ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hagalaz..ผนึกรัตติกาล

    ลำดับตอนที่ #16 : ผนึกที่ 15 : เสียงเพรียก *แจ้งเปลี่ยนชื่อตอนนะคะ*

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 53


    ขออนุญาติเปลี่ยนชื่อตอนเพื่อให้เข้ากับเนื้อหานะคะ

    ผนึกที่ 15
    : เสียงเพรียก

     


    ผี?


    นั่นคือความคิดแรกที่ผุดวูบขึ้นมาในสมองของเด็กหนุ่มร่างบางอย่างไร้การกลั่นกรอง ดวงตาสีแดงทับทิมเบิกค้างมองร่างโปร่งแสงตรงหน้าด้วยความตกใจ ร่างกายแข็งค้างกระทั่งสะดุ้งเฮือกยามร่างโปร่งแสงนั้นขยับใกล้ตนเข้ามา ใบหน้ากลมโปร่งแสงไร้สีสันเอียงคอ ก่อนรอยยิ้มกว้างจะถูกส่งให้เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมโทนขาวอย่างยินดี


    ดีใจจัง ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อเรเก้น ถึงจะมีคนได้ยินเสียงแต่ก็ไม่ได้เจอคนที่มองเห็นฉันมานานแล้ว! เธอชื่ออะไรเหรอสาวน้อย
    เจ้าตัวร้องลั่นยินดี โทนเสียงเย็นหากแฝงความตื่นเต้นไว้อย่างแจ่มชัด เนลล่ากระพริบตาปริบๆ นิ่งค้างมองอยู่เช่นนั้นโดยยังไม่ตอบคำถามออกไป ก่อนจะสะดุ้งเฮือกแล้วถอยกรูดติดกำแพงเมื่อร่างนั้นทำท่าจะเข้ามาใกล้ตน


    คิ้วเรียวซีดของร่างที่ล่องลอยดูจะขมวดกันนิดหน่อย ก่อนจะคลายออกเมื่อเข้าใจในท่าทีของเด็กวางร่างบาง
    กลัวเหรอ แหมๆ ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า อ๊ะ มืดจัง งั้น...


    เป๊าะ
    !


    เสียงดีดนิ้วดังขึ้นพร้อมลูกไฟสีแดงสวยนับสิบที่พร้อมกันปรากฏขึ้นเรียงรายรอบห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ส่งผลให้แสงสว่างวาบไปทั่วห้องจนเห็นทุกสิ่งได้ถนัดชัดสายตา ..และหากเขาคิดไม่ผิด ดูเหมือนร่างโปร่งแสงนั้นดูจะแจ่มชัดขึ้นด้วยเช่นกัน


    ร่างตรงหน้าที่แต่แรกเขาเห็นได้เพียงรางๆนั้น ยามนี้ปรากฏเด่นชัดแม้ว่าเท้าจะยังลอยอยู่เหนือพื้นก็ตาม เจ้าตัวหันมองลูกไฟอย่างพอใจในฝีมือตัวเอง ใบหน้ากลมมองมาทางเนลล่า ดวงตากลมโตสีดำมะกอกมองมายังร่างที่ถอยกรูดไปติดริมโซฟา รอยยิ้มกว้างถูกหยิบยื่นให้อีกครั้ง ก่อนร่างนั้นจะเคลื่อนกายเข้าหาเด็กหนุ่มร่างบาง เรือนผมสีซีดซึ่งบัดนี้เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นสีชมพูอ่อนนั้นพลิ้วไสว ก่อนจะหยุดการเคลื่อนไหวลงเมื่อมาหยุดอยู่ตรงหน้าเป้าหมายของตน


    'เธอชื่ออะไรเหรอ?'
    เจ้าตัวถามอีกครั้ง


    เนลล่ากระพริบตาปริบๆ ก่อนจะหลุดเสียงออกมาอย่างยากเย็น


    เอ้อ....เน..เนลล่า...ฮะว่าจบก็มองร่างตรงหน้าอย่างคลายความกลัวไปได้บ้างแล้ว ดวงตาคู่สวยสีทับทิมมองร่างที่ลอยละล่องตรงหน้าให้ชัดเจนอีกครั้ง โครงใบหน้ากลม หากกระนั้นก็ดูออกว่าเป็นบุรษเพศ ดวงตาสีดำสนิท เครื่องแต่งกายยาวกรุยรายสีเทาคล้ายจะเก่าไปบ้างหากก็อยู่ในสภาพดี บริเวณหน้าผากของชายหนุ่มปรากฏสัญลักษณ์คดโค้งเล็กๆอันแสนคุ้นตา


    นั่น....


    ...นายเป็น....วิญญาณพิทักษ์หรอกเหรอครับ?


    เนลล่าเอ่ยถาม กลั้นใจอย่างรอคำตอบ ข้างฝ่ายชายหนุ่มร่างโปร่งแสงที่บัดนี้เด่นชัดขึ้นมองใบหน้าของเด็กสาวอย่าง
    นึกทึ่ง ก่อนผงกหัวอย่างยอมรับพร้อมเอ่ยสำทับยืนยัน
    ใช่ รู้ด้วยหรือ?


    พอรู้อย่างนั้น เนลล่าก็ปล่อยลมหายใจออกอย่างโล่งอกทันที


    วิญญาณพิทักษ์..คือวิญญาณเทียมที่ถูกสร้างขึ้นโดยจอมเวทย์เพื่อคอยดูแลสถานที่ สิ่งของ หรือบุคคลตามแต่ผู้สร้างจะต้องการ วิญญาณพิทักษ์มีหลายรูปแบบและมีพลังกลากหลาย เป็นได้ทั้งมนุษย์ ปิศาจ สัตว์ต่างๆ หรือแม้แต่ในรูปลักษณ์ของภูติพราย หน้าที่หลักๆของวิญญาณพิทักษ์คือการดูแลสิ่งที่อยู่ในหน้าที่ของตน พลังของวิญญาณพิทักษ์ก็ต่างกันไป บ้างถนัดปกป้อง บ้างถนัดโจมตี บ้างก็เป็นเพียงวิญญาณที่มีหน้าที่คอยดูแลโดยไม่จำเป็นต้องปรากฏตัว


    เด็กหนุ่มจำสัญลักษณ์หลักๆของผู้เป็นวิญญาณพิทักษ์ได้ เพราะมีส่วนที่คล้ายกับสิ่งที่อยู่บนมือซ้ายของเขาหลายจุด.. และแน่นอนว่าเขาจำรายละเอียดปลีกย่อยของมันได้ด้วย..ว่าในกรณีของวิญญาณพิทักษ์ร่างมนุษย์แล้ว รูปลักษณ์ไม่ได้ต่างจากสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณซักเท่าไหร่เลย..


    ดีนะที่รู้ก่อน ไม่งั้นคงได้สลบอีกรอบเพราะดันกลัวผีแหง


    พอพูดถึงเรื่องสลบ เจ้าตัวก็นึกถึงคำพูดของร่างตรงหน้าขึ้นมาได้ทันที


    นี่ ....เรนเก้ครับ ผมชื่อเนลล่า เลเซเบล เป็นผู้ชายครับ ไม่ใช่สาวน้อยคำบอกเล่าของเนลล่าทำให้อีกฝ่ายฉงนงงงวย ในเมื่อทั้งชุดทั้งใบหน้าทั้งรูปร่างก็บ่งบอกกันโต้งๆอยู่แล้วว่าเป็นเด็กสาว แต่เมื่อวิญญาณพิทักษ์ผมชมพูลองมองอย่างพิจารณาดีๆ ก็พบว่าเด็กสาวตรงหน้าเป็นเด็กหนุ่มอย่างที่เจ้าตัวอ้างจริงๆ


    แล้ว..ทำไมนายถึงใส่ชุดผู้หญิงล่ะ
    วิญญาณพิทักษ์ว่าพลางเอียงคอ แตะนิ้วกับริมฝีปากของตนอย่างไม่เข้าใจ มองใบหน้าเด็กหนุ่มในชุดผู้หยิงอย่างสงสัย ก่อนล่องลอยตีลังกากลับหัวอย่างชวนให้ผู้เฝ้ามองหวาดผวาในที แล้วยังมาถูกขังในห้องนี้อีก ปกติกลาเดียจะขังคนน่าสงสัยไว้ในคุกใต้ดิน..แต่ที่นี่...


    ร่างนั้นชะงักกึก กลืนคำพูดเดิมลงคอตัวเองไป


    ...ช่างมันเถอะ ว่าแต่ทำอีท่าไหนให้ถูกจับได้กันล่ะ


    มีเรื่องนิดหน่อยที่ผมเล่าให้นายฟังไม่ได้น....!!”สะดุ้งเฮือกพร้อมหยุดพูดเมื่อร่างตรงหน้าขยับเข้าใกล้ตน เรนเก้ทำจมูกฟุดฟิดใกล้ร่างของเด็กหนุ่มร่างบางจนเจ้าของดวงตาสีแดงทับทิมตัวแข็งทื่อ เรนเก้ผละออกไปแล้วขมวดคิ้วพร้อมทำเสียงงึมงำ ก่อนจะถอนหายใจแล้วกล่าวออกมา กลิ่นดอกเชอรัมผสมกับดอกโรซีเอ้นิดหน่อย...ดูเหมือนท่านเจ้าปราสาทจะใช้ของให้เป็นประโยชน์อีกตามเคย...


    ดอกเชอรัม!”เด็กหนุ่มอุทาน..ดอกเชอรัมเป็นดอกไม้พิษที่ทำให้หากบดทำยาแล้วจะเป็นพิษที่ทำให้หายใจติดขัด ได้ยินว่าชนเผ่าเล็กๆทางใต้ของอกาธาร์นิยมบดเป็นผงแล้วเผาเป็นกลิ่นหอมเพื่อผ่อนคลาย ...ไม่นึกว่าจะได้มาเจอกับตัวเอง


    ในกรณีที่ไม่คุ้นชิ้น มีสิทธิที่จะชาไปทั้งตัวจนเคล้มกลับได้


    ถึงว่ากลิ่นคุ้นๆ ดอกเชอรัมงั้นหรือ..เด็กหนุ่มเคยเข้าป่าไปค้นหามันเมื่อสมัยยังเด็ก ..เพราะนอกจากดื่มกินเป็นพิษ เผาบดสูดกลิ่นแล้วผ่อนคลาย..อีกสรรพคุณซึ่งไม่มีใครรับรองได้ก็คือ..


    ..กลิ่นของดอกเชอรัมที่ผสมกับดอกอีกชนิด..ทำให้มองเห็นความทรงจำซึ่งตัวเองลืมเลือนไป
    ..


    เนลล่าครุ่นคิดถึงภาพที่ตนมองเห็นก่อนจะสลบไป ดวงตาเป็นประกายแห่งความสุขใจ..ความทรงจำของเขา..ใช่รึเปล่า?


    กลิ่นหอมของพระอาทิตย์ เสียงหัวเราะกังวาน..กับเสียงเฉียบขาดแสนหวานของใครซักคน


    นั่นคือ..ตัวเขาในอดีตใช่ไหม..คือ..ความทรงจำของเขา


    น้ำตาหลั่งริน หยดลงบนพื้นด้วยความตื้นตัน ความรู้สึกค่อยๆเอ่อท้นขึ้นมาจนกลั่นเป็นหยาดของเหลวที่พร่างพรูไม่สิ้นสุด


    ..นานเท่าไหร่ที่เฝ้าตามหา..เบาะแสแห่งความทรงจำ


    แม้ตอนนี้ยังไม่พบ..แต่สิบปีที่เฝ้าตามหาอย่างบ้าคลั่งโดยไร้ภาพใดให้จับต้อง มันทำให้รู้สึกกังวล


    มีอยู่จริงๆรึเปล่า..ความทรงจำที่เฝ้าตามหา หรือเพียงภาพฝันที่หวังไปเอง


    กระนั้น..ภาพที่เห็นไป...หากว่ากลิ่นนั้นผสมด้วยดอกเชอรัม....


    บางทีอาจจะเป็นภาพความทรงจำของเขาใช่ไหม?


    ถึงจะคิดไปเอง...แต่นั่นหมายความว่า เขามีตัวตนอยู่จริงใช่ไหม?


    น้ำตายังคงหลั่งรินอย่างเงียบๆ ไร้เสียงสะอึกสะอื้น คล้ายเจ้าของร่างปล่อยให้มันพร่างพรูลงมาเพื่อปลดปล่อยความรู้สึกของตน ฝ่ายเรนเก้ที่เห็นร่างตรงหน้าร้องไห้ก็ทำอะไรไม่ถูก จึงได้แต่นิ่งเงียบรอให้อีกฝ่ายหยุดร้องไห้ไปเอง แต่เมื่อดวงตาเห็นผ้าที่มัดมือของเด็กหนุ่มอยู่ เจ้าตัวก็เลื่อนเข้าไป สัมผัสแผ่วที่ผ้าพร้อมพึมพำแผ่วเบา กระทั่งผ้าซึ่งมัดไว้อย่างแน่นหนาด้วยมนตราเคลื่อนหลุดออกอย่างง่ายดาย


    เนลล่าที่รู้สึกว่าพันธนาการคลายออกเงยมองหน้าวิญญาณพิทักษ์อย่างแปลกใจ มองขาซึ่งอีกฝ่ายกำลังแตะมือลงไปเพื่อปลดพันธนาการ ดวงตาสีแดงทับทิมกระพริบปริบสงสัย ก่อนจะยกมือซึ่งเป็นอิสระของตนขึ้นปาดน้ำตา
    ทำไม..?


    มันขยับร่างกายไม่ถนัดไม่ใช่เหรอ?


    แต่.นาย...


    'ฉันเป็นวิญญาณพิทักษ์ปราสาท ไม่มีความจำเป็นจะต้องทำตามความต้องการของเจ้าปราสาท อีกอย่าง ฉันก็ไม่ชอบการกระทำของกลาเดียด้วย'


    การกระทำของกลาเดีย?เด็กหนุ่มทวนคำเสียงสูง คิ้วเรียวขมวดมุ่นสงสัย เธอคนนั้นทำอะไรหรือครับ?


    เขา......



    แอ๊ด..


    ร่างของเรนเก้พลันสลายไปพร้อมแสงลูกไฟนับสิบที่เจ้าตัวเสกออกมา แสงสว่างดับวูบลงในพริบตาที่ประตูเปิดออก แล้วจึงแทนที่ด้วยแสงสว่างอื่นที่น้อยกว่าซึ่งสอดส่องผ่านเข้ามาทางช่องว่างของประตู


    เป็นอย่างไรบ้าง สาวน้อย


    เสียงหวานทรงอำนาจที่ดังกังวานขึ้นมานั้น...เด็กหนุ่มจดจำได้ดี


    มาดามกลาเดียเสียงหวานทุ้มกระซิบ มองร่างสูงระหงของหญิงสาวที่กำลังย่างกรายเข้ามาอย่างไม่ไว้ใจ เจ้าของดวงตาสีส้มบัดนี้อยู่ในชุดผ้าคลุมลื่นสีแดงสดขับผิวขาวก้าวเข้ามา เรือนผมสีราตรีซึ่งแต่เดิมรวบไว้ปล่อยยาวสยาย ในมือถือถาดอาหารชุดหนึ่ง หญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาในห้อง รองเท้าหนังกระทบกับพื้นหินเกิดเสียงก้องกังวาน หญิงสาวยืนหยุดอยู่หน้าเด็กสาวร่างบาง ริมฝีปากคลี่ยิ้ม ก่อนก้มลงเชยคางเด็กสาวขึ้นอย่างถือสิทธิ


    ถึงกับร้องไห้เชียวเหรอ..กลัวล่ะสินะเอ่ยคล้ายเอ็นดู หากดวงตากลับมีประกายของความปรารถนา นิ้วเรียวเกลี่ยผิวขาวที่ช่วงคอเบาๆจนร่างของเด็กหนุ่มขนลุกเกรียว เด็กหนุ่มสะบัดหน้าออก ดวงตามองอย่างขัดขืน เนลล่าพยายามซ่อนมือที่ถูกปลดพันธนาการออกแล้วลงบนกระโปรงสีชมพูอ่อน ขณะอีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าคราบน้ำตาซึ่งหลงเหลืออยู่นั้นเกิดขึ้นเพราะความกลัว


    หึหึ....ความผิดของเธอเองนะที่มาไม่ถูกจังหวะแบบนี้หญิงสาวเอ่ย หยัดกายขึ้นแล้ววางถาดอาหารลงบนตู้ที่ห่อคลุมด้วยผ้าสีคราม ตอนแรกฉันแค่อยากได้เธอมาเป็นของฉันเท่านั้นเอง..จึงจำเป็นจะต้องทำให้เอหมดแรงซะก่อน..แต่...เพราะตัวเธอไม่น่าไว้ใจฉันจึงจำเป็นต้องขังเธอไว้ก่อน


    ..เพราะอะไรถึงคิดว่าฉันไม่น่าไว้ใจล่ะคะ?เด็กสาวเอ่ยถามขึ้น มองไปยังประตูที่เปิดอยู่ แล้วจึงเสดวงตามองร่างตรงหน้าที่เอ่ยขึ้นด้วยเสียงหวานกังวาน



    ..เพราะเธอสนใจคดีนั้นไงล่ะ ที่จริงนั่นเป็นเรื่องที่ห้ามถาม....ทุกคนในลากูน่าต่างรู้ดี ไม่ว่าเธอจะได้ยินเรื่องนี้จากใครฉันก็ต้องคาดคั้นให้เธอพูดให้ได้ ...บอกตามตรงนะ ทีแรกฉันแค่สนใจเธอเท่านั้นเอง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มาทำงานข้างๆกาย..ถึงจะน่าสงสัยฉันก็ยังอยากได้อยู่ดี..แต่....

    เสียงถอนหายใจดังแผ่วขึ้น เนตรสีส้มปรากฏแววเสียดาย


    “….ดูเหมือนมารายน์จะต้องการสินค้าอย่างเร่งด่วน และฉันไม่ใจไม้ไส้ระกำพอจะส่งเด็กของตัวเองไป...ดังนั้น ฉันจึงต้องส่งเธอไปให้เขาแทน....เตรียมตัวเตรuยมใจไว้ด้วยล่ะ


    คางมนถูกเชยขึ้นอีกครั้ง ดวงตาสีแดงทับทิมฉายแววงุนง' ความคิดสับสนประมวลชื่อซึ่งได้ยินมา


    มารายน์...ชื่อของใคร..สินค้า....


    หรือว่า..


    ....จะส่งฉันไปขาย..เหรอคะ??เด็กหนุ่มพยายามดัดเสียง ซึ่งเมื่อดัดด้วยอารมณ์ที่ไม่มั่นคงย่อมสั่นเครือคล้ายหวาดกลัว หญิงสาวร่างระหงแย้มยิ้ม ถูกใจในความไร้เดียงสาของเด็กสาวเบื้องหน้า มาดามกลาเดียหยัดกายขึ้น กายบางเคลื่อนไปนั่งลงบนโซฟาที่ว่างเปล่าเพราะผู้ครอบครองคนก่อนลงไปนั่งบนพื้นหินชิ้นเย็นตรงหน้าเธอ กลาเดียจุดไฟขึ้นอีกดวงให้ห้องส่องสว่าง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานกังวานเย็น


    ทั้งใช่และไม่ใช่...เอ่ยจบหญิงสาวก็เชยคางองร่างบางขึ้นมา พยายามจ้องในแววตาสีแดงสวยหากอีกฝ่ายกลับก้มลงหลบสายตา มาดามกลาเดียหัวเราะ..ถูกใจในท่าทีของร่างตรงหน้า


    ..น่าเสียดาย เป็นประเภทที่ขายได้ซะด้วยสิ


    ดวงตาของมาดามกลาเดียหรี่ลง ..หากว่ามารายน์ไม่ต้องการสินค้าอย่างเร่งด่วนถึงเพียงนี้ เธอก็จะออกไปหาคนอื่นที่ไม่ใช่เด็กคนนี้แท้ๆ


     
    หญิงสาวเกลี่ยนิ้วลงบนผิวขาวของเนลล่าอีกครั้ง


    ..น่าเสียดายจริงๆ..ผิวเธอสวย ถ้ามาขายเรือนร่างจริงคงจะมีคนรักคนชอบมาก ค่าตัวก็คงสูง..น่าเสียดาย..


    ผ้าที่ขาเริ่มหลุดออกแล้ว...


    เนลล่ากัดริมฝีปาก..ไม่สนใจมือที่ป่ายปะบนผิวตนและคำพูดที่ดังใกล้ตัวอีกต่อไป..เพราะเรนเก้ช่วยร่ายเวทย์ไว้ให้ ยามนี้สิ่งที่พันธนาการเขาจึงมีเพียงผ้าลื่นๆที่พร้อมจะหลุดอย่างง่ายดาย


    อีกนิดเดียว....


    “…แต่ฉันไม่มีทางเลือกจริงๆ..ถ้าไม่ส่งเธอไปฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะถูกทำอะไร..ขอโทษนะเอ่ยจบ เจ้าตัวก็ลุกขึ้นยืน มือเรียวหันไปจับถาดอาหารซึ่งวางอยู่ก่อนเป็นเชิงให้สนใจ ก่อนจะแสยะรอยยิ้มแล้วเอ่ยเรียบเย็น กินให้อร่อยล่ะ..เพราะนี่คืออาหารมื้อสุดท้ายของเธอแล้ว


    อาหารมื้อสุดท้าย..?


    เนลล่าขนลุกเกรียว ไม่เข้าใจอะไรขึ้นมาแม้แต่น้อย


    ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขารู้..คือต้องหนี...
    !


    หญิงสาวก้าวเดินไปยังประตู มือเรียวบิดลูกบิดประตู...เนลล่ากลั้นลมหายใจ โสตประสาทรับฟังเสียงของประตูซึ่งเปิดออกอย่างเชื่องช้าในความรู้สึกของตน


    หลุดแล้ว!!


    พลั่ก
    !


    ......!!”ดวงตาสีส้มเบิกกว้างยามร่างที่น่าจะถูกพันธนาการวิ่งชนเธอไปยังประตู  ร่างของหญิงสาวล้มลง หากก็ยืนอยู่ได้ด้วยจับขอบตู้สูงที่วางอยู่แถวนั้นทัน ดวงตาคู่งามมองร่างซึ่งวิ่งจากไปตามเส้นทางทอดยาวอันมืดมัว ริมฝีปากกัดกรอดนึกโทษตนที่ไม่ดูให้ดีว่าพันธนาการหลุดออกจากร่างของเด็กสาวร่างบาง หากซักพัก ริมฝีปากนั้นกลับคลี่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะหยันดังแผ่วในลำคอ


    ที่นี่ถูกสร้างเพื่อขังคน....ไม่มีที่ทางให้หลบหนีออกไปได้ง่ายๆหรอก...


    ตึก..ตึก..

    นายหญิงกลาเดีย เกิดอะไรขึ้นหรือคะเสยงหวานกังวานของหญิงสาวนางหนึ่งดังขึ้นร่างอวบอิ่มใต้ชุดสีราตรีเคืล่อนกายเข้าหา หญิงสาวเนตรสีแสดหันมอ งก่อนจะชี้เข้าไปยังห้องซึ่งแต่เดิมกักขังเนลล่าเอาไว้ข้างใน


    สินค้าหนีไปแล้ว ช่วยบอกให้หนุ่มๆจัดการจับให้ได้ก่อนจะบาดเจ็บที


    ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะหนีจนออกจากปราสาทรุ้งเจ็ดสีไปได้.อย่างน้อยหากยังอยู่ในชั้นใต้ดินแห่งนี้...ไม่มีทางที่จะขึ้นไปบนผิวดินได้โดยไม่ได้รับการยินยอมจากเธอ


    หญิงสาวร่างอวบอิ่มโค้งกายรับคำ ก่อนจะวิ่งจากไปพร้อมคำสั่งที่ได้รับมา กลาเดียแสยะยิ้ม นึกถึงดวงตาสีทับทิมที่จ้องมองมาอย่างนึกหลงใหล


    ...งดงามนัก ไม่เคยมีเด็กสาวคนไหนงดงามและเจิดจ้าได้เท่านี้มาก่อน...เสียดายจริงๆที่จะต้องมอบให้เป็นสินค้าของมารายน์....


    ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มเย็น

    เธอหนีไปจากที่นี่ไม่ได้หรอก......เนลล่า...

     


    มีแต่เรื่องน่าสงสัยเต็มไปหมด


    เด็กหนุ่มนึกในใจ ขณะพาร่างวิ่งไปตามเส้นทางอับชื้นซึ่งมีเพียงแสงเทียนทอดยาวเรียงราย กลิ่นของดอกโรซีเอ้หอมกรุ่นไปทั่วทั้งเส้นทาง ขณะสาวเท้าวิ่งไปพร้อมความคิดว้าวุ่นที่โถมทับลงมา


    ทั้งคดีเมื่อสองปีก่อน ทั้งคดี
    Red Lady ที่เขาสืบอยู่ ทั้งเรื่องสินค้าอะไรนั่นอีก...ทั้งที่เขาแค่จะตามหาคนร้ายแท้ๆ แล้วทำไมต้องมาพัวพันกับเร่องงี่เง่าพรรค์นี้ด้วย!


    ...อีกเรื่อง


    แม้ประปราย แต่ลากูน่าที่มีชื่อว่าไร้มนตรากลับมีสถานที่ที่ถูกห่อคลุมด้วยเวทย์มนตร์ นายหญิงหอโสเภณีที่มีผ้าลงมนตราสำหรับพันธนาการ ตกลงแล้ว..นอกจากสิ่งที่เขาตามหา นครลากูน่าแห่งนี้ซ่อนอะไรไว้อีก?


    ครั้งก่อนที่มาเขายังไม่พบเรื่องมากมายขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ..นั่นหมายความว่า ในบรรดาเมืองทั้งหลายที่เขาเคยผ่านมาทั้งหมด อาจจะมีเรื่องราวที่เขาไม่รู้จักหลับใหลอยู่งั้นหรือ


    โลกนี้มันช่างซับซ้อนซะเหลือเกิน...ไม่มีมุมไหนเลยจริงๆที่เราจะเข้าไปได้ลึกถึงที่สุด เมื่อคิดว่าเข้าไปได้ลึกมากแล้ว กลับมีหลุมดำที่ลึกล้ำยิ่งกว่ารอให้ก้าวต่อไป..ไม่สิ้นสุด


    ใครในโลกนี้จะเข้าใจทุกสิ่งอย่างในโลกาได้บ้างหนอ?

     


     
    นั่นไง...!


    เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากข้างหลัง ใบหูเรียวกระตุกยามได้ยินเสียงที่ดังตามมา เสียงฝีเท้าไล่หลังค่อยๆตามมา ดวงตาสีแดงทัทิมหันมองเบื้องหลัง ถอนหายใจโล่งอกเมื่อพบว่าระยะทางยังห่างกันอยู่มากพอควร ขาเรียวเร่งความเร็วยิ่งกว่าเดิมจนทิ้งช่วงก่อนจะหยุดลงเมื่อเจอทางแยกสองทางให้เลือกเดิน เด็กหนุ่มวิ่งเลี้ยวไปยังเส้นทางด้านซ้าย ก่อนจะเปิดเข้าไปในห้องที่อยู่ใกล้ที่สุด


    ปัง
    !


    เสียงประตูปิดดังกึกก้องจนเนลล่าต้องนึกโทษตัวเองที่รีบร้อนเกินไป เสียงดังแบบนี้ อีกไม่นานต้องถูกตามทันแน่ๆ


    เนลล่าถอนหายใจ ก่อนหันหลังดูสภาพห้อง เบิกตาขึ้นท่ามกลางความมืดมิดที่ไร้แสงใดใด


    เด็กหนุ่มร่างบางขมวดคิ้ว เสียงร่ายเวทย์ดังขึ้นแผ่วเบา


    พรึ่บ
    !!


    ลูกไฟสีน้ำเงินนิ่งสามลูกปรากฏขึ้น มอบแสงสว่างให้ห้องที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมา เนลล่ามองไปรอบๆซึ่งเต็มไปด้วยกองกระดาศมากมาย มือเรียวหยิบกระดาษแผ่นหน่งขึ้นมา เรียกดวงไฟให้เข้าใกล้ตนยิ่งกว่าเก่า ก่อนจะเหยียดรอยยิ้มสุดริมฝีปากเมื่อพบว่าสิ่งที่อยู่ในมือคืออะไร


    ..ไหนจะถูกจับแต่งหญิง ไหนจะถูกรมยา ถ้าไม่ได้อะไรกลับไปล่ะก็ อย่ามาเรียกเขาว่า เนลล่า เลเซเบล
    !!


    ว่าแล้วเจ้าตัวก็เริ่มต้นค้นกองกระดาษทั้งหมดทันที


    กระดาษที่บ้างเย็บรวมเล่มบ้างเป็นแผ่นๆวางระเกะระกะนั้นจะว่าหาง่ายก็ง่าย หายากก็ยาก..แต่อย่างน้อยที่สุดเขาก็เดาถูกว่ามันควรค่าที่จะเสียเวลา ที่นี่มีข้อมูลคนหาย ข้อมูลคดี และที่สำคัญ..


    รายชื่อสินค้า...ที่เป็นชื่อของมนุษย์


    แสดงว่าที่เขาสงสัยอยู่ก็เป็นความจริง..นอกจากจะเป็นหอโสเภณีแล้ว ดูเหมือนมาดามกลาเดียจะค้ามนุษย์ด้วย...ปลายทางของสินค้าคือมารายน์งั้นหรือ..


    เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน


    แต่ไม่ใช่เรื่องที่เด็กหนุ่มจะต้องสนใจ  เพราะที่สำคัญกว่านั้น..คือข้อมูลของฆาตกรทั้งห้าคนเมื่อสองปีก่อน ..ข้อมูลที่เขาไม่นึกเลยว่ามาดามกาเดียจะมี


    เนลล่าไล่ตามประวัติที่อยู่ในมือ คิ้วเรียวขมวดมุ่นสงสัยในความแปลกประหลาดที่ผุดวูบขึ้นมา


    ..ใบหน้านี่...


    เนลล่ามองรูปวาดในเอกสารที่ทำขึ้นอย่างลวกๆให้รู้ว่าเป็นใคร ดวงตาคู่สวยหลุบลงครุ่นคิด..ผมสีทองตาสีฟ้า...ไม่..ไม่ใช่สีผม..ใบหน้านี่มันคุ้นซะจริงๆ...


    ยัยนั่นวิ่งมาทางนี้แน่ๆ ตามมา!!”


    เนลล่าสะดุ้งเมื่อเสียงของผู้ไล่ตามตนดังใกล้เข้ามา เด็กหนุ่มรีบรวบรวมเอกสารที่คิดว่าจำเป็นทั้งหมดไว้กับอกตนแล้วหันหน้าไปทางประตู แต่ก่อนที่จะวิ่งออกไป หางตาก็ดันไปเห็นสิ่งที่วางแขวนอยู่กับตู้หนังสือฝุ่นเขรอะเข้าอย่างจัง


    ....เสื้อเชิ้ตกับกางเกงขาสั้น


    เด็กหนุ่มยิ้มกว้างอีกครั้ง

     



    เฮ้ยตามไปเร็ว!”เสียงตวาดลั่นพร้อมเสียงฝีเท้าที่เพิ่มขึ้นทำให้เด็กหนุ่มร่างบางยิ่งต้องเร่งฝีเท้า โชคดีที่เปลี่ยนชุดจากกระโปรงสีชมพูอ่อนมาเป็นเสื้อเชิ้ตและกางเกงขาสั้นแล้วจึงเคลื่อนไหวกายได้สะดวกขึ้น แต่ถึงจะเร็วจนทิ้งระยะห่างมากแค่ไหน....หากว่าไม่รู้ว่าทางออกอยู่ที่ใด ก็ไม่ต่างจากวิ่งถ่วงเวลารอโดนจับอยู่ดี!


    ทางออกอยู่ที่ไหนเนี่ย!!”


    ไม่มีทางออกหรอก....


    เสียงหนึ่งดังควบคู่ร่างที่วิ่งไปด้วยกัน เนลล่ารีบหันขวับมอง แทบจะตะโกนเสียงดังยามเห็นร่างโปร่งแสงที่หายไปกลางคัน


    เรนเก้..! ไปไหนมากันครับ!!”ถ้าไม่ได้วิ่งอยู่ บางทีเนลล่าคงกระโดดฟาดคอเข้าให้ซักทีโทษฐานทิ้งหายกันไป ข้างฝ่ายวิญญาณพิทักษ์ผมชมพูหัวเราะแห้งๆมองหน้าบูดบึ้งของเด็กหนุ่มร่างบาง แล้วจึงเอ่ยตอบออกมา กลาเดียมองเห็นฉันได้นี่นา แล้วเผอิญมันมีกฏว่าต้องไม่ให้ผู้ครองปราสาทเห็น ฉันเลยต้องหายตัวไปก่อนน่ะ..


    เรื่องนั้นช่างมันก่อนแล้วกัน ..แล้วไอ้เรื่องที่ว่าไม่มีทางออกน่ะมันหมายความว่าไงครับ!”


    ที่นี่ถูกสร้างไม่ให้เชื่อมกับภายนอกน่ะสิ เพราะแต่เดิมมันก็มีไว้ขังคนอยู่แล้ว ทางออกเดียวที่จะขึ้นไปบ้างบนได้คือประตูที่มียามเฝ้าอยู่ แต่แค่ไปถึงก็ออกไม่ได้หรอก เพราะประตูนั่นเชื่อมกับด้านนอกด้วยเวทย์มนตร์.


    เวทย์มนตร์....ในลากูน่าเนี่ยนะครับ


    ร่างโปร่งแสงไม่เอ่ยตอบอะไร แต่ลอยไปเบื้องหน้าเป็นเชิงให้ไล่ตาม


    นายรู้ทางออกเหรอครับ?


    รู้..เป็นทางที่ปลอดภัยมากๆเลยด้วย


    ทำไมนายถึง......

    ‘เอาเป็นว่า ไว้ใจฉันเถอะน่า’
    ร่างโปร่งแสงพูดด้วยเสียงมั่นใจแล้วลอยนำไป เด็กหนุ่มร่างบางขมวดคิ้วสงสัย แต่เมื่อเสียงของผู้ไล่ล่าใกล้เข้ามา เขาก็จำแต่ต้องวิ่งตามร่างที่นำทางเขาไป


    โครม
    !!


    .......อยากตายแบบไหน เทวดา


    เสียงทุ้มยะเยือกกดต่ำ บรรยากาศรอบข้างเย็นลงและเงียบสงบจนรู้สึกถึงอากาศชื้นเหนอะหนะ ร่างที่ถูกกำรอบคอไว้แล้วกระแทกกับกำแพงกลืนน้ำลายเฝื่อนลงคอ มือเรียวจับข้อมือของผุ้ประทุษร้ายตน ก่อนจะฝืนยิ้มแห้งแล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงธรรมดา
    เป็นไปได้ขอไม่ตาย


    งั้นจะหักคอให้ตายคามือ


    ใจเย็นก่อน!! อิลเวส เนลล่าคงไม่เป็นไรหรอกน่า!!”ทรูธรีบวิ่งเข้ามาห้าม มองลึกในดวงตาสีทองที่แสดงออกว่าเอาจริง นายใจเย็นหน่อยสิ เนลล่าเป็นผู้ชายนะ แค่นี้เขาเอาตัวรอดได้


    แต่นี่มันแปดชั่วโมงแล้วหลังจากตอนนั้น!”น้ำเสียงที่เปล่งออกมาต่ำและเรียบเย็นจนอากาศรอบข้างยิ่งลดลงกว่าเก่า ใบหน้าเรียวซึ่งล้อมกรอบด้วยเรือนผมสีน้ำเงินเปล่งประกายเหี้ยมจนแม้แต่ปิศาจเช่นเขายังหนาว ทรูธพยายามอ้าปากช่วยเพื่อน แต่เทวดาหนุ่มผู้ถูกบีบคอกลับเอ่ยขึ้นมาซะก่อน


    ผู้พรากความตายมีกฎห้ามฆ่าคนไม่ใช่หรือไง?


    อิลเวสฟังแล้วขมวดคิ้วก่อนแสยะยิ้ม
    ไม่ได้รวมเทวดาไว้หรอกนะ..อันที่จริง ต่อให้เป็นยมทูตก็ฆ่าได้


    นายฆ่าฉันไปก็ใช่ว่าเนลลี่จะกลับมาได้ซักหน่อย อีกอย่าง ใช่ว่าฉันจะไม่พยายามทำอะไรเลย ฉันทำแล้ว...แต่ทำไม่ได้ก็เลยกลับมา


    โดยทิ้งเนลล่าไว้ที่นั่น!!”


    ชายหนุ่มกัดฟันกรอด เพิ่มแรงบีบโดยไม่สนใจเสียงไอโขล่กของคนขาดอากาศหายใจ


    เขากลับมาจากการตามหาข้อมูล สิ่งที่ได้มามีมากทั้งที่สร้างปมใหม่และคลายปมเก่าที่ค้างคาอยู่ แต่แล้ว...เขากลับพบเพียงแต่เทวดาหน้าเป็นนั่งกินเหล้าอยู่กับเพื่อนตัวเอง ส่วนเนลล่า..ไอ้บ้านี่ดันให้เหตผลว่าไม่รู้เป็นตายยังไง!!


    ชายหนุ่มแทบจะแล่นออกไปตั้งแต่รู้ว่าเนลล่าอาจจะอยู่ในอันตราย แต่ชายหนุ่มเนตรอ๊อดอายรั้งเขาไว้โดยให้เหตุผลว่าเนลล่าไม่ได้อ่อนแอถึงขั้นหนีเอาตัวรอดเองไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงพยายามรอ.... แต่รอแล้วได้อะไร ในเมื่อผ่านไปแปดชั่วโมงจนเลยสองยามแล้ว เนลล่าก็ยังไม่กลับมา
    !!


    ชายหนุ่มร่างสูงร้อนรน นึกโทษตัวเองที่รู้ก็รู้ว่ามีลางสังหรณ์ไม่ดีรอบกายแต่ก็ยังปล่อยให้เนลล่าห่างตัว ยามนี้สมองของเขาสับสนว้าวุ่น..มากจบแทบฆ่าเทวดาตนหนึ่งได้ง่ายๆเลยทีเดียว


    มือของอิลเวสเกรงแน่น ต่อต้านกำลังที่พร้อมจะบีบคอชายหนุ่มเนตรอเมทิสต์ให้ตาลงทุกเมื่ออย่างยากเย็น ดวงตาสีทองเบิกขึ้น ดึงมทอตนกลับขากคอของร่างโปร่งสูงที่ถอนหายใจโล่งอกแล้วรูดลงนั่งกับพื้นอย่างอ่อนแรง แววตายะเยือกถูกส่งให้หนึ่งไนท์แมร์หนึ่งเทวดาจนผู้ถูกจับต้องขนลุกเกรียว อิลเวสกระชับดาบที่เอวตน แล้วเดินไปที่หน้าต่างเตรียมกระโจนออกไป
    ฉันจะไปตามหาเนลล่า


    บอกแล้วไงว่าห่วงเกิน.แค่ก..ไป...ทำอย่างกับพ่อหวงลูกสาวปากพาจนยังทำหน้าที่ของมันไม่เลิก หากคราวนี้ชายหนุ่มเนตรสีทองคร้านที่จะสนซะแล้ว


    ...ไม่รู้อะไรก็อย่าพูดมาก


    แล้วร่างของผู้พรากความตายโผทะยานสู่ห้วงราตรี




    เสียงหอบหายใจดังสะท้อนไปมาในเส้นทางเล็กที่ทอดยาวออกไป เท้าเปลือยเปล่าหยุดลงเมื่อร่างโปร่งแสงที่นำทางตนมาตลอดหยุดชะงัก ริมฝีปากบางอ้าปากจะถาม แต่แล้วกลับต้องนิ่งไปเมื่อเห็นใบหน้าหนักใจของผู้ที่ช่วยเหลือตน


    มีอะไรเหรอครับ? เรนเก้


    สิ้นสุดอาณาเขตของปราสาทรุ้งเจ็ดสีแล้ว.....
    ชายหนุ่มกล่าว ใบหน้าแสดงออกถึงความหนักใจ ทีแรกคิดว่าฉันน่าจะออกจากปราสาทได้ซักพักหนึ่ง แต่กฎเคร่งครัดเดินไป ฉันไปต่อไม่ได้


    ..งั้นผมจะไปต่อเองก็ได้ครับเนลล่าเอ่ย เข้าใจดีว่าวิญญาณพิทักษ์ไม่อาจออกห่างสิ่งที่ตนพิทักษ์รักษาอยู่ได้ ในกรณีของเรนเก้ก็คงคล้ายๆกับถูกขังในปราสาทที่ตนดูแล ทำให้ไม่อาจออกห่างจากสิ่งที่ตนคุ้มครองได้..อีกอย่าง เขารบกวนเรนเก้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนมากเกินไปแล้ว ต่อจากนี้ เขาลองพยามยามเองน่าจะดีกว่า


    แต่แม้เด็กหนุ่มร่างบางจะเอ่ยด้วยท่าทีที่ไร้ความผิดหวังหรือความโกรธใดๆ เรนเก้ก็ยังทำสีหน้าหนักใจอยู่ดี
    เส้นทางต่อจากนี้ซับซ้อนกว่าที่ผ่านมา....ถ้าหลงทางคงขึ้นไปข้างบนไม่ได้...


    เนลล่ามองท่าทีครุ่นคิดของร่างโปร่งแสง ก่อนจะพิงกายกับผนังหินเย็นชื้นที่มีแสงเทียนถูกจุดไว้บนเชิงสว่างไสวอย่างรางเลือน ความสงสัยเล็กๆที่ติดค้างในใจพลันกลั่นออกเป็นคำพูดที่ชัดเจน


    ทำไมถึงช่วยผมล่ะครับ?


    ร่างโปร่งแสงยืนนิ่ง ก่อนค่อยๆหันหน้ามามอง รอยยิ้มบางเกลื่อนบนใบหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
    เพราะว่าฉันถูกใจนาย..เท่านั้นเอง...อืม จะว่าไงดีล่ะ


    ..นายไม่ใช่คนแรกหรอกที่ถูกกลาเดียจับมา ก่อนหน้านี้มีหลายคนที่เจอเรื่องแบบนี้..พวกเขาบางคนมองเห็นฉัน ฉันดีใจมากเลยล่ะ..แต่.....
    สีหน้าของเรนเก้หมองลง


    ...ไม่นานเขาก็จะถูกพาตัวหายไปแล้วไม่กลับมาอีกเลย ฉันเคยคิดว่าเขาแค่กลับบ้านตัวเองอย่างเหงาๆ..แต่ต่อมาฉันก็รู้..กลาเดียทำเร่องแย่ๆเอาไว้...ฉันรู้สึกว่าตัวเองโง่มากที่ไม่ได้ช่วยพวกเขาเอาไว้ แต่..ประตูนั่น ถึงฉันผ่านเข้าไปได้แต่ก็เปิดไม่ได้ แล้วคนพวกนั้นก็..ไม่ยอมวิ่งออกด้วยกำลังของตัวเอง ฉันจึงไม่อาจทำอะไรได้นอกจากการเจ็บใจ


    เรนเก้ยิ้มกว้างกว่าเก่าพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง
    นายคือคนแรกที่ฉันอาจจะช่วยไว้ได้ไง เนลล่า


    เนลล่าฟังเหตุผลนั้นแล้วตีสีหน้าไม่ถูก.เขาควรจะดีใจให้คนตรงหน้า..หรือควรจะเสียใจกับความข่มขืนของคนคนนี้ดี..เด็กหนุ่มยิ้มเฝื่อนให้ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจยิ่งกว่าครั้งใดๆ


    ขอบคุณครับ


    เรนเก้พยักหน้ากับคำขอบคุณแล้วหันไปจมอยู่กับความคิดของตน เนลล่าเอนกายพิงผนังตามเดิม ก่อนเด็กหนุ่มจะเบิกตาเล็กๆ รู้สึกราวได้ยินเสียงบางอย่างดังแว่วมา


    ....เสียงเรียก...ไม่ใช่...


    เสียงเพลง.. .


    ..เรนเก้ ได้ยินอะไรไหมครับ?เสยงทุ้มหวานกระซิบเรียกอย่างเหม่อลอย หากไม่อาจเข้าสุ่โสตประสาทของผุ้ที่ตกลงในห้วงความคิดของตนได้ เนลล่าที่ๆม่ได้รีบคำตอบกลับมาสะบัดหัวอย่างแรง แต่เสียงเพลงที่แว่วมากลับยังไม่หายไป


    มาสิ....


    จะนำทางให้....


    ....เพราะเธอคือฮากาลาซของเรา


    ..เสียงเพลงที่พลันกลับกลายเป็นเสียงกระซิบที่แผ่วเบา


    จะทำยังไงดีนะ...ส่งพลังไปนำทางก็ไม่รู้จะสลายเมื่อไหร่....อ๊ะ เนลล่า นั่นนายคิดจะทำอะไร!!’
    เรนเก้ร้องเสียงหลง ดวงตาสีราตรีมองร่างของเด็กหนุ่มผมขาวที่เดินนำเขาไปทั้งที่ยังไม่ได้นัดแนะทางให้อย่างชัดเจน ร่างโปร่งแสงพยายามลอยตามแต่อาณาเขตซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่ากลับขวางกั้นเขาเอาไว้ ชายหนุ่มทุบอาณาเขตที่มองไม่เห็นนั่นเต็มแรง แต่เปล่าประโยชน์ เพราะสิ่งที่กั้นเขาไว้ไม่ใช่กระจกหรือกำแพงใดๆ...มันคือเส้นข้ามที่จะทำให้เขาสลายหากข้ามมันออกไป


    .ให้ตายเถอะ..ให้ตายเถอะ..คนที่เห็นเขาอีกคนในไม่กี่คนที่เคยพบเจอ คนที่..เขาช่วยออกมาได้เป็นคนแรก..หลักฐานความสำเร็จของเขา


    ขอให้ปลอดภัยด้วยเถอะ.............
    !!




    ขาเรียวใต้กางเกงขาสั้นสีดำก้าวไปเรื่อยตามเส้นทางที่วกวน...


    ยิ่งเดินผ่าน เส้นทางก็ยิ่งซับซ้อนและมีรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาดยิ่งขึ้น บางช่วงเป็นผนังโค้งขัดมันอย่างดี บางช่วงเป็นถ้ำหินขรุขระไร้การดูแล..และขณะนี้ เด็กหนุ่มเนตรทับทิมก็กำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่หรูหราอลังการ..เสาหินที่ค้ำเส้นทางเดินอยู่นั่นถูกสลักด้วยลวดลายชัดเจนละเอียดยิบ พื้นถูกขัดจนเรียบวาวสว่างไสว..ถ้าให้พุดก็คือ นี่เป็นเส้นทางที่ดูสว่างเรืองรองที่สุดในบรรดาเส้นทางที่ผ่านมา


    ..เสียงเรียกยังดังอยู่ นำทางเขาให้เดินตามอย่างไม่อาจขัดขืนได้ กระทั่งร่างเพรียวบางของเด็กหนุ่มเนตรทับทิมยืนอยู่ตรงหน้าประตูบานหนึ่ง


    จุดสิ้นสุดของเส้นทาง


    ..มาสิ มาเร็ว..ฮากาลาซ...


    เปิดประตู...


    เสียงคะยั้นคะยอนั้น..ส่งผลให้เนลล่ายื่นมือเปิดประตูนั้นออกอย่างไม่ลังเล


    ฟ้าว...


    สายลมพัดกรูผ่านช่องประตูที่ถูกเปิดออกพร้อมแสงสว่าง เนลล่าหลับตาลงหลบสายลมรุนแรงเย็นเฉียบที่พัดต้องร่างกาย ..กลิ่มหอมของหิมะลอยกรุ่นต้องนาสิกอย่างแผ่วเบา


    กลิ่นนี้
    …..


    หิมะที่มีกลิ่มหอมของดอกไม้..มีแค่ที่นั่นทีเดียวเท่านั้น


    นครเซลอท.....


    ดวงตาสีแดงทับทิมเบิกขึ้นอีกครั้ง


    ที่ตรงหน้าเขาคือพื้นที่ว่างเปล่าซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ไมมี่มแต่เงาสภูเขาหรือป่ารกชัฏสีขาวโพลนที่ชินตา..ที่นี่ ไม่ใช่นครเซลอท


    ดวงตากลมโตหม่นแสงลงเมื่อรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่คุ้นเคย เนลล่าหมดแรงนั่งลงกับพื้นแล้วถอนหายใจเบาๆ แต่แล้ว..เมื่อเงยหน้าขึ้น เขากลับมองเห็นร่างหนึ่งค่อยๆก้าวเดินตรงเข้ามาหาตน


    ร่างนั้นเป็นร่างของเด็กคนหนึ่ง เรือนผมสีขาวเหลอบม่วงยาวระผืนเหมันต์พลิ้วไสวตามสายลม  ดวงตากลมโตสีแดงทับทิมเช่นเขาจ้องมาอย่างแปลกใจ มือเล็กป้อมกระชับคฑาใหญ่สีเงินซึ่งที่วนหัวมีคริสตัลขนาดใหญ่ประดับไว้พร้อมล้อมรอบด้วยเพชรต่างชนิดมากราคา ..ร่างเล็กใต้ชุดกระโปรงสีขาวโพลนเบาบางก้าวมาที่เขา ใบหน้าเล็กอันกอปรด้วยเครื่องหน้าจิ้มลิ้มสดใสสมวัยก้มมองร่างที่นั่งอยู่ก่อนยิ้มให้บางๆอย่างอ่อนโยน


    เนลล่ากระพริบมองร่างตรงหน้า..สีผมกับสีตานั่น....


    คุณคือ.....


    นิ้วเล็กๆแตะลงที่ริมฝีปากของเขาก่อนที่จะพูดอะไรออกมา


    เอาล่ะ ยังไม่ถึงเวลาหรอกนะ..ถึงฉันจะรู้ว่าจิตวิญญาณแห่งผืนพิภพเริ่มเร่งเวลาแล้วก็ตามที..เสียงกังวานใสดังแผ่วเบา ดวงตาคล้ายสะท้อนแววตาของผู้ใหญ่ที่ดุเด็กในโอวาทตน กลับไปเถอะ....


    สิ้นเสียงนั้น สติของเขาก็ดับหายไป...

    ........................


    ...............


    ..........


    ....


    ...


    ..


    .


    ...ดวงตาสีทับทิมกลมโตคู่สวยเบิกขึ้น กระพริบปริบให้ภาพที่พร่าเลือนชัดเจนดังเดิม ดวงตาแลเห็นพระจันทร์ดวงโตสีเดียวกับดวงตาของคนคุ้นเคยที่ใกล้เต็มดวงส่องประกายอย่างอ่อนโยนในยามฟากฟ้าพร่างดวงดารา ...พระจันทร์ดวงสวยสาดส่องลงมามอบแสงสว่างให้เขาผ่านสองข้างทางที่มีตึกสูงใหญ่ขนาบข้างราวจะบีบให้จันทราหายไป


    อากาศเย็นชื้นหนาวเหน็บ เหนอะหนะจนยากจะหายใจ ร่างกายรู้สึกหนาวโดยเฉพาะที่ช่วงขา สมองยังมึนงงไม่ชัดเจน ศีรษะซึ่งปกคลุมด้วยเรือนผมสีขาวเหลอบม่วงสะบัดไปมาอย่างแรง ครั้นแล้ว สติจึงปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน


    ที่นี่
    ...


    เพราะยังขยับกายไม่ได้ มือเรียวข้างซ้ายซึ่งบัดนี้ไร้ถุงมือจึงกวาดไปบนพื้น สัมผัสกับแผ่นหินเย็นเฉียบที่บ่งบอกว่านี่คือถนนคนเดิน ตึกรอบข้างที่สูงตระหง่านขึ้นไปบอกเขาว่ามันคือถนนแคบๆระหว่างอาคาร..แต่สิ่งที่ทำให้คิ้วเรียวขมวดมุ่น คงเป็นชื่อถนนในห้วงความคิดที่พลันผุดพรายขึ้นมา


    ถนนเลดเซ..หรือเปล่า?


    ครุ่นคิดอย่างไม่มั่นใจนัก ใบหน้าหวานหันมองไปทิศหนึ่ง ปรากฏลานว่างซึ่งอยู่ไกลออกไป...จัตุรัสกลางที่ยามนี้ร้างผู้คน


    นี่มันผ่านไปกี่ชม.หลังจากที่เราโดนจับ.. แล้วอีกนานแค่ไหนที่ต้องวิ่งหนีล่ะเนี่ย


    สิ่งที่เขารู้คือรัตติกาลกลืนกินน่านฟ้าแล้ว


    เนลล่าครางในลำคอ พยายามลุกขึ้นพร้อมทบทวนเวลาที่ผ่านไป..สถานที่หลังประตูนั่นคืออะไร เด็กคนที่มีสีผมและสีดวงตาเหมือนเขาราวกับแกะคือใคร..คำพูดของเด็กคนนั้น..ที่บอกว่ายังไม่ถึงเวลา..แล้ว


    ฮากาลาซ...คืออะไร?


    ไม่ทันที่ความคิดของเด็กหนุ่มจะแล่นต่อไป กลิ่นที่เขาคุ้นเคยมาทั้งชีวิตก็ลอยโชยมา


    สิ่งมีชีวิตบนโลกทุกชนิดบนโลกต่างประกอบด้วยร่างกายและวิญญาณ วิญญาณนั้นประกอบด้วย จิต และความตาย


    ความตายคือเมล็ดพันธุ์ซึ่งก่อกำเนิดขึ้นพร้อมชีวิตของมนุษย์ เจริญเติบโตควบคู่ไปกับวิญญาณและร่างกายที่ผสานกัน กระทั่งเมื่อถึงเวลาที่ความตายเริ่มผลิดอก วิญญาณกับร่างกายจะถูกแยกออกจากกันโดยความตายที่ผลิบาน ...แล้วความตายซึ่งผลิบานก็จะเกาะเกี่ยววิญญาณไว้และถูกยมทูตเก็บเกี่ยวไปสู่นรกภูมิ
    เพื่อรอการกำเนิดใหม่อีกครา ความตายที่ผลิดอกแล้วจะสลายไป ก่อนจะเกิดขึ้นใหม่ยามวิญญาณนั้นต้องไปเกิดในชาติภพถัดไป


    ..เหล่าผู้พรากความตายจะกลืนกินความตายก่อนที่มันจะผลิดอก เมื่อความตายถูกพรากไป วิญญาณจึงผสานเข้ากับร่างกายอย่างถาวร และเมื่อไม่มีความตายช่วยแยกวิญญาณและร่างกายออกจากกันอีกต่อไป..ชีวิตของคนคนนั้นจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอีกต่อไป...หรือที่เรียกว่าเป็นอมตะนั่นเอง..


    และ..ตอนนี้...เขา..ได้กลิ่นของความตายที่ใกล้ออกดอกกับ...เลือด
    !!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×