ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hagalaz..ผนึกรัตติกาล

    ลำดับตอนที่ #9 : ผนึกที่ 8 : คดีที่สี่

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 54


    ผนึกที่ 8 : คดีที่สี่

    บรรยากาศทะมึนโรยตัวไปทั่วห้องอาหารซึ่งมีเพียงบุคคลสี่คนที่นั่งอยู่ในนั้น

    เสียงของมีด ส้อม และช้อนที่สัมผัสจานกระเบื้องเงาสวยซึ่งมีรูปสลักประณีตนั้นดังสะท้อนก้องไปมาในความเงียบงันของห้องกว้างซึ่งไร้การพูดคุยติดต่อสัมพันธ์ ทิ้งความอึดอัดอันอธิบายไม่ได้ให้ผู้มาใหม่สองคน โดยเฉพาะเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีขาวเหลือบม่วงที่กำลังนั่งกล้ำกลืนอาหารเข้าไปอย่างลำบากยากเย็น

    เนลล่าถอนหายใจแผ่วเบาอย่างที่มีเพียงผู้กระทำเท่านั้นที่ได้ยิน ก่อนจะอ้าปากงับช้อนทองเหลืองแสนแพงที่มีอาหารอยู่เข้าปากไป รสชาติอาหารนั้นเลิศรสเป็นแน่แท้ หากแต่น่าเสียดายที่อารมณ์ของเขาตอนนี้ทำให้ประสาทสัมผัสรู้รสพลันชาด้านไปอย่างง่ายดาย เสียงถอนหายใจดังแผ่วขึ้นอีกครา ดวงตามองไปยังอีกสามร่างซึ่งนั่งอยู่ห่างกันไปรอบโต๊ะยาวเหยียดซึ่งแทบจะนั่งกันได้สิบกว่าคน

    สองร่างที่เป็นเจ้าของบ้านนั้นอยู่ในชุดเสื้อสีขาวเนื้อดีแขนยาว ต่างฝ่ายต่างไม่พูดไม่จาทั้งที่เป็นพี่น้องกัน แต่วิธีการทานอาหารก็ดูมีมารยาทและสง่างามอย่างที่คนติดดินอย่างเนลล่ารู้สึกเกร็ง พอมองกลับมาข้างๆกายก็เป็นอิลเวสที่กำลังกินข้าวเงียบๆโดยไม่สนใจใครอย่างที่เรียกว่าเข้ากับนิสัยของตนเอง เพราะแต่ไหนแต่ไรชายหนุ่มก็ไม่ชอบพูดคุยกับใครอยู่แล้วนอกจากจะเป็นคนที่สนิทกันจริงๆ และในสถานการณ์เช่นนี้ก็คงจะไม่มีเรื่องคุยด้วย และด้วยความเงียบที่ไร้ผู้ปริปากนี้เอง จึงทำให้ตอนนี้..บางทีอาจจะเหลือแค่เนลล่าคนเดียวที่รู้สึกอึดอัดใจกับความเงียบตามประสาคนธรรมดาที่ยังมีความต้องการสื่อสัมพันธ์กับคนรอบกาย

    ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมต้องทนนั่งกินกันในที่ที่เงียบแล้วก็กว้างแบบนี้ด้วย..หาที่กินข้าวใหม่มันยากนักรึไงนะ เปลี่ยนโต๊ะให้เล็กลงก็ยังดี หรือมันเป็นเรื่องธรรมดาของคนรวยที่จะต้องนั่งกินข้าวบนโต๊ะยาวๆใหญ่ๆด้วยจำนวนคนที่น้อยกว่าขนาดกว่าครึ่งกัน?

    แต่ด้วยเหตุผลเช่นนี้เองจึงทำให้เนลล่ารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ดันเห็นแก่ดวงตาที่สื่อถึงความเหงาของรีเรท จนตัวเองต้องมาทนกลืนกินอาหารในสภาพที่ชวนอึดอัดเช่นนี้ แทนที่จะไปนั่งกินสบายๆข้างนอกแล้วปรึกษาหารือเรื่องการขโมยข้อมูลของคดีกับอิลเวสต่อ..

    พวกเขาตัดสินใจไว้แล้วว่าแทนที่จะไปเดินถามชาวบ้านทีละคนอย่างที่เคยทำเวลาหาข่าวเรื่องตำนาน น่าจะลองขอข้อมูลคดีจากบรรดาทหารในเมืองเอาโดยตรงเสียเลย น่าจะได้ข้อมูลที่ละเอียดและสะดวกรวดเร็วกว่า เพราะต่อให้ถามชาวบ้านจนครบทุกคนสิ่งที่ได้มาก็คงมีแค่พยานกับสภาพที่เห็นจากตา ไม่ละเอียดอย่างบันทึกคดี.. ซึ่งอิลเวสก็ได้คาดการณ์ไว้แล้วชนิดที่เดาไว้ตั้งแต่ยังไม่ถามว่าบรรดาทหารรักษาการณ์จะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลลับอย่างข้อมูลของคดีฆาตกรรมให้ประชาชนทั่วไปโดนเฉพาะนักเดินทางที่อาจเอาไปลือผิดๆจนเมืองเสียหายได้ทราบเป็นแน่นอน

    ดังนั้นแล้ว ก่อนอื่นก็คงต้องหาข้อมูลเรื่องสถานที่ทำงานของบรรดาทหารและสถานที่เก็บข้อมูลทางราชการ ตรวจสอบสถานที่ว่ามีส่วนใดพอจะเล็ดรอดเข้าไปได้ ...อย่างไรก็คงจะต้องเดินถามชาวบ้านอยู่ดี แต่นั่นเพื่อหาข้อมูลที่ทางทหารไม่มีไปด้วย

    แต่ยังไม่ทันได้คุยหรือตกลงอะไรกันก็โดนลากมาทานอาหารซะแล้ว

    เนลล่าคิดขณะตักอาหารเข้าปากอีกคำโดยที่ไม่อาจรับรู้ถึงรสชาติใดใดได้ รีเรทที่เห็นสภาพเบื่อหน่ายตายซากของเนลล่ามาตลอดเริ่มเป็นห่วงขึ้นมา เสียงทุ้มแหบออกหวานจึงเอ่ยถามด้วยความห่วงใย

    ดูคุณเหนื่อยๆเกร็งๆนะครับ เนล เป็นอะไรรึเปล่าครับสิ้นคำถามนั้นเนลล่าก็พลันสะดุ้งเฮือกขึ้นมา สองมือลนลานหาข้อแก้ตัวกระทั่งหาคำพูดดีๆขึ้นมาได้

    ไม่มีอะไรหรอกฮะ แค่ไม่ค่อยชินกับอาหารหรูๆเท่านั้นเอง

    แค่ไม่ชินกับของหรูๆเพราะอยู่อย่างยาจกมาตลอดล่ะมั้ง?”

    เสียงนั้นดึงให้สายตาอีกสามคู่หันไป ชายเจ้าของเรือนผมสีทองตักอาหารเข้าปากแล้วยิ้มย่องราวกับตนไม่ได้พูดอะไรออกไป แม้ว่าดวงตาสีฟ้าครามจะมองมาที่เนลล่าด้วยแววตาเย้ยหยันดูถูกก็ตาม

    แขวะเก่งแฮะ

    เนลล่าคิดพลางมองชายหนุ่มร่างบาง มือยังคงตักอาหารเข้าปากต่อไปแม้จะรู้ว่าชักไม่รู้รสมากขึ้นทุกที ตัดสินใจที่จะไม่สนการกระทำของเจ้าตัว แต่แล้วสายตาก็พลันมองไปเห็นรีเรทที่ขมวดคิ้วไม่พอใจและเตรียมจะอ้าปากเถียงกลับใส่พี่ชายตัวเอง เจ้าของเนตรทับทิมขมวดคิ้ว ถอนหายใจยาวแล้วพูดออกไปก่อนที่รีเรทจะกล่าวบางอย่างออกมา


    ไม่ใช่ว่าผมไม่ชินกับอาหารหรูๆหรอกครับ ของแบบนี้ถ้าพักในโรงแรมดีๆเขาก็จัดมาให้  เพียงแต่ผมได้ยินมาว่า การทานอาหารโดยเฉพาะช่วงเย็นเนี่ยเป็นโอกาสที่คนในบ้านจะได้พูดจาปราศรัยกัน..ผมก็เลยรู้สึกไม่อยากอาหารขึ้นมาเพราะความไร้มนุษย์สัมพันธ์ของคุณน่ะครับ..โอ๊ะ หรือถ้าเพราะผมมานั่งทานแล้วคุณคุยไม่ออกก็ขออภัยแล้วกันนะครับ ขอโทษที่เสียมารยาท

    ...จะให้ผมลุกไปจากโต๊ะเลยดีไหมครับ?”


    ยิ้มบางให้แก่บุรุษร่างบางผู้มีศักดิ์เป็นพี่คนโตของตระกูลเฟรริดส์ เอียงคอให้นิดๆราวต้องการยั่วยุอารมณ์ของอีกฝ่าย อิลเวสที่เห็นแบบนั้นหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ส่วยทางรีเรทก็เบิกตาอึ้งไป ..ดูเหมือนจะมีเพียงแค่เอลส์คนดีที่เลือดจากร่างกายทุกส่วนพลันขึ้นมาอยู่บนใบหน้าจะแดงเรื่อเพราะความโกรธา

    นายกำลังจะบอกว่าฉันไร้มนุษยสัมพันธ์รึไง!?”

    ใครรับไปคนนั้นก็เป็นอย่างที่เขารับนะครับ

    อาศัยบ้านคนอื่นเขาอยู่แล้วยังจะมีหน้าพูดแบบนี้อีกเหรอ!!

    ยืนขึ้น ตวาดใส่ด้วยแรงโมโห ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยไฟโกรธา

    พี่เอลส์! หยุดนะครับ!!

    “..ใช่ครับ ตอนนี้ผมอาศัยบ้านคุณ และกำลังทำความดีด้วยการสอนให้คุณรู้จักหัดอดกลั้นความเอาแต่ใจตัวเองบ้างไงล่ะครับ?”เนลล่าตอกกลับโดยไม่สนว่ารีเรทกำลังพยายามห้ามพี่ชายตัวเองอยู่ ไม่สนอิลเวสที่มองมาด้วยแววตาสนุกสนาน มือเรียวท้าวคางมองพร้อมแย้มยิ้มใสซื่อ เห็นเช่นนั้น เอลส์ก็ชักสีหน้าแล้วตวาดเถียงกลับอย่างรวดเร็ว

    นี่ถ้าไม่ใช่เพราะรีทล่ะก็ฉันไม่ให้นายเข้ามาเหยียบในบ้านของฉันหรอกนะ สำนึกบุญคุณซะบ้าง!

    ถ้าไม่พอใจล่ะก็จะให้ผมออกไปก็ได้ครับ แค่หาโรงแรมพักนะไม่ใช่เรื่องยาก แต่คุณควรจะรู้ว่าการดูถูกคนอื่นและการทำอะไรตามใจตัวเองโดยไม่คิดถึงคนอื่นน่ะมีแต่จะทำให้คุณถูกเกลียดและดูไร้ค่าในสายตาคนอื่นมากขึ้น แบบนี้คนอื่นเขาจะระอาคุณจนไม่กล้าเข้าใกล้นะครับ?”

    เอลส์...

    ถ้าไม่หัดควบคุมอารมณ์ของตัวเองล่ะก็ จะไม่มีใครคบนะรู้ไหม?’


    เสียงในความทรงจำพลันลอยมา...ส่งผลให้เอลส์ยิ่งโกรธขึ้งมากกว่าเดิม

    หุบปาก!!

    อิ่มแล้วล่ะครับ ขอตัวนะฮะเนลล่ากล่าวแล้ววางรวบช้อนส้อมทั้งหมด ก่อนจะลุกแล้วก้าวเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันหลังกลับมา

    แกร่ก

    ....

    ..
    .

    “...........................................”

    เนลล่ายืนพิงหลังให้กับประตูหลังจากที่ปิดมันลงอย่างสนิท ดวงตาเลื่อนลอยมองไปมา ก่อนที่จะ...

    พั่บ!

    นี่ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย...?”

    เด็กหนุ่มรูดกายลงพิงกับประตูห้องแล้วนั่งถามตัวเองหลังปะทะฝีปากกับเฟรริดส์คนพี่ไป ตอนแรกเขาแค่จะทำให้เอลส์ชะงักฝีปากไปแค่นิดเดียวเพราะกลัวพี่น้องจะทะเลาะกัน แต่ไปๆมาๆดันพูดจาซะดุเด็ดเผ็ดมันไปได้ แถมคนที่ว่ายังเป็นพี่ชายของคนที่อุตส่าห์ใจดีให้อยู่พักฟรีๆในบ้านหรูอีกต่างหาก ไม่โดนไล่ออกจากบ้านก็ให้มันรู้ไปสิ

    แย่ชะมัดเลยแฮะ ถึงปากจะพูดว่าเดี๋ยวไปเช่าโรงแรมเอง แต่เงินน่ะชักไม่มีแล้วนา...

    แต่...

    คิก...

    เสียงหัวเราะแผ่วเบาดังออกมา ดวงตาสีทับทิมทอแสงอ่อนลง

    ก็ไม่ได้พูดอะไรสะใจแบบนี้มานานแล้วล่ะนะ..

    ถอนหายใจ ยิ้มให้ตัวเองทั้งที่ไม่ควร ก่อนจะเดินกลับห้องไป

    ++++++

    วกกลับไปที่สถานการณ์ภายในห้องที่ดูจะไม่เหมือนเก่าแต่ก็ไม่ได้ดีกว่าเดิม

    ตอนนี้ดูเหมือนอีกสามคนที่เหลือจะไม่มีอารมณ์ทานอาหารกันแล้ว บรรดาอาหารที่เรียงรายบนจานจึงถุกเมินเฉยอย่างน่าสงสาร แต่ด้วยอารมณ์ที่ต่างจากเดิมด้วยฝีมือของคนที่ออกจากห้องไป ดูจะส่งผลให้คนหนึ่งยิ้มพอใจไปพลาง หัวเราะในลำคอไปพลาง คนนึงดูจะอึ้งจนนิ่งไป และอีกคนก็โกรธาหงุดหงิดใจ

    ก่อนเสียงเลื่อนเก้าอี้จะดังขึ้น

    “....ขอโทษแทนเนลล่าก็แล้วกัน เด็กคนนั้นไม่ได้มีเจตนาร้ายหรอกอิลเวสกล่าวขึ้น รอยยิ้มบังประดับบนใบหน้าคม ก่อนจะลุกขึ้นยืนขอบคุณสำหรับอาหาร...

    รีเรทที่ได้สติรีบพูดตอบทันที

    อะ..ไม่เป็นไรครับ แล้วก็ทางนี้เองก็ต้องขอโทษที่ตอนแรกพี่ชายไปพูดจาแบบนั้นก่อนนะครับรีเรทเอ่ยแล้วโค้งให้อย่างมีมารยาท ขณะที่เอลส์ยังคงนั่งขมวดคิ้วหงุดหงิดอยู่ ชายหนุ่มร่างสูงหรีตามอง ก่อนจะถอนหายใจยาวเพราะไม่อยากจะเข้ามายุ่งอีกต่อไป

    ถ้าเรื่องไม่จบก็ไปเคลียร์เองแล้วกัน....อิลเวสว่าก่อนจะเดินไปทางประตู แต่แล้วก็ถูกเรียกเอาไว้ในขณะมี่มือกำลังจะสัมผัสกับลูกบิดประตู

    พี่ชายหัวน้ำเงิน!!

    “......ฉันชื่ออิลเวส ลินสแตรงก์ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินหันมาเอ่ยด้วยใบหน้าราบเรียบ หากเนตรสีทองกำลังลุกโชติช่วงด้วยความโกรธา

    ก็พี่ชายไม่บอกชื่อฉันเองนี่??”เอลส์กล่าวกวนประสาทแม้ใบหน้าจะยังบึ้งอยู่ สองแขนกอดอก เนตรฟ้าครามมองไปยังชายร่างสูงที่คิ้วเรียวชักจะผูกกันเป็นโบ

    คนที่ไม่ถามมันทางนั้นไม่ใช่หรือไงเอ่ยตามความจริง เพราะหลังจากที่อนุญาตให้เข้าบ้านมาชายหนุ่มร่างบางคนนี้ก็หายหน้าไปในทันที เหลือแต่เฟรริดส์คนน้องที่เข้ามาถามไถ่ชื่อและของจิปาถะอื่นๆเพื่อจัดเตรียมห้องให้ตามที่ต้องการ

    เอลส์ถอนหายใจยาว สะบัดหน้าไปทางอื่น ก่อนจะพึมพำออกมา

    “..ฝากบอกเจ้าหงอกด้วยว่า ฉันไม่ได้ไล่มันออกจากบ้าน แต่ถ้าพูดจาแบบนี้อีกก็ไม่แน่

    อิลเวสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกระตุกมุมริมฝีปาก มองใบหน้าของคนที่เขาคงต้องเริ่มมองใหม่ แล้วกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบโทนเดิม“..หึ..แล้วจะบอกให้




    แอ๊ด...ปึง

    หลังจากที่อิลเวสออกไปแล้วก็เหลือเพียงสองพี่น้องในห้องอาหารกว้างอันเงียบงัน รีเรทถอนหายใจยาว ก่อนจะหันไปหาพี่ชายของตน “...อันที่จริง ผมก็เข้าใจว่าเขาพูดแรงไป..เนลน่ะ แต่พี่เองก็ไปพูดแบบนั้นก่อนนะครับ

    ก็แล้วไง พี่ก็ทำของพี่ประจำอยู่แล้วนี่พูดแล้วท้าวคางกับแขนข้างขวา ขณะข้างที่เหลือนั่งลูบแก้วไวน์เล่น อีกอย่าง พี่ก็ไม่ได้อนุญาตให้เด็กนั่นเข้ามาในบ้านแต่แรกแล้ว

    พี่ครับ!

    พี่ก็ไม่ได้ไล่มันออกซะหน่อยพูดออกเชิงไม่พอใจ รีเรทมองพี่ชายตน ก่อนจะถอนหายใจยาว

    “..พี่เอลส์เอ่ยนามของพี่ชายตน หันมองออกไปที่ท้องฟ้าทำให้คิดถึงนะฮะ?”

    ตึง!

    ฝ่ามือเรียวเล็กตบลงบนโต๊ะไม้ ใบหน้าที่กำลังเริ่มผ่อนคลายพลันเคร่งเครียดโกรธขึ้งขึ้นมาทันที

    “..ไม่ต้องพูดอะไรออกมาเลยนะ รีท

    “...งั้นผมขอตัวนะครับ พี่เอ่ยขึ้น มองใบหน้าของเอลส์อย่างไม่สบายใจ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป

    เอลส์ อย่ามัวแต่ลอยไปลอยมาแบบนี้สิ
    ไม่งั้นจะมีเรื่องวุ่นๆเข้ามาหาเธอนะ?’


    ++++++

    แอ๊ด..

    เนลล่า เจ้าเฟรริดส์คนพี่ฝากมาบอกว่า..

    ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ชะงักคำพูดไปเมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ผิดปรกติ ร่างสูงก้าวเดินเข้ามาในห้องกว้างที่เขาอาศัยพักพิงอยู่ เนตรคมสีทองมองไปทั่วห้องที่เงียบงัน ไร้ซึ่งกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตในห้องกว้าง ภายในมืดสนิท จะมีก็เพียงแสงจันทร์ที่ทอประกายบ่งบอกถึงยามค่ำคืนที่มาเยือน

    ชายหนุ่มกุมขมับ รู้สึกปวดหัวตุบๆขึ้นมาทันที

    เนลล่า...หายไปไหนอีกแล้วเนี่ย!!





    ซู้ด....

    ฮ่า..


    เฮ่อ..ลมพัดเย็นสบายดีจังน้า


    เนลล่าพึมพำขณะนั่งอยู่บนหลังคาบ้านของใครซักคน มือเรียวบางท้าวกับกระเบื้องสีน้ำตาลแดงแล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเหนือตัวเองขึ้นไป สายลมพัดกรูหอบกลิ่นน้ำให้ลอยขึ้นมาตามลม เรือนผมสีขาวเหลือบม่วงพลันพลิ้วไสวจนยุ่งเหยิงด้วยความแรงของลมในที่สูง ก่อนที่ร่างแบบบางจะลุกขึ้นยืน ทอดมองไปยังจันทราดวงโตที่สุกสกาวท่ามกลางนภาสีนิล

    เนลล่ามองดวงจันทร์ดวงนั้นแล้วพลันนึกถึงเนตรสีทองขึ้นมา เด็กหนุ่มถอนหายใจยาว เสมองไปทางอื่น ปล่อยความคิดของตนให้ลอยไปตามกระแสลม

    ดันหุนหันพลันแล่นออกมาจากคฤหาสน์ซะแล้ว..

    อันที่จริงเขารู้ดีว่าถึงเอลส์จะอยากไล่เขาออกจากคฤหาสน์ให้ได้ แต่รีทก็คงจะพยายามทำให้เขาได้พักอยู่ต่อไป และแม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะนั่งรู้สึกผิดหลังจากที่พูดจาแรงๆแบบนั้นไป ถึงจะเพื่อตอกกลับอีกฝ่ายก็ตามที แต่ก็เป็นคำที่ค่อนข้างแรงพอควร ตัวเขาเองก็ใช่ว่าจะรู้จักเอลส์เสียทีไหน..ก็พียงแต่จู่ๆปากมันก็พลั้งบ่นออกไป..

    ..พรุ่งนี้ค่อยไปขอโทษดีกว่ามั้ง?



    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    เฮือก!

    เด็กหนุ่มสะดุ้งขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องดังต้องโสตประสาท เสียงร้องโหยหวนนั้นยังคงดังต่อไปจนน่าสงสัยว่าทำไมจึงไม่มีเสียงแตกตื่นของผู้คนที่ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา เด็กหนุ่มร่างบางหันมองไปรอบกาย พยายามพิจารณาว่าเสียงกรีดร้องนั้นดังมาจากทางไหน

    “…ทิศตะวันตก..พึมพำ ก่อนจะกระโดดจากหลังคาบ้านหนึ่งไปอีกหลังหนึ่งทันที โชคดีที่ถึงแม้ว่าจะมีทางสัญจรกั้นระหว่างกันแต่ระยะห่างระหว่างหลังคาบ้านแต่ละบ้านค่อนข้างที่จะใกล้กันพอสมควร เนลล่าจึงสามารถกระโดดเหยียบย่างหลังคาบ้านในการเดินทางไปยังจุดหมายได้ แต่ละย่างก้าวที่สัมผัสกระเบื้องนั้นเงียบกริบประดุจดั่งนักล่ายามราตรี เรือนผมสีขาวเหลือบม่วงพลิ้วไหวสะท้อนแสงจันทร์ เสื้อตัวนอกสีขาวสะท้อนกับแสงจันทร์ดูโดดเด่นท่ามกลางสีรัตติกาลของค่ำคืนจันทร์เต็มดวง

    ตึก...

    เสียงรองเท้าหนังสีดำสัมผัสลงบนหลังคาบ้าน เสียงหอบหายใจดังขึ้นหลังจากที่เนลล่าวิ่งมาไกล นึกไม่ถึงว่าหูตัวเองจะดีถึงขนาดได้ยินเสียงจากที่ที่ไกลถึงขนาดนี้ ก่อนที่คิ้วเรียวบางจะพลันขมวดมุ่นเข้าหากัน

    ..กลิ่นของเลือด แถมยังไม่ใช่น้อยๆเสียด้วย แล้วนี่มันก็...

    เขตถนนเลดเซ...ถนนที่เกิดคดี

    เด็กหนุ่มรำพึงในใจ มองลงไปในซอกระหว่างบ้านที่กว้างพอแค่ให้คนสองคนวิ่งผ่าน ริมฝีปากบางขบแน่นกังวลกับกลิ่นเลือด แต่ก็กระโดดลงไปยังที่มาของเสียงกรีดร้องที่หายไปและแทนที่ด้วยกลิ่นเลือดที่โชยแรง

    จ๋อม..

    เสียงของเหลวที่เจิ่งนองกระเพื่อมออกเมื่อรองเท้าของเนลล่าพลันแตะลงบนพื้นหิน เด็กหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นสงสัย กลิ่นเหล็กจากเลือดที่ฉุนกึกจนแสบจมูกทำให้สังหรณ์ใจไม่ดี เนลล่าย่างก้าวไปข้างหน้า เสียงของเหลวที่กระเพื่อมออกยังคงดังอยู่

    มองอะไรไม่เห็นเลยแฮะ แสงจันทร์มันส่องมาไม่ถึง

    พึมพำในใจ ก่อนจะดีดนิ้วเบาๆ เรียกเปลวเพลิงสีน้ำเงินสวยให้พลันเรืองรองเป็นลูกไฟอยู่ในมือ

    โครม!!

    เนลล่าล้มลงกับพื้นทันทีที่เห็นว่าของเหลวที่เจิ่งนองนั้นคืออะไร รองเท้าสีดำพลันเปื้อนคราบเหนียวสีแดงเข้าทันที ไกลออกไปไม่ถึงเมตรนั้นเอง มีร่างเจ้าของเลือดนอนไร้ลมหายใจอยู่อย่างน่าเวทนา

    อะ.อ่อก...!เด็กหนุ่มโก่งคออาเจียน ความรู้สึกคลื่นไส้แล่นจุกขึ้นมาถึงลำคอ ของในกระเพาะที่เพิ่งจะผ่านเข้าไปเมื่อไม่นานพลันขย้อนออกมาจนหมด ด้วยคราวนี้พบร่างไร้วิญญาณที่ถูกกระชากร่างกายออกใกล้ๆตา มิใช่เพียงแวบเดียวในที่เกิดเหตุที่มีแต่คนมุง

    ..ร่างนั้นเป็นร่างของบุรุษเพศที่นอนจมกองเลือดอยู่อย่างน่าอนาถ เรือนผมสีอ่อนยาวสยายเป็นลอนเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสดของตัวเอง สีสันและความสดของเลือดทำให้รู้ว่าการฆาตกรรมนี้เพิ่งเกิดสดๆร้อนๆเมื่อไม่กี่นาที เนลล่าพยายามสะกดอาการคลื่นเหียนอาเจียน ก้าวเดินเข้ามาใกล้ๆร่างนั้น พลันร่างบางก็สะดุ้งเมื่อดวงตาสีฟ้าครามพลันกลอกกลิ้งไปมา ร่างของเหยื่อผู้น่าสงสารส่งเสียงในลำคอราวจะขอความช่วยเหลือ ดวงตาเบิกกว้างกลอกมองเด็กหนุ่มผมขาว เนลล่าใจชื้นเมื่อเห็นว่าร่างนั้นยังมีชีวิต แต่แล้วก็ชะงักเมื่อเห็นสภาพได้ชัดเต็มตา

    ..หมดทางเยียวยาแล้ว

    เนลล่าหลับตาลงเมื่อลูกไฟเผยให้เห็นสภาพที่ชัดเจนขึ้น ความรู้สึกคลื่นไส้แล่นขึ้นมาจุกที่ลำคออีกครั้งโดยที่เนลล่าพยายามจะฝืนเอาไว้ เหงื่อเย็นๆหลั่งริน  มองร่างกายที่นอนแน่นิ่งซึ่งอาบย้อมไปด้วยสีแดงของเลือด แขนขาถูกกรีดหนังแล้วลอกออกจนเห็นกล้ามเนื้อแดงสดภายใน หัวใจยังคงเต้นตุบอย่างที่เห็นได้จากสายตา อวัยวะช่วงหน้าท้องลงไปถูกแหวกออกแล้วนำมาวางข้างๆราวกับเครื่องประดับชุดราตรี ..เนื้อหนังที่ถูกฉีกออกนั้นวางอยู่ข้างร่างกายที่อาบย้อมไปด้วยโลหิตชาดของตัวเอง เหลือแต่เพียงส่วนใบหน้าอันงดงามที่ไม่ได้รับบาดแผลแต่อย่างใด

    “...ช่วย..อ่อก...ด.....เสียงนั้นดังในลำคอ เลือดไหลออกจากปากรินหลั่งสู้พื้นหินเย็น เสียงนั้นสั่นราวกับว่าเลือดไปคลั่งอยู่ในหลอดลม ดวงตาเลื่อนลอย มือข้างหนึ่งพยายามยกขึ้นขอความช่วยเหลือ น้ำตาไหลรินด้วยความต้องการมีชีวิตรอด..

    ร่างนั้นกระตุกไปมาชั่วครู่ ก่อนจะแน่นิ่งไป

    ..หัวใจหยุดเต้นแล้ว

    เนลล่าหลุบตาลง มองร่างที่ต้องตายลงอย่างทรมานและน่าสงสาร ดวงตาสีฟ้าครามทั้งสองข้างยังคงเบิกกว้างอยู่ราวกับมีเรื่องค้างคาใจ เด็กหนุ่มคุกเข่าลง มือเรียวยกขึ้น ก่อนจะปิดเปลือกตาของอีกฝ่ายลง

    “..ขอให้พบเรื่องดีๆในโลกหน้านะครับ...

    เสียงสั่นเครืออ่อนระโหยเอ่ย เด็กหนุ่มผมขาวเหลือบม่วงสูดลมหายใจลึก ลุกขึ้นยืนเต็มส่วนสูงของตน ก่อนจะดีดนิ้วพึมพำบางอย่างในลำคอ แล้ววาดมือไปทางขวาอย่างรวดเร็ว พลันปรากฏลูกไฟสีน้ำเงินขึ้นรอบข้างตามมือที่กวาดไป..มากพอที่จะสว่างจนดูร่างที่ได้ตายไปเมื่อครู่ได้ชัดเจนขึ้น

    ยิ่งเห็นสภาพก็ยิ่งรู้สึกคลื่นไส้กว่าเก่าด้วยสภาพแดงสดที่ดูชัดเจนกว่าเดิม ทั่วทั้งร่างกายถูกกรีดเนื้อหนังออกจนเห็นกล้ามเนื้อและเนื้อแท้สีแดงอ่อน เลือดแผ่กระจายราวกับกระโปรงของชุดราตรี เครื่องในทั้งลำไส้ ตับ ไต ม้าม ถูกควักออกมาวางทั่วกาย..

    คนที่ทำเรื่องแบบนี้ยังปรกติอยู่หรือเปล่า!!

    กรีดร้องเพียงในใจ ขบริมฝีปากแน่น ริมฝีปากอยากจะปิดลงหนีภาพตรงหน้าแต่จำต้องข่มความสะอิดสะเอียนแล้วคุกเข่าลงสำรวจบาดแผลทั้งมวล...ถ้าเอาแค่จากที่ตาเห็นล่ะก็ อาวุธที่ใช้คงเป็นอาวุธจำพวกมีด ไม่ยาวมากนัก อาจจะราวๆสิบถึงสิบสองเซนต์ คมกริบถึงขนาดที่กรีดเนื้อได้โดยไร้รอยย่น อวัยวะถูกตัดออกอย่างมีระเบียบเรียบร้อยตามแนวของเส้นเลือดและการเรียงตัว ..แสดงได้ว่าฆาตกรคนนี้มีความชำนาญในการใช้มีดเป็นอย่างดี

    ..รายละเอียดนอกจากนี้คงต้องให้คนอื่นมาดู

    ตึก

    เสียงฝีเท้าดังขึ้น เรียกให้เนลล่าลุกขึ้นยืนในท่าพร้อมสู้ทันที

    อยู่ที่นี่เองเรอะ...!!

    เฮือก!!

    เสียงนี้...!

    อะ..อิลฮะ..โอ๊ย.!..ร้องขึ้นเมื่อถูกหยิกแก้มสองข้างแล้วยืดออกจนรู้สึกชาก่อนเจ้าตัวจะปล่อยออก เนลล่ากุมแก้มตัวเองแล้วร้องเบาๆด้วยความรู้สึกเจ็บ ก่อนที่จะถูกอิลเวสตบหัวเข้าอย่างแรง

    ป๊าบ!

    ให้ ตาย !! สอนกี่ทีไม่เคยจำว่าอย่าหายตัวไปๆ เคยเข้าหัวบ้างไหมห๊า!ว่าแล้วก็ใช้สองหมัดกดขมับของอีกฝ่ายอย่างแรงจนเจ้าของศีรษะที่ปกคลุมด้วยเรือนผมสีขาวเหลือบม่วงร้องครวญ พลางหาทางเบนความสนใจของอิลเวสก่อนหัวจะระบมเป็นรอบที่สามของวัน

    อิลเวส ดูทางนี้หน่อยเถอะฮะ!

    ชี้ไปทางศพที่นอนแผ่อยู่ อิลเวสเปลี่ยนสีหน้าทันที ชายหนุ่มขมวดคิ้วมองเคร่งเครียดก่อนจะถอนหายใจยาว แล้วเดินเข้าไปใกล้โดยไม่สะทกสะท้านต่อความน่าสยดสยองของศพที่นอนแผ่บนพื้นหินเย็น ร่างสูงคุกเข่าลง มองร่างนั้นใกล้ๆตา สำรวจร่างไว้วิญญาณอย่างสงบนิ่ง ก่อนจะลุกขึ้นยืน ท้าวสะเอวแล้วหันกลับมาทางเด็กหนุ่มร่างบาง

    “...ฝีมือใช้มีดไม่เลว อยู่ในขั้นที่ไม่ใช่แค่ฆ่าคนได้พึมพำขึ้น หลังเห็นร่องรอยบาดแผล แล้วขมวดคิ้วมุ่นสงสัยแต่ผิดเวลา...ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าสนธยานี่..นี่มันค่ำแล้ว

     “เวลาอาจจะไม่แน่นอนนะครับ แต่ถ้าสมมุติว่ามีฆาตกรสองคนที่ฆ่าโหดได้เหมือนกันแบบนี้มันก็....

    อาจจะเป็นฆาตกรคนละคนกัน และอาจจะเป็นคนเดียวกัน เป็นไปได้ทั้งสองทาง คงจะตัดสินใจชัดเจนไม่ได้ในตอนนี้ที่เราไม่มีข้อมูล ...แล้วจะมาชันสูตรศพตอนนี้ก็ไม่มีอุปกรณ์ซะด้วยสิชายหนุ่มถอนหายใจยาว มองร่างที่น่าเวทนาก่อนอื่นคงต้องแจ้งไปที่ทางทห........

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!

    ทั้งสองร่างสะดุ้งเฮือกทันที่เมื่อเสียงกรี๊ดดังลั่นมา  เนลล่ารีบยกมือขึ้นโบกหน้าตัวเองทันที ส่งผลให้ดวงไฟสีน้ำเงินทุกดวงที่ส่องสว่างอยู่พลันดับมืดลงไป ทันก่อนที่หญิงสาวร่างบางผู้แต่งตัวด้วยเฉดสีจัดจ้านจะมองเห็นร่างของพวกเขาทั้งสองได้ชัดเจนถนัดตา โชคดีที่ลูกไฟซึ่งรายล้อมนั้นส่งผลให้เห็นภาพอันเด่นชัดเพียงแค่ร่างไร้วิญญาณของเหยื่อที่นอนแผ่กลางกองเลือดบนพื้นหิน จึงทำให้หญิงสาวไม่เห็นร่างของพวกเขาทั้งสองคน

    กรี๊ดดดดดด คนถูกฆ่า  ใครก็ได้!!!!! มาที่นี่เร็วววว!

    ไหน มันเกิดอะไรขึ้น!!ทหารที่รักษาการณ์อยู่บริเวณใกล้ถนนเลดเซวิ่งเข้ามาดู เสียงฝีเท้าบ่งบอกว่าไม่มีได้มีแค่คนเดียว ขณะที่หญิงสาวผู้เห็นเหตุการณ์ยังคงกรีดร้องลั่นเสียงแหลมด้วยความกลัว

    มีคนถูกฆ่า อ๊ะ นั่นอาจจะเป็นฆาตกรก็ได้!!

    หญิงสาวชี้ไปทางเงาร่างที่เห็นอยู่ไม่ชัดเจนซึ่งน่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยในการฆาตกรรมครั้งนี้ เนลล่ากับอิลเวสสะดุ้งเฮือกมองหน้ากัน ก่อนจะพยักหน้าส่งสัญญาณแล้วพากันกระโดดขึ้นหลังคาไปทันที

    เนลล่าหันไปทางอิลเวสที่ขึ้นหลังคาคนละหลังกัน เนตรสีทับทิมหันขวับไปมองด้วยต้องการถามว่าจะทำอย่างไรต่อไป พอดีกับที่ดวงตาสีทองหันมาจ้อง ริมฝีปากขยับเป็นคำพูดที่เด็กหนุ่มอ่านริมฝีปากได้ว่า..

    เจอกันที่คฤหาสน์

    เนลล่าผงกหัวเข้าใจ ต้องขอบคุณแสงจันทร์เต็มดวงที่ทำให้เขาอ่านริมฝีปากได้ง่าย เด็กหนุ่มสูดลมหายใจลึก ก่อนจะกระโดดไปตามหลังคาโดยมีเป้าหมายเป็นการกลับไปยังคฤหาสน์ที่ตนพักอยู่ ณ ปัจจุบัน

    ..การกระทำนั้นเกิดขึ้นภายใต้สายตาของชายคนหนึ่ง

    +++++

    ฮึ่ม..มันหนีไปแล้ว..ทหารร่างยักษ์พึมพำไม่พอใจ หลังจากที่ได้ยินเสียงกรีดร้องพร้อมวิ่งมาหวังจะจับคนร้ายทัน แต่แล้วคนร้ายทั้งสองกลับหายตัวลับตาไปอย่างไร้ร่องรอยอีกครา

    ไม่มีฝีมือเลยนะ

    ใคร!!ทหารคนนั้นหันไปมองเจ้าของเสียงที่บังอาจดูถูกเขา ปรากฏร่างของชายหนุ่มเจ้าของเนตรสีม่วงเป็นประกาย เรือนผมสีเขียวหยักศกซึ่งบัดนี้ยาวเคลียไหล่สะท้อนกับแสงจันทร์ ชายหนุ่มก้าวเดินเข้ามาด้วยท่าทีสนุกสนาน จ้องมองลงที่ศพแล้วถอนหายใจยาว

    ไม่คิดรึไงว่าที่หายตัวไปน่ะอาจจะเป็นแค่คนที่บังเอิญผ่านมาเห็นก็ได้น่ะ คุณพี่ทหาร?”

    ถ้าเป็นคนบริสุทธิ์แล้วจะหนีไปทำไม

    คนเรามันก็มีเหตุผลต่างกันน่า แต่นั่นน่ะไม่ใช่ฆาตกรแน่นอน ฉันรับประกันโบกมือไปมาคล้ายไม่ใส่ใจ ทหารร่างยักษ์ทำท่าจะตวาดใส่ แต่แล้วเพื่อนทหารที่ยืนอยู่ก็จับไหล่บีบเบาๆห้ามไว้

    อย่าไปยุ่งกับหมอนั่นจะดีกว่า ถ้าไม่อยากให้ท่านผู้ครองเมืองกริ้วน่ะ

    บ๊ะ!! แล้วไอ้หมอนี่มันใครล่ะ! ถึงได้มีสิทธิแบบนั้น!!

    ฉันก็เป็นคนที่มีค่ามากกว่านายไง

    ทหารร่างยักษ์เดือดทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนั้น แต่เมื่อเพื่อนของตนกระซิบบางอย่างให้ฟังก็ต้องนิ่งอึ้งไป ระงับความโกรธด้วยไม่อาจทำอันตรายแก่ร่างตรงหน้าได้ ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเขียวแสยะยิ้มพึงใจ ขยับไปใกล้ๆศพ รอยยิ้มพลันกว้างขึ้นด้วยความสนุกสนานเมื่อคิดถึงเรื่องราวที่จะตามมา


    และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดในค่ำคืนนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×