คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ผนึกที่ 16 : ปะทะ
ผนึกที่ 16 : ปะทะ
โดยไม่ต้องใช้ความคิด เด็กหนุ่มร่างบางก็ยันกายลุกขึ้นพร้อมออกวิ่งทันที ดวงตาสีแดงสวยฉายประกายร้อนรนพร้อมก้าวขาตามทิศทางที่กลิ่นของความตายโชยมา...กลิ่นของเลือดเริ่มรุนแรงขึ้นตามช่วงเวลาที่เลยผ่าน เนลล่าเริ่มกัดฟันกรอด เป็นห่วงความปลอดภัยของร่างเจ้าของกลิ่นคาวเลือดที่โชยมา....
ความตายยังเป็นดอกตูมอยู่..เขายังช่วยได้!
ขาเรียวบางพาเด็กหนุ่มวิ่งไปเรื่อยๆ กระทั่งหยุดลงเมื่อมาถึงจุดที่กลิ่นเลือดรุนแรงที่สุด
..ช่วงเวลาคล้ายหยุดนิ่งลงยามเห็นภาพตรงหน้า
ฉึก
เสียงปักมีด เลือดที่ไหลริน..ร่างที่สั่นระริก
พระจันทร์ดวงโตดังฉากหลังของพิธีกรรมแห่งเหล่าปิศาจ
“อึก.....”
เนลล่าพยายามสะกดกลั้นอาการคลื่นเหียน กลิ่นเลือดอบอวลรุนแรงแม้ไม่เท่าครั้งที่เขาพบศพเข้าอย่างจัง ร่างกายชาเยียบแข็งทื่อจนยากที่จะก้าวขาออกไปได้ เหงื่อเย็นๆไหลผ่านใบหน้า แม้แต่เสียงก็ไม่อาจเปล่งออกมาได้ ...ร่างกายของเขาสั่นระริก ยามเห็นภาพอันน่าสะพรึงปรากฏแก่สายตา
ร่างของชายหนุ่มที่ถูกทารุณพยายามตะกายหนี ร่างกายซึ่งประดับด้วยเครื่องแต่งกายสีขาวถูกแต่งแต้มด้วยสีเลือดที่แห้งกรัง ใบหน้าเกลี้ยงเกลาหวานเกินบุรุษเพศแสดงออกถึงความหวาดกลัว เรือนผมสีทองบัดนี้แปดเปื้อนด้วยสีแดงฉานของโลหิตแห่งตน ดวงตาสีฟ้าครามซึ่งข้างหนึ่งถูกกรีดจนเลือดรินไหลดั่งน้ำตาโลหิตเปล่งประกายวิงวอนขอความช่วยเหลือ ขาทั้งสองข้างถูกตัดเส้นเอ็นจนไม่อาจยืนขึ้นได้ จึงเหลือเพียงมือสองข้างเท่านั้นที่พอจะพาร่างของตนให้หลีกลี้จากความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามา
ร่างใต้ผ้าคลุมผู้ถือมีดเปื้อนเลือดมองร่างที่พยายามตะกายหนี ยืนนิ่งเพียงชั่วครู่แล้วจึงก้าวตามยาวๆอย่างเยือกเย็นและเชื่องช้ามั่นคง เสียงรองเท้าหนากระทบพื้นหินยังให้ร่างของเหยื่อในอุ้งมือตะกายพื้นอย่างร้อนรน เล็บจิกครูดบนพื้นพากายที่ท่อนล่างไร้ความรู้สึกไปแล้วให้เคลื่อนไหวไป ก่อนเหยื่อผู้น่าสงสารจะกระตุกเฮือกยามเมื่อรองเท้าหนังเหยียบลงอย่างแรงที่มือข้างซ้ายของตนเอง
เด็กหนุ่มกลั้นหายใจมองร่างที่น่าสงสาร ใจนึกอยากแล่นปราดเข้าช่วยเหลือหากร่างกายกลับยังแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้างมองการกระทำอันร้ายกาจ มือที่ถูกเหยียบดิ้นรนให้ถูกปล่อย ร่างใต้ผ้าคลุมดำชักเท้าออก ให้โอกาสร่างข้างใต้หนี แต่แล้วกลับเขวี้ยงมีดปักฉึกกลางหลังของร่างอาบโลหิตอย่างไร้ความปราณี เรียกเสียงกรีดร้องให้ดังออกจากลำคอของผ่านริมฝีปากบาง
เนลล่าพยายามก้าวขาออก หากร่างกายกลับไม่ทำตามคำสั่ง ความกลัวที่เขาซึ่งไร้ความตายไม่ควรมีแล่นขึ้นมาตามกระดูกสันหลังแล้วแผ่ไปทั่วกาย ก่อนจำต้องกัดฟันทนเมื่อพบว่าร่างในชุดคลุมกำลังจะปาดลำคอของเหยื่อในกำมือของตน!!
พลั่ก!
เนลล่าแล่นปราดเข้าผลักร่างของฆาตกรใจโหด แขนถูกฟันเป็นแผลถากด้วยปฏิกิริยาฉับพลันของร่างใต้ผ้าคลุมสีราตรี เด็กหนุ่มร่างบางมองร่างตรงหน้าด้วยสายตาแข็งกร้าว เนตรสีทับทิมปรากฏเพลิงแห่งความโกรธเกรี้ยววูบไหวเผาไหม้ในแววตา ร่างใต้ผ้าคลุมดำชะงักเมื่อเห็นหน้าเขา นิ่งแข็งทื่อไปชั่วขณะ เด็กหนุ่มจึงอาศัยจังหวะในมองร่างที่นอนอาบเลือดอยู่ที่ด้านหลังของตน
ร่างตรงหน้าร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว น้ำตาไหลพรากมองหน้าเขา เสียงสั่นเครือเอ่ยพร้อมยกมือขึ้นเกาะแขนเขาแน่นจนแทบจะจิกลงในเนื้อผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวของตน “ช่วยด้วย...ไม่..ไม่อยากตาย...”
เนลล่าพยายามใช้สมาธิ มองลึกในวิญญาณของชายหนีม ใบหน้าซีดเมื่อพบว่าความตายกำลังเริ่มออกดอกตูมและเกือบๆจะบานออก ....บาดแผลของร่างตรงหน้าร้ายแรงนัก นอกจากดวงตาและขาที่ถูกตัดเส้นเอ็นแล้ว ตามร่างกายยังเต็มไปด้วยแผลเล็กๆมากมายที่ทำให้เลือดค่อยๆไหลออกจากร่างกายอีกด้วย..แต่ถึงกระนั้น ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้ถูกถลกหนังหรือเฉือนเอาอวัยวะออก....ถือว่าเขามาช่วยได้ทันเวลาพอดี เด็กหนุ่มมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาแล้วหรี่เนตรลงอย่างสมเพชเวทนา ก่อนจะตบๆตามตัวหาของที่หยิบออกจากชุดกระโปรงเก่า แล้วจึงควักเอาลูกแก้วสีเขียวที่ไลบราลีเรียกว่า [ลูกแก้วพฤกษาสวรรค์]ออกมา
‘บอกตามตรง ฉันไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่ามาดามกลาเดียจะทำร้ายนายหรือเปล่า แต่เพื่อป้องกันไว้..ฮึ่ม..!!....ฉันจะให้ลูกแก้วพฤกษาสวรรค์ไว้กับนายละ..กัน’
..เขาคิดถึงใบหน้าตอนที่เทวดาหนุ่มมองของให้แล้วหัวเราะแห้ง..ใบหน้าตอนมอบสิ่งนี้ให้เขาเรียกได้ว่าแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความเสียดายของอย่างสุดซึ้งเลยทีเดียว..อิลเวสแอบกระซิบว่าเป็นของหายากบนวรรค์ที่หมอนี่พกมาด้วย..ตอนแรกเขาจึงคิดว่าถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆก็คงจะไม่ใช้ แต่ตอนนี้เพื่อรักษาชีวิตของคนนี้ไว้...
....ฮึ่ม อย่างน้อยก็หายกันกับที่ทำให้ผมต้องถูกจับขังในหอรุ้งเจ็ดสีก็แล้วกันนะครับ ไลบราลี!
คิดจบเนลล่าก็ประคองร่างที่เกาะเกี่ยวเขาไว้ในอ้อมแขนตนแล้วหยอดลุกแก้วพฤกษาสวรรค์ลงคอของชายหนุ่มไป แสงเรืองรองค่อยๆเกิดขึ้นจนบาดแผลค่อยๆจางหายไป ลมหายใจพรูออกจากริมฝีปากของเด็กหนุ่ม มอง[ความตาย]ที่ค่อยๆหุบลงและลดการเจริญเติบโตของตนตามร่างกายที่ดีขึ้นตามลำดับ มือเรียวบางเกลี่ยเรือนผมของร่างในอ้อมแขนก่อนจะเบิกตากว้าง มองใบหน้าที่แสนคุ้นเคยที่เขาเห็นจากร่างที่บาดแผลค่อยๆจางหายไป
เพราะความมืดและเลือดที่เลอะเต็มใบหน้าทำให้ทีแรกเขาไม่ได้สังเกตเห็น..หมอนี่มัน!!
“ระวัง!!”
ฉึก!
.
.
..ความรู้สึกเจ็บแปลบบังเกิดขึ้นที่แผ่นหลังของเขา
“...อะ......แค่ก..!!..”เนลล่าไอโขล่กเอาเลือดที่คั่งในหลอดลมออกทันที ดวงตาหันมองเบื้องหลัง และปะทะเข้ากับร่างภายใต้ผ้าคลุมสีดำที่ไม่อาจมองเห็นใบหน้าที่ย้อนแสงจันทรานวลนั้นได้ ริมฝีปากกัดกรอด รู้สึกถึงของเหลวเหนียวอุ่นคาวที่ค่อยๆแผ่ขยายกว้างซึมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวของตน มือเรียววางร่างในอ้อมแขนของกับพื้นแล้วเอื้อมไปที่หลังของตน ก่อนกระชากมีดที่ปักอยู่กลางหลังออกแล้วเขวี้ยงทิ้งไปไกลตัว “...คุณคือ Red Lady สินะครับ
?”
ร่างนั้นไม่พูดอะไรตอบมา ..ไม่ทั้งยอมรับและปฏิเสธ แต่ทำเพียงเดินถอยหลังแล้วจดจ้องมายังเด็กหนุ่มร่างบางด้วยใบหน้าที่ไม่อาจมองเห็นได้ชัดเจน เนลล่ามองร่างตรงหน้าอย่างพิจารณา จากส่วนสูงแล้วบางทีคนตรงหน้าอาจเป็นผู้ชาย แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะไม่ใช่ผู้หญิง เนลล่ามองร่างตรงหน้า ก่อนจะรีบเบี่ยงกายหลบเมื่ออีกฝ่ายแล่นปราดเข้าตวัดมีดวงกว้างใส่ใบหน้าของเด็กหนุ่มร่างบาง!
เนลล่ารีบกระโดดแล้วแล้วดูเชิง เนตรสีแดงสวยจ้องไปยังร่างใต้ผ้าคลุมที่เขาสันนิษฐานว่าเป็นคนที่เขากำลังตามหาอยู่ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อร่างใต้ผ้าคลุมเปลี่ยนเป้าหมายจากเขากลับไปที่เหยื่อคนเดิมของตนเสียแล้ว!
เคร้ง!
“หนีไปซะ!!”เนลล่าตะโกน ส่งสายตาให้เหยื่อที่หลุดรอดรีบหนีไป..แม้เขายังคาใจกับตัวตนของร่างที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา แต่บัดนี้เขาจำต้องเผชิญหน้ากับฆาตกรคนนี้..ถ้าชายหนุ่มยังไม่รีบหนีไปล่ะก็ เห็นที่เขาจะสู้ได้ยาก
ร่างนั้นลังเลแล้วลุกขึ้นยืน “นาย..”
“บอกให้หนีก็หนีไปสิครับ!”
เสียงหวานทุ้มตะโกนกร้าวอีกครั้งพร้อมสีหน้าที่แสดงออกถึงความโกรธ ร่างที่ได้รับการรักษาจนดีดังเดิมออกวิ่งทันทีหลังเสียงตวาดลั่นดังขึ้น เนลล่ามองร่างที่วิ่งไปจนลับสายตา หันกลับมายังร่างใต้ผ้าคลุมที่ยืนอยู่ตรงหน้าตน ก่อนจะย่อกายลงเมื่อมีดตวัดแทงเข้ามา ความเจ็บแปลบที่หลางหลังทำให้เด็กหนุ่มนิ่วหน้า มือเรียวข้างซ้ายที่ไร้ถุงมือผปิดบังรอยสลักควานไปที่คอของตน ก่อนหัวใจจะหล่นไปถึงตาตุ่มยามเพิ่งนึกได้ว่าชุดที่ตนใส่ไม่ใช่ชุดเดิมที่เคยเป็น
ตาย! ตาย! ตาย! ตาย!!
คนตายไม่ได้สบถคำนั้นซ้ำซากในใจประมาณร้อยรอบ นึกอยากร้องไห้ขึ้นมาเต็มกำลัง...อาวุธของเขา!
มีดสั้นทั้งสองเล่มของเขาเป็นอาวุธเวท ปกติจะถูกเก็บไว้ในดอกกุหลาบที่ประดับบนชุดประจำตัวของเด็กหนุ่มที่พร้อมจะถูกเรียกใช้งานทุกครั้งไป แต่ตอนนี้..บนตัวเขามีแค่เสื้อเปื้อนเลือดตัวเดียวกับกางเกงขาสั้นไร้การป้องกันเท่านั้น!
ให้ตายเถอะ กลับไปเขาจะฆ่าไลบราลี!
ฉัวะ!
ร่างตรงหน้าอาศัยจังหวะพริบตาที่เนลล่าประมาทฟันซ้ำเข้าที่แผลเดิมจนลึกยิ่งกว่าเก่า มีดในมือของอีกฝ่ายคมกริบจนเฉือนผิวได้แผลสวย เด็กหนุ่มหรี่มองมีดในมืออีกฝ่ายแล้วเบิกตาหน่อยๆ..ไม่มีเลือดติดบนด้ามมีดที่ยาวราวยี่สิบเซนต์นั่นเลยซักนิด....มีดดี..ท่าทางจะคมเสียด้วย
ระหว่างที่ชื่นชมอาวุธของอีกฝ่ายอยู่ มีดคมก็ตวัดวงกว้างเข้าทางสีข้างของเด็กหนุ่มร่างบาง เนลล่ารีบขยับกายหลบการโจมตีทันทีแต่ก็ไม่ทันพอจะหลบได้ทั้งหมด ใบมีดคมกริบจึงตวัดใส่เสื้อสีขาวผ่านเข้ามาฟันลงที่ช่วงเอวจนเลือดไหลซิบ เนลล่ากัดริมฝีปาก ดวงตาสอดส่ายหาอาวุธที่พอดีมือตน ก่อนจะสังเกตเห็นมีดอีกด้ามที่เขาเป็นคนเขวี้ยงออกไปเองกับมือ
เนลล่าหันมองคู่ต่อสู้ ยืนนิ่งรอการโขมตีที่กำลังใกล้เข้ามา ก่อนจะอาศัยจังหวะที่มีดกำลังตวัดใส่ตัวเอนกายไปด้านหลังแล้วย่อลงตวัดขาให้อีกฝ่ายล้มลง ร่างใต้ผ้าคลุมชะงักแล้วถอยออกก่อนจะถูกขัดขาให้ล้มลงไป เนลล่าใช้เวลาเสี้ยววินาทีที่อีกฝ่ายเผลอลื่นไถลไปเก็บมีดที่ตกอยู่บนพื้นมาไว้ในมือ เนลล่าลองตวัดคมมีดฟันลมจนเกิดเสียงขวับแหลมสูง ควงเปลี่ยนไปมาทั้งสองมือพร้อมโยนขึ้นแล้วกระชับไว้แน่น ริมฝากบางคลี่ยิ้ม....เหมาะมืออย่างน่าแปลกใจ
ที่จริงเขาอยากได้อาวุธคู่มือตนมากกว่า แต่ยามนี้ขอแค่มีอาวุธให้ต่อสู้ก็เพียงพอแล้ว
ขวับ!!
โดยไม่ทันตั้งตัว มีดจากมือของคู่ต่อสู้ก็ตวัดเข้าที่แผ่นหลังของเขา เนลล่ารีบกลิ้งตัวหลบทันทีที่รู้สึกถึงเสียงหวือที่ดังใกล้เข้ามา มีดที่ตวัดขึ้นสูงเตรียมแทงลงมาจึงฟันได้เพียงลม ร่างบางที่กลิ้งออกไปรีบลุกขึ้นแล้วเปิดฉากโจมตี มือเรียวตวัดมีดเข้าหาคู่ต่อสู้หมายให้ฟันถูกกลางอก ข้างฝ่ายตรงข้ามเบี่ยงกายออกแล้วแทงมีดย้อนตามช่องโหว่เข้ามา เนลล่าเอียงกายหลบแล้วตวัดมีดเข้าที่ลำคอของอีกฝ่าย แต่แล้วกลับกระทบเข้ากับมีดที่คู่ต่อสู้ยกขึ้นกำบังจุดหมายของตน แรงสะท้อนจากการปะทะของมีดสองเล่มทำให้เนลล่ามือชาไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะต้องรีบกระโดดถอยหลังยามเมื่ออีกฝ่ายใช้เท้าเตะกวาดเข้ามาที่ท้องของตน
เด็กหนุ่มกระโดดหายตัวไปอยู่ด้านหลังแล้วกวาดมีดใส่ลำคออีกครั้ง ร่างใต้ผ้าคลุมรีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อหลบมีดก่อนกลับหลังมาสวนแทงใส่ เนลล่ารีบเอนกายไปด้านหลังแล้วกระโดดตีลังกาหนีการโจมตี ก่อนจะชะงักเวียนหัวแล้วเซไปพิงกับกำแพงหินข้างกาย
เนลล่ากัดริมฝีปาก มือเรียวกดศีรษะที่เริ่มวิงเวียนเพราะเสียเลือด ไม่ใช่เรื่องดีถ้าจะปล่อยให้ยืดเยื้อ..เพราะบัดนี้เขารู้สึกได้ว่าเลือดที่แผ่นหลังได้ไหลชุ่มจนแห้งกรังแล้ว และยังคงไหลรินซ้ำบนเสื้อเชิ้ตอีกเรื่อยๆ.. น่าแปลกที่ปากแผลยังไม่ปิดทั้งที่เวลาผ่านไปนานพอสมควรแล้ว แม้แต่แผลถลอกที่สีข้างก็ยังมีเลือดไหลซิบอยู่ บางทีบนมีดอาจจะเคลือบสารที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว..เพื่อให้เลือดค่อยๆไหลรินออกจากร่างกาย....
ยิ่งคิดก็ยิ่งคลื่นไส้และชิงชัง เนลล่ากระชับมีดแน่น แล่นเข้าปะทะพร้อมเอ่ยปากถามแม้รู้ว่าอาจไม่มีประโยชน์อันใด
“ทำไมถึงต้องมาฆ่าคนแบบนั้นด้วยล่ะครับ!!?”เนลล่าร้องถาม เนตรสีแดงสวยเปล่งประกายเจ็บปวด พยยามมองสีหน้าใต้ผ้าคลุมแม้จะถูกความมืดบดบัง ก่อนจะเบี่ยงกายหลบมีดที่ตวัดฟันเข้ามาแล้วตะโกนขึ้นอีกครา “ทำไมต้องฆ่าอย่างโหดเหี้ยมด้วย!”
ไม่มีคำตอบจากร่างตรงหน้านอกจากมีดที่ตวัดเข้าใส่อย่างหวังฟันใส่จุดสำคัญที่ทำให้ตาย เนลล่ากำมีดแน่นสั่นระริก เคลื่อนกายรวดเร็วเข้าสู่เบื้องหน้าแล้วตวัดแขนเตรียมจะแทงลงบนกายเบื้องหน้าเต็มแรง แต่ในชั่ววินาทีที่กำลังจะตวัดแขนออกไป ร่างกายกลับแข็งทื่อราวถูกโซ่นับพันผูกพันธนาการ
“อึก....!”
ฉัวะ!!
“.........!”เสียงกรีดร้องถูกกลืนลงคอเมื่อมีดคมตวัดเฉียงจากบ่าข้างหนึ่งไปจบที่เอวอีกข้างในแนวเฉียง ปรากฏแนวฟันลากยาวบนแผ่นอกให้เลือดไหลซึมออกมา บาดแผลลึกลงไปซักสองเซนต์ ..มากพอให้ความเจ็บปวดค่อยๆแผ่ซ่านจนชาเยียบพร้อมเลือดที่ไหลชุ่มเชิ้ตสีขาวออกมา เนลล่าเริ่มตาลาย ปริมาณเลือดที่เขาเสียออกจากร่างกายมีมากเกินไป..กลิ่นของดอกไม้จากเลือดของเขาฉุนเกินกว่าจะเสียไปเพียงเล็กน้อย เด็กหนุ่มกัดริมฝีปาก พยายามขยับกายแต่แล้วกลับเจ็บปวดราวเข็มนับพันเล่มทิ่มแทง...ทรมาน!
เวทพันธนาการ!!
ร้องในใจขณะมองไปยังร่างตรงหน้าที่เดินใกล้เข้ามา เหงื่อเย็นๆไหลผสานกับเลือดอุ่นที่ไหลชุ่มทั่วกาย “ทำไมนายถึงใช้เวทพันธนาการเป็นล่ะครับ? Red Lady”
ร่างนั้นยังเงียบ ไม่เอ่ยตอบคำ หากขากลับก้าวเดินเข้ามาพร้อมเสียงกังวานของรองเท้าหนังที่กระทบพื้นกิน
กึก..กึก..
ความหนาวยะเยือกแล่นปราดทั่วสันหลัง..เป็นเพราะเลือดที่ค่อยๆไหลออกจากร่างกาย...หรือเพราะความหวาดกลัว?
“นายเป็นใค....!”
ไม่ทันที่คำพูดจะถูกกล่าวจนจบประโยค เสียงก็ขาดหายไปพร้อมความรู้สึกที่เหมือนกับมีน้ำแข็งมาบาดที่ลำคอ
ขวับ!!
“...แค....อ่....ขั่ก...!!”เลือดค่อยๆไหลรินจากลำคอพร้อมเสียงสำลักและโลหิตสีแดงที่ไหลออกมาที่มุมริมฝีปาก ลมหายใจติดขัดด้วยคมมีดตวัดลึกทำลายหลอดลมและเส้นเสียงอย่างร้ายกาจ เนลล่าพยายามเปล่งเสียง แต่สิ่งที่ไหลออกจากริมฝาปกคือก้อนเลือดที่ถูกถ่มลงบนพื้น..เขาเปล่งเสียงไม่ได้
..ถูกปาดคอแบบนี้ เป็นคนธรรมดาคงตายแล้ว
เนลล่าหัวเราะขื่น การตายไม่ได้ยิ่งจะทำให้ความทรมานยืดเยื้อ..แต่มันไม่เลวร้ายนักในเมื่อเขาพบเจอเรื่องแบบนี้มาทั้งชีวิต..ความชินชากัดกร่อนตัวตนของเขาแล้ว
ร่างใต้ผ้าคลุมชะงัก มองร่างที่แม้ถูกปาดลำคอแล้วก็ยังมีชีวิตอยู่อย่างสงสัย
เนลล่าพยายามขยับร่างกาย แต่โซ่ที่มองไม่เห็นกลับยังคงตรึงร่างเอาไว้พร้อมเข็มนับพันในความรู้สึกที่ทิ่มแทงกาย ดวงตาสีแดงทับทิมมองร่างที่ถือมีดเปื้อนเลือดไว้ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อแลเห็นความรู้สึกบางอย่างที่แฝงอยู่ในท่าทางอ
ลังเล....?
เพราะอะไร..?
‘ฆ่ามันซะ!!’
เสียงหนึ่งดังก้องกังวานขึ้นรอบด้านโดนไร้ที่มา เนลล่ารีบกวาดตามองหาต้นเสียง แต่กลับไม่พบรางเจ้าของเสียงแหบต่ำที่ล่องลอยมา ความเงียบโรยตัวชั่วครู่แล้วถูกทำลายด้วยเสียงที่ดังขึ้นอีกครั้ง
‘ฆ่ามันซะ!! มันเจอเราแล้ว!! ถ้าไม่ฆ่า แกก็จะโดนจับ!!’
สิ้นเสียงนั้นร่างใต้ผ้าคลุมที่ทำร้ายเขาก็ชะงัก ความลังเลยังปรากฏอยู่ ใบหน้าใต้ผ้าคลุมที่เด็กหนุ่มมองไม่เห็นหันมาจับจ้องที่ตน มือที่กำมีดไว้สั่นระริก ก่อนจะถูกตวัดขึ้นเหนือหัว แล้วแทงลงมาที่ตำแหน่งของหัวใจของร่างตรงหน้าตนเต็มแรง!!
เคร้ง!!
เสียงคมโลหะปะทะกันดังขึ้น
เนลล่าที่หลับตาลงรอรับความเจ็บปวดนิ่งไป ก่อนค่อยๆลืมตาขึ้น
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาคือแผ่นหลังอันคุ้นเคยของใครคนหนึ่ง เรือนผมสีน้ำเงินที่ต้องแสงจันทร์พลิ้วไสวตามสายลมยามราตรี ..เนตรสีทับทิมเบิกขึ้น ความอบอุ่นไหลรินเข้ามาในดวงใจ
...อิลเวส!
เนลล่านึกอยากตะโกนร้องด้วยความดีใจและโล่งอก แต่ก็ไม่อาจเปล่งเสียงอะไรออกมาได้...นอกจากนี้เขายังเริ่มจะเวียนหัวเพราะเสียเลือดมากเกินไปแล้วเสียด้วย..สติ..เริ่มเลือนรางอีกแล้ว
ชายร่างสูงจ้องมองร่างเบื้องหน้าอย่างหยั่งเชิง ก่อนจะหันไปหาเพื่อนร่วมทางของตนแล้วถ่ถามอย่างห่วงใย
“เนลล่า..เธอ........”เสียงถูกกลืนหายไปเมื่อเห็นสภาพของร่างตรงหน้า ดวงตาสีทองไหววูบระริกเจ็บปวดยามเห็นอาการบาดเจ็บของเด็กหนุ่มร่างบาง เสื้อเชิ้ตพอดีตัวแปดเปื้อนไปด้วยเลือดจนดูไม่ออกว่าเคยมีสีอะไร ใบหน้าซีดขาวอิดโรยด้วยโลหิตที่ยังคงไหลรินออกจากร่างเรื่อยๆแล้วหยาดหยดลงสู่พื้นหินให้กลายเป็นแอ่งเลือดเจิ่งนอง ร่างกายแข็งค้างบ่งบอกว่าถูกเวทบางอย่างพันธนาการร่างกาย ที่ลำคอมีร่องรอยของการถูกปาดด้วยของมีคมจนเลือดไหลรินอาบช่วงอกลงไป
..กลิ่นของบุปผาโชยกรุ่น...ลักษณะพิเศษของผู้พรากความตาย..หากไม่มีกลิ่นของมันเขาคงตามรอยเนลล่ามาถึงที่นี่ไม่ได้.แต่..นี่มัน!!!
อิลเวสสั่นเทิ้มไปทั้งกายด้วยความโกรธ มองร่างที่ถูกทำร้ายอย่างนึกเจ็บปวดแทน ดวงตาคมปราดหรี่เล็กลง ประกายเนตรสีทองวาวโรธด้วยความแค้น มือหนากระชับดาบแน่นพร้อมไอสังหารที่ลอยอวล ก่อนร่างสูงใหญ่จะหันไปมองร่างที่กำลังจะโจมตีเข้ามาพร้อมเอ่ยลอดไรฟัน
“แก.....!!”
“...อ....”เนลล่าพยายามร้องเรียกชื่อชายร่างสูง แต่เสียงกลับไม่อาจถูกเปล่งออกได้ คิ้วเรียวขมวดมุ่นไม่ชอบใจ อาการบาดเจ็บบัดนีก้าวข้ามความเจ็บปวดสู่ความชาดิก...ไร้ประสาทสัมผัสให้รู้สึกอีกต่อไป
ปวดหัวจัง.....เจ็บ.....
อิลเวสกำลังสู้..ต้องช่วย...แต่เขาขยับร่างกายไม่ได้...
ความรู้สึกร้อนวูบเกิดขึ้นที่มือซ้าย แล้วจึงค่อยๆเพิ่มอุณหภูมิจนร้อนจัด เนลล่ากัดริมฝีปาก รู้สึกร้อนจนเจ็บปวด เสียงกรีดร้องดังอย่างเงียบงันในลำคอด้วยไร้เสียงให้ตะโกนออกมา เด็กหนุ่มแทบอยากสะบัดมือเร่าๆโดยไม่สนใจความรู้สึกเจ็บจากเวทพันธนาการที่ทิ่มแทง ความเจ็บแสบนั้นดำเนินจนถึงขั้นสุดก่อนหายวับไป ร่างบางผ่อนลมหายใจยามความเจ็บปวดคลายออกก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้นเมื่อพันธนาการเวทพลันหายไปในเวลาเดียวกัน
ตุบ!
เสียงบางสิ่งตกลงสู่พื้นดินทำให้อิลเวสที่กำลังต่อสู้หันมามอง เบิกตากว้างแปลกใจเมื่อพันธนาการเวทซึ่งผูกร่างกายของเนลล่าไว้คลายไป ร่างกายนอนจมกองเลือดที่เจิ่งนอง ร่างสูงเตรียมจะก้าวไปหา แต่แล้วกลับจำต้องยกดาบตั้งรับมีดที่ตวัดกดมาด้วยแรงที่มากเกินกำลังคน อิลเวสกำดาบแน่น ก่อนตวัดดันกำลังให้ร่างนั้นละไป ดวงตาหันมองร่างเพรียวบางของเด็กหนุ่มอย่างเป็นกังวล
“เนลล่า! เป็นยังไงบ้าง!!”
สบายดีครับ
“ตอบหน่อยสิ! เจ้าเด็กบ้าเอ๊ย!”
โธ่ ถ้าตอบได้ผมก็ตอบแล้ว.....
ไม่ต้องห่วงหรอกครับ..ผมไม่มีวันตายแล้วนะ ลืมแล้วรึไงกัน..เฮ่อ....
ห่วงผมมากเกินไป คนเขาจะหาว่าเป็นพวกผิดเพศนะครับอิล...
เนลล่าคิดพลางจับลำคอของตน หัวเราะไร้เสียงเบาๆอย่างหน่ายใจ สัมผัสของของเหลวกรุ่นกลิ่นบุปผาทำให้รู้ว่าเลือดยังไม่หยุดหลั่งริน มือไร้เรี่ยวแรงชาวาบ ก่อนตกลงข้างกาย
รอยยิ้มบางๆผุดบนใบหน้าเหนื่อยใจของเด็กหนุ่มร่างบาง
..ท่าทางจะไม่ไหวจริงๆแล้วแฮะ..
ภาพเบื้องหน้าค่อยๆจางหายและเลือนราง ก่อนความมืดจะเข้าครอบคลุมประสาทสัมผัสทั้งหมดในคราวเดียว
.....................
................
ปวดหัว..ปวดไปทั้งร่างกาย..ร้อน..แต่ก็หนาวด้วย
เจ็บจังเลย....ทรมานจังเลย.....รู้สึก...อยากจะหลับให้พ้นความรู้สึกที่ถาโถมใส่กาย
สายฝนที่ซาซัดสู่กายไม่มีอยู่อีกแล้ว..หากแต่ไฟบางอย่างกำลังเผาเขาให้ทรมานเจียนตาย
ภาพบางอย่างวูบไหวไปมาในห้วงความรู้สึก ปลุกความหวาดหวั่นให้ก่อขึ้นในห้วงความคิด กระชากความกลัวตีแผ่จนยากจะหลีกหนี สิ่งเดียวที่ทำได้มีเพียงการปล่อยให้น้ำตาหลั่งรินพร้อมปลดปล่อยเสียงร้องด้วยความทรมาน
ภายใต้ความทรมานที่พร้อมจะแย่งชิงประสาทสัมผัสทั้งหมดให้จมดิ่งในความเจ็บปวด เสียงหนึ่งก็ดังเข้ามาในโสตประสาทที่พร่าเลือน
‘เขาแค่เป็นหวัดไม่ใช่หรือไง!! แค่นี้รักษาไม่ได้เรอะ!!’
เสียงนั้นเป็นเสียงที่คุ้นเคย หากภายใต้ม่านแห่งความฝันอันวูบไหวนั้น เด็กชายมิอาจจดจำได้ว่าเป็นเสียงของใคร
เสียงของใครอีกคนดังตอบคำถามนั้น
‘ใช่..แค่เป็นหวัด! แต่หลังจากนั้นเด็กคนนี้นั่งตากฝนเป็นสัปดาห์! ร่างกายไม่ได้พักผ่อน! แถมไม่มีอะไรตกถึงท้อง สภาพร่างกายของเขาย่ำแย่ถึงขีดสุดแล้ว! เราทำอะไรไม่ได้!! ปฐมพยาบาลยังไม่ได้ด้วยซ้ำ! คุณไม่เห็นเหรอว่าร่างกายเขาไม่รับอาหารแล้ว!! พักผ่อนก็เหมือนไม่ได้พักผ่อน.....ทานอะไรเข้าไปก็อ้วกออกมาหมด ....อาการของเขาตอนนี้จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่แปลกแล้ว!..เราช่วยอะไรเด็กคนนี้ไม่ได้แล้ว คุณ....พาเขามาหาพวกเราช้าไป!! ไม่สิ...คุณปล่อยให้เขาตากฝนทั้งๆที่เป็นไข้หนักแบบนั้นได้ยังไง!!’
น้ำเสียงนั้นทั้งทรมานทั้งจนใจ..ติดจะโกรธาไม่ต่างจากเสียงแรก และออกจะสั่นเครือเศร้าสร้อยในคราวเดียวกัน
‘....เว้ย!’
โครม!
เสียงของแข็งบางอย่างกระทบกับกำแพงดังขึ้นข้างใบหู พร้อมกับที่ความเงียบแผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ ในตอนนั้นเอง...ภาพใบหน้าที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นเมื่อเด็กชายพยายามเปิดเปลือกตา
..คนที่พบเขาคนแรกในสถานที่อันหนาวเหน็บนั่น
‘
.อิลเวสฮะ....’เด็กชายเอ่ยสั่นเครือ หยาดน้ำตารื้นหน่วงคลอด้วยความทรมาน ‘
...ที่นี่’
‘เนล ..รู้สึกตัวแล้วหรือ อดทนไว้’ มือหนากระชับมือเล็กป้อมของเด็กชาย รอยยิ้มฝืนปรากฏบนใบหน้าคม ดวงตาสีทองหลุบลงอย่างเจ็บปวด..เมื่อเห็นน้ำตาที่หลั่งรินเงียบๆจากเนตรกลมโตสีทับทิมของร่างเล็กบนเตียงหนานุ่มของสถานพยาบาล
เด็กชายผอมโซและอิดโรย ผิวกายขาวซีด อาการไข้ทรุดหนักทั้งร่างกายยังปฏิเสธสารอาหาร..อาการที่เลวร้าย....ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาพบเด็กคนนี้ช้าไปเกินไป..
ชายหนุ่มกัดริมฝีปากจนเลือดซิบ นึกโทษตัวเองที่ลางสังหรณ์ทำงานช้าไป...ทำให้เด็กคนนี้..ต้องอยู่อย่างเงียบเหงาและทรมานในบ้านที่ไม่มีใครเป็นอาทิตย์!!
เป็นความผิดของเขา!!
‘
อิล..พ่อ...’เสียงสะอื้นดังในลำคอ เรียกสติของชายร่างสูงให้หวนคืน
...เนตรสีทองมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
‘เนล...’
‘เรย์หายตัวไป..ทิ้งผมไปแล้ว..เพราะว่าผม..’
เป็นเด็กกำพร้า..ไร้ความทรงจำ..สิ่งที่ไม่มีใครต้องการ
‘เรย์แค่หายตัวไป!! ของในบ้านยังอยู่ ไม่มีทางจะทิ้งเธอไปทั้งที่เขารักเธอมากขนาดนั้นหรอก ฉันรับประกัน เนลล่า อดทนหน่อยเถอะ!! เจ้าเด็กบ้าเอ๊ย!!’
ชายหนุ่มเอ่ยด้วยความร้อนรน กุมมือของเด็กชายร่างเล็กบนเตียงแน่นขึ้นกว่าเก่า แต่ในแววตาสีแดงสวยกลับยังไม่มีวี่แววของความยินดี
‘
ถ้าอย่างนั้น
ถ้าเรย์ไม่อยู่แล้ว....ผมก็คงไม่มีความจำเป็นจะต้องมีชีวิตอยู่แล้ว
.ผมกำลังจะตายสินะฮะ.....’เนลล่ายิ้มขื่น หลับตาลงยอมรับความจริง..ว่าตนกำลังจะหายไป
เด็กชายรู้ดี..นอกจากเรย์แล้วใครกันที่จะปรารถนาให้เขาดำรงอยู่เล่า....หากต้องมีชีวิตอยู่อย่างไร้ความหมายแล้ว..ชีวิต..จะไปมีค่าอะไร
‘
แล้วฉันล่ะ เนล เจ้าเด็กบ้า เข้มแข็งหน่อย ห้ามตายเด็ดขาด...! ..คิดว่าฉันไม่ต้องการเธอหรือไง!’
‘
.ถึงยังไงอิลก็จะไม่ยอมให้ผมเดินทางไปด้วยไม่ใช่หรือฮะ’
เด็กชายเบิกเนตรขึ้น แล้วหลับตาลงอีกครั้งด้วยความเหนื่อยอ่อน แย้มยิ้มหยันตัวเองด้วยความเจ็บปวด แต่สติยังดำรงอยู่พอจะรับรู้ว่าอีกฝ่ายชะงักไป ‘
ถ้าจะให้ผมอยู่คนเดียว ..ก็ปล่อยให้ผมตายเถอะฮะ
’
ถ้าต้องให้อยู่คนเดียวอย่างเคว้งขว้างล่ะก็....เขาขอตายซะดีกว่า
อิลเวสเงียบไป...ไม่ตอบว่าให้เดินทางไปด้วยกันหรือตอบปฏิเสธ..เด็กชายรู้ว่าอิลเวสเป็นอะไร และเพราะอะไรถึงไม่ยอมให้เขาเดินทางไปด้วย แต่ในห้วงเวลาที่ความเจ็บปวดทรมานรุมเร้า...เขาไม่มีความรู้สึกอื่นใดนอกจากความรู้สึกที่ตะโกนว่าไม่อยากอยู่คนเดียว..ไม่มีแม้แต่เหตุผลหรือข้อแก้ตัวที่อยากรับฟัง
หนึ่งอาทิตย์ที่เย็นเยียบและแสนทรมาน..มากเกินพอแล้ว
ชายหนุ่มร่างสูงบีบมือไร้เรี่ยวแรงแน่น ริมฝีปากขบกัดจนเลือดซิบ ดวงตาสีทองคมปราดหลุบลง แล้วจึงเบิกขึ้นคล้ายตัดสินใจได้ในที่สุด
‘..อย่าคิดนะว่าฉันจะปล่อยมือจากเธอไป เจ้าเด็กโง่’
เนลล่ารู้สึกถึงสัมผัสของนิ้วมือที่ค่อยๆแตะลงบนแผ่นอกของเขา ความอบอุ่นค่อยๆไหลรินจากปลายนิ้วแล้วเอ่อล้นไปทั้งกาย...ความรู้สึกร้อนผ่าวเกิดขึ้นที่กลางแผ่นอก..ราวกับ..บางสิ่งในนั้นกำลังจะหลุดลอยออกไป
‘คิดจะทำอะไรนะ คุณจะกินความตายของเด็กคนนี้งั้นหรือ! บ้าไปแล้วหรือไง!!’ปลายนิ้วที่สัมผัสลงบนแผ่นอกละไปคล้ายถูกใครกระชาก ก่อนจะประทับแนบลงดังเดิม ตามด้วยเสียงตวาดกราดเกรี้ยวเด็ดขาดรุนแรง
‘อย่ามายุ่ง!! ถ้านายไม่มีวิธีของตัวเองแล้วก็หุบปากซะ!!’
บางสิ่งบางอย่างลอดผ่านอกของเขาออกไป ร่างกายเย็นเฉียบชาวาบไปจนถึงปลายนิ้วมือ บังเกิดความว่างเปล่าบางอย่างขึ้นในหัวใจของตน
..ราวกับว่าได้สูญเสียสิ่งสำคัญบางอย่างไป
‘
ขอโทษนะที่ปล่อยทิ้งไว้..ถ้ารู้ว่าเรย์จะมาหายไปแบบนี้...ฉัน..ฉันน่าจะพาเธอไปกับตัวเอง ไม่ควรลังเลจนท้ายที่สุดก็ต้องเป็นแบบนี้..’ เสียงทุ้มกระซิบ ‘
ฉันสูญเสียสิ่งสำคัญของตัวเองไปเพราะความโง่เขลาของตัวเอง
ไปสองครั้งแล้ว...อย่าให้ต้องมีครั้งที่สามเลย..อย่าจากฉันไป’
น้ำเสียงขาดห้วงไป แล้วจึงดังขึ้นอีกครั้ง
‘
.หลังจากตื่นขึ้นมาเธอจะด่าทอฉันหรือเกลียดชังฉันก็ได้..ขอแค่เธอยังมีชีวิตอยู่ก็พอ...และ..หลังจากนี้..หากว่ายังอยากจะอยู่ด้วยกันล่ะก็...
ฉันขอสัญญา ว่าจากนี้..จะไม่ปล่อยให้อยู่คนเดียวอีกแล้ว..เนลล่า...เพราะฉะนั้น...’
เสียงสุดท้ายนั้นกลืนหายเข้าไปในลำคอของชายหนุ่มพร้อมเสียงกลั้นสะอื้น หยาดของเหลวใสร่วงหล่นตกต้องใบหน้าของเด็กชายอย่างแผ่วเบา ...สายลมหมุนวนพร้อมแสงแสบตาที่สาดผ่านเข้ามาในห้วงฝัน อันรางเลือน
...พร้อมกับภาพใบหน้าอันขมขื่นของชายเจ้าของเนตรสีทองที่จดจ้องมายังตน
......
..
สิ่งแรกในห้วงความคิดคือความมืดมนอนธกาลอันไร้ที่สุด กับเสียงพูดคุยที่ดังขึ้นข้างๆใบหู
“เจ้าเทวดาสมองกลับนั่นไปไหน”เสียงทุ้มที่คุ้นเคยล่องลอยเข้ามาในโสตประสาท น้ำเสียงติดจะหงุดหงิดอย่างที่คนฟังแล้วอดจะรู้สึกกลัวไม่ได้
“ไปหาท่านหญิงลีน่าน่ะ ไม่รู้ไปคุยอะไร”อีกเสียงหนึ่งดังตอบ โทนเสียงติดจะสงสัยประหลาดใจแต่ไร้ความหวาดกลัว เนลล่าค่อยๆเบิกเปลือกตาขึ้น กระทั่งแสงสว่างของช่วงทิวาค่อยๆไหลรินเข้ามาในคลองจักษุของตน
“เนลล่า!!”
ไม่ทันจะได้เบิกตามองรอบข้างเต็มที่ เสียงทุ้มของชายร่างสูงเจ้าของเนตรสีทองก็ตะโกนขึ้นมาข้างกาย ใบหน้าคมปราดมีร่องรอยของความโล่งอก มือหนาเกลี่ยเรือนผมที่ปรกบนใบหน้าอ่อนเยาว์ให้พ้นจากใบหน้าอิดโรย เนลล่าพยายามเปล่งเสียงเรียกทักทาย แต่แล้วกลับไม่มีเสียงใดใดถูกเปล่งออกมาจากลำคอของตน เนลล่าขมวดคิ้วพยายามพูด ก่อนจะหยุดลงเมื่อได้ยินประโยคจากริมฝีปากจากอีกหนึ่งชายหนุ่มข้างๆตน
“เส้นเสียงนายสาหัสอยู่ อย่าฝืนพูดเลย”ทรูธเอ่ยพลางถอนหายใจโล่งอก “นายหลับไปตั้งวันครึ่ง รู้ไหมว่าพวกเรากลัวแทบตายตอนที่หมอนี่อุ้มนายที่เต็มไปด้วยเลือดกลับมาน่ะ หน้ายังกับไปแค้นใครมาอย่างนั้นแหละ”
เนลล่าขมวดคิ้วกับจำนวนวันก่อนจะยิ้มบางๆกับคำพูดที่ได้ยินต่อมา รู้ดีว่าอีกฝ่ายแค่พูดติดตลกให้เขาสบายใจแม้อาจจะแฝงไว้ด้วยความจริงบ้างบางส่วน ดวงตาสีแดงสวยกลอกมองรอบข้าง ปรากฏภาพเตียงสี่เสาประดับผ้าม่านนุ่มบางเบาสองหลังและโต๊ะไม้มะฮอกกะนี่ที่ถูกตั้งไว้อยู่ไม่ไกล...นั่นทำให้เขารู้ว่าที่นี่คือที่ไหน
คฤหาสน์เฟรริดส์..ในห้องของเขาเอง
เนลล่าพยายามลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะต้องนิ่วหน้าเมื่อพบว่ารู้สึกปวดและตึงผิวไปหมดทั้งกาย
“อย่าขยับจะดีกว่า เธอถูกแทงที่หลังจมด้ามมีด ถูกฟันที่ช่วงอกลึกเกือบถึงกระดูก และบาดแผลนับไม่ถ้วนบนร่างกายที่ได้รับมาโดยไม่รู้ตัว ส่วนช่วงลำคอ....ถูกฟันเส้นเสียงและหลอดลม ถึงตอนนี้จะเริ่มสมานกันแล้วก็ใช่ว่าจะดีพอให้พูดจา...ถ้าเป็นคนธรรมดา..ต่อให้เป็นปิศาจก็ตายไปแล้ว”อิลเวสเอ่ยพลางมองด้วยสายตาดุ ทั้งคาดโทษทั้งโกรธา...ปะปนไปกับความห่วงใย เนลล่าสบแววตานั้นแล้วยิ้มแห้งๆ ส่งผลให้เนตรสีทองคลายความโกรธลง มือหนาประคองร่างของเด็กหนุ่มผมขาวเหลือบม่วงให้นั่งพิงหมอนสีครีมนุ่มบนเตียงสี่เสา ก่อนจะมองใบหน้าหวานด้วยสีหน้าราบเรียบไร้อารมณ์
เนลล่า ได้ยินสินะ
เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นในสมองของเขา..การสื่อสารทางจิตของเหล่าผู้พรากความตาย
..ครับ
เนลล่าตอบในใจด้วยเสียงอ่อนระโหย
เล่าเรื่องทั้งหมดมาเดี๋ยวนี้...ทำไมถึงไปต่อสู้กับเจ้า Red Lady นั่นได้...ได้ยินว่าเธอไปไกลถึงหอรุ้งเจ็ดมีไม่ใช่หรือไง..มีคำอธิบายดีๆอยู่สินะ?
น้ำเสียงที่ดังผ่านเข้าโดยตรงนั่นมีแววของความคาดคั้นและความโกรธอันเย็นยะเยือกซ่งส่งผ่านมาทางรอยยิ้มเหยียดบนใบหน้าคมของชายเจ้าของเรือนผมสีน้ำเงิน เนลล่านึกลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยตอบออกไป
เอ้อ..ก็ พอไปถึงที่หอรุ้งเจ้ดสี ผมก็ถูกพาเข้าไปโดยที่ไลบราลีถูกกันไม่ให้เข้าไปด้วย แล้วก็ได้พบกับมาดามกลาเดีย ผมถามเขาเกี่ยวกับเรื่องคดีที่คล้ายๆกันเมื่องสองปีก่อนจนได้ข้อมูลมา..แต่ มาดามกลาเดียเธอใช้กลิ่นหอมทำให้ผมหมดแรงแล้วเอาไปขังไว้ ...ดูเหมือนมาดามกลาเดียจะทำการค้ามนุษย์ด้ว.....อ๊า ข้อมูล!
ถ้าหมายถึงกระดาษที่ติดตัวเธออยู่ล่ะก็ มันเปื้อนเลือดไปหมดจนดูไม่ได้แล้ว แต่..ไนท์แมร์นั่นใช้วิธีไหนไม่รู้ทำให้มันกลับสภาพเป็นแบบเดิมแล้ว
เนลล่าถอนหายใจโล่งอกแล้วว่าต่อไป
ระหว่างที่ผมหนีวิ่งวนอยู่ วิญญาณพิทักษ์ของปราสาท..ผมหมายถึงวิญญาณพิทักษ์ของหอรุ้งเจ็ดสีนั่นแหละครับ ช่วยนำทางผมออกมา...จากนั้น
จากนั้น?
ผม......ผมรู้สึกว่ามีใครเรียก ก็เลยเดินออกมาเองโดยที่วิญญาณพิทักษ์ตามมาด้วยไม่ได้เพราะออกนอกเขต แล้วกิ..ไปเจอที่ๆเหมือนนครเซลอทที่ไม่ใช่นครเซลอท..กับเด็กผู้หญิงที่มีสีตากับสีผมเหมือนกับผม...
อิลเวสเบิกตาคล้ายสนใจ ก่อนจะกลบเกลื่อนมันไปแล้วถามต่อ จากนั้นล่ะ
ผม....ผมหลุดมาที่ถนนเลดเซได้ยังไงไม่รู้ จากนั้นก็ได้กลิ่นเลือดกับกลิ่นของความตาย..ก็เลย..
วิ่งเข้าไปหา? จากนั้นก็ไปเจอคนน่าสงสัย? แล้วก็สู้ทั้งๆที่ไม่มีอาวุธ?
ก็..ก้ถ้าผมไม่สู้ คนที่เป็นเหยื่อของเขาก็ต้องตายน่ะสิครับ..ผมก็เลย...
สู้ถ่วงเวลา แล้วลูกแก้วพฤกษาสวรรค์ล่ะ? ทำไมไม่ใช้?
ผมใช้ช่วยคนคนนั้นไปแล้ว...
เนลล่ารู้สึกว่าตัวเองตัวหดเล็กลงทุกที....
อ๊ะ แต่ผมก็มีอาวุธในมือนะ
เอ่ยขึ้นเมื่อนึกได้ แต่ชายหนุ่มดูเหมือนจะไม่ใส่ใจ
มีด....ของศัตรูที่ไม่ถนัดมือ อิลเวสหยิบมีดเปื้อนเลือดเล่มที่เขาจำได้ว่าเมื่อวานอยู่ในมือตนขึ้นมา ดวงตาคมปราดมองของในมือตัวเองแล้วหรี่มองเด็กหนุ่มร่างบางอย่างคาดโทษ แล้วยังไม่มีเหตุผลจะต้องสู้? ถ้าจะจับหมอนั่นหรือจะรู้ตัวจริงให้ได้ล่ะก็..แค่สู้พอให้เห็นหน้าก็พอไม่ใช่หรือไง
เด็กหนุ่มผมขาวเหลือบม่วงได้แต่เงียบ จนใจกับสายตาคาดโทษ ทั้งยังเป็นเขาที่ลืมไปด้วยซ้ำว่าต้องตามจับฆาตกร... แต่ก่อนจะบอกอะไรต่อชายร่างสูงก็ปิดการสื่อสารทางจิตแล้วท่ามกลางความงุนงงของคนไม่รู้เรื่องอย่างไนท์แมร์หนุ่มเนตรอ๊อดอาย
“...บอกตามตรง ฉันไม่โกรธหรอกนะที่เธอต้องถูกจับ..หมายถึงไม่จำเป็นต้องโกรธเธอ....”ชายหนุ่มไพล่โทษไปหาคนที่ไม่ได้อยู่ในห้อง “แต่....”
รอยยิ้มเย็นปรากฏ ชวนให้เนลล่าสูดลมหายใจลึก
“ไอ้ที่ไปสู้กับฆาตกรตัวคนเดียวจนบาดเจ็บหนักน่ะมันหมายความว่าไงห๊า!”
โฮ! ว่าแล้วไง!
เนลล่าแทบอยากร้องไห้ ใบหน้าเหยเกหวาดกลัวนึกอยากร้องขอโทษและขอให้หายโกรธ แต่น่าเสียดายที่เสียงเขายังขาดหายอยู่ ครั้นจะสื่อสารทางจิตอีกฝ่ายก็ปิดช่องทางเสียแล้ว ดวงเนตรสีแดงทัมทิมจับจ้องดวงตาสีทองที่ปะปนไปด้วยความโกรธและความห่วงใยที่จ้องมองมา ก่อนบทเทศนาจะเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“
.ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าเธอจะไปสู้กับมันทำไม!! ควรจะหนีออกมาตั้งแต่รู้ตัวว่าไม่มีอาวุธแล้ว!! แถมยังเอาลูกแก้วพฤกษาสวรรค์ไปให้คนอื่นใช้อีก ...คิดว่าตัวเองตายไม่ได้เลยไม่สนว่าจะบาดเจ็บยังไงหรือไงหา!! ถึงจะตายไม่ได้แล้วแต่ถ้าบาดเจ็บหนักๆก็นอนหลับเหมือนตายเป็นเดือนเลยนะ!! ..กลิ่นเลือดน่ะ..กลิ่นเลือด!! คิดว่าปล่อยให้มันโชยออกมามากๆแล้วเป็นผลดีหรือไง!! อย่าลืมสิว่าพวกเราก็โดนตามล่าอยู่พอๆกับที่ไนท์แมร์เคยโดนล้างเผ่านะ!! แล้วก็ถ้าได้รับการกระทบกระเทือนบ่อยๆก็มีสิทธิที่วิญญาณจะสลายด้วย! ห่วงชีวิตตัวเองเป็นรึเปล่าล่าฮะเจ้าเด็กบ้า!!............................”
คำเทศนายังคงดังต่อไป..กระทั่งหนึ่งเด็กหนุ่มหนึ่งชายหนุ่มหูชา..ส่วนคนพูด..หอบแล้วถอนหายใจพรวดเดียว
อิลเวสที่หายโกรธแล้วเสยผมตัวเอง มองใบหน้าของเด็กหนุ่มร่างบางที่ดูอย่างไรก็ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมา มือหนาที่เสยผมอยู่ชะงัก ก่อนจะเลื่อนมาขยี้เรือนผมสีขาวเหลือบม่วงเบาๆ “......ฉันเองก็ผิดด้วยที่ปล่อยเธอไปทั้งๆที่ตัวเองมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ขอโทษแล้วกัน”
เนลล่าผงกหัว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วสื่อสารทางจิตกับอิลเวส
อิลฮะ แล้วเรื่องที่ไปหาข้อมูลมาล่ะ?
“ปล่อยคนเจ็บไว้คนเดียวแบบนั้นจะดีเรอะ?”ไนท์มร์หนุ่มเอ่ยถาม มองร่างของชายเจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินที่เดินนำไปพร้อมถือเอกสารไว้ในมือด้วยสายตาเคร่งเครีด เนตรสีทองหันขวับมามอง เสียงถอนหายใจดังแผ่วก่อนจะมีคำตอบดังตามออกมา “ไม่จำเป็นต้องห่วงหรอก ลองโดนตวาดไปแบบนั้นคงนั่งหงอยไปพักใหญ่ อีกอย่างเสียงหายแบบนั้นคงสื่อสารกับใครไม่ได้อยู่ดี ปล่อยไว้คนเดียวให้ได้ใช้หัวซะบ้างนั่นล่ะดี”
พอเอ่ยออกไปเช่นนั้นเนลล่าก็มีอันต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อดวงตาคมกริบหันมาถลึงตามอง เด็กหนุ่มเจ้าของผมขาวเหลือิบม่วงหน้าซีด มองร่างสูงใหญ่ที่กำลังย่างสามขุมเข้ามา กระทั่งมือหนาที่เพิ่งละออกไปหันมาวางบนหัวขาวๆแล้วจัดการขยี้จนยุ่งเหยิงอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงรอดไรฟันติดจะสั่งสอนในคราวเดียว
“บาดเจ็บหนักจนเกือบตายยังจะห่วงเรื่องนั้นอีก! พักผ่อนซะ! ไอ้เรื่องนั้นน่ะคืนนี้ค่อยว่ากัน!! ไป!!”ว่าจบก็ลากไนท์แมร์ออกไปกับตนพร้อมปิดประตูเสียงดัง ทิ้งคนบาดเจ็บให้นั่งเอ๋อในห้องกว้างแต่เพียงผู้เดียว..
นี่ถ้าไม่ใช่ว่าเสียงหายไปล่ะก็ คงจะได้ยินเสียงโวยวายดังตามมาแล้วล่ะนะ..
“ทำตัวเหมือนคุณพ่อเลยนะ อิลเวส”ทรูธเอ่ยทะเล้น ก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อสบเข้ากับเนตรคมกริบเย็นยะเยือกสีทองที่มองมา แววตาซึ่งกดดันให้หวาดกลัวทั้งที่ไร้คำพูดตวาดหรือบีบเค้นเสริมทับเข้ามา...น่ากลัวจริงๆ
ที่จริงแล้ว..เท่าที่เขาสังเกตดู ผู้พรากความตายคนนี้เป็นคนประเภทเย็นชา พูดน้อย ขี้ระแวง เป็นคนแบบที่พร้อมจะเมินเฉยต่อคนทั้งโลกได้โดยไม่ปวดใจ..ที่จริงแล้ว ไลบราลีเคยบอกเขาว่าส่วนมากพวกผู้พรากความตายจะเป็นไวกเย็นชาเพราะความผ่านเวลาจนลืมความรู้สึกของมนุษย์ไป จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่อิลเวสจะมีนิสัยที่เป็นพื้นฐานของผู้พรากความตาย..แต่เฉพาะเรื่องของเนลล่าเท่านั้นที่ดูเหมือนจะทำให้ชายหนุ่มมีห้วงอารมณ์เหมือนคนทั่วไป...สิ่งที่ทำให้ในแววตากระด้างมีร่องรอยของความรู้สึกและอารมณ์
นั่นทำให้เขาสนใจสองผู้พรากความตายตั้งแต่อยู่ที่ร้านเหล้า ชายหนุ่มไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของสองคนนี้ คนรัก..อันนี้ตัดไปก่อนอย่างแรกเลย พ่อลูก? ถึงน่าจะใช่แต่หน้าตากับนิสัยก็ไปกันคนละทาง..เพื่อน? เหมือนจะตรงที่สุด....แต่มันจะมากเกินไหรือเปล่า...? กับความห่วงใยที่มีให้นั่น
ในเมื่อคิดก็เปล่าประโชยน์ ไนท์แมร์หนุ่มจึงรีบปิดประเด็นในสมองของตนทันที
“เฮ้ อิล....เฮ้ย!”สะดุ้งเมื่อชายหนุ่มร่างสูงปีนขึ้นกรอบหน้าต่างแล้วกระโดดลงไป อิลเวสที่ยืนเกาะขอบอยู่หันมามองด้วยสายตานิ่งเฉย ก่อนจะเอ่ยราบเรียบกับชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเขียวประกาย
“ฉันจะไปตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจ บอกเนลล่าด้วยว่าเย็นๆจะกลับมา”
เอ่ยจบก็แล่นจากไป ทิ้งไนท์แมร์หนุ่มให้ยืนนิ่งตกใจกับการเปลี่ยนแปลงกะทันหันชวนงุนงง
เลิกสนใจดีกว่าแฮะ...ไม่งั้นเขาคงกลายเป็นคนบ้าก่อนเข้าใจอะไรแน่นอน
เนลล่าวซุกตัวลงบนเตียงนุ่ม ครางเบาๆอย่างไร้เสียงแล้วนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกเจ็บที่ช่วงคอ
ความรู้สึกเจ็บหน่วงปวดตุบค่อยๆกลับคืนมาหลังจากที่เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ที่เขาว่าในชั่วพริบตาที่ถูกทำร้ายจะยังไม่เจ็บปวดท่าจะเป็นความจริง เพราะเด็กหนุ่มรู้สึกว่าตอนนี้เขาเจ็บยิ่งกว่าตอนที่เลือดไหลอาบตัวเสียอีก
เด็กหนุ่มไม่ชอบความเงียบเท่าไหร่นัก เพราะแผลที่ฝังลึกในใจนี้จะถูกกระตุ้มด้วยความเงียบเสมอ..อย่างน้อยก็ความเงียบที่ไม่มีใครอยู่ข้างๆกายนี้..ทำให้เขากลัว
ที่จริงเนลล่าก็นึกอยากจะออกไปวิ่งหาข้อมูลอยู่หรอก แต่เขาก็ไม่อยากให้เพื่อนตนต้องป็นห่วงไปมากกว่านี้อีกแล้ว..เพราะครั้งนี้เขาไม่ได้บาดเจ็บแค่แผลสองแผล..แต่เลือดไหลหมดตัว ระดับที่ทำให้การดำรงอยู่ของวิญญาณสิ้นสลายไปพร้อมร่างกาย
ผู้พรากความตายเป็นอมตะจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีวันสูญสลาย หากถูกกระทบกระเทือนร่างกายมากๆวิญญาณจะผุพังจนสลายไป..ไม่มีโอกาสได้เกิดใหม่..เลวร้ายเสียยิ่งกว่าความตาย..
เพราะร่างกายจะสูญสลายไป ไม่หลงเหลือร่องรอยว่าเคยดำรงอยู่ให้เห็นก่สายตา
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มนุษย์ทั้งโลกยังไม่ได้กลายเป็นผู้พรากความตาย...
และเป็นอีกสาเหตุที่อิลเวสไม่ต้องการให้เขาเป็นผู้พรากความตาย
เนลล่าหลุบตาลง ก่อนจะตัดสินใจขุดเรื่องอื่นมาแทนที่เรื่องเศร้าที่แสนทรมาน
...เวทพันธนาการ
เด็กหนุ่มครุ่นคิด นั่นคือสิ่งที่เขาคาใจที่สุดในตอนนี้ บางทีผู้ที่ใช้เวทนี้อาจไม่ใช่ Red Lady ..แต่เป็นเจ้าของเสียงที่ดังออกมาในจังหวะที่ร่างนั้นลังเล
เวทพันธนาการนั้นมีส่วนประกอบของความืด ทั้งมากเกินกว่ามนุษย์จะดึงพลังออกมา เวทนั่นเป็นเวทที่รวมตัวกับคำสาปสำหรับทรมานเหยื่อให้ตาย.แค่โชคร้ายที่เขาเป็นผู้พรากความตาย ต่อให้พันธนาการหรือทรมานจนตายก็ไม่มีวันตาย..ในทางกลับกัน
นั่นเป็นเวมทรมานชั้นดีของคนที่ไม่มีวันตาย
..แต่ลักษณะการทำงานอย่างนั้นมัน..
เด็กหนุ่มชะงักกึกเมื่อชื่อหนึ่งแวบเข้ามาในห้วงความคิดของตน
ปรปักษ์อีกหนึ่งของผู้พรากความตายที่ไม่ใช่ทั้งยมทูตและเทวดา..
ไม่..ไม่หรอกน่า...
“ไม่มีทาง...ถ้าใช่เราก็ต้องได้กลิ่นสิ”เนลล่าหัวเราะแห้งๆก่อนปัดความคิดที่ผุดขึ้นในสมองออกไป จังหวะนั่นเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นจากทิศที่ห่างออกไป
เนลล่ากำลังจะบอกว่าเชิญ แต่ก็นึกได้ว่าในคอของตนไม่มีเสียงให้เปล่งอีกแล้ว เด็กหนุ่มจึงได้แต่รอให้อีกฝ่ายเข้ามา..กระทั่งเวลาผ่านไปซักครู่ ประตูก็เบิกออก
“ร่างกายเป็นอย่างไรบ้างครับ? เนล”
เสียงหวานทุ้ม กับดวงตาที่ห่วงใยนั่นนั่นทำให้เนลล่าเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ
....รีท?
ความคิดเห็น