ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างรัก [ มี Ebook ]

    ลำดับตอนที่ #10 : สร้างรัก...บทที่ 10

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ย. 62


    บทที่ 10

    ทันทีที่เคลียร์พื้นที่เกิดเหตุและจัดการกับตัวต้นเหตุของเรื่องราวในวันนี้เสร็จเรียบร้อย ชวกรก็รีบวิ่งขึ้นมาห้องประชุมที่อยู่บนชั้นแปดทันทีเพื่อจะมาช่วยหญิงสาวให้หลุดพ้นจากการตกเป็นจำเลยในเหตุการณ์ครั้งนี้

    “มีธุระด่วนอะไรเหรอช่างตรี ถึงได้พรวดพราดเข้ามาแบบนี้” วัชระเอ่ยถามอย่างสงสัย

    ชวกรยืนหอบหายใจเหนื่อยอยู่พักหนึ่งก่อนตอบคำถามของวัชระ “ผมอยากจะให้ทุกคนดูอะไรสักหน่อย ก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องของเซฟตีรุ้งน่ะครับ”

    พูดจบโฟร์แมนหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเปิดคลิปวิดีโอที่เขาแอบบันทึกไว้ให้ทุกคนในห้องประชุมดู ซึ่งเป็นคลิปเหตุการณ์ที่เขาบังเอิญผ่านไปเจอเมื่อครั้งขึ้นไปขอโทษเซฟตีสาวบนดาดฟ้า

    ฉันคิดแผนเด็ดๆ ออกแล้วเว้ย หัวหน้าผู้รับเหมางานประปาเปรยขึ้นพร้อมกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างมีแผนร้าย

    แผนอะไรเหรอพี่ ผู้เป็นลูกน้องถามอย่างอยากรู้

    แผนที่จะทำให้นังเซฟตีหน้าสวยโดนเด้งออกจากไซต์งานก่อนที่มันจะปากโป้งเรื่องของพวกเรายังไงล่ะ

    เล่นถึงขั้นโดนไล่ออกมันจะไม่แรงไปหน่อยหรอพี่ เขาไม่ได้รู้ความลับของเราสักหน่อย ลูกน้องแย้ง

    ยืนตัวสั่นซะขนาดนั้นมึงยังจะเชื่ออีกเหรอว่ามันไม่รู้ไม่เห็นว่าพวกเราเข้าไปทำอะไรกันในห้องนั้นผู้เป็นลูกพี่ตวาดเสียงดัง ก่อนจะถาม หรือมึงจะรอให้มันไปพาตำรวจมาลากคอมึงเข้าคุกก่อนมึงถึงจะเชื่อ

    ผู้เป็นลูกน้องครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เริ่มคล้อยตามก็จริงอย่างพี่ว่า

    ฉะนั้นพวกเราต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม

    แล้วแผนที่พี่ว่าคืออะไร ยังไงเหรอ                

    จบคำถามของลูกน้อง ผู้เป็นลูกพี่ก็อธิบายแผนที่เพิ่งคิดได้สดๆ ร้อนๆ หลังเดินผ่านหน้าห้องประชุมและได้ยินบทสนทนาระหว่างศรันย์และปัถยาให้ลูกน้องฟัง

    เอาอย่างนั้นเลยเหรอพี่ ถ้าเกิดไฟมันลามจนเราเอาไม่อยู่ ไม่ซวยกันหมดเหรอ ลูกน้องยังคงลังเล กลัวทำพลาดแล้วจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต

    คนซวยไม่ใช่เราสักหน่อย แต่เป็นนังเซฟตีนั่นต่างหาก แล้วถ้ามึงกลัวว่ามันจะมันลาม มึงก็หาถังดับเพลิงมาวางไว้ใกล้ๆ ก่อนสิ หลังจากตะโกนบอกคนอื่นๆ ว่าไฟไหม้แล้ว มึงค่อยรีบเอาถังดับเพลิงมาฉีด แค่นี้ไม่เห็นยากเลย จับมือใครดมก็ไม่ได้แล้ว

    ความคิดพี่นี่สุดยอดไปเลย แล้วเราจะลงมือวันไหนกันดีชมพร้อมยกนิ้วโป้งให้กับคนเจ้าแผนการ

    คงอีกหลายวัน เพราะเพิ่งเกิดเรื่อง ช่วงนี้ไฟร์แมนและเซฟตีรุ้งคงจะตรวจตราเข้มงวดกว่าเดิม เอาไว้วันไหนโอกาสเหมาะๆ ฉันจะบอกแกอีกทีหนึ่ง

    โอเคพี่ ผมพร้อมเสมอขอแค่พี่สั่งมา

     

    หลังจากทุกคนได้ดูคลิปตั้งแต่ต้นจนจบ เรื่องที่จะเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยคนใหม่ก็เป็นอันต้องล้มเลิกไป ปัถยาได้รับโอกาสให้ทำงานต่อไปตราบเท่าที่หญิงสาวยังคงปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี ด้านผู้รับเหมาทั้งสองคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราววุ่นวายในวันนี้ก็ถูกตำรวจเข้าจับกุมและนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

    ตั้งแต่วันที่ล่วงรู้แผนการของผู้รับเหมาทั้งสอง ชวกรก็นำเรื่องนี้มาหารือกับก้องภพและจับตาดูผู้รับเหมาทั้งสองคนตลอด ขณะเดียวกันก็พยายามเก็บหลักฐานให้ได้มากที่สุด ก่อนแจ้งเบาะแสไปยังตำรวจ จากนั้นตำรวจก็แฝงตัวเข้ามาทำงานในไซต์งานก่อนจะวางแผนล่อซื้อและเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมหลักฐานเป็นยาบ้าจำนวนหลายร้อยเม็ดที่ซุกซ่อนไว้ในลังเครื่องมือช่างอย่างแนบเนี่ยน

     

    “เดี๋ยวก่อนค่ะนายช่าง” ปัถยาร้องเรียกคนที่เดินดุ่มๆ ออกมาจากห้องประชุมไปโดยไม่สนใจใคร หลังจากเคลียร์เรื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย

    ชวกรหยุดตามเสียงเรียกและหันกลับไปทางต้นเสียงแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป เขาทำเพียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงถาม

    “ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องวันนี้”

    “อืม” โฟร์แมนหนุ่มตอบรับในลำคอพลางพยักหน้ารับรู้ ก่อนหันหลังก้าวเดินไปข้างหน้า แต่ก็ไม่วายมีเสียงใสดังแจ้วๆ ตามหลังมาอีกระลอก

    “ทำไมถึงช่วยรุ้งล่ะคะ ทั้งที่นายช่างเองก็ไม่ชอบขี้หน้ารุ้งสักเท่าไร ทีแรกรุ้งคิดว่านายช่างน่าจะดีใจซะอีก ที่รุ้งจะโดยรีเจ็กต์ออกจากโครงการ จะได้ไม่มีรุ้งมาคอยขวางหูขวางตานายช่างอีกต่อไป”

    เซฟตีสาวถามขณะรีบสาวเท้าให้ทันร่างสูงตรงหน้า เธออดสงสัยในการกระทำของเขาไม่ได้เลย เขาควรจะดีใจไม่ใช่เหรอถ้าเธอโดนไล่ออกจากโครงการ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นคนช่วยให้เธอให้ได้ทำงานที่นี่ต่อ แม้ว่าเขาจะล่วงรู้แผนการของผู้รับเหมาสองคนนั้น แต่หากเขาปิดปากเงียบและทำเฉย ปล่อยให้แผนการของทั้งสองคนนั้นสำเร็จ มันน่าจะถูกใจเขามากกว่าไหม ยิ่งคิดเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสาวยิ่งสงสัย จึงต้องออกปากถามไปตรงๆ

    “มันไม่ใช่ความผิดของคุณสักหน่อย ถ้าคุณจะโดนเด้งออกจากโครงการมันต้องมาจากความผิดของตัวคุณเอง ไม่ใช่เพราะถูกคนอื่นกลั่นแกล้งแบบนี้” ชวกรพูดออกไปตามที่ใจคิด แม้เขาจะมีความคิดอยู่ลึกๆ ให้เธอไปให้พ้นๆ หน้าเขา เพื่อเขาจะได้ไม่หงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผลแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันต้องไม่ใช่แบบเมื่อครู่นี้ ที่มีคนจงใจกลั่นแกล้งเธอ และอีกเหตุผลหนึ่ง เหตุผลลึกๆ ในใจของเขาคือเขาไม่ชอบเห็นใบหน้าหวานๆ นั้นดูอมทุกข์อย่างช่วงสัปด์ที่ผ่านมาเอาเสียเลย

    “ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยให้รุ้งได้ทำงานที่นี่ต่อ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณจากใจจริง รอยยิ้มที่หายไปหลายวันเริ่มกลับมาอีกครั้ง ความหมางใจที่มีต่อเขาก่อนหน้านี้ก็ค่อยๆ คลายลงด้วย

    “ถือซะว่าเป็นการไถ่โทษที่ผมเป็นคนทำให้เกิดเรื่องครั้งก่อน”

    “ช่างมันเถอะค่ะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว”

    หญิงสาวบอกปัดอย่างไม่ถือสา แม้ก่อนหน้านี้เธอจะโกรธเขาบ้างที่เป็นต้นเหตุของปัญหาต่างๆ แต่ในวันนี้เขากลับมีน้ำใจมาช่วยเธอทั้งที่เขาเองก็ไม่ค่อยชอบหน้าเธอสักเท่าไร เธอจะยังผูกใจเจ็บเขาก็ใช่เรื่อง ที่จริงเธอเองไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นสักเท่าไร อาจจะมีบ้างในบางครั้งที่จะอารมณ์หลุดและระเบิดออกมา แต่ก็แค่ชั่วครู่เท่านั้น ไม่นานเธอก็ปล่อยวาง ไม่เคยเก็บมาคิดเล็กคิดน้อยให้รกสมอง หรือจะพูดง่ายว่าเธอเป็นประเภทโกรธง่ายหายเร็ว หรือไม่ก็เป็นคนโลกสวยอย่างที่เพื่อนๆ ชอบว่ากันนั่นแหละ

    “หายโกรธผมหรือยัง” ชวกรหยุดเดินและหันมารอฟังคำตอบ

    “ที่จริงก็ไม่ได้โกรธอะไรมากมายหรอกนะคะ ไม่เข้าใจมากกว่าว่า...”

    “เรื่องนั้นช่างมันเถอะ” เขาพูดตัดบท รู้ดีว่าหญิงสาวจะพูดเรื่องอะไร “เอาเป็นว่าผมไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดอะไรคุณหรอก ผมก็เป็นของผมแบบนี้แหละ ปากหมาและขวางโลกไปวันๆ อย่าได้ถือสาผมเลย” ชวกรเลี่ยงที่จะบอกความจริงกับหญิงสาว

    “รุ้งไม่ถือสาหรอกค่ะ” ปัถยารับคำอย่างเสียไม่ได้ ในเมื่อเขาไม่อยากบอกเธอก็จะไม่เซ้าซี้ให้มากความ เดี๋ยวจะมีปัญหากันอีก หญิงสาวจึงต้องอยู่กับความสงสัยต่อไป ก็ได้แต่หวังว่าสักวันเขาจะยอมบอกถึงเหตุผลข้อนี้ให้เธอกระจ่างใจ และก่อนจะแยกจากกันเซฟตีสาวก็นึกบางอย่างขึ้นได้ จึงถามต่อ

    “นายช่างรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ต้นแล้วไม่คิดจะบอกให้รุ้งรู้ตัวบ้างเหรอคะ”

    “คุณเอาแต่หลบหน้าหลบตาผมแบบนั้น แล้วจะให้ผมบอกได้ยังไงล่ะ” เขาย้อน นึกถึงช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่เธอเอาแต่หลบหน้าหลบตาเขา แถมใบหน้าจิ้มลิ้มที่มีรอยยิ้มอยู่เสมอนั้นหม่นเศร้าแทบตลอดเวลา เขาก็ชักจะหงุดหงิดขึ้นมาครามครัน ที่ตัวเองเป็นต้นเหตุให้ความสดใสที่เคยมีนั้นจางหายไป

    “ไลน์ก็มี ทำไมไม่ทิ้งข้อความไว้ล่ะคะ”

    “ผมลืม” ชวกรปดออกไปหน้าตาย ทั้งที่ความจริงแล้วเขาเคยคิดจะส่งข้อความไปบอกเธออยู่เหมือนกัน แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างลึกๆ ในใจกระซิบบอกให้เขาไปคุยกับเธอต่อหน้าจะดีกว่า ด้วยเหตุนี้วันนี้เขาจึงต้องยอมทำให้เธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเพื่อที่จะได้เจอและพูดคุยกับเธอ แต่ก็ยังไม่ทันจะได้เตือนอะไรก็ดันเกิดเรื่องซะก่อน

    ปัถยากำลังจะอ้าปากแย้งออกไป แต่เสียงจากวิทยุสื่อสารที่เหน็บอยู่ที่เอวของเธอและโฟร์แมนหนุ่มดันส่งเสียงแทรกขึ้นเสียก่อน  

    “สต๊าฟ แกรนด์ คอนสตรัคชั่น แอนด์ ดีไซน์ ว.เชิญทุกคนขึ้นมาประชุมบนออฟฟิศด่วน ทราบแล้วตอบด้วย” 

     

    เมื่อพนักงานทุกคนขึ้นมาบนออฟฟิศพร้อมเพรียงกันแล้ว ก้องภพก็แจกตารางแผนงานให้กับทุกคน พร้อมกับแจ้งถึงสาเหตุที่ต้องเรียกทุกคนมาประชุมเป็นการด่วน

    “ที่ผมเรียกทุกคนมาประชุมด่วนวันนี้ เพราะมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับแผนงานก่อสร้างของบริษัทเรา ให้ทุกคนดูตารางแผนงานที่ผมแจกให้นะ” ผู้จัดการโครงการบอกพร้อมกับชูแผนงานในมือให้ลูกน้องดูก่อนจะพูดต่อ “จากแผนจะเห็นว่าตอนนี้ผลงานของเราล่าช้ากว่าแผนอยู่เกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าของโครงการเขาได้เร่งรัดทางเรามาแล้ว และผมก็ได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับเจ้านาย จนได้ข้อสรุปว่าเราควรเพิ่มจำนวนผู้รับเหมา คนงานและเพิ่มเวลาทำงาน เพื่อให้งานเสร็จตามสัญญา”

    “เรื่องผู้รับเหมาผมพอจะรู้จักอยู่หลายเจ้า เดี๋ยวผมจะลองติดต่อให้เขาเข้ามาคุยกับพี่นะครับ” ชวกรเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีที่จริงจังหลังจากก้องภพพูดจบ

    “ดีเลย ติดต่อมาหลายๆ เจ้าเลยนะ โดยเฉพาะช่างสีและช่างไม้”

    “ช่างไฟล่ะครับพี่ ต้องการเพิ่มไหม” กวีถามขึ้นบ้าง เพราะเขาเองก็มีผู้รับเหมาหลายชุดที่เคยร่วมงานกันมาก่อน เมื่อครั้งยังทำงานที่บริษัทเก่า

    “ช่างไฟก็ด้วย ติดต่อมาเยอะๆ เลย ใครมีผู้รับเหมาที่รู้จักก็แนะนำเข้ามาได้เลย ยิ่งเยอะยิ่งดี ตอนนี้เราจะชักช้าไม่ได้แล้ว งานไม่เสร็จตามสัญญาโดนปรับแน่” ผู้จัดการหนุ่มบอกกับลูกน้องด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ไม่มีแววขี้เล่นเหมือนอย่างที่เคยเป็น

    “แล้วเรื่องเพิ่มเวลาทำงานล่ะครับพี่” วิษณุที่นั่งฟังเงียบๆ ถามขึ้นบ้าง

    “เรื่องเวลาทำงาน วันปกติเราจะเปิดโอทีถึงห้าทุ่ม แล้ววันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เราจะไม่หยุด แต่จะเลิกงานหกโมงเย็นตามปกติ ไม่มีโอที” ก้องภพอธิบาย

    “โหดไปไหมลูกพี่” พงศกรโวยขึ้นเสียงดัง ด้วยนิสัยเกียจคร้านเป็นทุนเดิม เมื่อได้ยินอย่างนั้นเขาก็ไม่เห็นด้วยเลยที่จะทำงานหามรุ่งหามค่ำไม่มีวันหยุดแบบนั้น

    “ผมพูดยังไม่ทันจบเลย จะรีบแทรกไปไหน” ก้องภพว่าเสียงดังไม่แพ้กัน ทำเอาคนทั้งห้องสะดุ้งกับเสียงทรงพลังของผู้จัดการโครงการที่นานๆ จะได้ยินที ถึงแม้เขาจะร่วมงานกับพงศกรได้ไม่ถึงปี แต่ก็ทำให้เขาได้รู้จักนิสัยที่แท้จริงของลูกน้องคนนี้ดีพอสมควร พงศกรเป็นคนค่อนข้างเห็นแก่ตัว งานหนักไม่เอาเบาไม่สู้ ไม่ตั้งใจทำงาน เขาต้องคอยจี้คอยตามงานตลอด ไม่งั้นคงเสร็จไม่ทันตามกำหนด ดูท่าแล้วคงไม่อยากมาทำงานในวันหยุด

    “ขอโทษครับพี่ เชิญพี่พูดต่อเลยครับ” พงศกรกล่าวเสียงอ่อย เมื่อรับคำขอโทษจากลูกน้องแล้ว ก้องภพก็ไม่รอช้า รีบอธิบายต่อทันที

    “ในวันหยุดที่เราต้องมาทำงาน ผมไม่ได้จะให้พวกคุณมาทุกวันหรอกนะ แต่จะให้สลับกันมา อย่างน้อยอาทิตย์ละสองคนเวียนกันไป เพราะหากไม่มีหัวหน้างานมาคุมสักคน ปล่อยคนงานทำกันเอง มีหวังพากันอู้งานทั้งวัน”

    “ขอแทรกนิดนึงนะคะคุณโจ้ อย่างพิมพ์กับคุณจ๋าก็ต้องมาด้วยไหมคะ” พิมพาซักถาม เมื่อไม่แน่ใจว่าตนต้องมาด้วยรึเปล่า เพราะงานที่ต้องเร่งคือหน้างาน ไม่เกี่ยวกับงานเอกสารที่ตนรับผิดชอบอยู่

    “คุณพิมพ์กับคุณจ๋าไม่ต้องมา เพราะวันอาทิตย์ที่ปรึกษาเขาหยุด คงไม่มีเอกสารอะไรที่ต้องทำส่ง” ก้องภพไขข้อข้องใจของธุรการสาวเสร็จก็หันไปทางเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยคนเดียวของบริษัท “ส่วนรุ้ง ไม่ต้องมาก็ได้นะ เดี๋ยวพวกพี่ช่วยกันดูเรื่องความปลอดภัยอีกแรงหนึ่ง”

    “ไม่เป็นไรค่ะพี่โจ้ รุ้งมาได้ หยุดอยู่บ้านเฉยๆ ก็น่าเบื่อ มาทำงานดีกว่า มีเพื่อนคุยเยอะแยะ”

    “ตามใจรุ้งละกัน งั้นผมจัดเวรให้เลยละกันนะ อาทิตย์นี้ให้นุกับกวีมาเข้าเวร ส่วนอาทิตย์ต่อไปเป็นเวรของตรีกับรุ้ง...” ก้องภพจัดเวรให้ลูกน้องเสร็จสรรพ เมื่อไม่มีใครโต้แย้งอะไรเขาก็สั่งให้ทุกคนแยกย้ายกลับไปทำงานตามปกติ

    คล้อยหลังบรรดานายช่างทั้งหลาย ศศิธรก็อดไม่ได้ที่จะถามในสิ่งที่สงสัย “นึกยังไงถึงจัดให้ตรีกับน้องรุ้งมาอยู่เวรด้วยกันล่ะคุณ คุณเป็นคนบอกฉันเองไม่ใช่เหรอว่าสองคนนี้ไม่ค่อยจะกินเส้นกัน เดี๋ยวได้ตีกันตายพอดี”

    “ก็เพราะไม่ค่อยถูกกันไงถึงต้องจับมาอยู่วันเดียวกัน”

    “คุณคิดจะทำอะไรกันแน่เนี่ย”

    “เถอะน่า คุณคอยดูละกันว่าสองคนนี้จะตีกันตายอย่างที่คุณว่าหรือจะสงบศึกและหันมารักใคร่กลมเกลียวกัน”

    ศศิธรได้แต่ส่ายหน้าให้กับความคิดของสามี ที่ทำตัวราวกับจะจับคู่ให้กับทั้งสองยังไงยังงั้น แต่ก็ไม่ได้ขัดหรือแย้งอะไรอีก ได้แต่คิดว่าอะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด

    *************************

    แผนกระชับความสัมพันธ์ของคุณก้องภพจะสำเร็จหรือจะล้มไม่เป็นท่ากันน้าาา

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ

    ...คีตมินทร์...

      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×