมได้สบายๆเลย แหม~~อเลนนี่เก่งนะเนี่ย ทำเป็นอาชีพประจำล่ะสิ”เฟรินพูดพลางเดาะถุงเงิน
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแต่ผมต้องหาเงินไปให้อาจารย์น่ะครับ เวลาขาดแคลนเงินก็เลยต้องไปเล่นการพนัน”อเลนว่างพลางแกว่งถุงใส่เครื่องประดับของเจ้าชายอาเธอร์
พลันความคิดก็หวนถึงทางศาสนจักร..
ทางนู้นเป็นไงบ้างนะ...รินารี่....ราวี่....คุณโคมุอิ..ทุกคน...เป็นห่วงเราไหมนะ..
ถ้าไม่รีบกลับทุกคนคงเป็นห่วงแย่...
ว่าแล้วอเลนก็ถอนหายใจ.....อย่าว่าแต่จะกลับเลย มาที่นี่ได้ยังไงก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำไป..
แต่....ทำไมต้องสบายใจที่คนคนนั้นมาด้วยล่ะ...
ใบหน้าหวานแดงเรื่อนิดๆ..ภาพอันเลือนรางที่เพิ่งจะชัดเจนขึ้นทีละนิดหลังผ่านมาไม่กี่วัน...
ภาพใบหน้าร้อนรน....มือหนาที่จับแขนเราไว้...
ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาถึงร่างกาย...
จะผิดไหมนะ..ที่รู้สึกยินดีเหลือเกินยามได้เห็นใบหน้าห่วงใยนั่น...
นอกจากนี้...การที่ตัวเรามาถึงที่นี่..แล้วยอมรับอย่างง่ายดาย..
อเลนเอียงคออย่างสงสัยตัวเอง..ปกติคนเราก็ต้องมีตกใจและอีกนานกว่าจะปรับตัวได้ แต่คันดะกลับไม่มีปฏิกิริยาแบบนั้นเลย..อันนั้นคงต้องยกให้คนนึงล่ะนะ..
แต่ไอ้การที่ตัวเขาเองก็ดันไม่สนใจหรือตกใจแรงๆไปด้วย..เรื่องที่อยู่ๆก็มาที่นี่..
เพราะคนคนนั้นมาด้วยงั้นหรือ..เราถึงไม่กลัว...ไม่แม้แต่จะสับสนเมื่อมาถึงดินแดนที่ไม่รู้จัก...
ไม่มีทางน่า!
“...................อเลน ทำไมหน้าแดงแบบนั้นล่ะ?”เฟรินเอ่ยถาม ส่วนเจ้าของนามที่คิดอะไรเพลินๆก็สะดุ้ง ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงตะกุกตะกัก
“มะ...ไม่มีอะไรครับ”
“เหรอ? ช่างมันเถอะ”
.............................................
..................................
....................
...........................................
“ไหนล่ะปู่ข้อมูล”ราวี่พูดเสียงเนือยๆพลางหาวหวอด ดวงตาสีมรกตเหล่มองบุ๊คแมนที่เดินหาเอกสารเสียทั่วห้อง ในขณะที่ตนนั่งอยุ่บนกองหนังสือที่แทบจะล้นห้อง
“แล้วทำไมเจ้าไม่มาช่วยข้าหา เจ้าหลานงี่เง่า!”
“ก็แล้วฉันจะรุ้ไหมว่าปู่หาอะไร”ราวี่พูดพลางลุกขึ้น ก่อนจะกระโดดขึ้นไปที่ตู้หนังสือชั้นสอง แล้วขมวดคิ้วมองหนังสือเล่มหนึ่งอย่างสงสัย
.......ไม่มีชื่อที่สันปก
“อ๊ะ! ราวี่ เล่มนั้นแหละ!!”
“หา?”
“เล่มนั้นแหละ ตำนานของเมือง[nede]”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น