ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างรัก [ มี Ebook ]

    ลำดับตอนที่ #16 : สร้างรัก...บทที่ 16

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 62


    บทที่ 16

    หลังอาหารมื้อเย็นผ่านพ้นไปก็ถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยเป็นพิเศษ นั่นก็คือการอ่านเมลบ็อกซ์ นทีรับหน้าที่เป็นคนอ่านข้อความในครั้งนี้ หลังเปิดฝากล่องเขาใช้มือคนเพื่อให้กระดาษในกล่องคละกันก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นแรกออกมาอ่าน

    “สาวคนไหนอยู่บ้านหมายเลขหกบ้างครับ ขอเสียงหน่อย”

    สิ้นเสียงนที สี่สาวแห่งบ้านหมายเลขหกก็ชูไม้ชูมือแสดงตัวกันอย่างคึกคัก ก่อนจะหยุดลุ้นว่าข้อความในเมลบ็อกเขียนอะไรถึงพวกตน “มีหนุ่มฝากมาบอกว่า แอบรักสาวบ้านหก” คราวนี้สี่สาวแห่งบ้านหกส่งเสียงกรี๊ดลั่นพร้อมออกอาการดี๊ด๊ากันใหญ่ ต่างอยากรู้ว่าหมายถึงใครและใครเป็นเจ้าของข้อความนี้

    “สาวคนไหนระบุด้วยสิคะ ที่บ้านหกมีสาวตั้งสี่คน” สายฝน หนึ่งในสมาชิกบ้านหมายเลขหกเอ่ยขึ้น

    “เจ้าของข้อความนี้ได้ยินแล้วใช่ไหมครับ วันหลังระบุด้วยนะว่าสาวคนไหน เพื่อจะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิด” ประธานค่ายย้ำคำพูดของสายฝน “ข้อความต่อไปให้สาวบ้านหกออกมาอ่านบ้างดีกว่า” นทีเชิญชวน เพื่ออยากให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม และคนที่ออกมาเป็นตัวแทนคือสายฝนนั่นเอง

    “พยาบาลค่ายน่ารักจัง ไม่ทราบว่ามีแฟนหรือยังครับ” หลังสายฝนอ่านจบก็มีเสียงเฮลั่นตามมา หนุ่มๆ ต่างลุ้นรอฟังคำตอบจากเซฟตีสาวสวยอย่างใจจดใจจ่อ

    “ยังไม่มีค่ะ”

    เมื่อได้ฟังคำตอบของหญิงสาวหนุ่มๆ ต่างส่งเสียงเฮอย่างมีความหวัง มีเพียงชายหนุ่มที่มาจากไซต์งานเดียวกันกับหญิงสาวเท่านั้นที่นอกจากจะไม่ยินดีกับคำตอบนั้นเขากลับเหยียดยิ้มให้กับคำตอบที่ได้ฟัง พลางนึกสงสารชายหนุ่มคนนั้นที่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับที่เขาเคยเผชิญ

    “ใครสนใจน้องรุ้งก็รีบๆ ทำคะแนนนะ ยังมีเวลาอีกสองอาทิตย์” นทีพูดแทรกขึ้น ก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นต่อๆ ไปขึ้นมาอ่านด้วยตัวเอง ซึ่งมีทั้งข้อความสารภาพรัก คำถามที่อยากรู้แต่ไม่กล้าถามกับเจ้าตัวโดยตรง หรือแม้กระทั่งบทกลอนหวานเลี่ยนที่มีมาแทบทุกวัน โดยที่ยังไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นเจ้าของบทกลอนนั้นและต้องการสื่อถึงใคร นทีอ่านไปเรื่อยๆ จนเหลือสองแผ่นสุดท้าย

     “อยากเห็นช่างตรียิ้มสักครั้ง” ทันทีที่นทีอ่านจบทุกสายตาก็จับจ้องไปยังบุคคลที่ระบุในข้อความเป็นตาเดียว

    “ยิ้มหน่อยสิคะนายช่าง มีคนเขาอยากเห็น ดูสิคนรอดูเต็มเลย” ปัถยาที่นั่งข้างๆ ชายหนุ่มกระซิบกระซาบบอก พร้อมลุ้นด้วยใจระทึกว่าเขาจะยอมทำตามไหม

    ชวกรชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะฝืนยิ้มแห้งๆ ให้ทุกสายตาได้เห็น แม้จะแค่เสี้ยววินาทีแต่ก็สามารถเรียกรอยยิ้มจากเจ้าของข้อความได้เป็นอย่างดี พลางคิดในใจว่าถ้าไม่ใช้วิธีนี้คงยากที่จะได้เห็นรอยยิ้มของเขา

    “ยิ้มอีกทีสิคะนายช่าง เมื่อกี้รุ้งถ่ายรูปไม่ทัน”

    “จะถ่ายไปทำไม” เขาถามเสียงเข้ม

    “ของหาดูยากแบบนี้ต้องถ่ายเก็บไว้ดูสิคะ ตั้งแต่วันนี้นายช่างแกล้งให้รุ้งดื่มเบียร์วันนั้น รุ้งก็ยังไม่เคยเห็นนายช่างยิ้มอีกเลย”

    “จะอยากดูทำไม ไม่เห็นมีอะไรน่าดูเลย”

    “น่าดูสิคะ เวลานายช่างยิ้มน่ารักจะตาย ไม่เชื่อลองยิ้มอีกทีสิคะเดี๋ยวรุ้งถ่ายรูปให้ดู” ปัถยาว่าพร้อมยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดกล้องค้างไว้ เตรียมพร้อมที่จะเก็บภาพรอยยิ้มของอีกฝ่ายที่หาดูได้ยากยิ่งกว่าสิ่งใด

    โฟร์แมนหนุ่มตั้งท่าจะปฏิเสธแต่เมื่อได้สบกับดวงตากลมโตที่มองมาด้วยความหวังและรอยยิ้มละไมที่หญิงสาวส่งมา ตัวเขาเหมือนโดนมนตร์สะกดและไม่รู้อะไรมาดลใจให้เขาระบายยิ้มบนใบหน้าอีกครั้งเพื่อให้หญิงสาวได้เก็บภาพตามอำเภอใจ จนเมื่อเสียงของประธานค่ายดังแทรกขึ้นเขาจึงหุบยิ้มและกลับมาตีหน้านิ่งแก้เก้อที่เผลอทำอะไรที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง ก่อนจะทำทีเป็นสนใจสิ่งที่นทีกำลังจะอ่าน

    “ขอบคุณที่ไม่ถือโทษโกรธคนอย่างผม แม้ว่าผมจะเคยทำให้คุณเดือดร้อน”

    สิ้นเสียงนที เกือบทุกคนที่อยู่ในอาคารอเนกประสงค์ต่างหันมองหน้ากันไปมา เพื่อจะสอบถามหาเจ้าของข้อความ มีเพียงพยาบาลประจำค่ายที่ฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้ฟังข้อความดังกล่าว เมื่อพอจะเดาได้ว่าใครคือเจ้าของข้อความนั้นและต้องการมอบให้ใคร

    “สำหรับใครที่อยากรู้ว่าข้อความนี้เป็นของใคร และต้องการมอบให้ใครก็ต้องไปตามสืบกันเองเหมือนกับข้อความอื่นๆ นะครับ เพราะเจ้าตัวเขาไม่ได้ลงชื่อ เมลบ็อกซ์ของคืนนี้หมดแล้ว ต่อไปก็มาคุยเรื่องงานของพวกเราบ้างดีกว่า”

    หลังเมลบ็อกแผ่นสุดท้ายถูกเปิดอ่าน นทีก็สรุปความคืบหน้าของงานสร้างอาคารเรียน ซึ่งถือว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ก่อนปล่อยให้ทุกคนได้ไปพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือหากใครอยากจะสังสรรค์กันต่อก็ตามสะดวกของแต่ละคน

     

    “นายช่างดูนี่สิ น่ารักไหมคะ” ปัถยายื่นโทรศัพท์ที่เปิดรูปชายหนุ่มกำลังยิ้มให้คนที่เดินอยู่ข้างๆ ดู

              “ลบออกเถอะ มันตลก”

    “ตลกที่ไหนกันคะ น่ารักดีออก รูปหายากแบบนี้ลบไปเสียดายแย่เลย นายช่างอยากเก็บไว้ดูไหมคะ เดี๋ยวรุ้งส่งให้ทางไลน์”

    คนถูกชมว่าน่ารักส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เพื่อรอรับรูปที่ว่า

              “รุ้งลืมไปว่าที่นี่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์” หญิงสาวบอกเสียงเศร้าเจือแววผิดหวัง

              “ก็ส่งทางบลูทูธสิ” ชวกรเสนอ

              “จริงด้วย รุ้งลืมไปเลย” ดวงตาเศร้าหม่นเมื่อครู่กลับมาเปล่งประกายสดใส “เปิดบลูทูธรอเลยค่ะนายช่าง” 

    “จัดการเองเลยละกัน” คนไม่ค่อยอยากได้รูปยื่นโทรศัพท์ไปให้ ด้านปัถยาไม่รอช้ารีบจัดการส่งรูปทั้งหมดที่ตนบันทึกไว้ให้อีกฝ่าย และทำการจัดเก็บเข้าอัลบั้มให้เสร็จสรรพ

     “เรียบร้อย ห้ามลบทิ้งนะคะ ไม่งั้นรุ้งโกรธจริงๆ ด้วย” ปัถยาสั่งก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืนเจ้าของ

    “ว้าย” เพราะมัวแต่ก้มดูรูปในโทรศัพท์ทำให้ปัถยาไม่ทันมองข้างหน้าว่ามีขอนไม้ขวางอยู่ จึงสะดุดเข้าเต็มแรงโชคดีที่ชวกรคว้าแขนหญิงสาวไว้ทัน ส่งผลให้ร่างบางเซถลาเข้าสู่อ้อมกอดของคนตัวสูงแทนที่จะล้มคะมำลงพื้น วงแขนแกร่งกอดกระชับร่างเล็กไว้แน่น สองสายตาประสานกันนิ่งนานราวถูกมนตร์สะกด

    “ระวังๆ หน่อยสิคุณ” เขาดุเบาๆ เมื่อรวบรวมสติได้

    “ขะ ขอบคุณนะคะ” ปัถยาเอ่ยตะกุกตะกัก พร้อมผละออกจากอกแกร่งของเขาทันที

    “แล้วคุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ถามพลางส่องไฟฉายสำรวจตามร่างกายของหญิงสาว เผื่อว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อครู่

    “ไม่เจ็บค่ะ”

    “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”

    “ถึงบ้านพอดี รุ้งขอตัวขึ้นไปนอนก่อนนะคะ ง่วงแล้ว” เซฟตีสาวรีบเอ่ยขอตัว เมื่อรู้สึกขัดเขินอย่างบอกไม่ถูก ขณะที่ใจดวงน้อยก็สั่นไหวแปลกๆ พร้อมกับความรู้สึกร้อนผ่าวที่ลามเลียไปทั่วทั้งดวงหน้า

    “ช้าๆ ก็ได้คุณ เดี๋ยวได้กลิ้งตกบันไดหรอก” ชวกรตะโกนไล่หลังคนที่ผลุนผลันขึ้นบันไดไปอย่างรีบเร่ง อดยิ้มไม่ได้กับท่าทางแปลกๆ ของหญิงสาว

    มือหนายกขึ้นมาทาบอกด้านซ้ายของตัวเอง เมื่อรู้สึกว่าข้างในมันเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ พลางคิดหาเหตุผลที่ทำให้มันเป็นเช่นนั้น และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้ จึงหยุดคิดและเดินขึ้นบ้านตามหญิงสาวไป

    *************************

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×