ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างรัก [ มี Ebook ]

    ลำดับตอนที่ #13 : สร้างรัก...บทที่ 13

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 62


    บทที่ 13

    หลังหายหน้าหายตาไปหลายวัน วันนี้พิรภพจึงมาดักรอปัถยาที่หน้าไซต์งานอย่างที่ทำประจำ แต่รออยู่นานก็ไม่มีวี่แววว่าหญิงสาวจะออกมาสักที เขาจึงหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทร.หาเธอ เขาโทร.ออกอยู่หลายครั้งแต่ปลายสายก็ไม่รับสายสักที

    “ขอโทษครับ ไม่ทราบว่ารุ้งกลับไปหรือยังครับ” เขาตัดสินใจเดินเข้าไปถามชายคนหนึ่งที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่จุดพักสูบบุหรี่ที่หน้าทางเข้าไซต์งาน

    “ยังครับ” ชายหนุ่มตอบก่อนจะขยี้ก้นบุหรี่ลงบนกระบะทราย

    “ถ้าเจอรุ้งรบกวนบอกให้หน่อยนะครับว่าผมมารอรับ” พิรภพร้องบอกเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังจะเดินกลับเข้าไปในไซต์งาน

    “เขาไม่ได้บอกคุณเหรอว่าเขาเลิกงานห้าทุ่ม” เป็นแฟนกันประสาอะไรถึงไม่รู้ว่าแฟนตัวเองเลิกงานกี่โมงกี่ยาม เขานึกค่อนแคะอยู่ในใจ

    “อ้าวเหรอครับ มิน่าละไม่ออกมาสักที ยังไงฝากบอกรุ้งด้วยละกันครับว่าห้าทุ่มผมจะมารับใหม่”

    “ได้ครับ แล้วจะบอกให้” รับปากเสร็จชายหนุ่มก็เดินเข้าไปในไซต์งานทันที โดยลืมไปว่าตอนออกมาเขาถอดหมวกนิรภัยที่วางไว้ที่โต๊ะ รปภ.

    “นายช่างหยุดก่อน ทำไมไม่ใส่หมวกคะ” ปัถยาร้องถามมาจากชั้นลอย ก่อนจะรีบเดินลงบันไดมาหาชายหนุ่มที่กำลังเดินดุ่มๆ เข้าไปในโซนซีโดยไม่สวมหมวกนิรภัย

    “ใส่ไม่ใส่มันก็เรื่องของผม” ชวกรตอบกลับเสียงห้วน อคติที่คิดว่าหมดไปแล้วเริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนึกถึงชายหนุ่มหน้าหล่อที่มารอรับหญิงสาวอยู่ข้างนอก เขาจะมารับมาส่งกันมันก็เป็นปกติของคนเป็นแฟนกัน แล้วทำไมเขาต้องหงุดหงิดด้วยวะ โฟร์แมนหนุ่มบ่นให้ตัวเองอย่างหัวเสีย

    “เรื่องของนายช่างก็จริง แต่มันเกี่ยวข้องกับงานของรุ้งนะคะ ไหนรับปากว่าจะให้ความร่วมมือทุกอย่างไงคะ นี่อะไรผ่านไปไม่เท่าไรก็กลับไปเป็นแบบเดิมอีกแล้ว อีกอย่างเราเป็นหัวหน้าต้องทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกน้องสิคะ ไม่ใช่ตั้งกฎมาบังคับลูกน้องแต่ลูกพี่ดันมาแหกกฎซะเอง แบบนี้ลูกน้องที่ไหนจะเชื่อฟังล่ะคะ”

    ปัถยาทวงคำมั่นที่เขาเคยให้ไว้ขณะเดียวกันก็รู้สึกงุนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่าย ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวโน้นเขาดูเปลี่ยนไปมาก พูดจากับเธอดีขึ้น ให้ความร่วมมือในการทำงานเป็นอย่างดี แถมยังตามติดเธอแทบจะเป็นเงาตามตัว จนถูกเพื่อนร่วมงานแซวอยู่บ่อยๆ แล้วทำไมอยู่ดีๆ เขาถึงได้กลับไปเป็นชวกรคนเดิม

    “เมื่อกี้แฟนคุณมารอรับอยู่หน้าไซต์งาน เขาบอกว่าห้าทุ่มจะมารับใหม่” เขาบอกก่อนจะหันหลังเดินจากไปอย่างไม่สนใจคำบอกของหญิงสาวก่อนหน้านี้

    “เดี๋ยวก่อนสิคะนายช่าง ไปใส่หมวกให้เรียบร้อยก่อน วันนี้มีรื้อนั่งร้านหลายจุด เดี๋ยวก็มีอะไรร่วงลงมาโดนหัวหรอก” ปัถยาไม่สนใจเรื่องคนที่จะมารับตัวเอง ตอนนี้เธอสนใจความปลอดภัยของคนตรงหน้ามากกว่า

    “โอ๊ย” โฟร์แมนหนุ่มร้องขึ้นเสียงหลงเมื่อข้อต่อนั่งร้านร่วงลงมาโดนศีรษะของเขาพอดิบพอดี ก่อนจะเงยหน้าขึ้นตวาดลูกน้องเสียงดังลั่น “ทำงานกันยังไงวะ ไม่เห็นหรือไงว่ามีคนเดินอยู่ข้างล่าง”

    “ขอโทษครับนายช่าง พอดีมันหลุดมือครับ” ลูกน้องคนหนึ่งตะโกนขอโทษขอโพย

    “เลือดค่ะนายช่าง” หญิงสาวร้องทักเสียงดังอย่างตกใจ เมื่อเห็นของเหลวสีแดงสดค่อยๆ ไหลลงมาจนถึงหางคิ้วของอีกฝ่าย “รุ้งว่าไปให้หมอดูหน่อยดีกว่านะคะ เผื่อต้องเย็บแผล”

    “แผลแค่นี้ไกลหัวใจ” ชวกรบอกเสียงเรียบพลางยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่ไหลลงมาเปรอะเปื้อนใบหน้า

    “อย่าดื้อสิคะนายช่าง เดี๋ยวรุ้งพาไป”

    “ผมไม่เป็นไร”

    “ไม่เป็นไรได้ยังไงคะ ดูสิเลือดไหลไม่หยุดเลย เอาผ้านี่กดห้ามเลือดไว้ก่อนดีกว่าค่ะ” ปัถยาพับผ้าเช็ดหน้าให้เหลือขนาดพอเหมาะก่อนยื่นให้คนเจ็บ

    ในตอนแรกเขาตั้งใจจะปฏิเสธ แต่เมื่อสบเข้ากับแววตาที่เจือไปด้วยความห่วงใย ความคิดที่จะต่อต้านก็มลายหายไปในทันที ชวกรยื่นมือไปรับผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กจากหญิงสาวแล้วกดลงบริเวณที่เป็นแผล

    “รีบไปกันดีกว่าค่ะ” ไม่รอให้อีกฝ่ายได้ปฏิเสธ เซฟตีสาวคว้าแขนกำยำของเขาแล้วลากออกไปจากไซต์งานทันที ขณะที่คนถูกลากก็เดินตามออกไปอย่างว่าง่าย

     

    หลังหมอเย็บแผลให้คนเจ็บเสร็จก็ได้แนะนำการปฏิบัติตัวและการดูแลบาดแผลแก่ชวกร จากนั้นก็นัดให้มาล้างแผลทุกวันจนกว่าจะตัดไหม พร้อมจัดยาให้ไปทาน

    “หมอให้ยาอะไรมาบ้างคะ” ชวกรยื่นถุงยาที่เพิ่งได้รับมาให้หญิงสาวแทนคำตอบ

    “มีทั้งยาก่อนอาหารและหลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็นครบเลย แล้วนี่นายช่างกินข้าวเย็นยังคะ”

    “ยัง”

    “งั้นเราแวะกินข้าวกันก่อนไหมคะนายช่างจะได้กินยา” หญิงสาวเสนอ

    “ก็ได้”

    เมื่อเขาตอบตกลงปัถยาก็เดินนำเขาไปยังร้านข้าวต้มที่อยู่ตรงข้ามโรงพยาบาล หลังจากจัดการกับอาหารมื้อเย็นเสร็จ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสาวก็จัดแจงยาหลังอาหารให้ชายหนุ่มทันที

    “ยาหลังอาหารค่ะ” หญิงสาวแกะยาออกจากแผงแล้วยื่นให้คนที่นั่งอยู่ตรงข้าม

    “ขอบคุณ”

    “นายช่างจะกลับเข้าไปทำงานต่อหรือจะกลับเลยคะ”

    “กลับเข้าไปทำงาน” คนขยันตอบกลับทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด ในชีวิตของชวกรเรื่องงานมาเป็นที่หนึ่งเสมอ แผลแค่นี้เล็กน้อยมากสำหรับเขา

    “รุ้งว่านายช่างกลับไปพักก่อนดีกว่านะคะ แผลเพิ่งเย็บมา ใส่หมวกทำงานอาจไปกดแผลได้นะคะ” ปัถยาบอกน้ำเสียงอ่อนโยนด้วยความห่วงใย

    “แค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอก”

    “ดื้ออีกแล้วนะคะนายช่าง กลับไปพักก่อนเถอะนะคะ ถือว่ารุ้งขอ” หญิงสาวบอกพร้อมจ้องตาคนเจ็บเขม็ง

    “ก็ได้” และแล้วเขาก็พ่ายแพ้ต่อน้ำเสียงเว้าวอนและแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของเธอ นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนมาเป็นห่วงเป็นใยเขาแบบนี้ ชวกรถามตัวเองในใจ

    “ว่าง่ายแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย” ปัถยาฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีเมื่ออีกฝ่ายยอมทำตามที่เธอร้องขอ “แล้วนายช่างจะกลับเลยไหมคะ”

    “จะกลับเข้าไปเอากระเป๋าที่ออฟฟิศก่อน”

    “งั้นรีบไปกันดีกว่าค่ะ นายช่างจะได้รีบกลับไปพักผ่อน” พูดจบเธอก็เรียกพนักงานมาเช็กบิล จากนั้นทั้งสองก็เดินกลับไปยังไซต์งานที่อยู่เยื้องกับโรงพยาบาลไปไม่กี่สิบเมตร

     

    เช้าวันต่อมาปัถยามาถึงที่ทำงานแต่เช้าเช่นเคย จากนั้นก็จัดแจงเทอาหารเช้าที่ซื้อมาใส่ชามและลงมือทานในทันที สักพักชวกรก็เปิดประตูเข้ามา

    “สวัสดีค่ะนายช่าง” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นทักทายเพื่อนร่วมงานเสียงใส

    “สวัสดี” โฟร์แมนหนุ่มตอบกลับเสียงห้วนตามแบบฉบับของชวกรคนเดิม ตั้งแต่เจอหน้าพิรภพเมื่อวาน อารมณ์เขาก็เริ่มไม่ปกติ เห็นอะไรก็พาลให้หงุดหงิดใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะหน้าคนที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้

    “ทานข้าวทานยารึยังคะ”

    “ยัง” หลังได้ยินคำถามจากหญิงสาวชวกรเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองต้องกินยาก่อนและหลังอาหาร

    “ว่าแล้วเชียว ดีนะที่รุ้งรอบคอบเลยซื้อข้าวเช้ามาเผื่อนายช่างด้วย”

    ก่อนหน้านี้ปัถยาสังเกตเห็นว่าชวกรไม่ค่อยทานข้าวเช้า จะทานกาแฟหนึ่งแก้วแค่นั้น จึงฉุกคิดได้ว่าวันนี้เขาก็คงไม่ทานข้าวเช้าเหมือนทุกวันเป็นแน่ และก็เป็นไปตามที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด

    “ผมไม่หิวและไม่ชอบกินข้าวเช้า”

    “ได้ไงคะ ลืมไปแล้วเหรอคะว่านายช่างต้องกินยาตามหมอสั่ง อีกอย่างอาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดนะคะ เพราะฉะนั้นวันนี้นายช่างต้องกินข้าวที่รุ้งซื้อมาให้” ไม่รอให้ถูกปฏิเสธ ปัถยารีบจัดแจงเทกับข้าวใส่ชามพร้อมเทข้าวใส่จานให้เสร็จสรรพก่อนจะยกไปวางตรงหน้าของโฟร์แมนจอมดื้อ

    “ยาอยู่ไหนคะ รุ้งจำได้ว่ามียาก่อนอาหารเช้าด้วย”

    ชวกรส่ายหน้าอย่างอ่อนใจให้กับความเจ้ากี้เจ้าการของหญิงสาว ก่อนเปิดกระเป๋าเป้และหยิบถุงยาส่งให้ หลังจากกินยาก่อนอาหารเสร็จเขาก็ลงมือทานข้าวตามคำสั่งของหญิงสาว

    “หมอนัดล้างแผลกี่โมงคะ”

    “ช่วงบ่าย” เขาตอบก่อนจะลงมือทานข้าวต่อ

    “ให้รุ้งไปเป็นเพื่อนไหมคะ”

    “ไม่เป็นไร ผมไปเองได้”

    “ไม่ใช่พอถึงเวลาแล้วมัวแต่ทำงานเพลินจนลืมนัดหมอนะคะ”

    “ไม่ขนาดนั้น ถ้ากลัวผมลืมคุณก็ไปเตือนผมสิ”

    “ได้เลยค่ะ” เธอรับคำพร้อมรอยยิ้มระบายบนใบหน้า “เดี๋ยวรุ้งเก็บให้ค่ะ” หญิงสาวแย่งถ้วยชามจากมือของชายหนุ่ม แล้วนำไปเก็บในห้องครัว จากนั้นก็จัดยาหลังอาหารให้คนเจ็บทาน

    พอถึงเวลาหมอนัดล้างแผลชวกรก็ทำงานเพลินจนลืมนัดหมออย่างที่ปัถยาคาดไว้ไม่มีผิด หญิงสาวจึงเข้าไปเตือนความจำคนขยันและยังอาสาไปเป็นเพื่อนอีกต่างหาก


    ปัถยาซื้อข้าวเช้ามาเผื่อชวกรทุกวันจนเป็นกิจวัตร นอกจากนี้ยังจัดยาให้และพาไปล้างแผลทุกวันจนถึงวันที่ตัดไหม หลังจากคนเจ็บหายดีแล้ว เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสาวสวยยังคงซื้อข้าวมาเผื่อเช่นเดิม จนเจ้าตัวต้องท้วงออกมา

    “ซื้อมาเผื่อทำไม ลืมไปแล้วหรือไงว่าผมไม่ต้องกินยาแล้ว”

    “ไม่ลืมค่ะ แค่อยากให้นายช่างทานข้าวเช้าทุกวัน เพราะมื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญและมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไปนายช่างต้องทานข้าวเช้าที่รุ้งซื้อมาให้ทุกวัน ห้ามปฏิเสธด้วย”

    “เผด็จการไปไหม”

    “ถ้าไม่อยากกินเททิ้งก็ได้นะคะ รุ้งไม่ว่า หากรุ้งเจ้ากี้เจ้าการกับนายช่างมากไปรุ้งก็ขอโทษด้วยนะคะ” เซฟตีสาวว่าเสียงอ่อยพร้อมแสร้งตีหน้าเศร้า

    “โอเคๆ ต่อไปนี้ผมจะกินข้าวเช้าที่คุณซื้อมาให้ทุกวัน พอใจรึยัง” ชวกรถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะตกปากรับคำทำตามที่หญิงสาวต้องการ จะมีสักครั้งไหมนะที่เขาจะชนะเธอบ้าง เขาตั้งคำถามกับตัวเองในใจครั้งที่เท่าไรก็ไม่ทราบได้  รู้สึกพักหลังมานี้เขาจะพ่ายแพ้ต่อดวงตาใสแป๋วเหมือนเด็กของเธอทุกครั้งไป

    ******************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×