ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hagalaz..ผนึกรัตติกาล

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ : ค่ำคืนที่ลืมตาตื่น

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 53


    ตอนที่ลืมตาขึ้นมานั้น สิ่งที่อยู่รอบข้างมีเพียงหิมะนุ่มที่โปรยปราย
    เหนือขึ้นไปบนฟากฟ้านั้น คือราตรีที่มีดาราสุกสกาว
    ความเงียบคลอบคลุมทุกหนแห่ง ไร้กระทั่งเสียงสายลมพัดผ่าน
    ความทรงจำซึ่งคงอยู่ในตอนนั้น ทั้งมืดมิดและว่างเปล่า
    ราวกับว่าได้หล่นหายไปกลางทางในความมืดที่วกวน
    และ
    คราใดที่คิดจะขุดลึกในความทรงจำที่ว่างเปล่านั้น
    สายน้ำเชี่ยวกรากจะพลันพัดพาสิ่งนั้นให้ห่างไกลออกไปจากเดิม
    แต่ทว่า ในความเคว้งคว้างที่ไร้สิ่งใดให้แอบอิงนั่น มีสิ่งหนึ่งที่แจ่มชัดที่สุด
    นั่นคือ...
    รอยสักอันไร้ที่มา..
    ..ซึ่งสลักอย่างประณีตบนมือซ้ายของเรา




    บทนำ : ค่ำคืนที่ลืมตาตื่น

    ความทรงจำแรกนั้นไม่ได้เกิดในความมืดมิด
    แต่มันเริ่มขึ้นในยามที่ลืมตาตื่น
    ในยามที่ตื่นขึ้น..และเห็นผืนฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดารา



    “...ตื่นรึยัง? ”

    เสียงนั้นปลุกให้ร่างที่นอนนิ่งบนผืนหิมะลืมตาขึ้น

    เนตรกลมโตสีแดงทับทิมกระพริบอยู่ชั่วครู่ด้วยไม่ชินกับแสงสว่างแม้เป็นแสงริบหรี่ในยามราตรี แล้วจึงกลอกมองขึ้นไปบนผืนฟ้าซึ่งบัดนี้ถูกคลี่คลุมด้วยผืนผ้ากำมะหยี่สีดำ อันประดับประดาด้วยเพชรพราวแสงไร้จันทรา สรรพเสียงทั้งหมดเงียบกริบราวกับไม่อยากรบกวนการหลับใหลของเหล่าชีวิตบนแดนเหมันต์ ดวงตากลมโตคู่นั้นซึมซาบความงดงามรอบกายอยู่ซักพัก แล้วโครงใบหน้ากลมหวานจึงเอียงคอหันมองตามเสียงเรียกที่ดังขึ้นในเสี้ยวเวลาที่เขาตื่นขึ้นมา

    ชายหนุ่มเจ้าของเส้นผมสีน้ำเงินสั้นระต้นคอคนหนึ่งกำลังยืนมองลงมาที่เขา โครงใบหน้าเรียว ผิวขาว รูปร่างสูง ไม่ได้เพรียวบาง แต่ก็ไม่ได้สูงใหญ่น่ากลัว

    อาภรณ์ที่ชายหนุ่มสวมใส่คือเสื้อโค้ทสีเทาตุ่นที่ป้องกันความหนาวได้ดี ดวงตาเรียวสีทองคู่นั้นเปล่งประกายสนใจปนขี้เล่นบนใบหน้าราบเรียบไร้อารมณ์  ก่อนร่างสูงของชายหนุ่มจะนั่งลงกับพื้นหิมะ ในขณะที่เด็กน้อยยันกายขึ้นนั่งอย่างโรยแรง

    สิ่งที่อยู่บนร่างกายของเด็กน้อยมีแต่เพียงเสื้อสีขาวแขนยาวหลวมโพรกตัวเดียวเท่านั้น ..เด็กชายร่างเล็กคนนี้อายุน่าจะราวๆวัยไม่ถึงสิบปีจากที่ชายร่างสูงเดา ดวงตาคู่สวยกลมโตมองไปรอบด้านอย่างเหม่อลอย ลมหายใจรินรดออกมาเป็นสีขาวเพราะกระทบกับอากาศหนาวของแดนเหมันต์ เรือนผมสีขาวเหลือบม่วงที่ยาวเลยบ่ามานิดหน่อยเต็มไปด้วยหิมะที่เกาะพราวจนชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะต้องปัดกองหิมะออกจากศีรษะนั้นเพราะนึกรำคาญแทน แต่แล้วเมื่อเห็นว่ากายบอบบางของเด็กน้อยสั่นด้วยความหนาว มือหนาจึงถอดเสื้อโค้ทของตัวเองออกแล้วคลุมกายของเด็กน้อยไว้ พร้อมปัดหิมะบนศีรษะเล็กๆต่อโดยยังไม่ได้พูดอะไรออกมา กายเล็กของเด็กชายขยับเล็กน้อย ใบหน้ายังคงมองอย่างเลื่อนลอย ก่อนเสียงหวานใสกังวานจะพลันดังแผ่วขึ้นมา

     “...ไหน...ดวงตาคู่สวยเงยขึ้นมองเจ้าของมือที่อยู่บนศีรษะตนด้วยแววตาว่างเปล่า ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้งที่นี่...ไหน

     “ถ้าจะถามว่าที่นี่ที่ไหนล่ะก็....ที่นี่คือเหนือสุดของทวีปอกาธาร์ นครเซลอท ส่วนฉันคือคนที่ผ่านมาเห็นเธอนอนอยู่....กลางหิมะด้วยเสื้อแขนยาวแค่ตัวเดียวเสียงทุ้มของชายคนนั้นเอ่ยราบเรียบ แม้จะส่อแววกระทบหน่อยๆในประโยคที่เอ่ยเรื่อยมา มือหนาสองข้างยังคงปัดหิมะออกจากเรือนผมสีสวยให้โดยไม่พูดอะไรมากมาย เด็กน้อยที่นั่งอยู่กลางหิมะตัวสั่นเล็กๆด้วยความหนาวแม้จะมีเสื้อคลุมห่มกาย มือเล็กป้อมทั้งสองข้างจึงกระชับเสื้อคลุมสีตุ่นให้แนบกายมากกว่าเดิม แล้วพึมพำชื่อที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมา อกาธาร์...

    ร่างสูงลุกขึ้นยืน ไม่ได้สนใจคำพูดที่หลุดออกมาของเด็กชายตัวน้อย ดวงตาสีทองมองไปรอบข้างในขณะที่เรือนผมสีน้ำเงินพลิ้วไสวเมื่อสายลมเย็นของแดนเหมันต์ซึ่งหายไปเมื่อครู่เริ่มพัดมา บนร่างกายเหลือเพียงเสื้อหนังสีดำสนิทที่ช่วยป้องกันความหนาวอีกชั้นกับกางเกงขายาวเนื้อเดียวกัน เนตรสีทองมองไปรอบด้านด้วยแววเคร่งเครียด ..ก่อนจะจ้องมองลงไปยังร่างที่นั่งนิ่งบนพื้นหิมะสีขาวอีกครั้งหนึ่ง

    “…..เธอน่ะ..ทำไม....คำพูดบางอย่างที่กำลังจะหลุดออกมาถูกกลืนหายไป เปลือกตาของชายหนุ่มหลุบลงเล็กน้อยคล้ายไม่อยากเอ่ยคำพูดที่คิดจะกล่าว ก่อนจะเริ่มเอ่ยขึ้นใหม่อีกครั้งด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยดังใบหน้าของเจ้าตัวเธอมาจากไหน? พ่อแม่ล่ะ?”

    “..........”เสียงใสไม่ได้เอ่ยบอกอะไร ศีรษะซึ่งปกคลุมด้วยเส้นไหมสีขาวเหลือบม่วงส่ายไปมาเป็นการตอบ

    “.....แล้วชื่อล่ะ..?.”

    “............”..เด็กน้อยยังคงเงียบ

    ฉันชื่ออิลเวส...อิลเวส ลินสแตรงก์ เธอล่ะ เด็กน้อย ชื่ออะไร?”

    เด็กชายตัวน้อยที่นั่งบนผืนหิมะนั้นรับฟังซึมซาบประโยคคำถาม เนตรสีแดงทับทิมที่เห็นวิบวับอยู่ใต้ม่านผมสีขาวเหลือบม่วงจากเรือนผมนั้นยังคงส่องประกายว่างเปล่า และไม่ว่าอย่างไรริมฝีปากจิ้มลิ้มสีแดงซีดก็ยังคงปิดสนิทโดยไม่ยอมตอบอะไรออกมา แต่ซักพัก ร่างเล็กก็เอ่ยทวนออกมาแผ่วเบา

    ชื่อ.....

     ครั้งนี้ ดวงตากลมโตเบิกกว้างและแสดงออกถึงความสับสน มือเล็กสองข้างยกขึ้นพร้อมกับที่ดวงตาของเด็กน้อยมองมัน....บนมือซ้ายมีสัญลักษณ์คล้ายวงเวทย์สักอยู่ด้วยสีดำ ..ริมฝีปากปากเม้มแน่น มองสัญลักษณ์ที่สลักบนมือด้วยดวงตาที่สับสน งุนงง..ปะปนกับหวาดกลัว ก่อนริมฝีปากเล็กจะขยับเอื้อนเอ่ยอีกคราด้วยน้ำเสียงที่สับสนว้าวุ่นใจ

    “....ใคร.....

    “....ผมเป็นใคร.......

    ..และนั่น
    คือจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด

    .

    .

    TBC..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×