ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างรัก [ มี Ebook ]

    ลำดับตอนที่ #2 : สร้างรัก...บทที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ย. 62


    บทที่ 2

    “ภพมาได้ไงเนี่ย” ปัถยาเอ่ยถามเสียงเรียบเมื่อเจอพิรภพ เพื่อนสมัยเรียนของเธอและเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องระหกระเหินมาทำงานไกลบ้านเกิดแบบนี้

    “เราตามมาดูแลรุ้งไง และวันนี้เราก็เป็นสารถีไปส่งรุ้งที่บ้านเอง” พิรภพลอยหน้าลอยตาตอบอย่างน่าหมั่นไส้ พร้อมส่งสายตาหวานเยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้า หากเป็นสาวคนอื่นคงเป็นปลื้มไปกับถ้อยคำหวานหูและสายตาสื่อความหมายที่ส่งมา แต่สำหรับปัถยาที่รู้จักคนตรงหน้าดี กลับเบือนหน้าหนีและถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายพร้อมกับแสดงสีหน้าไม่พอใจ

    “แม่เราเป็นคนบอกใช่ไหมว่าเราทำงานอยู่ที่นี่”

    “อย่าไปว่าน้านวลเลย คุณน้าเป็นห่วงรุ้งมาก ภพเลยอาสามาดูแลรุ้งแทนท่าน”

    “แล้วภพไม่ทำการทำงานหรือไง ถึงมีเวลามาตามเฝ้ารุ้งแบบนี้” หญิงสาวสวนกลับพร้อมรีบเดินนำพิรภพไปยังลิฟต์ขนส่งสินค้าตัวเก่าที่ทางห้างเปิดใช้สำหรับพนักงานของโครงการก่อสร้าง

    “เรากะว่าจะมาหางานทำใกล้ๆ รุ้งนี่แหละ จะได้ดูแลรุ้งได้สะดวก ที่เดียวกันกับรุ้งได้ยิ่งดี” ชายหนุ่มตอบขณะรีบสาวเท้าตามหญิงสาวตรงหน้าที่ก้าวฉับๆ ตรงไปยังลิฟต์

    เมื่อได้ฟังคำตอบของเพื่อนอารมณ์ของปัถยาเริ่มไม่ปกติแต่ก็ต้องสกัดกั้นอารมณ์ ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด จึงเลือกที่จะเดินตรงไปกดลิฟต์และยืนรอลิฟต์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ขณะที่อีกฝ่ายเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวนิ่งเงียบจนผิดสังเกต และสัมผัสได้ถึงอาการไม่พอใจนั้น จึงไม่กล้าที่จะทำให้หญิงสาวไม่พอใจไปมากกว่านี้ เขาจึงเลือกที่จะยืนนิ่งๆ ข้างหญิงสาว

    สองหนุ่มสาวไม่รู้ตัวเลยว่าทุกการกระทำของพวกเขาอยู่ในสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองมาจากจุดพักสูบบุหรี่บริเวณด้านหน้าโครงการตลอดเวลา และเจ้าของดวงตาคู่นั้นก็ตีความการกระทำเมื่อครู่ของทั้งสองไปว่าเป็นการกระทำของคู่รักที่เง้างอนกัน ซึ่งตรงกันข้ามกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง

     

    พิรภพเดินนำปัถยาไปยังรถยนต์ของตนที่ลานจอดรถ เขาเดินไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้หญิงสาว ก่อนเดินอ้อมไปอีกฝั่งและเข้าประจำที่ตำแหน่งคนขับ ชายหนุ่มคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์และเหยียบคันเร่งออกรถไปอย่างรวดเร็ว

    ระหว่างทางไม่มีบทสนทนาใดๆ บรรยากาศภายในรถดูอึมครึมจนน่าอึดอัด เจ้าของรถจึงเอื้อมมือไปเปิดเพลงและร้องคลอตามเบาๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลาย ขณะเดียวกันก็ลอบมองคนข้างกายที่นั่งคอตั้งหน้าเชิดมองทางข้างหน้าโดยไม่หันมาสนใจสารถีหนุ่มเลย

    “เมื่อไหร่ภพจะเลิกตามตื๊อเราสักที เราอึดอัด” หญิงสาวที่นั่งเงียบมานานโพล่งออกมาเมื่อความอดทนของเธอถึงจุดสิ้นสุด เธอรู้ว่าที่พิรภพทำแบบนี้เพราะต้องการเอาชนะเธอเท่านั้น ไม่ได้ทำไปเพราะพิศวาสอะไรในตัวเธออย่างที่เขาบอกกับคนอื่นๆ

    พิรภพเป็นคนหน้าตาดี ฐานะทางบ้านถือว่าร่ำรวยมาก พ่อเขาก็เป็นถึงเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังของจังหวัด ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้เลยไม่แปลกที่สาวๆ มากหน้าหลายตาจะพยายามทอดสะพานให้เขา แล้วเขาก็ไม่เคยปฏิเสธสาวๆ เหล่านั้นเลยสักคน ในขณะที่หลายๆ คนพยายามเข้าหาเขาแต่ปัถยากลับไม่ได้สนใจหรือหลงใหลได้ปลื้มในตัวเขาเลยสักนิด ด้วยเหตุนี้เขาจึงอยากเอาชนะและทำทุกวิถีทางเพื่อเอาอกเอาใจเธอ แต่เธอไม่ได้คิดอะไรกับเขามากไปกว่าคำว่า เพื่อน

    เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เขาวาดหวัง ด้วยนิสัยที่เป็นคนเอาแต่ใจและชอบเอาชนะ อยากได้อะไรก็ต้องได้ เขาจึงเข้าไปตีสนิทกับครอบครัวของเธอ ทุกครั้งที่แวะไปเยี่ยมเยียนก็จะมีของฝากติดไม้ติดมือไปเสมอ แม่ของเธอจึงชื่นชอบเพื่อนคนนี้ของเธอเป็นพิเศษ ถึงขั้นยอมยกเธอให้กับเพื่อนคนนี้โดยที่ไม่ถามความสมัครใจของเธอสักนิด

    สิ้นคำพูดของหญิงสาว รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงก็ถูกสารถีหนุ่มเหยียบเบรกกะทันหันและหักเลี้ยวเข้าจอดนิ่งสนิทที่ข้างทาง ก่อนคนขับจะหันไปมองหน้าคนที่นั่งข้างๆ

    “ที่ภพทำไปทุกอย่างก็เพราะรักรุ้งนะ ถ้าไม่รักไม่จริงใจเราคงไม่ให้พ่อแม่ไปสู่ขอรุ้งหรอก”

    “รักเหรอ ถ้านายรักเราจริงอย่างที่นายพูด นายคงไม่เอาชื่อเราไปอ้าง จนเรามีศัตรูโดยไม่รู้ตัวทั่วบ้านทั่วเมืองแบบนี้หรอกนะ”

    สรรพนามที่เปลี่ยนไปแสดงให้เห็นถึงอารมณ์โกรธที่พุ่งขึ้นถึงขีดสุด จากนั้นก็ร่ายยาวถึงพฤติกรรมอันน่ารังเกียจของเพื่อนชายคนนี้ ที่มักนำชื่อเธอไปใช้อ้างกับบรรดาสาวๆ ของเขา เมื่อเขาเบื่อใครไม่อยากคบต่อเขาจะไม่บอกไปตรงๆ เพราะจะทำให้เขาดูไม่ดีในสายตาของบรรดาสาวๆ เขาจึงเลือกใช้วิธีอ้างกับสาวเหล่านั้นว่า พ่อแม่เขาบังคับให้แต่งงานกับเธอทันทีที่เรียนจบ เขาจำเป็นต้องแต่งเพราะเป็นความต้องการของพ่อแม่ ที่ปัถยารู้เรื่องเหล่านี้ก็เพราะบรรดาผู้หญิงที่เขาเขี่ยทิ้งต่างมาหาเรื่องเธอเรื่อยๆ ทีแรกเธอเองก็งงว่าพวกหล่อนเป็นใคร ทำไมอยู่ๆ ถึงตามมาราวีเธอไม่เว้นวัน จนได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ทักเธอมาในแชตเฟซบุ๊ก เธอบอกว่าเป็นแฟนของพิรภพ จากนั้นก็ถ่ายทอดเรื่องราวที่ฝ่ายชายบอกกับเธอให้ปัถยาฟัง

    “มีอะไรจะแก้ตัวอีกไหม”

    พิรภพได้ฟังก็หน้าซีดขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าปัถยาจะรู้เรื่องนี้ด้วย เพราะเขาตีหน้าเศร้าขอร้องพวกสาวๆ เหล่านั้นแล้วว่าไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับว่าที่เจ้าสาวของเขา และทุกคนก็เข้าใจและรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่มาวุ่นวายกับปัถยา

    “แต่แม่รุ้งตกลงกับพ่อแม่เราแล้วนะ”

    ชายหนุ่มยกคำตกลงของบุพการีฝ่ายหญิงขึ้นมาอ้าง คนอย่างเขาอยากได้อะไรแล้วก็ต้องได้ แม้ก่อนหน้านี้เรื่องการแต่งงานจะไม่เคยอยู่ในหัว แต่เพราะความถือดีและท่าทางไม่แยแสของหญิงสาวทำให้เขาอยากจะเอาชนะให้ได้ แม้ต้องแลกด้วยการแต่งงานทั้งที่อายุยังน้อยอยู่เขาก็ยอม ด้วยคิดแค่เพียงว่าแต่งได้ก็เลิกราได้ ซึ่งเห็นได้บ่อยๆ ในสังคมทุกวันนี้

    “ถ้าเราจำไม่ผิด พ่อเราเข้าไปคุยกับพ่อของภพแล้วนะ เรื่องยกเลิกข้อตกลงบ้าบอนั่น แล้วต่อไปก็ไม่ต้องยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกับเราอีกนะ ยิ่งพูดยิ่งจะทำให้ความรู้สึกดีๆ แบบเพื่อนที่เราเคยมีให้นายมันลดน้อยลงทุกที แล้วก็ไม่ต้องไปส่งเราหรอกนะ เรากลับเองได้ และไม่ต้องมาตามตื๊อเราแบบนี้อีก ยังไงเราก็ไม่มีวันแต่งงานกับคนอย่างนาย”

    ยังไม่ทันที่พิรภพจะพูดอะไรต่อ หญิงสาวก็ปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนเปิดประตูก้าวออกจากรถ วิ่งไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรอผู้โดยสารอยู่ข้างหน้า ทิ้งให้ชายหนุ่มผู้ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ นั่งเข่นเขี้ยวอารมณ์เสียอยู่ในรถเพียงลำพัง

    “โธ่เว้ย!” พิรภพทุบมือลงบนพวงมาลัยสุดแรงก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสียเมื่อทุกอย่างไม่ได้ดั่งใจ พร้อมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ

     

    ทันทีที่ปัถยาปิดประตู แท็กซี่ก็บึ่งรถออกไปอย่างรวดเร็วตามเส้นทางที่หญิงสาวบอก หลังจากบอกจุดหมายปลายทางกับคนขับแท็กซี่เรียบร้อยแล้วผู้โดยสารสาวก็เอาแต่นั่งเหม่อคิดถึงเรื่องราววุ่นๆ ที่ในช่วงเดือนที่ผ่านมา

    ยังไงรุ้งก็ไม่แต่ง ปัถยาผุดลุกขึ้นยืนปฏิเสธเสียงแข็งหลังได้ยินความประสงค์ของมารดา มีอย่างที่ไหนไปตกปากรับคำยกเธอให้พิรภพโดยที่ไม่ถามความเห็นเธอสักนิด ว่าเธอจะยินยอมพร้อมใจหรือเปล่า แบบนี้มันเรียกคลุมถุงชนชัดๆ หญิงสาวคิดเคืองอยู่ในใจ

    จะไม่แต่งได้ยังไง ในเมื่อแม่ตกลงกับคุณพิชัยไปแล้ว นวลนางโต้กลับเสียงดังอย่างไม่ยอมเช่นกัน เธอจะไม่มีวันให้งานแต่งงานครั้งนี้มีอันต้องล้มเลิกเด็ดขาด โอกาสจะได้เกี่ยวดองกับเศรษฐีอันดับหนึ่งของจังหวัดอยู่แค่เอื้อมมือ ใครไม่คว้าไว้ก็โง่เต็มทีแล้ว

    ด้วยเหตุนี้เมื่อพิชัย เจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังของจังหวัดมาทาบทามลูกสาวของนางให้กับพิรภพผู้เป็นลูกชาย นางจึงรีบตอบตกลงโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาคิด ไม่แม้แต่จะถามความสมัครใจของลูกสาว

    แต่รุ้งกับภพไม่ได้รักกันเลยนะแม่ เราสองคนเป็นแค่เพื่อนกันจะแต่งงานกันได้ยังไง อีกอย่างรุ้งเพิ่งจะเรียนจบ อายุก็แค่ 23 ปีเอง จะให้รีบแต่งไปไหน

    หญิงสาวพยายามหาเหตุผลมาแย้งและได้แต่หวังว่ามารดาจะเข้าใจ เพราะเธอคิดว่าตัวเองยังเด็กไปที่จะสร้างครอบครัว และหากเธอจะตกลงปลงใจสร้างครอบครัวกับใครสักคน เธอก็อยากให้งานแต่งงานครั้งนั้นเกิดขึ้นจากความรักและความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่แบบมัดมือชกและปราศจากความรักแบบนี้

    ใครบอกล่ะ วันนี้พ่อภพเขาพูดต่อหน้าคุณตา ต่อหน้าพ่อกับแม่ ไหนจะพ่อแม่เขาอีก ว่าเขารักลูก แอบรักมานานแล้วและอยากจะแต่งงานกับลูกสาวแม่ เลยให้พ่อแม่มาทาบทามสู่ขอลูกให้นี่ไง ส่วนเรื่องอายุ จะแต่งตอนไหนมันก็เหมือนกันนั่นแหละ จะวันนี้หรือวันไหนก็ต้องแต่งอยู่ดี แล้วจะรีรอไปทำไม แต่งช้าเดี๋ยวก็มีลูกไม่ทันใช้หรอก

    แต่รุ้งไม่ได้รักภพ แล้วภพก็ไม่รักรุ้งจริงๆ อย่างที่พูด อีกอย่างมันก็ไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่สร้างภาพให้แม่เห็น รุ้งรู้จักมันมาเป็นสิบปี รู้ดีว่านิสัยที่แท้จริงของเพื่อนรุ้งเป็นยังไงและถ้ารุ้งต้องแต่งงานจริงๆ รุ้งจะแต่งกับคนที่รุ้งรักคนที่รุ้งเลือกเองเท่านั้น ผู้เป็นลูกยังคงยืนยันคำเดิม

    ไหนล่ะคนที่รุ้งรัก คนที่รุ้งเลือกเอง แม่เห็นคบใครก็ไม่มีใครดีจริงสักคน คบได้ไม่กี่เดือนก็เลิกทุกราย และก็ไม่มีใครกล้ามาพบพ่อกับแม่สักคน ต่างจากพ่อภพที่รู้จักแวะเวียนมาหาผู้หลักผู้ใหญ่

    ยังไงรุ้งก็ไม่แต่ง ถ้าแม่บังคับรุ้งมากๆ รุ้งจะหนีไปไกลๆ ไม่ให้ใครหาเจอเลย ไม่เชื่อแม่ก็คอยดูสิ หญิงสาวประกาศกร้าวด้วยท่าทางเอาจริง ก่อนจะวิ่งตึงตังขึ้นไปยังห้องนอนของตนที่อยู่ชั้นสองของบ้าน ปล่อยให้ผู้เป็นแม่บ่นกระฟัดกระเฟียดอย่างไม่ได้ดั่งใจอยู่คนเดียว

     

    “คุณครับ เลี้ยวเข้าไปในซอยเลยรึเปล่าครับ” คำถามที่ดังขึ้นดึงให้หญิงสาวหลุดจากภวังค์ความคิดของตนเอง

    “จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ ซอยมันแคบ เกรงว่ากลับรถลำบาก” ผู้โดยสารสาวบอกพร้อมกับจ่ายค่าแท็กซี่ตามจำนวนที่ปรากฏบนมิเตอร์ และกล่าวขอบคุณเบาๆ ก่อนก้าวลงจากรถไป

    ปัถยาเดินทอดฝีเท้าช้าๆ เข้าไปในซอยที่ทั้งแคบและมืด สองฝั่งรายล้อมไปด้วยตึกแถวเก่าๆ อายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปี ที่หน้าตึกแต่ละหลังมีรถจอดตลอดแนว ทำให้ถนนที่แคบอยู่แล้วดูแคบเข้าไปอีก หญิงสาวเดินไปเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวเข้าซอยย่อยที่อยู่ด้านขวามือ และไขกุญแจประตูกระจกเข้าไปในตึกแถวหลังที่สอง ซึ่งเป็นของน้าเธอ แม่เธอยอมให้มาทำงานกรุงเทพฯ ก็จริงแต่มีเงื่อนไขว่าต้องมาพักอยู่กับน้าเท่านั้น ห้ามไปเช่าห้องอยู่ตามลำพังเด็ดขาด

    “กลับมาแล้วเหรอรุ้ง เป็นไงบ้างทำงานวันแรก” เพ็ญศรีที่กำลังง่วนอยู่กับการเย็บผ้าเงยหน้าขึ้นทักทายหลานสาว

    “ก็ดีค่ะ วันแรกยังไม่มีอะไรมากแค่ดูหน้างานและศึกษาเอกสารที่คนเก่าเขาทำไว้ พี่ๆ ที่นั่นเป็นกันเองและใจดีทุกคนเลยค่ะ” ปัถยาตอบคำถามผู้เป็นน้าพลางนึกถึงคนหน้ายักษ์ขึ้นมา แต่เลือกที่จะไม่เล่าให้ผู้เป็นน้าฟัง เพราะไม่อยากให้ผู้ใหญ่เป็นกังวลไปกับเธอด้วย

    “ดีแล้ว มีเพื่อนร่วมงานดี เวลาทำงานจะได้ไม่อึดอัด แล้วภพล่ะ ไม่เจอกันเหรอ เห็นแม่รุ้งโทร.มาบอกน้าว่าวันนี้ภพจะไปรับรุ้งและจะมากินข้าวด้วย น้าทำกับข้าวไว้รอเยอะแยะเลย” เพ็ญศรีถามเมื่อเห็นว่าหลานสาวกลับมาคนเดียว ไร้เงาคนที่นวลนางโทร.มาบอกหล่อนเมื่อตอนเย็น

    “รุ้งไล่กลับไปแล้วแหละค่ะ รำคาญ คนอะไรไม่รู้งานการไม่ทำมาตามตื๊ออยู่ได้ แม่ก็อีกคนไม่รู้ไปปลื้มอะไรเขานักหนา” ปัถยาบ่นอุบจนผู้เป็นน้าอดขำไม่ได้

    “ช่างเขาเถอะ แม่รุ้งก็แบบนี้แหละ มาเหนื่อยๆ เอาของไปเก็บก่อนไปแล้วค่อยลงมากินข้าว”

    “เด็กๆ ล่ะคะน้าเพ็ญ” หญิงสาวถามหาลูกชายและลูกสาวของน้าที่ปกติจะนั่งเฝ้าหน้าจอทีวี

    “น้าไล่ขึ้นไปทำการบ้านข้างบนแล้ว อยู่ข้างล่างก็มีแต่ทะเลาะกัน” ผู้เป็นน้าบอกอย่างอารมณ์เสียกับลูกทั้งสองคนที่มักจะทะเลาะกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง

    “งั้นรุ้งเอาของขึ้นไปเก็บก่อนนะคะ เดี๋ยวลงมา” ปัถยาบอกก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้นสองของตัวบ้าน นำสัมภาระไปเก็บแล้วล้างหน้าล้างตาก่อนจะลงมากินข้าวเย็นด้านล่าง

    หลังจากกินข้าวเสร็จและล้างถ้วยล้างจานเรียบร้อยปัถยาก็กลับขึ้นห้องไปอาบน้ำและตั้งใจจะนอนแต่หัวค่ำ แต่กว่าจะข่มตาหลับลงได้ก็เป็นเวลาดึกดื่นค่อนคืน เพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องระหว่างเธอกับพิรภพ หญิงสาวไม่มีทางรู้เลยว่าวันข้างหน้าจะต้องเจอกับปัญหาอะไรอีกได้แต่บอกกับตัวเองว่าต้องสู้ ต้องไม่ยอมแพ้ เพราะชีวิตนี้เป็นของเธอและเธอจะขอเลือกทางเดินชีวิตของเธอเอง

    ************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×