ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Baramos]Reflection

    ลำดับตอนที่ #2 : เงาที่หนึ่ง : การพบพานของเงาเหมันต์และโลหิตราตรี

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 51


    เงาที่หนึ่ง : การพบพานของเงาเหมันต์และโลหิตราตรี

     

    หญิงไม่ต้องการอะไร...


    หญิงแค่อยากให้....ใครซักคน มองเห็นคุณค่าของหญิง..


    มอบความรัก ความเข้าใจให้...


    แค่นั้นเอง ที่หญิงต้องการ..


    หญิงแค่อยากให้เสด็จแม่...หันมามองหญิงบ้าง..


    ..เท่านั้นเองเพคะ..






    สายลมแห่งเหมันต์พัดผ่านทุกเส้นทางในดินแดนสีขาวที่มีชื่อว่าสโนว์แลนด์..ร่างเล็กภาพใต้ชุดราตรียาวกรอมเท้าเดินอย่างเชื่องช้าเต็มที...ความหนาวเหน็บและความอ่อนล้าฉุดรั้งเท้าทั้งสองข้างราวกับถูกถ่วงด้วยหินหนัก...แต่ละย่างก้าวช่างยากเย็น..ราวกับกำลังฉุดรั้งเธอไม่ให้จากไป....ดวงตาสีแซฟไฟร์ปรือแผ่ว ราวกับจะหลับใหลเสียตรงนี้...


    ..ก่อนร่างจะทรุดลงไปกองกับหิมะหนา..


    เธอออกมาจากปราสาททำไม....?


    เรื่องนั้นแน่อยู่แล้ว...


    อยากจะลองคิดดู..ว่าตัวเองคืออะไรกันแน่..


    อยากจะลองค้นหา..มากกว่าการเป็นนกในกรงที่ไม่รู้จักฟากฟ้า...


    ท่านแม่จะตามหาเราไหมนะ..?


    จะรู้สึกเป็นห่วงเราไหม..ที่อยู่ๆก็หายไป..


    เด็กหญิงรู้ดี..ลึกๆในใจเธอหวัง..ให้มารดาตามหาเธอ..


    น่าแปลกจัง..


    ทั้งๆที่ควรจะกลัวซักที...กับความหนาวที่กำลังทำให้ขยับตัวไม่ได้
    ที่อาจจะคร่าชีวิตนี้ไป...


    แต่ทว่า...


    กลับไม่รู้สึกกลัวเกรงหิมะสีขาวที่โปรยปรายลงมา....รวมถึงสายลมหนาวที่พัดไหวนี่...


    เปลือกตาของเด็กหญิงปิดลง..สติทั้งหมดดับวูบไป..และซักพักหนึ่ง...ลมพายุหนักหน่วงที่พัดแรงเร็วตั้งแต่เด็กสาวย่างก้าวออกจากปราสาทก็คลายตัวไป..


    .เหลือเพียงหิมะสีขาวที่โปรยปรายลงมาอย่างเบาบาง...




    มิอยากให้จากจร..


    เจ้าหญิงแห่งเหมันต์ผู้งดงาม..เจ้าแห่งเราทั้งปวง..


    องค์หญิงเจ้าของรอยยิ้มอันสดใส..เรือนผมสีงดงามเฉกเดียวกับเราทั้งปวง...


    มิอยากให้จากแดนนี้ไป..


    เพราะเมื่อไหร่ที่ก้าวย่างออกไป..ท่านจักไม่กลับมาที่นี่อีก..


    ..นิรันดร์..








    อืม..สโนว์แลนด์นี่หนาวสมชื่อจริงๆน้า........เสียงพึมพำดังแผ่วปนรื่นเริงร่า ร่างใต้ผ้าคลุมสีดำซีดย่างก้าวผ่านหิมะโปรยปรายอย่างกระฉับกระเฉง ลมหายใจขาวขุ่นที่พ่นออกมาแสดงถึงอากาศหนาวเหน็บ ก่อนเจ้าตัวจะหยุดชะงักเท้าไว้ เมื่อสังเกตถึงความผิดปกติบางอย่าง


    คน........?ร่างสูงก้มลงมองร่างสีขาว ก่อนจะตะโกนลั่น เฮ้ย!! เด็ก!!ทำไมมานอนอยู่กลางหิมะล่ะเนี่ย!!!”


    ร่างใต้ผ้าคลุมสีดำทรุดกายลง ก่อนจะปัดหิมะออกจากใบหน้าเล็ก และถอนหายใจเมื่อนิ้วเรียวยาวสัมผัสถึงไออุ่น....ยังหายใจอยู่สินะ
    ยังไม่ตายแฮะ...ต้องพาไปบ้านก่อน ไมงั้นปล่อยไว้แบบนี้มีสิทธิ์ตายได้


    ชายหนุ่มดึงผ้าคลุมห่อกายเล็ก แล้วอุ้มเด็กหญิงขึ้นอย่างนุ่มนวล....





    อบอุ่นจัง......


    เสียงเตาผิงงั้นหรือ....?


    ภาพที่ไหลเข้ามาในคลองจักษุคือภาพเพดานสี่เหลี่ยมที่ทำด้วยไม้....ดวงตาสีแซฟไฟร์กวาดมองไปทั่วกระท่อมหลังเล็กๆ และมองผ่านไปที่หน้าต่างสี่เหลี่ยสมซึ่งหิมะกำลังโปรยปราย..


    ที่....นี่....?


    บ้านของฉันเองล่ะ..แม่สาวน้อยเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้น ก่อนเด็กสาวจะหันไปทางต้นเสียง


    ชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีอเมทิสต์ยิ้มเยือน ดวงตาสีแซฟไฟร์ไล่มองคนตรงหน้าตั้งแต่เรือนผมสีขาวรวบอย่างลวกๆ โครงหน้าหวานราวกับไม่ใช่บุรุษ.. ก่อนร่างนั้นจะวางแก้วกาแฟที่ถือมาลงตรงหน้าเด็กหญิง
    ไง? เกือบตายแล้วนะเราน่ะ...เอ้า นมร้อนๆซักแก้วนะ


    ขะ...ขอบคุณมากค่ะเซโรเน่พึมพำขอบคุณพร้อมจิบนมอุ่นๆ บ้านของคุณหรือคะ.แล้วทำไมหญิงถึง....


    หญิง..คำแทนตัวของเธอนี่ประหลาดจังชายหนุ่มเอ่ยพร้อมหัวเราะ เด็กหญิงสะดุ้งไปพักใหญ่ ก่อนจะเริ่มประมวลความคิด..


    ออกจากปราสาทมาแล้ว...คำราชาศัพท์คงไม่จำเป็นหรอก


    ฉัน.เอ้อ...หนู...ขอโทษค่ะเด็กหญิงเอ่ย แต่ชายหนุ่มก็ไม่ว่าอะไร ฉันชื่อรุอิน่ะ...รุอิ แวมป์ เดอะคิลเลอร์ ออฟ สโนว์แลนด์ ....อันที่จริงนามสกุลเก่าฉันคือลูซิเฟอร์..มีสาเหตุที่ทำให้กลายมาเป็นแบบนี้... แล้วเธอล่ะแม่สาวน้อย ชื่ออะไรเอ่ย?


    เซโรเน่ค่ะ


    แค่นั้น? นามสกุลล่ะ?


    ....................


    เซโรเน่เงียบไปและไม่เอ่ยอะไรอีก ใบหน้าหวานหันมองออกไปนอกหน้าต่างที่หิมะกำลังโปรยปราย.. รุอิมองเสี้ยวใบหน้าปวดร้าวของเด็กหญิง ก่อนจะถอนหายใจยาวและเอ่ยขึ้น


    ช่างเถอะ....ถ้าไมอยากบอกก็ไม่เป็นไรนะ....เรมเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  ก่อนจะนั่งลงข้างๆ แล้วพ่อแม่ของเธอล่ะ....ทำไมถึงมานอนอยู่กลางหิมะหืม..?


    พ่อแม่..งั้นหรือ...?


    น้ำตาหลั่งริน...พร่างพรูมิขาดสาย
       


    ...ไม่...ไม่มี....เด็กหญิงเอ่ยสั่นเครือ.. ไม่มีหรอก....ของพรรค์นั้น...


    บางที..อาจจะไม่มีตั้งแต่แรก..


    ในเมื่อทรงเกลียดกันเหลือเกิน..ชิงชังเหลือเกิน...


    ลูกอกตัญญูที่เกิดมาให้บิดามารดาทรมานก็จะไม่ขออยู่เคียง..


    นี่เป็นสิ่งเดียวที่หญิงมอบให้กับเสด็จแม่ได้...


    คือการออกมาจากชีวิตท่าน..


    เผียะ..


    มือหนาตบลงเบนแก้มบาง ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม


    อย่าเรียกการมีพ่อแม่ว่าของพรรค์นั้นสิ สาวน้อยเอ่ยพร้อมปดน้ำตาบนแก้มใส ก่อนจะเอ่ยต่อ ว่าแต่...ไม่มีจริงหรือ?


    ..ค่ะ...


    งั้น...ฉันเป็นให้ไหม?


    .....................เด็กหญิงอึ้งไปชั่ววินาที ก่อนจะเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกัก หะ...หา?

    "....ฮะ..ฮะ...ล้อเล่นน่ะ..."เอ่ยพึมพำ ก่อนจะมองเงยดวงตาสีเงินขึ้นสบ "งั้นก็...นอนไปละกันนะ.."

    ว่าพลางลูบศีรษะเล็กของเด็กหญิง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เด็กหญิงมองตามร่างนั้น ก่อนจะพิงกายกับกรอบหน้าต่าง และเหม่อมองออกไปเบื้องนอก..




    เหมันต์ได้พบพานราตรี..

    และราตรีได้พบพานเหมันต์..

    เงาที่ถูกหมางเมิน..

    สายสัมพันธ์ที่ก่อเกิด..

    และอีกไม่นานนั้น..

    ...เหมันต์ก็จะ..



    สายลมหนาวพัดผ่านกายบางที่ยืนอยู่นอกกระท่อมหลังเล็ก...เรือนผมสีขาวสะบัดพลิ้วตามแรงวายุ สายตามองไกลออกไป.. ไกลออกไป..

    พระราชวังสีขาว..พระราชวังแห่งเหมันต์...

    ..พระราชวังของเจ้าหญิงแห่งสโนว์แลนด์..

    คิดถึง..โหยหา..หากแต่มิอยากหวนกลับ..

    มิหาญกล้าพอจะพบพานเสด็จแม่..มิเก่งกาจพอ...จะอดทนต่อความเจ็บปวดในใจ..

    ..อาจจไม่จำเป็นต้องกลับไป..แต่เธอก็คงไม่อดทนได้เก่งถึงเพียงนั้น..

    ..ขอหญิงสงบใจซักนิดเถิด..ซักเพียงน้อยนิด..คุณโซเน่..แล้วหญิงจะกลับไปหา..

    เด็กหญิงกุมมือขึ้นเอ่ยพึมพำให้คำสัตย์  สายลมพัดกระโชกจนส้นผมยาวยวงปะทะกับหน้า สะบัดพลิ้วพันกันย่งเหยิง เซโรเน่ปัดเอาผมออก พลันดวงตาก็ได้ปราดมองกว้างออกไปสุดดินแดนสีขาว..

    นัยนาสีน้ำทะเลลลึกเบิกกว้าง ก่อนจะพึมพำ

    ".....สวย.."

    ยิ้มหวาน นัยนาสีแซฟไฟร์กวาดมองไปทั่ว

    พฤกษาสีน้ำตาลซึ่งปกคุลมด้วยสีขาว..ผืนหิมะระยิบระยับ..

    ทัศนียภาพกว้างไกล..สุดจะมองได้ทั่ว..

    เพิ่งรู้ เพิ่งเห็น

    ว่าสโนวแลนด์งดงามถึงเพียงนี้!!

     กายบางวิ่งต้านลมลงไปตามเนินเล็กๆ ลมเย็นปะทะกายพาให้หนาวเหน็บหากแต่เด็กหญิงไม่ท้อ ร่างบางวิ่งไปเรื่อย วิ่ง วิ่ง กระทั่งหมดแรง

    กายบายย่อลงสัมผัสหิมะเย็นเฉียบ และปล่อยกายลงนอนแผ่ราบไปกับผืนหิมะ เกล็ดน้ำแข็งเย็นเฉียบสัมผัสกับร่างกาย มือเรียวเล็กยื่นขึ้นสู่ผืนฟ้าสีคราม และกวาดไปมา..

    ..ผืนฟ้าสีครามสดใส..

    เมฆาล่องลอย..เรื่อยเอื่อย..อิสระ..

    ..งดงามยิ่ง..

    เด็กหญิงสูดเอาเอาอากาศเย็นเยียบเข้าปอดอย่างสบายใจ และผ่อนออกมา ก่อนเปลือกตาจะปิดลงอย่างเชื่องช้า

    ..ลืมเลือนความทุกข์ไปชั่วครู่หนึ่ง..

    ...............................................


    ....................


    .......

    "มานอนอะไรกางหิมะนะ เซโรเน่?"

    พรึ่บ!

    นัยน์ตาสีสวยเบิกขึ้น สายตากวาดมองโดยทั่ว  ก่อนจะจ้องมองดวงตาสีเงินสวย "เอ่อ..หนู..."

    "นอนมาตั้งแต่เมื่อไหร่นะหืม? แม่สาวน้อย เดี๋ยวก็ได้แข็งตายหรอก"เอ่ยกลั้วหัวเราะ ออกแนวหยอกล้อแต่ก็แฝงด้วยความจริงใจ

    เด็กหญิงเอียงคอ ก่อนจะลุกขึ้นโดยไม่ต่อล้อต่อเถียงอะไร นัยน์ตาสีเข้มมองหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยถาม "ไปไหนมารึคะ?"

    "ไป...ทำงานน่ะ..อย่าสนใจเลย"พึมพำพร้อมลูบหัวของเด็กหญิง เซโรเน่เอียงหัวตามแรงอย่างงงๆ ก่อนจะเงยมองผู้กระทำ 

    "ผลักหัวหนูทำไมคะ?"

    คำถามของเด็กหญิงหัวขาวทำให้งุนงง รุอิขมวดคิ้วงง ก่อนจะลูบผมสีขาวๆต่อไป

    "ฉันไม่ได้ผลัก แค่ลูบเฉยๆ"เอ่ยพร้อมดึงร่างเล็กมากอดเบาๆอย่างเอ็นดู "เธอไม่เคยถูกใครลูบหัวรึไง"

    "..ไม่เคยค่ะ..."

    ..ไม่ซักครั้ง..

    ตั้งแต่เกิดมา...สิ่งที่รับรู้คือห้องสี่เหลี่ยม..กับป่าเล็กๆด้านล่างที่มักแอบหนีลงไป..

    ไม่ได้รับอนุญาติให้ออกไปไหน..พบปะใคร..นอกจากคุณโซเน่..

    ..และคุณโซเน่ไม่เคยแตะต้องเธอหากไม่จำเป็น..
    "แต่ถ้าไม่มีใครจริงๆ อยู่กับฉันก็ได้นะ เรื่องนี้ฉันพูดจริงๆ ฉันอยู่คนเดียวน่ะ.."
    "....แล้วมัน..คืออะไรคะ?"เด็กหญิงเอ่ยถามจริงจัง รุอิกระพริบตา ก่อนจะย่อกายลงกอดกายเล็กแน่น

    "มันเป็นการแสดงออกถึงความรัก..ถึงความเอ็นดูของพ่อแม่...ของคนที่อายุมากกว่า..ของคนที่รักเธอ.."เอ่ยพร้อมเชยคางเด็กสาว
     
    "แล้วมันดียังไงหรือคะ?"ยังคงเอ่ยด้วยวคามสงสัย รุอิกลอกตา ก่อนจะเอ่ยขึ้นโดยไม่ขัดวคามอยากรู้อยากเห็นของเด็กหญิง"ทำแบบนี้แล้วเธอรู้สึกยังไงล่ะ ที่ฉันลูบหัว กอด หรือว่าแบบนี้..."

    เอ่ยพลางแนบหน้าผากกับอีกฝ่าย เด็กสาวหลับตา ก่อนจะเอ่ยพึมพำ "...อบอุ่นดีค่ะ.."

    "แล้วรู้สึกดีไหม..?"

    "รู้สึกดีค่ะ.."

    เอ่ยพร้อมยิ้ม ก่อนจะหวัเราะคิกคัก "สบายใจดีจังค่ะ.."

    "ก็..แค่นั้นแหละ มันทำให้รู้สึกดีและสบายใจ ก็เท่านั้นเอง"พูดจบก็ยันกายขึ้น ก่อนจะกุมมือของเด็กหญิง 

    "กลับบ้านกัน"

    ..บ้าน..

    ร่างเล็กทวนคำในใจ..

    "ค่ะ...."พึมพำแผ่ว.. "กลับ[บ้าน]กัน"

    แล้วเด็กหญิงก็เดินไปกับชายหนุ่ม..




    หลงรัก..ผูกพัน..

    กำลังหลงใหล..กำลังสนใจ..

    ..ความอ่อนโยนที่ไม่เคยได้รับ..

    ..ความรักที่ไม่เคยมีใครมอบให้..

    ..บางที..การหนีออกมาจากกรงทอง..

    ..คงทำให้หลงรักฝืนฟ้าสีครามเสียแล้ว..?

    ++++++++++++++++++++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×