ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างรัก [ มี Ebook ]

    ลำดับตอนที่ #4 : สร้างรัก...บทที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 62


    บทที่ 4

    เมื่อถึงเวลาเลิกงานทุกคนก็ทยอยมารวมตัวกันยังจุดนัดหมาย โดยพงศกรซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีมารอเป็นคนแรก ตามมาด้วยวิษณุ กวี และคนอื่นๆ เมื่อมากันครบทีม ทุกคนก็ลงลิฟต์ไปยังชั้นที่มีสะพานเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าทันที

    เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนทำให้คนที่มาใช้บริการรถไฟฟ้านั้นมีจำนวนมากกว่าปกติ ทั้งจุดแลกเหรียญและจุดซื้อตั๋วมีคนต่อแถวยาวเหยียดและหนึ่งในนั้นก็คือปัถยา เพราะหญิงสาวยังไม่ได้ซื้อตั๋วแบบรายเดือน ในขณะที่คนอื่นๆ ใช้ตั๋วรายเดือนกันและแตะบัตรเข้าไปยังสถานีรถไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว

    “น้องรุ้งล่ะ” ศศิธรถามหาปัถยา เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้เดินตามมาด้วย

    “ต่อแถวอยู่โน่นค่ะ” พิมพาบอกพร้อมชี้นิ้วไปยังปัถยาที่ยืนอยู่หางแถวบริเวณจุดซื้อตั๋ว

    “พวกเราไปรอที่ร้านก่อนดีกว่าไหม ไปช้าเดี๋ยวโต๊ะจะเต็มซะก่อน ส่วนน้องรุ้งให้ตรีเป็นคนพาไป” ศศิธรเสนอ เมื่อเห็นว่าอีกนานกว่าจะถึงคิวปัถยา ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย

    “ตกลงตามที่คุณจ๋าว่าละกัน เจอกันที่ร้านนะ”

    ก้องภพบอกก่อนจะเดินนำคนอื่นๆ ขึ้นไปยังชานชาลา ส่วนชวกรก็ยืนรอปัถยาอยู่หน้าบันไดทางขึ้น

    “คนอื่นๆ ไปไหนกันหมดแล้วล่ะคะ” ปัถยาเอ่ยถามเมื่อเห็นโฟร์แมนหนุ่มยืนอยู่คนเดียว

    “ไปรอที่ร้านแล้ว ไปกันเถอะ” พูดจบชายหนุ่มก็เดินนำหญิงสาวขึ้นไปยังชานชาลา ซึ่งเป็นจังหวะที่รถไฟฟ้ามาพอดี เมื่อประตูรถไฟฟ้าเปิดออก ผู้คนด้านในก็ทะลักออกมาอย่างคับคั่ง ขณะที่บางคนก็แทรกตัวเข้าไปด้านใน

    ชวกรและปัถยารอให้คนด้านในเดินออกมาจนหมด จากนั้นค่อยแทรกตัวเข้าไปภายในที่ผู้คนแน่นขนัดจนแทบหาที่ยืนไม่ได้ เพราะมัวแต่ขยับหาที่ยืนและมองหาที่ที่พอจะยึดจับได้บ้าง ในจังหวะที่รถไฟฟ้ากระชากตัวออกจากชานชาลา ปัถยาที่ยังไม่ทันได้ตั้งหลักก็เซถลาไปปะทะกับแผงอกแกร่งของชวกรที่ยืนอยู่ด้านหน้า ชายหนุ่มใช้แขนข้างหนึ่งโอบรัดเอวคอดกิ่วของหญิงสาวตรงหน้าไว้แน่น เพราะกลัวว่าเธอจะเซล้มลงไป หลังจากซบนิ่งกับแผงอกของชวกรอยู่พักใหญ่ ซึ่งเจ้าของวงแขนไม่มีทีท่าว่าจะคลายออก ปัถยาจึงขืนตัวเล็กน้อยเพื่อให้เขารู้ตัว

    “ปล่อยได้แล้วค่ะ” ปัถยาบอกเสียงแผ่วเบาชิดอกกำยำเมื่อเห็นว่าเขายังยืนนิ่ง ขณะอีกคนเมื่อรู้ตัวก็รีบคลายอ้อมแขนออกทันที

    “เกาะแขนผมไว้ก็ได้นะ จะได้ไม่ล้ม” ชวกรบอกเสียงเรียบเช่นทุกครั้ง

    “ไม่เป็นไรค่ะ เมื่อกี้ยังไม่ทันตั้งตัว เลยเสียหลักไปนิดหน่อย” หญิงสาวปฏิเสธข้อเสนอของชายหนุ่ม พร้อมยิ้มแหยๆ ให้จากนั้นก็เอาแต่ก้มหน้า ไม่กล้าเงยหน้ามองสบตาคนตรงหน้า กลัวว่าเขาจะเห็นริ้วแดงๆ บนใบหน้าของตนเอง ขณะเดียวกันก็พยายามควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจตัวเองให้กลับไปเต้นในจังหวะปกติ ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรไป อยู่ๆ ใจก็เต้นแรงขึ้นมาเสียอย่างนั้น

    เมื่อรถไฟฟ้าจอดยังสถานีถัดไปทำให้มีผู้โดยสารเบียดเพิ่มเข้ามาอีก ส่งผลให้ช่องว่างระหว่างชวกรและปัถยาน้อยลงกว่าเดิม ทั้งสองยืนแนบชิดติดกันจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน ปัถยาพยายามเป็นอย่างมากที่จะขืนตัวไว้ไม่ให้เข้าใกล้เขาไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ด้วยกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงกว่าปกติของเธอ แต่แล้วอยู่ๆ ชวกรก็ดึงร่างบางตรงหน้าเข้ามาแนบชิดยิ่งขึ้นพร้อมกับหมุนตัวสลับตำแหน่งกับหญิงสาวในอ้อมแขน ซึ่งการกระทำของเขาสร้างความงุนงงให้ปัถยายิ่งนัก

    เซฟตีสาวเงยหน้ามองอีกฝ่ายทันที คิ้วเรียวเล็กเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม

    “ผู้ชายคนนั้น มันแอบลูบก้นคุณ” ชวกรก้มลงกระซิบที่ข้างหูหญิงสาวพร้อมปรายตาไปยังชายคนที่เขากล่าวถึง ที่ตอนนี้ยืนอยู่ด้านหลังเขา ขณะที่คนถูกลวนลามมีสีหน้าตกใจพร้อมมองไปยังชายคนนั้น

    “ขอบคุณนะคะนายช่าง” ปัถยากล่าวออกมาเบาๆ ด้วยคนเยอะและเบียดกันแน่น ทั้งยังมัวแต่เขินอายกับการแนบชิดเกินพอดีของเธอและเขา เธอเลยไม่ทันได้ระวังตัวและไม่รู้ตัวว่าโดนลวนลาม

    “ถึงแล้ว ไปกันเถอะ” พูดจบก็คว้าข้อมือหญิงสาวให้เดินตามออกไป เมื่อออกมาพ้นจากขบวนรถไฟฟ้าเขาจึงปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระ แล้วเดินนำหน้าหญิงสาวลงบันไดไป 

    ชวกรเดินนำหญิงสาวไปยังร้านอาหารที่อยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟฟ้า และเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของร้าน ซึ่งเป็นเทอร์เรซเปิดโล่ง และมีเวทีเตี้ยๆ สำหรับแสดงดนตรีสดให้แขกได้ฟังทั้งคืน

    เมื่อเห็นสองหนุ่มสาวเดินเข้ามาในร้านก้องภพและพรรคพวกที่นั่งอยู่โซนด้านนอกก็โบกไม้โบกมือให้ผู้มาใหม่ทั้งสองเห็น

    “น้องรุ้งมานั่งข้างพี่มา” พิมพาบอกพร้อมตบที่เก้าอี้ว่างด้านข้างตน

    “เดี๋ยวก่อนตรี มาเปลี่ยนที่นั่งกัน” พงศกรที่นั่งอยู่ตรงข้ามปัถยาร้องบอกชวกรก่อนที่ก้นเขาจะสัมผัสกับเก้าอี้ว่างข้างปัถยา

    “คิดอะไรกับน้องเปล่าเนี่ย” ก้องภพที่นั่งอยู่หัวโต๊ะพูดแซวขึ้น

    “ไม่มีอะไร แค่คนโสดอยากนั่งใกล้คนโสดเหมือนกัน เผื่อจะสปาร์กกันบ้าง ส่วนคนไม่โสดก็อยู่ส่วนของคนไม่โสด” พงศกรพูดทีเล่นทีจริงขณะเดินอ้อมมานั่งแทนตำแหน่งของชวกร ซึ่งคำว่าคน ‘ไม่โสด’ ของพงศกรกระตุกหัวใจของปัถยาให้ไหววูบ หญิงสาวนิ่งไปชั่วขณะ คิดตามคำพูดของพงศกร

    คนท่าทางนิ่งๆ เย็นชาแบบชวกรมีแฟนกับเขาด้วยเหรอ จะว่าไปเขาจะมีหรือไม่มีแฟนมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอสักหน่อย ก่อนที่จะคิดอะไรไปมากกว่านี้ เสียงของศศิธรก็ดังขึ้นทำลายความคิดของหญิงสาว

    “น้องรุ้งจะสั่งอะไรเพิ่มไหม เมื่อกี้พี่สั่งข้าวผัดปูจานใหญ่ ปลาช่อนทอดลุยสวน ต้มยำกุ้งน้ำข้น ห่อหมกทะเล ยำปลาดุกฟู และกับแกล้มของพวกหนุ่มๆ ไปแล้ว” ศศิธรถามพร้อมยื่นเมนูเล่มหนาให้ปัถยา

    “ไม่ดีกว่าค่ะ ให้พวกพี่ๆ สั่งเลยค่ะ รุ้งกินได้ทุกอย่างค่ะ”

    “น้องรุ้งผสมอะไร โซดาน้ำ น้ำ หรือโคล่า” กวีที่นั่งตำแหน่งปลายโต๊ะใกล้กับโต๊ะตั้งเครื่องดื่มถามขึ้น

    “รุ้งไม่ดื่มค่ะ ขอเป็นน้ำเปล่าละกันค่ะ”

    “ได้ไงน้องรุ้ง มาสังสรรค์ทั้งทีต้องเต็มที่หน่อยสิ สักนิดหน่อยก็ยังดี” วิษณุที่ตอนนี้หน้าเริ่มแดงคะยั้นคะยอ

    “น้องไม่ดื่มแหละดีแล้ว อย่ามาชักชวนน้องให้เสียคนเลยไอ้นุ แกน่ะเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ดูซิวันนี้จะน็อกแก้วที่เท่าไร แค่สองแก้วก็หน้าแดงตาแดงแล้ว พรุ่งนี้ถ้าแกไม่มาทำงานนะ ฉันรายงานเจ้านาย ให้เจ้านายไล่แกออกจริงๆ ด้วย” ก้องภพคาดโทษลูกน้องที่คออ่อนกว่าคนอื่น

    “พรุ่งนี้พี่จะได้เห็นหน้าอันหล่อเหลาของผมอย่างแน่นอน มีคนสวยๆ อย่างน้องรุ้งรออยู่ ผมจะไม่ไปทำงานได้ยังไง” คนคออ่อนยืนยันกับลูกพี่ก่อนจะหันไปส่งสายตาหวานเยิ้มใส่พนักงานคนใหม่

    “อ้าวคุณกวาง มาได้ไงคะ”

    สิ้นคำของของพิมพา วิษณุก็ตัวชาวาบ ก่อนค่อยๆ หันไปมองด้านหลังอย่างคนมีความผิด แต่เมื่อไม่พบบุคคลที่พิมพากล่าวถึงก็ทำท่าโล่งอก พร้อมกับขว้างค้อนใส่พิมพาไปที ซึ่งการกระทำดังกล่าวเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้ดีทีเดียว แม้แต่ปัถยาที่ยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของแต่ละคนก็อดขำไม่ได้กับปฏิกิริยาของวิษณุเมื่อสักครู่ เว้นแต่ชายหนุ่มตรงหน้าหญิงสาวที่ยังคงตีหน้านิ่ง นั่งกระดกเหล้าเข้าปากไปเงียบๆ

    “คุณพิมพ์เล่นอะไรก็ไม่รู้ ผมตกใจหมด” วิษณุกล่าวงอนๆ

    ทุกคนรู้ดีว่าธิติมาแฟนสาวของเขาดุเอาการและขี้หึงสุดๆ หลายครั้งที่ทุกคนมักจะยกเรื่องนี้มาทำให้เขาตกใจ และเพื่อนๆ มักจะล้อว่าเขากลัวเมีย เขาก็จะเถียงหัวชนฝาเสมอว่าเขาไม่ได้กลัว แค่เกรงใจ ไม่อยากจะมีเรื่อง

    หลังจากขำกับเรื่องของวิษณุได้สักครู่อาหารที่สั่งไปก็ทยอยมาเสิร์ฟ ระหว่างทานอาหารแต่ละคนก็ขุดวีรกรรมของเพื่อนร่วมวงมาแฉเป็นคนๆ ไป ซึ่งก็เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องของวิษณุที่ไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับธิติมาแฟนสาวของเขา

    จากเหตุการณ์วันนี้ทำให้ปัถยาได้รู้เรื่องราวส่วนตัวและนิสัยใจคอเพื่อนร่วมงานแต่ละคนดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนพัตธร ที่จะเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ พูดน้อยเหมือนชวกร แต่ต่างกันตรงที่นพัตธรจะมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา ในขณะที่อีกคนเงียบขรึมยังไม่พอ รอยยิ้มยังไม่เคยปรากฏบนใบหน้าให้ได้เห็นเลย ส่วนกวีกับวิษณุจะนิสัยคล้ายๆ กัน พูดมากเฮฮาอัธยาศัยดี และเกรงใจแฟนเอามากๆ

    ด้านพิมพาจะเป็นคนช่างพูดช่างคุย ชอบเรื่องการแต่งตัวเป็นพิเศษ ก้องภพและศศิธร สองสามีภรรยาที่ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี มีคำแนะนำและคำปรึกษาที่ดีให้ลูกน้องเสมอไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ส่วนพงศกร คนนี้จะแหวกแนวจากคนอื่นหน่อยตรงที่ยังไม่มีแฟน และดูจะเจ้าคารมกว่าคนอื่นๆ สังเกตได้จากตลอดเวลาที่นั่งสังสรรค์กัน ชายหนุ่มจะหยอดคำหวานใส่ปัถยาเสมอ

    และสุดท้ายชวกรโฟร์แมนหนุ่มหน้ายักษ์ จากเหตุการณ์ในค่ำคืนนี้หญิงสาวไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเขาเลย เขายังคงนิ่งและเงียบได้อย่างคงเส้นคงวา ไม่ว่าเพื่อนคนอื่นจะเฮฮา หัวเราะขบขันกับเรื่องตลกที่แต่ละคนยกขึ้นมาพูดแค่ไหน เขาก็ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาเลย เอาแต่นั่งเงียบกระดกเหล้าเข้าปากแก้วแล้วแก้วเล่า ส่วนสายตาคมจับจ้องมองคนตรงหน้าแทบตลอดเวลา โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยสักนิด เพราะมัวแต่ให้ความสนใจกับเรื่องเล่าอันแสนขบขันจากคนรอบข้าง

    *************************

    สามารถติดตามข่าวสารนิยาย และพูดคุยกันได้นะคะที่เพจ "คีตมินทร์"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×