ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างรัก [ มี Ebook ]

    ลำดับตอนที่ #6 : สร้างรัก...บทที่ 6

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ย. 62


    บทที่ 6

    สองเท้าของปัถยาเป็นอันต้องชะงักเมื่อเจอพิรภพยืนยิ้มแต้รออยู่ที่หน้าไซต์งาน หญิงสาวถึงกับกลอกตาใส่ด้วยความเบื่อหน่าย แต่มีหรือที่อีกฝ่ายจะสนใจ เขากลับยิ้มกว้างจนปากแทบฉีกถึงใบหู

    เราบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เลิกมาวุ่นวายกับเรา ยังไง...

    ยังไงเราก็ไม่มีวันแต่งงานกับคนอย่างนาย ชายหนุ่มพูดดักอย่างรู้ทัน เพราะประโยคนี้เขาฟังมานับครั้งไม่ถ้วนแต่ทุกครั้งมันก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาอยู่ร่ำไป

    รู้แล้วยังจะมาวุ่นวายอีก

    เผื่อรุ้งจะใจอ่อนเข้าสักวัน พิรภพลอยหน้าลอยตาตอบอย่างน่าหมั่นไส้

    ไม่มีวัน” 

    พูดจบปัถยาก็รีบเดินตรงไปที่ลิฟต์ เมื่อเห็นว่าบรรดาคนงานที่มารอขึ้นรถรับส่งของบริษัทที่หน้าโครงการเริ่มเมียงมองมายังเธอกับพิรภพอย่างอยากรู้อยากเห็น หญิงสาวไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของคนเหล่านั้น ด้วยเกรงว่าจะมีการเข้าใจผิดคิดว่าเธอกับพิรภพเป็นแฟนกัน แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะคิดช้าไป เพราะคนที่เดินตามหลังเธอออกมาติดๆ จากในไซต์งานได้เข้าใจไปแบบนั้นเรียบร้อยแล้ว

     ชวกรมองตามสองหนุ่มสาวที่เดินตามกันต้อยๆ ไปที่ลิฟต์พลางยิ้มหยัน

    มารับกันแทบทุกวันขนาดนี้ ยังมีหน้าไปป่าวประกาศว่าตัวเองโสดอีกนะ ผู้หญิงสมัยนี้เป็นแบบนี้กันทุกคนเลยหรือยังไงนะ”  

    ชายหนุ่มนึกค่อนแคะอยู่ในใจ เห็นพฤติกรรมของปัถยาแล้วเขาก็อดนึกถึงอดีตคนรักไม่ได้ พฤติกรรมของเธอทั้งสองไม่ได้ต่างกันเลยสักนิด หลังจากเซฟตีสาวป่าวประกาศให้คนทั้งไซต์ทราบว่าเธอยังโสดในวันนั้น ก็มีหนุ่มมากหน้าหลายตาหวังเข้าไปสานสัมพันธ์กับเธอ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธแต่อย่างใด เห็นแล้วเขาก็นึกคันปากขึ้นมายิบๆ อยากจะบอกพวกเขาเหล่านั้นเหลือเกินว่าเธอไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด บางครั้งเขาก็นึกอยากจะบอกผู้ชายคนนั้นเหลือเกินว่า ลับหลังเขานั้นปัถยาทำตัวยังไงบ้าง แต่เมื่อฉุกคิดขึ้นมาได้ว่ามันเป็นเรื่องของคนอื่น และโดยส่วนตัวเขาไม่ใช่คนช่างฟ้องเท่าไร จึงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปในทางที่มันควรจะเป็น แม้มันออกจะขัดใจเขาอยู่มากก็ตาม

    โฟร์แมนหนุ่มรีบสลัดเรื่องราวของปัถยาและอดีตคนรักออกไปจากหัว แล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาที่นัดกับเพื่อนไว้แล้ว จึงรีบก้าวตรงไปยังลิฟต์เพื่อเพื่อนจะได้ไม่เสียเวลารอ

     

    ร้านที่ชวกรนัดแนะกับเพื่อนนั้นอยู่ไม่ไกลจากไซต์งานมากนัก ไม่กี่นาทีเขาก็เดินทางมาถึง สายตาคมกวาดมองไปทั่วร้านซึ่งตอนนี้มีลูกค้านั่งจับจองอยู่ราวๆ ห้าโต๊ะ แต่แล้วสายตาคมก็สะดุดเข้ากับชายหญิงคู่หนึ่งตรงโต๊ะริมสุดติดกับกระจก

    ทำไมยิ่งไม่ชอบยิ่งต้องเจออยู่เรื่อยเลยวะ

    ชายหนุ่มบ่นกับตัวเองเบาๆ  ก่อนเดินทำหน้าไม่สบอารมณ์เข้าไปหาหญิงสาวผมซอยสั้น ท่าทางเหมือนทอมที่นั่งอยู่ถัดมาจากโต๊ะของปัถยามาสองโต๊ะ

    เฮ้ย ไปกินรังแตนมาจากไหนวะ ดูทำหน้าสิ” สุมณฑาร้องทักเมื่อเห็นสีหน้าเหมือนโกรธใครมาของอีกฝ่าย

    เปล่าสักหน่อย ชายหนุ่มปฏิเสธพร้อมรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ

    เมื่อนั่งเรียบร้อย ชวกรก็ได้แต่นึกบ่นเพื่อนรักอยู่ในใจ ที่ช่างเลือกโต๊ะได้พอเหมาะพอเจาะเสียเหลือเกิน ตำแหน่งที่เขานั่งนั้นสามารถมองคู่รักคู่นั้นได้อย่างชัดเจน

    “แล้วแกมานานยัง”

    “มาถึงก่อนแกแค่แป๊บเดียวเอง” ตอบพลางยื่นเมนูให้คนที่เพิ่งมาถึง

    ชวกรรับเมนูมาเปิดดูรายการอาหารทีละหน้า ขณะเดียวกันตาคู่คมก็คอยมองไปยังอีกโต๊ะเป็นระยะๆ จนคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามจับสังเกตได้

    “รู้จักเหรอ” สุมณฑาถามขึ้นหลังจากหันไปมองตามสายตาของเพื่อนแล้วพบว่าชายหนุ่มมองชายหญิงคู่นั้นราวกับรู้จักกันมาก่อน

    “อืม น้องที่ทำงานน่ะ” ชวกรละสายตาจากคนทั้งสอง แล้วกลับมาให้ความสนใจเมนูอาหารที่อยู่ในมือ

    “ไม่เข้าไปทักทายน้องเขาสักหน่อยเหรอ” ด้วยความที่เป็นคนอัธยาศัยดี เจอคนรู้จักที่ไหนเป็นต้องเข้าไปทักทายเสมอ สุมณฑาจึงแนะนำไปเช่นนั้น

    “ไม่ละ ไม่ค่อยถูกชะตาเท่าไร”

    “หา แกว่าอะไรนะไอ้ตรี” สาวมาดทอมหันกลับมามองหน้าเพื่อนรักระคนแปลกใจ ไม่คิดว่าคนที่ไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยกับใครอย่างชวกรจะมีความคิดแบบนี้ด้วย

    “ไม่ชอบ ไม่ถูกชะตา จะว่าเกลียดเลยก็ได้”

    ชายหนุ่มพูดเสียงห้วนอย่างไม่สบอารมณ์ ยิ่งเห็นฝ่ายชายตักอาหารให้ฝ่ายหญิงอย่างเอาอกเอาใจ ความรู้สึกไม่ชอบใจยิ่งทบทวีขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันคำว่า ยังไม่มีแฟนที่เธอป่าวประกาศไปทั่วไซต์งานในวันนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัว แล้วดูตอนนี้สิ การกระทำมันช่างตรงข้ามกับคำพูดสิ้นดี

    ชวกรนึกตำหนิอยู่ในใจ โดยไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาคิดและเข้าใจนั้นตรงข้ามกับความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง เพราะปัถยานั่งหันหลังให้เขา ชายหนุ่มจึงไม่มีโอกาสได้เห็นสีหน้าแสนเบื่อหน่ายของหญิงสาว ในขณะที่พิรภพนั้นนั่งหันหน้ามาทางเขา เขาจึงเห็นเพียงใบหน้าเปื้อนยิ้มของฝ่ายชาย ที่ไม่ว่าปัถยาจะแสดงอาการไม่พอใจขนาดไหนเขาก็ยังคงทำไม่รู้ไม่ชี้ ยิ่งกว่านั้นยังเอาอกเอาใจหญิงสาวมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ ทั้งยังส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้ไม่ขาด

    “ทำไมวะ”

    คำถามของสุมณฑาดึงให้โฟร์แมนหนุ่มหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง

    “ไม่ชอบคนนิสัยแบบนี้”

    “แกเป็นอะไรของแกวะไอ้ตรี ปกติใครทำอะไร มีนิสัยยังไงแกก็ไม่เคยเก็บมาใส่ใจนี่หว่า แล้วคราวนี้ทำไมแกถึงคิดหยุมหยิมกับเรื่องแค่นี้วะ” สาวมาดทอมมองหน้าเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ

    “เห็นแล้วมันอดนึกถึง...” ชวกรหยุดคำพูดไว้แค่นั้น เมื่อคิดได้ว่าเขาไม่ควรเก็บมันมาใส่ใจอย่างที่เพื่อนว่านั่นแหละ ยิ่งเก็บมาคิดตัวเองก็เป็นคนทุกข์ใจเสียเอง

    “นึกถึงอะไร”

    “ช่างมันเถอะ แกจะสั่งอะไรก็สั่งไปเลยนะไนต์ ฉันไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่ง” เขาวางเมนูลงก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและสาวเท้ายาวๆ ไปยังทิศทางของห้องน้ำที่อยู่ด้านหลังร้าน

    “มันเป็นอะไรของมันวะ” สุมณฑารำพึงกับตัวเองเบาๆ พลางหันไปมองหญิงสาวคู่กรณีของเพื่อนรักอีกครั้ง ก่อนหันกลับไปมองยังเพื่อนรักที่เดินหายเข้าไปในห้องน้ำชายอย่างไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง

     

    รุ้งลองชิมนี่ดูสิ ร้านนี้เขาทำอร่อยนะพิรภพตักแกงส้มชะอมกุ้งใส่ถ้วยให้ปัถยาอย่างเอาใจ หากเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจะประทับใจไม่รู้ลืมที่เขาเอาอกเอาใจขนาดนี้ แต่สำหรับปัถยาแล้วมันเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายที่สุดก็ว่าได้ และที่เธอยอมออกมากินข้าวกับเขาวันนี้ก็เพื่อตัดรำคาญเท่านั้น ไม่ได้เกิดพิศวาสอะไรคนตรงหน้าเลยสักนิด

    “ตอนนี้เราอยู่กันสองคนไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำหรือสร้างภาพหรอก” ที่ปัถยาพูดเช่นนี้เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่ชายหนุ่มทำนั้นไม่ได้ออกมาจากใจจริง เป็นแค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้น

    “รุ้งพูดอะไรก็ไม่รู้ ทุกอย่างที่ภพทำเพื่อรุ้งก็ออกมาจากใจทั้งนั้นแหละ” หนุ่มหล่อยังทำไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งยังตักอาหารเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย

    “เรารู้จักกันมาสิบปีแล้วนะ ไม่ใช่สิบวัน ถึงจะไม่รู้ตัวตนของกันและกัน”

    พิรภพถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนปรับสีหน้าและน้ำเสียงเป็นจริงจัง เมื่อเห็นแล้วว่าสร้างภาพยังไงก็คงไม่เป็นผล เพราะความชอบเอาชนะของตัวเองแท้ๆ ถึงต้องมานั่งปั้นหน้าฝืนทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับความรู้สึกของตัวเองแบบนี้

    “ถามจริงเถอะ ทำไมรุ้งถึงไม่อยากแต่งงานกับเรา ทั้งที่เราเพียบพร้อมทุกอย่าง ผู้หญิงทุกคนต่างก็อยากร่วมหอลงโรงกับเราทั้งนั้น”

    “เพราะเราไม่ได้รักภพ และภพเองก็ไม่ได้รักเรา ถ้าเราจะแต่งงานจริงๆ เราจะแต่งกับคนที่เรารักและรักเราเท่านั้น อย่างอื่นไม่มีผลต่อการตัดสินใจหรอก ต่อให้คนคนนั้นจะหล่อ รวย เพอร์เฟ็คแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่เราต้องการมีเพียงหัวใจเท่านั้น ซึ่งภพไม่มีให้เรา และคนที่รักใครไม่เป็นอย่างภพไม่มีวันเข้าใจหรอก”

    หญิงสาวอธิบายเหตุผลยาวเหยียดและได้แต่หวังว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจและเลิกตามตอแยเธอเสียที

    “สมัยนี้ยังมีอยู่อีกเหรอรักแท้ ใครๆ เขาก็มองที่เงินทั้งนั้นแหละ ยิ่งมีเงินเยอะผู้หญิงยิ่งชอบ เพราะมันบันดาลสิ่งที่พวกเธอต้องการได้แทบทุกอย่าง” คนที่ไม่เคยเชื่อในรักแท้ยังคงเชื่อมั่นในนิยามของตัวเอง เพราะเขาพิสูจน์มาด้วยตัวเองหลายต่อหลายครั้งแล้วว่า เงินนั้นสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ความรักและหัวใจเป็นเพียงข้ออ้างให้ฟังดูดีก็เท่านั้น

    “ใครๆ ที่ภพว่าคงไม่ใช่เราแน่ เพราะเรามองคนที่ใจ ไม่ได้มองที่เงินทอง ถ้าภพอยากให้เขารักภพ ก็ต้องเอาใจแลกใจ ไม่ใช่ใช้แต่เงิน อย่าคิดว่าเงินมันจะซื้อได้ทุกอย่าง จริงอยู่มันบันดาลอะไรๆ ให้เราได้หลายอย่าง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เงินเราหมดล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ภพลองคิดดูสิ”

    “ไอ้ที่รุ้งพร่ำมานั่นน่ะ เราไม่เข้าใจหรอกนะ เรารู้แค่ว่าแค่มีเงินสาวๆ ก็พร้อมศิโรราบแล้ว”

     “ยังไงก็ฝากภพเก็บไปคิดด้วยละกัน คิดได้ไม่ได้ก็เรื่องของภพละกัน เราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ปัถยาเอ่ยขอตัวไปสงบสติอารมณ์เมื่อเห็นว่าพูดอะไรไปก็เปล่าประโยชน์ คนที่เห็นความรักของผู้หญิงเป็นของเล่นแบบเขาคงไม่มีวันเข้าใจ

     

    อุ๊ย ขอโทษค่ะ” ปัถยากล่าวขอโทษขอโพย เพราะมัวแต่คิดโน่นคิดนี่จนไม่ได้มองทาง จึงชนเข้าอย่างจังกับชายคนหนึ่งที่เดินสวนออกมาจากฝั่งห้องน้ำชาย แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็เอ่ยทักทายเสียงใส

    “อ้าวนายช่าง มากินข้าวร้านนี้เหมือนกันเหรอคะ”

    สิ่งที่หญิงสาวได้กลับมามีเพียงความเงียบ ไม่มีคำทักทายใดๆ หลุดจากปากของอีกฝ่าย เขาทำเพียงปรายตามองคนตัวเล็กกว่าด้วยหางตาแล้วก็เดินหน้านิ่งกลับไปยังโต๊ะของตัวเอง ซึ่งสร้างความงุนงงให้กับคนถามเป็นอย่างมาก

    ปัถยามองตามร่างสูงใหญ่ที่เดินจากไปด้วยความไม่เข้าใจ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจตอนไหน เขาถึงได้ทำเฉยเมยราวกับคนไม่รู้จักกันแบบนั้น  แถมยังมองเธอราวกับโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางไหน

    “เป็นอะไรของเขานะ พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย แถมยังมาตีหน้ายักษ์ใส่อีกต่างหาก” คนกำลังงงพึมพำกับตัวเองพลางเกาหัวแกรกๆ อย่างไม่เข้าใจในการกระทำของอีกฝ่าย

     

    หลังจากวันที่บังเอิญเจอกันที่ร้านอาหารในวันนั้น ปัถยาก็ลองทักทายชวกรดูอีกครั้ง เผื่อว่าที่เขาทำไปวันนั้นเพราะกำลังอารมณ์ไม่ดี แต่ผลที่ได้กลับไม่ต่างจากวันนั้นเลยสักนิด เขายังคงทำตัวเฉยเมย ทำเหมือนเธอเป็นอากาศธาตุ ราวกับไม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ หากมีความจำเป็นต้องประสานกันเรื่องงาน เขาก็พูดด้วยเท่าที่จำเป็น ทั้งยังใช้น้ำเสียงที่ไม่รื่นหูสักเท่าไร นั่นยิ่งสร้างความข้องใจให้ปัถยาเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่กล้าถามออกไป เพราะแค่เห็นหน้าเธอเขาก็ทำราวกับเจอศัตรูคู่อาฆาตก็ไม่ปาน

     

    เมื่อคุยเรื่องงานกับพิทักษ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยของบริษัทที่ทำงานระบบเสร็จ เซฟตีสาวตั้งใจจะเดินกลับขึ้นไปบนออฟฟิศ แต่เดินไปยังไม่ทันไรก็มีอันต้องชะงักกึกเมื่อเสียงห้วนคุ้นหูดังขึ้นที่ด้านหลัง

    “ขยันหว่านเสน่ห์เหลือเกินนะ ผมละสงสารแฟนคุณจริงๆ” ชวกรพูดขึ้นลอยๆ เมื่อปัถยาเดินผ่านจุดที่เขายืนอยู่พอดี เห็นเธอคุยหัวร่อต่อกระซิกกับชายอื่นทั้งที่มีคนรักแล้วมันก็อดเหน็บไม่ได้

    คนถูกกล่าวหาหันมองไปรอบๆ ตัว เพราะไม่แน่ใจว่าเขาพูดให้ใคร แต่เมื่อไม่เห็นใครนอกจากตัวเองจึงเงยหน้ามองคนหน้ายักษ์อย่างงงๆ และถามเพื่อความแน่ใจ “หมายถึงรุ้งเหรอคะ” ไม่ถามเปล่าหญิงสาวยังชี้นิ้วมาที่ตัวเองอีกด้วย

    “ยังจะมาทำหน้างงอีก ใครทำตัวแบบนั้นก็หมายถึงคนนั้นแหละ” โฟร์แมนหนุ่มทิ้งปริศนาไว้แล้วก็เดินหนีไปหน้าตาเฉย ปล่อยให้คนถูกเหน็บแนมยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ลำพัง

    “เป็นอะไรของเขานะ” หญิงสาวรำพึงกับตัวเองขณะมองตามคนตัวสูงที่เดินเข้าไปสั่งงานคนงานในโซนที่เขารับผิดชอบ

    นับวันปัถยายิ่งไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรถึงได้ดูจงเกลียดจงชังเธอนัก ทั้งที่กับคนอื่นเขาก็ทำตัวปกติดี ต่างจากเธอ ที่เจอกันทีไรเขาต้องทำหน้าไม่สบอารมณ์ทุกครั้ง แถมยังพูดจาห้วนแบบมะนาวไม่มีน้ำอีก เธอลองเลียบๆ เคียงๆ ถามคนงานที่เธอสนิทด้วย ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาเป็คนดีมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน แล้วทำไมกับเธอเขาถึงแสดงออกตรงกันข้ามกับคนอื่นๆ

    “ตกลงคุณเป็นคนยังไงกันแน่นะ”

    ปัถยาพึมพำกับตัวเอง อยากรู้เหลือเกินว่าเพราะอะไรเขาถึงแสดงออกกับเธอเช่นนั้น แต่ก็จนปัญญาที่จะหาคำตอบด้วยตัวเอง จึงปล่อยไปเลยตามเลย เขาจะโกรธจะเกลียดอะไรเธอก็เรื่องของเขา ขอแค่ไม่นำความเดือดร้อนมาให้เธอเป็นพอ

    ********************

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ

    ...คีตมินทร์...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×