ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Baramos]Reflection

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ : การจากไปของเงาเหมันต์

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 50




    ท่านแม่เพคะ...


    เหตุใดจึงไม่เคยโปรดหญิง...


    เหตุใดจึงรังเกียจ...จึงไม่ต้องการจะมองหญิง...


    เหตุใด..ถึงหลั่งรินน้ำจากดวงเนตรทุกคราที่มองหญิง...


    หรือเพราะหญิงเป็นสตรี...


    หรือเพราะหญิงมีดวงตาสีน้ำเงินเข้ม....ที่ไม่เหมือนท่านแม่...


    หรือจริงๆแล้วนั้น....ท่านแม่...เกลียดหญิง..


    ไม่แม้แต่อยากจะมองหน้า..


    ไม่แม้แต่อยากจะรับรู้ถึงการคงอยู่...


    หากเป็นเช่นนั้นแล้ว..


    ..จะทรงให้หม่อมฉันเกิดมาทำไม..










    เสียงเพลงกังวานก้องดังมาจากปราสาทแห่งสโนว์แลนด์....


    ท่ามกลางหิมะที่ร่วงโรยลงมาอย่างบางเบา...เสียงเพลงหวานแว่วได้ขับกล่อมให้ภูตพรายแห่งสโนว์แลนด์ทุกตนหลับใหล..เพื่อช่วงเวลาอันสวยงามในวันพรุ่ง... ก่อนจะหยุดลงพาให้เหล่าพรายร้องอื้ออึง


    .......เจ้าหญิงเป็นอะไรไปเพคะ...ทั้งๆที่เพลงยังไม่จบ?หญิงสาวเอ่ยถามเสียงนุ่มนวล เมื่อเห็นเจ้าหญิงพระองค์น้อยของหล่อนหยุดเสียงไป เหนื่อยหรือเพคะ?


    คอแห้งนะค่ะ ขอน้ำหน่อยได้ไหมเด็กหญิงวัยสิบขวบเอ่ยอย่างอ่อนหวานและสุภาพ ก่อนจะพึมพำขอบคุณเมื่อได้รับแก้วน้ำมา .....นี่..คุณโซเน่...


    คะ? เจ้าหญิง


    ทำไมท่านแม่ถึงเกลียดฉันล่ะ....? แล้วท่านพ่อล่ะ? ทำไมไม่มาอยู่ด้วยกันเด็กหญิงเอ่ยอย่างไม่เข้าใจ....ทุกวันคืนที่เธอไปหาท่านแม่ ท่านร่ำไห้ทุกครั้ง...ดวงตาสีฟ้าสวยที่มองมานั้นปวดร้าว...จนเธอไม่กล้าจะเข้าใกล้มารดา...


    กลัว...ว่าหากไปอยู่ด้วย....


    จะทรงกรรแสง....จะทรงโศกพระทัย..เมื่อเห็นหน้าของเธอ


    ไม่หรอกเพคะ..อย่าทรงคิดมากเลย ขับขานต่อเถิด...เพคะ..จะได้บรรทมเสียที..โซเนร่าเอ่ย แม้จะสงสารเด็กหญิงผมขาวผู้นี้มากมายเหลือเกิน..


    ทำไมถึงทรงชังได้ลงคอหนอ...เจ้าหญิงแห่งสโนว์แลนด์...ราชินีแห่งคาโนวาล


    ทั้งๆที่....ทรงเป็นเด็กหญิงที่แสนน่ารักถึงเพียงนี้


    ดูเหมือนว่าคำปลอบจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เจ้าหญิงองค์น้อยยิ้มเศร้าๆ..ก่อนจะเอ่ยขึ้น


    ......ฉันจะร้องเพลงต่อแล้วล่ะ...

     

              'เหล่าพรายแห่งเหมันต์เอ๋ย..จงฟัง

    เพลงกล่อมขับขานยามค่ำคืน...แว่วหวาน..

    จงหลับใหลพักผ่อนเพื่อ...คืนวัน...

    พรุ่งนี้เจ้าจักกล่อม..เหมันต์...โปรยปราย...

    หิมะสีขาวคือ...ตัวเรา...

    กลบสิ้นซึ่งสีสัน...ทวยเทพ....

    เหมันต์แย้มเยือน...กระซิบแผ่ว...

    ขับกล่อมมนตรา..พาให้..หลับใหล...

    จงฟังเถิด..ถ้อยคำอันพิสุทธิ์...

    ยามค่ำคืนหนาวเหน็บ...สอดแทรก..อ่อนหวาน..

    เราจักปล่อยวาง....สู่ท่าน...ราตรี...

    หลับใหลเถิดหมู่เรา...เหล่าราษ...เหมันต์'



    สิ้นเพลง เด็กหญิงก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ข้างหน้าต่างซึ่งหิมะโปรยปราย พลางหันมองไปทางพระพี่เลี้ยงซึ่งหลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


    เด็กหญิงนั่งลงที่เดิม ก่อนจะหันมองไปเบื้องนอก...ที่ซึ่งหิมะกำลังโปรยปราย...


    แล้วเด็กหญิงก็หลับใหลไป.....


    …….เสียงเพลงจากเบื้องนอกดังแว่วมา...



                'หลับเถิด..รานีแห่งเหล่าข้า..

    มนตรา...ที่ขับขานช่าง..หวานซึ้ง..

    หลับเถิด..องค์รานี...เหมันต์..

    เช้ารุ่งนั้น..เราจักขาน..รับอรุณ..'





    ไม่มีใครรู้ว่าเหล่าราษเหมันต์ร้องให้กับใคร...แต่...


    ...ก็ช่างเป็นบทเพลงที่งดงาม...






    รุ่งอรุณยามเช้าทักทายดินแดนสีขาว..เด็กหญิงผู้หลับไหลบนที่นั่งลุกขึ้น ก่อนจะหันไปทางพระพี่เลี้ยงที่ดูจะยังไม่ตื่นนอน


    เด็กหญิงยิ้มอย่างเอ็นดู ก่อนจะสะบัดเรือนผมสีขาวพร้อมกระโดดลิ่วลงสู่เบื้องล่างโดยไม่กลัวระดับความสูงจะพื้นดิน


    ตุบ...


    เสียงเท้าสัมผัสกับพื้นหิมะดังแผ่ว ก่อนเด็กสาวจะวิ่งออกไป...เพื่อทักทายเหล่าพรายเหมันต์ที่ตื่นขึ้นจากการหลับไหล..ก่อนจะขับขานบทเพลงรื่นเริง..






               'ตื่นเถิด..ตื่นขึ้น..รับอรุณ..

    เหล่าพราย..หิมะ..สีขาว..

    สุริยัน..เฉิดฉาย..ส่องประกาย..

    รับหมู่เรา...สะท้อนแสง..นิรันดร์งาม.....'






    ......ใครน่ะ!!”ดวงตาสีแซฟไฟร์ที่เคยฉายแววอ่อนหวานแข็งกร้าวทันทีเมื่อรับรู้ถึงการคงอยู่ของใครอีกคน เด็กหญิงหันมองร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างต้นไม้


    ...ขอโทษ...เด็กชายเอ่ยเสียงเรียบ ดวงตาสีฟ้าเย็นชามองมาที่เด็กหญิง เห็นว่าสวยดีเลยเผลอมอง...แล้วเพลงก็เพราะด้วย....


    ......ขอบคุณ....เด็กหญิงเอ่ยพลางยิ้มให้......ไม่มากนักที่ชาวสโนว์แลนด์จะเอ่ยชมเพลงประหลาดๆของเธอ ฉันชื่อ เซโรเน่ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ


    ไม่มีนามสกุลหรือ?....เด็กชายเอ่ยถามพลางขมวดคิ้ว


    ฮื่อ...ไม่มี...เพราะเสด็จแม่ไม่เคยบอก....และคนในปราสาทก็ไม่มีใครบอก...


    อืม..โอเค..เซโรเน่สินะ...ฉันชื่อ...


    คาโลลูก! มาแล้วทำไมไม่บอกแม่!”


    ท่านแม่..สวัสดีครับ ยังสบายดีอยู่หรือเปล่าเด็กชายโค้งคำนับมารดา ส่วนเซโรเน่เบิกตากว้างอย่างตกใจ


    .....เพราะมารดาของคนตรงหน้า..ก็คือแม่ของเธอ


    ท่าน...แม่..


    คนนี้ใคร...?


    ลำคอแห้งผาก....เกินกว่าจะเอ่ยไป...


    ท่านแม่ครับ...เซโรเน่เป็นใครหรือครับ?เด็กชายเอ่ยพลางชี้ไปทางเซโรเน่ซึ่งยืนนิ่ง หญิงสาวเงยมอง ก่อนจะเอ่ยดวยน้ำเสียงกระด้างเย็นชา


    เด็กแถวนี้น่ะ คาโล อย่าสนใจเลย ขึ้นปราสาทเถอะหญิงสาวเอ่ยพลางอุ้มร่างของคาโลขึ้น เด็หชายหวนมองเซโรเน่ ก่อนจะตะโกนเอ่ยชื่อขงตน


    ฉันชื่อคาโล! คาโล วาเนบลี เดอะ ปรินซ์ ออฟ คาโนวาล!!”เด็กชายตะโกน หวังว่าคงได้พบกันอีกนะ


    เด็กหญิงยืนนิ่ง..แต่ไม่ลืมที่จะยิ้มแห้งๆให้...


    คาโล...วาเนบลี...


    ทั้งยังเป็น..ลูกของท่านแม่....พี่น้องของเธอ..


    หมายความว่ายังไง..


    เธอเป็นลูก..ที่ท่านแม่ไม่ต้องการหรือ...?


    ท่านเซโรเน่เพคะ...


    โซเนร่า.....เด็กหญิงพึมพำเสียงแห้งผาก ฉันเป็นใครกันแน่..?


    บุตรีของเจ้าหญิงแห่งสโนว์แลนด์ไงเพคะ?


    ใม่ใช่!”เจ้าหญิงองค์น้อยตะโกน ได้โปรด..บอกความจริง....โซเน่...นะ...


    โซเนร่ากระอักกระอ่วมจะเอ่ย..แต่ก็ตัดใจพูดออกไป..


    .....เจ้าหญิง..เป็น..พระธิดาของราชาแห่งคาโนวาลเพคะ...มีศักดิ์เป็นน้องสาวของเจ้าชายคาโล....เจ้าชายองค์เมื่อครู่...


    ความจริงนี้ทำให้ใจหล่นวูบ...


    เธออยากรู้สาเหตุที่ท่านแม่ไม่เหลียวแล...


    และตอนนี้รู้แล้ว..

    จริงๆแล้ว...ท่านพ่อ...พระองค์คงรังเกียจเธอ..มาก...และมาก..


    กระทั่งไม่อยากให้เธอใช้นามสกุลของท่านพ่อ....สกุลวาเนบลี....


    ไม่แม้แต่จะยอมรับให้เป็นบุตรี....


    ดังนั้น...


    เสด็จแม่จึง........















    ในค่ำคืนนั้นมีการจัดงานเลี้ยงวันเกิดของเจ้าชายคาโล....และเหมือนทุกครั้ง...เด็กหญิงไม่เคยได้รับอนุญาติให้เข้าไปในงานรื่นเริง...


    และเหมือนเช่นทุกครั้ง..ที่เด็กหญิงจะเหม่อมองออกไปข้างนอก....


    แต่ครั้งนี้ต่างกัน..


    วันเกิดของเธอเมื่อเดือนก่อน...แม้แต่คำอวยพรวักคำยังไม่มี...


    เป็นแค่หนึ่งวันในดินแดนอันหนาวเหน็บ...


    เจ็บ..เสียยิงกว่าเจ็บ..เมื่อได้รู้ว่า...


    ตัวตนนี้ไม่คยมีค่าสำหรับใคร..


    แม้กระทั่งผู้ให้กำเนิด..


    หากเป็นเช่นนั้นแล้ว...


    ชีวิตนี้....


    จะมีอยู่ต่อไปทำไม...






    ในค่ำคืนนั้น..โซเนร่าพบเพียงจดหมายฉบับเดียว...






    'แม้ยามจากจร...จะไม่ขอทิ้งอะไรให้มารดาและบิดาช้ำใจ...

    ขอฝากเพียงบทกลอนถึงเหล่าเหมันต์ที่รัก..

     

     

            เหล่าราษ...เหมันต์...แห่งข้าเอ๋ย..

    คงจักขอ......พรากลา..กันเพียงนี้..

    วันหนึ่ง...หากดีพอ....จะกลับมา...

    จากจรกัน...วันนี้..เพียงชั่วคราว...

     

    เซโรเน่...'

    ไม่แม้แต่จะเขียนสกุลที่ควรได้รับ...เขียนเพียงชื่อให้รับรู้...


    หลักฐานที่บ่งบอกว่า..จักขอตัดขาดกันเพียงนี้...

     

    และในค่ำคืนนั้น....เหล่าพรายเหมันต์ต่างร้องครวญ...


    ...ถึงเด็กสาวที่จากจรไป...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×