ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างรัก [ มี Ebook ]

    ลำดับตอนที่ #7 : สร้างรัก...บทที่ 7

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ย. 62


    บทที่ 7

    ปัถยาเดินตรวจดูความเรียบร้อยหน้างานอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน ทั้งยังแวะทักทายพูดคุยกับคนงานตั้งแต่โซนเอไปจนถึงโซนซี โดยเรื่องที่พูดคุยก็ไม่พ้นกำชับให้คนงานทำงานด้วยความระมัดระวังและไม่ลืมที่จะเตือนพนักงานให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลขณะปฏิบัติงาน

    ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมาหญิงสาวได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากที่แห่งนี้ ได้รู้จักผู้คนมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือในการทำงานของเธอเป็นอย่างดี จะมีพนักงานแค่บางคนและผู้รับเหมาบางชุดที่ดื้อรั้น ไม่ให้ความร่วมมือและไม่ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยของโครงการ และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอโดนศรันย์เรียกไปต่อว่าอยู่บ่อยครั้ง

    ขณะกำลังเดินตรวจตราความปลอดภัยในโซนซี สายตาปัถยาก็เหลือบไปเห็นชวกรกับพนักงานคนหนึ่งที่กำลังยืนคุยกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ในห้องที่ค่อนข้างลับตาคน ด้วยความอยากรู้หญิงสาวจึงยอมเสียมารยาทแอบหลบตรงมุมประตูเพื่อฟังบทสนทนาของทั้งสองอย่างเงียบๆ

    ไหนนายรับปากกับฉันว่าจะเลิกยุ่งกับมันแล้วไง แล้วนี่อะไร ทำไมถึงกลับไปเล่นมันอีกชวกรกดเสียงต่ำอย่างพยายามควบคุมอารมณ์ เกรงว่าหากคุยกันด้วยอารมณ์และถ้อยคำที่รุนแรงลูกน้องอาจจะต่อต้านแล้วเตลิดไปใหญ่

    เมื่อเดือนที่แล้วชวกรสังเกตเห็นว่าลูกน้องในความดูแลของเขามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป จากคนเอาการเอางาน มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนร่วมงาน ก็กลายเป็นคนเกียจคร้าน ไร้ความรับผิดชอบ ทั้งยังเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไหนจะร่างกายที่ผ่ายผอมลงจนน่าตกใจ นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมการใช้เงินที่ดูจะฟุ่มเฟือยกว่าที่เคยเป็น เงินที่เคยพอใช้ในแต่ละเดือน กลับกลายเป็นไม่พอใช้ จนต้องมาหยิบยืมเขาอยู่เรื่อยไป

    ตอนแรกชวกรได้แต่สงสัยและเฝ้าสังเกตพฤติกรรมลูกน้องอย่างเงียบๆ จวบจนวันหนึ่งที่เขาเข้าไปตรวจดูความเรียบร้อยที่หอพักคนงานตามคำไหว้วานของฝ่ายบุคคล และเขาก็เห็นลูกน้องคนนี้ทำตัวลับๆ ล่อๆ ที่บริเวณด้านหลังหอพัก เขาจึงแอบตามไปดู แล้วเขาก็ได้เห็นกับตาว่าลูกน้องของเขาแอบไปนั่งเสพยาอยู่ที่เพิงซอมซ่อด้านหลังหอพัก

    วันนั้นลูกน้องคนนี้ขอร้องไม่ให้ชวกรนำเรื่องนี้ไปแจ้งฝ่ายบุคคล เพราะบริษัทมีกฎห้ามพนักงานยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติด หากใครฝ่าฝืน มีโทษสถานเดียวคือโดนไล่ออก ชวกรเห็นแก่อนาคตลูกน้องจึงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แลกกับการเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดของลูกน้อง ตอนนั้นเด็กหนุ่มรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะเลิกข้องเกี่ยวกับสิ่งเสพติด หลังจากวันนั้นพฤติกรรมของคนหลงผิดก็เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนโฟร์แมนหนุ่มเบาใจ

    แต่แล้ววันนี้ความจริงที่ชวกรได้รับรู้ก็ทำให้เขาผิดหวังเป็นอย่างมาก เพราะโอกาสที่เขาให้ไปมันไม่มีค่าอะไรเลย

    ผมขอโทษครับนายช่าง ต่อไปผมจะไม่ยุ่งกับมันอีกแล้ว

    มืดยกมือไหว้ปลกๆ รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยที่ไม่สามารถรักษาสัญญาได้ เขาพยายามเลิกแล้ว และเกือบจะทำมันสำเร็จอยู่แล้วเชียว แต่คนที่ชักชวนให้เขาลองในครั้งแรกไม่ยอมให้เขาได้เลิกง่ายๆ ไม่ว่าเขาจะปฏิเสธยังไง นายคนนั้นก็หาวิธีมาหลอกล่อเขาอยู่เรื่อย จนสุดท้ายเขาทนแรงยุไม่ไหว จนต้องหันกลับไปหามันอีกครั้งหนึ่ง

    ครั้งก่อนนายก็พูดแบบนี้ดวงตาคมกริบตวัดมองลูกน้องอย่างผิดหวัง เขารึอุตส่าห์หวังดี ให้โอกาสคนหลงผิดได้กลับตัวกลับใจก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายไป แต่อีกฝ่ายกลับไม่เห็นคุณค่าของโอกาสที่เขาหยิบยื่นให้เลยสักนิด

    ที่ฉันคอยบอกคอยฉันเตือนก็เพราะหวังดีและเห็นแก่อนาคตของนาย ยาเสพติดมันไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นหรอกนะ มีแต่ผลเสียทั้งนั้น จะทำอะไรอย่านึกถึงแต่ตัวเอง ให้นึกถึงพ่อกับแม่บ้าง ถ้าลุงมีกับป้าสร้อยรู้เข้าจะเสียใจแค่ไหน นายเคยคิดบ้างไหม

    คนฟังหน้าสลดลงทันทีเมื่อลูกพี่พูดถึงบุพการีทั้งสองของตน ที่ทำงานอยู่ที่นี่เหมือนกัน

    ผมรู้ครับว่านายช่างหวังดีกับผม ผมขอโอกาสอีกครั้งนะครับนายช่าง ครั้งนี้ผมสัญญาและสาบานเลยครับว่าผมจะเลิกมันให้ได้ ผมจะไม่ทำให้นายช่างผิดหวังอีกแล้วครับมืดเว้าวอนขอโอกาสอีกครั้ง ทั้งยังให้คำมั่นด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว

    ชวกรนิ่งคิดไปพักหนึ่ง ก่อนจะยอมในที่สุด ก็ได้ ฉันจะให้โอกาสนายอีกครั้ง และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย หวังว่านายจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังอีกนะ

    ขอบคุณมากครับนายช่าง ครั้งนี้นายช่างจะไม่ผิดหวังกับเรื่องเดิมๆ แน่นอนครับเจ้าของร่างผอมกะหร่องฉีกยิ้มจนตาหยีด้วยความดีใจ

    รับปากแล้วก็ทำให้ได้อย่างที่พูดด้วยละกัน หากมีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกละกัน

    ครับนายช่าง

    ไปทำงานต่อได้แล้ว

    ครับผมมืดยกมือไหว้ลูกพี่ก่อนหันหลังเดินออกไป แต่ยังไม่ทันพ้นประตูเสียงของชวกรที่ดังตามหลังมาก็หยุดเขาไว้เสียก่อน

    เดี๋ยวก่อนมืด

    ว่าไงครับนายช่างมืดเดินกลับมายังตำแหน่งเดิมเพื่อรอฟังคำสั่งลูกพี่ ด้วยเข้าใจว่าที่ถูกเรียกไว้เพราะอีกฝ่ายจะสั่งงาน

    นายพอจะบอกฉันได้ไหมว่าใครที่นำยามาปล่อยในไซต์งานชวกรคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ขืนปล่อยไว้แบบนี้ไม่วายยาเสพติดคงระบาดไปทั่วไซต์งานแน่

    เอ่อ...มืดอึกอักทั้งยังมีสีหน้าลำบากใจ ด้วยเขาโดนพวกมันขู่ไว้ว่าหากปากพร่อยบอกใครไปพวกมันไม่เอาเขาไว้แน่

    มืดไม่ไว้ใจฉันเหรอ

    ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับนายช่าง คือผมจะพูดยังไงดีล่ะมืดพยายามเรียบเรียงคำพูด

    พวกมันขู่นายไว้ใช่ไหม

    ใช่ครับมืดพยักหน้ายอมรับ และยอมบอกแต่โดยดีว่าใครเป็นคนนำยาเสพติดมาปล่อยให้คนงานในไซต์งาน ซึ่งชวกรเองก็รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะจัดการเรื่องนี้เองและจะไม่ให้มีเรื่องเดือดร้อนมาถึงมืด

    เมื่อตกลงกันได้ทั้งสองก็เดินตามกันออกมาจากห้องดังกล่าว ส่วนคนที่แอบฟังอยู่หน้าประตูก็รีบเร้นกายเข้ามุมมืดทันที หญิงสาวรอจนพ้นร่างของสองหนุ่ม จึงออกมาจากที่หลบซ่อน

    ห่วงคนอื่นก็เป็นด้วยแฮะ นึกว่าจะตีหน้ายักษ์เป็นอย่างเดียวซะอีก

    ปัถยาพึมพำกับตัวเอง เธอชักจะคล้อยตามคำพูดที่ก้องภพและคนอื่นๆ เคยบอกไว้แล้วสิว่าชวกรเป็นคนจิตใจดี เป็นคนมีน้ำใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเห็นเขาแสดงความห่วงใยต่อคนอื่น เมื่อครั้งที่ก้องภพบอกกับเธอว่าชวกรเป็นคนใจดี ตอนนั้นเธอแทบไม่อยากเชื่อ ด้วยท่าทางนิ่งๆ และไม่ค่อยสุงสิงกับใครของเขา ไหนจะท่าทางไม่ชอบหน้าเธอนั่นอีก เธอเลยคิดว่าเขาเป็นพวกไม่สนใจใคร ใครจะเป็นจะตายยังไงก็ช่าง เขาคงไม่สนใจใยดี แต่ที่ไหนได้ เขากลับเป็นคนที่คอยห่วงใยทุกข์สุขของลูกน้องมากกว่าคนอื่นๆ เสียด้วยซ้ำ ซึ่งเรื่องราวที่ว่านอกจากเธอจะเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว บรรดาคนงานยังเล่าให้เธอฟังอยู่ไม่ขาดถึงเรื่องราวความมีน้ำใจของเขา

    ถ้าตัดเรื่องชอบตีหน้ายักษ์ ชอบพูดจาห้วนๆ แบบมะนาวไม่มีน้ำ แล้วก็เรื่องชอบพูดจาเหน็บแนมแบบไม่รู้สาเหตุออกไป ก็นับว่าคุณเป็นคนใช้ได้คนหนึ่งเลยนะเนี่ย

    ปัถยาคิดในใจ พร้อมกับตั้งข้อสังเกตบางอย่างเกี่ยวกับการแสดงออกของชวกร กับคนอื่นๆ เขาจะพูดจาด้วยถ้อยคำปกติ แม้จะไม่ได้ยิ้มแย้มแต่มันก็ดูเป็นมิตรมากกว่าเวลาที่เขาคุยกับเธอ ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างความงุนงงให้กับปัถยาเป็นอย่างมาก เธอไม่เข้าใจว่าตัวเองไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจตอนไหนหรือเปล่า เขาถึงได้ทำตัวเหมือนเป็นปรปักษ์กับเธอแบบนั้น แม้ว่าจะอยากรู้สาเหตุของการกระทำของเขาสักเพียงใดแต่ปัถยาก็จนปัญญา เมื่อเจ้าตัวนั้นไม่เคยปริปากบอกอะไรกับเธอเลย แม้ว่าเธอจะเคยถามไปแล้วหลายครั้ง คำตอบที่ได้รับมีเพียงความเงียบ

    เมื่อเห็นว่าอยู่ตรงนี้นานเกินไปแล้วปัถยาจึงคิดที่จะกลับขึ้นไปทำงานเอกสารบนออฟฟิศ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาออกไปก็เป็นอันต้องรีบหลบเข้ามุมมืดตามเดิม เมื่อมีชายสองคนท่าทางลับๆ ล่อๆ เดินตรงมายังห้องที่ชวกรและมืดเพิ่งออกไปเมื่อสักครู่ แล้วดวงตากลมโตเบิกโพลงอย่างตกใจพร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากตัวเองด้วยกลัวว่าจะเผลอส่งเสียงอะไรออกไปให้คนทั้งสองรู้ตัว เมื่อเห็นชัดว่าสองคนนั้นกำลังทำอะไร และหนึ่งในนั้นคือคนที่ชวกรกับมืดเพิ่งพูดถึงเมื่อสักครู่

    ปัถยาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาหวังจะถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอเก็บไว้เผื่อจะได้ใช้ประโยชน์ในวันข้างหน้า แต่ยังไม่ทันได้ทำตามที่ตั้งใจ สมาร์ตโฟนในมือก็ส่งเสียงดังขึ้นเสียก่อน ขณะที่นิ้วเรียวกำลังจะกดปิดเสียงเพราะกลัวคนในห้องได้ยิน หางตาของเซฟตีสาวก็เหลือบเห็นชายทั้งสองคนกำลังย่างสามขุมมาทางตน จึงจำต้องกดรับสายและพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด ให้เหมือนกับว่าเพิ่งเดินผ่านมาทางนี้พอดี ทั้งที่ในใจนั้นเต้นโครมครามด้วยความตระหนก

    หลังวางสายปัถยาทำใจดีสู้เสือด้วยการส่งยิ้มเป็นมิตรอย่างที่ทำเป็นประจำให้กับผู้รับเหมาทั้งสองคน ที่ยืนจังก้าด้วยท่าทีคุกคามทั้งยังมองมาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

    มะ...มีอะไรหรือเปล่าคะช่างปัถยาถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามบังคับไม่ให้สั่น แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เมื่อเสียงที่เล็ดลอดออกไปนั้นแทบจะขาดเป็นห้วงๆ

    ไม่มีอะไรหรอกครับ พอดีพวกเรายืนคุยงานกันอยู่แล้วได้ยินเสียงเซฟตีแว่วๆ ก็เลยอยากจะมาทักทายสักหน่อยน่ะครับชายคนที่ที่ปัถยาจำได้ว่าเป็นหัวหน้าผู้รับเหมาตอบ

    อ๋อ ค่ะหญิงสาวได้แต่พยักหน้าหงึกๆ เป็นการรับรู้ ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่

    ว่าแต่เซฟตีมาทำอะไรในที่มืดๆ แบบนี้ล่ะครับ

    เอ่อ...ปัถยาหันรีหันขวางเพื่อคิดหาคำตอบ ก่อนจะชี้ไปยังชุดนั่งร้านที่อยู่มุมด้านในสุด ซึ่งติดตั้งไว้สำหรับเป็นทางขึ้นไปยังชั้นเหนือฝ้า เมื่อกี้ขึ้นไปตรวจดูความเรียบร้อยข้างบนมาค่ะ กำลังจะกลับออฟฟิศ แต่ดันมีสายเข้ามาพอดีก็เลยหยุดรับสายน่ะค่ะปัถยาปดออกไปคำโต

    ถ้าช่างไม่มีอะไรงั้นรุ้งขอตัวก่อนนะคะ

    ถ้ายังอยากใช้ชีวิตอย่างปกติสุข ก็อย่าได้ปากโป้งไปละกันเสียงเข้มๆ ที่ดังอยู่ข้างหูทำให้ขาที่กำลังก้าวออกไปหยุดชะงักไปทันที

    ปากโป้ง? ช่างหมายถึงเรื่องอะไรเหรอคะถามพร้อมทำหน้าเหลอหลาอย่างไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร

    ไม่รู้ไม่เห็นอะไรก็แล้วไปไม่พูดเปล่าแถมยังจ้องเขม็งเป็นเชิงข่มขู่ไปยังคู่สนทนาที่ยืนตัวลีบอยู่ตรงหน้า ก่อนจะหันหลังเดินจากไปพร้อมกับลูกน้องคนสนิท

    เมื่อพ้นร่างของทั้งสองคนปัถยาพ่นลมออกจากปากพรูใหญ่อย่างโล่งอก ที่หลุดพ้นจากสถานการณ์ชวนตระหนกได้เสียที แต่ยังไม่ทันได้หายใจหายคอคล่องดีเซฟตีสาวก็ตัวชาวาบ เมื่อพบว่ามีสะเก็ดไฟจำนวนมากร่วงลงมาตรงหน้าและร่วงลงมาเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ปัถยาเงยหน้าเพ่งไปยังด้านบน เห็นฝ้าแผ่นหนึ่งเปิดอยู่ คาดว่าด้านบนน่าจะมีการทำงานเชื่อมหรือไม่ก็ตัดเหล็กและคงจะไม่มีผ้ากันไฟ  ถึงได้มีสะเก็ดร่วงลงมามากมายขนาดนี้

     

    ด้วยสัญชาตญาณความเป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ที่จะไม่ยอมให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในโครงการเด็ดขาด หญิงสาวรีบหันหลังกลับไปยังทางเดิม ก่อนค่อยๆ เดินขึ้นไปตามบันไดนั่งร้านจนไปถึงบริเวณเหนือฝ้าที่มืดจนแทบมองไม่เห็นทางเดิน ไม่รอช้าหญิงสาวรีบคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดไฟฉายเพื่อส่องนำทางไปยังจุดหมายข้างหน้าที่มีแสงวาบเป็นระยะๆ

              ทำอะไรกันคะช่าง

              ตัดเหล็กครับเซฟตีคนงานหนึ่งในสี่วางมือจากงานที่ทำอยู่ก่อนจะหันมาตอบ

              ไม่มีผ้ากันไฟเหรอคะเห็นมีสะเก็ดไฟร่วงลงไปข้างล่างเต็มเลยเซฟตีสาวถามพร้อมมองสำรวจอุปกรณ์และเครื่องมือของช่างไปด้วยว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ ก่อนจะลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อพบว่าอุปกรณ์แต่ละอย่างไม่พร้อมใช้งานเอาเสียเลย

              ลืมเอามาครับคนงานอีกคนบอกอย่างหน้าตาเฉยขณะที่มือยังคงทำการตัดเหล็กด้วยแก๊สต่อไป

              งั้นก็หยุดงานตรงนี้ไว้ก่อนนะคะ แก้ไขเรียบร้อยแล้วค่อยทำต่อ ขอดูใบอนุญาตทำงานหน่อยค่ะหญิงสาวหมายถึงใบขออนุญาตทำงานที่มีความร้อน ซึ่งต้องแจ้งขออนุญาตล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งวัน เพื่อเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยและไฟร์แมนของทางห้างสรรพสินค้าจะได้เข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยและปลอดภัยของพื้นที่หน้างานก่อนให้เริ่มทำงาน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันอัคคีภัยของโครงการ

              มีอะไรกันเหรอเสียงห้วนที่ดังขึ้นด้านหลังไม่ต้องหันไปมองปัถยาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงของใคร ทั้งโครงการมีอยู่คนเดียวที่พูดจามะนาวไม่มีน้ำแบบนี้กับเธอ ไม่รู้เธอไปทำอะไรให้เขาแค้นเคือง ถึงได้ชอบต่อต้าน ไม่ให้ความร่วมมือด้านความปลอดภัยเหมือนคนอื่นๆ

              เซฟตีสั่งให้หยุดทำงานครับนายช่าง

              ทำต่อไป ไม่ต้องหยุด ไม่รู้หรือไงว่างานกำลังเร่งชวกรสั่งลูกน้องเสียงดังก่อนหันไปประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสาวอย่างท้าทาย

    เห็นหน้าเธอทีไรเขาก็อดนึกถึงเรื่องที่เธอป่าวประกาศไปทั่วทั้งโครงการว่าโสดทั้งที่มีแฟนอยู่แล้วไม่ได้ แม้มันจะเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงานสักนิด แต่มันเป็นการกระทำที่เขาเกลียดแสนเกลียด พาลให้อยากต่อต้านเธอในทุกๆ เรื่องอย่างไม่มีเหตุผล

    ทำแบบนี้ไม่ได้นะคะนายช่าง มันเสี่ยงเกินไป ก่อนทำงานก็ไม่ได้ทำเรื่องขออนุญาต ผ้ากันไฟและอุปกรณ์ป้องกันไฟย้อนกลับก็ไม่มี ถังดับเพลิงก็ไม่นำขึ้นมาด้วย หากสะเก็ดไฟร่วงลงไปโดนอะไรที่เป็นเชื้อเพลิง อาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้นะคะ

    เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสาวแย้งพร้อมอธิบายถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นหากยังดื้อดึงที่จะทำงานต่อ ได้แต่หวังว่าเขาจะเข้าใจและให้ความร่วมมือเหมือนกับคนอื่นๆ แต่แล้วประโยคที่หลุดออกจากปากได้รูปของเขาก็ทำให้ปัถยาหนักใจ

              ตัดเหล็กแค่ไม่กี่นาทีทำไมต้องทำเรื่องขออนุญาตให้ยุ่งยาก และไอ้พวกอุปกรณ์ที่คุณว่า บางครั้งไม่ติดก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย อย่ามาทำเรื่องง่ายให้มันเป็นเรื่องยากเลยคุณเขาบอกอย่างรำคาญ ทั้งยังชักสีหน้าไม่พอใจที่หญิงสาวมาวุ่นวายกับการทำงานของเขา แม้เขาจะรู้ดีว่าการกระทำดังกล่าวมันเป็นหน้าที่ของเธอ และสิ่งที่เธอพูดมันก็ถูก แต่เพราะอคติที่มีต่อเรื่องส่วนตัวของเธอ ทำให้เขายอมฝ่าฝืนกฎความปลอดภัยของโครงการ ด้วยคิดว่าชั่วเวลาแค่แป๊บเดียวคงไม่มีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นหรอก 

              มันเป็นมาตรการความปลอดภัยของโครงการที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ถึงมันจะดูยุ่งยากแต่มันก็ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนได้ทำงานอย่างปลอดภัยนะคะ กรุณาให้ความร่วมมือด้วยค่ะ

              ผมไม่ทำตามมีอะไรไหมโฟร์แมนหนุ่มยืนยันเสียงแข็งจนเซฟตีสาวต้องถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับคนหัวดื้อ จะมีสักครั้งไหมที่เขาจะให้ความร่วมมือโดยง่าย

              งั้นช่วยเซ็นชื่อในใบเตือนด้วยค่ะ ว่ารุ้งได้ตักเตือนและแจ้งให้ช่างแก้ไขไปแล้ว

    หญิงสาวส่องไฟเพื่อกรอกรายละเอียดลงในใบเตือนเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะยื่นให้ชวกรเซ็นชื่อรับทราบ เผื่อว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นอันมีเหตุจากการกระทำของเขา เธอจะได้ไม่ถูกว่าเอาได้ว่าหละหลวมในการปฏิบัติหน้าที่

              ผมไม่เซ็นไม่ว่าเปล่า มือหนายังสะบัดออกไปเต็มแรงจนกระดาษในมือเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสาวลอยละลิ่วเฉียดหน้าคนถือไปนิดเดียวก่อนค่อยๆ ปลิวลงสู่พื้น

              อยู่บริษัทเดียวกันก็ให้ความร่วมมือกันหน่อยสิคะ แค่สู้รบตบมือกับคนของบริษัทอื่นรุ้งก็เหนื่อยจะแย่ ยังต้องให้รุ้งมาเหนื่อยกับบริษัทตัวเองอีกเหรอคะ อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากสิคะนายช่าง

    ปัถยาบอกอย่างเหนื่อยใจ เนื่องจากบริษัท แกรนด์ คอนสตรัคชั่น แอนด์ ดีไซน์ เป็นผู้รับเหมาหลักภายในโครงการ งานด้านความปลอดภัยหญิงสาวจึงต้องควบคุมทุกบริษัทที่ทำงานในโครงการนี้ ไม่ใช่ดูแลเฉพาะในส่วนของบริษัทตัวเองเหมือนกับพนักงานตำแหน่งอื่นๆ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เธอจะควบคุมคนร้อยพ่อพันแม่ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเธอทุกอย่าง แต่เธอก็หวังอยู่ลึกๆ ว่า ถึงแม้บริษัทอื่นจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือ เพราะเธอไม่ใช่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยของเขาโดยตรง แต่อย่างน้อยคนในบริษัทเดียวกันเชื่อฟังคำแนะนำของเธอสักหน่อยก็ยังดี แต่แล้วสิ่งที่เธอหวังมันก็เป็นเพียงแค่ความหวังลมๆ แล้งๆ เมื่อคนตรงหน้าเขามักจะทำตรงข้ามกับสิ่งที่เธอบอกเสมอ และครั้งนี้ก็เช่นกัน

              เรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวกับผมพูดจบชายหนุ่มก็หันหลังเดินจากไปอย่างไม่แยแส แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็มีเสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากข้างล่าง เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสาวไม่รอช้า รีบวิ่งแซงหน้าโฟร์แมนหนุ่มลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ยินคำว่า ไฟไหม้ดังแว่วเข้ามาในหู

    *************************

    พระเอกของเรานี่พาลไม่เข้าเรื่องเลยเนอะ หางานมาให้นางเอกเราจนได้

    อ่านแล้วมีความคิดเห็นยังไงก็ทิ้งข้อความไว้บอกคนเขียนได้น้าาา

    ...คีตมินทร์...

      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×