ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างรัก [ มี Ebook ]

    ลำดับตอนที่ #9 : สร้างรัก...บทที่ 9

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ย. 62


    บทที่ 9

    หลังเกิดเรื่องในวันนั้นปัถยาพยายามเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับชวกร ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นเธอก็จะไม่โผล่หน้าไปให้เขาเห็นเป็นอันขาด ทุกวันนี้เธอต้องทำงานอย่างหวาดระแวง กลัวว่าสักวันหนึ่งจะเกิดเหตุขึ้นมาอีก ถึงแม้เขาจะเข้ามาขอโทษและรับปากว่าจะให้ความร่วมมือในการทำงานเป็นอย่างดี แต่เธอก็อดระแวงไม่ได้อยู่ดี ด้วยเธอยังไม่รู้จักเขาดีพอ จึงไม่รู้ว่าจะสามารถเชื่อคำพูดเขาได้มากแค่ไหน ทั้งยังไม่รู้ถึงสาเหตุที่เขาไม่ชอบหน้าเธอ ขืนโผล่หน้าไปให้เขาเห็นแบบสุ่มสี่สุ่มห้าแล้วเขาเกิดหมั่นไส้ขึ้นมาอีก จนหาเรื่องให้เธอโดนรีเจ็กต์ออกจากโครงการ มันคงไม่ดีแน่ ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้คือเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเขา เมื่อใดที่เขาขึ้นไปบนออฟฟิศเธอก็จะหลบลงไปอยู่หน้างาน แต่ถ้าเขายังอยู่หน้างานเธอก็จะเตร่อยู่แถวโซนเอและโซนบี จะเข้าไปโซนซีที่เขารับผิดชอบอยู่ก็ต่อเมื่อเขาไม่อยู่ แต่ถ้ามีธุระเรื่องงานที่จำเป็นต้องติดต่อประสานงานกัน เธอก็เลือกที่จะสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์หรือวิทยุสื่อสารเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ความพยายามของปัถยาจะไม่เป็นผลสักเท่าไร เมื่อคนที่เธอพยายามเลี่ยงเพื่อลดปัญหานั้นกลับทำตัวมีปัญหาขึ้นมาเสียอย่างนั้น  

    “หน้างานโซนเอ ว.2[1] ค่ะ” ปัถยาส่งเสียงเรียกผ่านวิทยุสื่อสาร ไม่นานก็มีเสียงนพัตธรตอบกลับมา

    “ว.2 ครับ” 

    “พรุ่งนี้โซนเอมีฮ็อตเวิร์กไหมคะ” เซฟตีสาวหมายถึงงานที่มีความร้อน ไม่ว่าจะเป็นงานตัด งานเชื่อมหรือแม้กระทั่งงานอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดประกายไฟ

    “ไม่มีครับ”

    “โอเคค่ะ”

    หลังสอบถามโซนเอเสร็จหญิงสาวก็ไล่ถามโซนอื่นๆ ต่อ เพื่อจะทำเรื่องขออนุญาตทำงานที่มีความร้อน ทุกโซนตอบกลับมาหมดยกเว้นโซนซีที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของชวกร ไม่ว่าหญิงสาวจะถามไปกี่ครั้งก็ไม่มีเสียงตอบกลับจากอีกฝ่ายเลย

    “หน้างานโซนซี ว.2 ค่ะ” เซฟตีสาวกรอกเสียงลงไปในวิทยุสื่อสารอีกครั้ง แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงเสียงดังซ่าๆ ของคลื่นแทรก

    “...”

    “หน้างานโซนซี ว.2 ค่ะ”

    “...” เมื่อไม่มีเสียงตอบกลับมาหญิงสาวจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นลูกพี่

    “พี่โจ้คะรบกวนโทร.ถามช่างตรีให้หน่อยค่ะว่าพรุ่งนี้โซนซีมีฮ็อตเวิร์กไหม”

    “ทำไมรุ้งไม่โทร.ไปถามเองล่ะ มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า”

    ก้องภพอดแปลกใจกับท่าทีของลูกน้องทั้งสองไม่ได้ เขาผิดสังเกตมาตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องไฟไหม้แล้ว แต่ฝ่ายชวกรยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเขาก็เชื่ออย่างนั้น แต่เมื่อมาเห็นท่าทีแปลกๆ ของปัถยาเขาคงทำใจให้เชื่อต่อไปไม่ได้แล้ว ยังไงวันนี้ก็ต้องถามให้ได้ความ

    “เปล่าค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันค่ะ” ปัถยาปฏิเสธพัลวันพลางหยิบโทรศัพท์มือถือตัวเองขึ้นมากดโทร.ออกไปยังเบอร์ของคนที่เธอพยายามหลบหน้าหลบตามาทั้งอาทิตย์ เธอรอสายจนสัญญาณตัดไป จึงลองกดโทร.ออกอีกครั้ง และผลก็ไม่ต่างจากรอบแรก เซฟตีสาวจึงตัดสินใจเดินลงไปหาเขาที่โซนซี

     

    “ทำไมไม่ตอบว. และไม่รับโทรศัพท์คะนายช่าง”

    ปัถยาถามขึ้นอย่างฉุนๆ เมื่อรู้ว่าเขาจงใจที่จะไม่ตอบ ขณะที่เธอเดินไปหาเขา เธอกดโทร.หาเขาไปด้วย สลับกับเรียกเขาผ่านทางวิทยุสื่อสาร และสิ่งที่เธอเห็นอยู่ตรงหน้าคือเขายืนจ้องโทรศัพท์ที่เป็นสายจากเธอนิ่ง ไม่มีทีท่าว่าจะรับสายเลย ไหนจะเสียงวิทยุสื่อสารที่ดังเป็นระยะๆ นั่นอีก

    “ถ้าผมตอบผมก็ไม่ได้เจอคุณสักทีน่ะสิ ทำไมคุณต้องคอยหลบหน้าหลบตาผมด้วย หรือว่าคุณยังไม่หายโกรธผมสำหรับเรื่องวันนั้น”

    ชวกรถามอย่างไม่เข้าใจในการกระทำของหญิงสาว ในเมื่อเขาก็ขอโทษและรับปากไปแล้วว่าจะให้ความร่วมมือเรื่องความปลอดภัย แล้วทำไมเธอยังทำเหมือนโกรธเขาอยู่ ทั้งยังตั้งใจหลบเลี่ยงที่จะเจอเขา ซึ่งมันทำให้เขาหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าการที่ไม่มีอีกฝ่ายมาคอยป้วนเปี้ยนให้ขวางหูขวางตามันจะทำให้เขาสบายอกสบายใจและทำงานอย่างมีความสุข แต่พอเอาเข้าจริงทุกอย่างมันกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด นานวันเข้าเขายิ่งรู้สึกหงุดหงิดและหงุดหงิดขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัวเมื่อเห็นเธอคุยหัวเราะเล่นกับคนอื่นๆ อย่างสนุกสนาน แต่พอเขาย่างกรายเข้าไปใกล้เธอกลับปิดปากเงียบเป็นเป่าสากและขอตัวออกจากวงสนทนาใปทันที เธอทำราวกับเขาเป็นตัวเชื้อโรคอย่างไรอย่างนั้น

    จนผ่านมาเป็นอาทิตย์เขาก็ยังไม่มีโอกาสได้คุยเรื่องสำคัญกับเธอเลย ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องใช้วิธีนี้เพื่อให้ได้เจอและพูดคุยกับเธอ ซึ่งดูแล้วมันน่าจะเป็นวิธีที่ทำให้อีกฝ่ายกรุ่นโกรธไม่น้อย ถึงได้พูดจากับเขาด้วยน้ำเสียงที่ห้วนกว่าทุกครั้งที่เขาเคยได้ยิน 

     “คุณคิดว่าเรื่องที่คุณทำไว้กับฉันมันน่าโกรธไหมล่ะคะ ฉันจะโดนไล่ออกวันไหนยังไม่รู้เลย เกิดวันไหนฉันเสนอหน้าไปให้คุณเห็นแล้วคุณเกิดหมั่นไส้ฉันขึ้นมา และคุณทำอย่างวันนั้นอีก ฉันก็ซวยไปสิ” ปัถยาระเบิดอารมณ์ออกมาเสียงดังลั่นอย่างเหลืออด “ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าฉันไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจตอนไหน คุณถึงได้ทำเหมือนโกรธเกลียดฉันมาเป็นชาติแบบนี้”

    “ผมเคยพูดเหรอว่าผมเกลียดคุณ” ชวกรตกใจไม่น้อยกลับอารมณ์อีกด้านหนึ่งของเซฟตีสาว ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ปกติเธอจะพูดจาอ่อนหวานกับทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งเขาที่แสดงออกกรายๆ ว่าไม่ค่อยชอบหน้าเธอ แต่เธอก็ยังพูดคุยด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะน่าฟัง ไม่เคยเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธแบบครั้งนี้

    “คุณไม่พูดแต่การกระทำคุณมันฟ้อง เจอหน้าฉันทีไรคุณชอบทำหน้าเสียอารมณ์ เวลาฉันบอกฉันเตือนอะไรคุณก็ชักสีหน้าไม่พอใจไส่ฉันตลอด ฉันพูดด้วยดีๆ คุณก็ตอบแบบกระโชกโฮกฮากทุกครั้งไป แบบนี้จะให้ฉันคิดว่าคุณพิศวาสฉันเหรอคะ ถามจริงคุณมีปัญหาอะไรกับฉันนักหนา ถ้ามีปัญหาอะไรก็พูดออกมาเลย จะได้เคลียร์กันให้จบในวันนี้ จะได้ไม่ต้องค้างคากันอีกต่อไป”

    ปัถยาถามสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจออกมาเสียงดัง เมื่อไม่สามารถทนกักเก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจได้อีกต่อไป วันนี้เป็นไงเป็นกัน แม้ต้องแตกหักกันเธอก็ยอมถ้ามันทำให้รู้ถึงสาเหตุที่เขาไม่ชอบใจเธอ

    ชวกรนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ เพราะไม่เคยเห็นปัถยาในโหมดนี้มาก่อน พร้อมคิดตามที่หญิงสาวพูด มันก็จริงอย่างเธอว่า เขาทำตัวเหมือนโกรธเหมือนเกลียดเธอมาเป็นชาติ ทั้งที่เธอไม่ได้ทำอะไรให้เขาเลยสักนิด เธอทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมาโดยตลอด ข้อนี้เขาเองยังแอบชื่นชมเธออยู่เลย แต่ติดอยู่แค่เรื่องเดียวและเป็นเรื่องที่เขาเกลียดที่สุด คือเรื่องที่เธอชอบทำตัวเป็นสาวโสดเมื่ออยู่ลับหลังคนรัก แม้เขาจะพยายามเตือนตัวเองอยู่เสมอว่านั่นมันเรื่องส่วนตัวของเธอ ให้แยกแยะระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว แต่มันก็อดอคติไม่ได้อยู่เรื่อย ยิ่งวันไหนเห็นแฟนหนุ่มของเธอมารอรับที่หน้าไซต์งาน ความไม่ชอบใจในตัวหญิงสาวยิ่งทวีมากขึ้นเท่านั้น

    “เงียบทำไมล่ะ ตอบมาสิคะ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไปนาน เซฟตีสาวจึงถามย้ำอีกที

    “ผมขอโทษ”

    “ฉันไม่ได้ต้องการคำขอโทษ แต่ฉันต้องการคำอธิบาย ถึงสาเหตุที่คุณไม่ชอบขี้หน้าฉัน”

    “ผม...” ชายหนุ่มอึกอัก ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เพราะเหตุผลของเขานั้นมันงี่เง่าสิ้นดี

    “มัวแต่อ้ำอึ้งอยู่นั่น แล้วฉันจะรู้ไหมว่าคุณโกรธเกลียดฉันเรื่องอะไร” ปัถยาเริ่มจะหงุดหงิดที่อีกฝ่ายไม่พูดออกมาสักที

    “ผมไม่ได้เกลียดคุณ ผมแค่...”

    ยังไม่ทันที่ชวกรจะได้อธิบายอะไร ก็มีเสียงคนงานตะโกนแทรกเข้ามาว่า

    “ไฟไหม้ ไฟไหม้”

    เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสาวแทบหมดแรงเมื่อได้ยินคำดังกล่าว ก่อนจะตั้งสติและรีบวิ่งไปยังจุดเกิดเหตุที่อยู่บริเวณโซนบี โดยมีชวกรวิ่งตามไปติดๆ


    ทันทีที่มาถึงปัถยาและชวกรไม่รอช้ารีบเข้าไปช่วยคนงานดับไฟที่กำลังลุกลามไปตามกองเศษกระดาษลูกฟูกที่เพิ่งแกะออกจากเฟอร์นิเจอร์ หลังเพลิงสงบลงเซฟตีสาวถึงกับเซ แข้งขามันไร้เรี่ยวแรงจนแทบทรุดลงไปกองกับพื้น ยังดีที่ชวกรเข้ามาพยุงไว้ทัน แต่เจ้าตัวกลับสะบัดออกราวกับรังเกียจหนักหนา พร้อมหันมามองคนหวังดีตาขวาง ก่อนจะตวาดเสียงดังลั่น

    “ไม่ต้องมาถูกตัวฉัน สมใจคุณแล้วล่ะสิ ต่อไปคุณคงจะทำงานอย่างสบายใจ ไม่ต้องทนเจอหน้าฉัน ไม่มีฉันให้คุณรำคาญอีกต่อไป” หญิงสาวจ้องตาชายหนุ่มนิ่ง แววตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

    “ไม่ใช่อย่างนั้น ผมไม่เคยรำคาญคุณเลยนะ”

    “ฝืนใจไหมคะที่พูดคำนี้ออกมา” เซฟตีสาวพูดอย่างหยันๆ

    “เคลียร์ตรงนี้เสร็จแล้ว ขึ้นไปคุยกันที่ห้องประชุมหน่อยนะ” ศรันย์ที่มาทันเห็นเหตุการณ์เมื่อสักครู่พูดขึ้นเสียงเย็น ก่อนจะเดินหน้านิ่งออกไป ทำเอาคนฟังรู้สึกเสียวสันหลังวาบ 

    เราจะโดนรีเจ็กต์ออกจากโครงการจริงๆ ใช่ไหม ปัถยาพูดกับตัวเองในใจ พลันน้ำใสๆ ก็ไหลออกมาจากหางตา เริ่มท้อแท้กับการเดินบนเส้นทางนี้ แม้เธอจะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีแค่ไหน แต่ถ้าคนอื่นไม่ให้ความร่วมมือมันก็เท่านั้น และผลก็อย่างที่เห็น 

    “เช็ดหน้าเช็ดตาหน่อยคุณ เปรอะเปื้อนไปหมดแล้ว” โฟร์แมนหนุ่มว่าพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กขึ้นมาหมายจะเช็ดน้ำตาให้ ไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นคนแพ้น้ำตาผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน โดยเฉพาะน้ำตาของคนตรงหน้า เห็นทีไรใจที่แข็งกระด้างของเขาเป็นต้องกระตุกวูบ พร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ ที่พร้อมใจกันวิ่งเข้ามาจู่โจมโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว

    ยังไม่ทันที่ผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยจะได้สัมผัสกับแก้มเนียนใส เจ้าของใบหน้าก็เบือนหน้าหนีพร้อมปัดมืออีกฝ่ายออกอย่างแรง “เรื่องของฉัน ไม่ต้องมายุ่ง” ว่าเสร็จก็เดินลิ่วเข้าไปหาวิษณุที่กำลังสำรวจความเสียหายในจุดเกิดเหตุ 

    ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในห้องประชุม ปัถยาขนลุกซู่อย่างบอกไม่ถูก รู้สึกว่าอากาศภายในห้องเย็นกว่าทุกครั้ง ตอนนี้ทุกคนมานั่งรอเธออยู่ก่อนแล้ว ทั้งก้องภพ ปรัชญ์ ซึ่งเป็นตัวแทนจากทางห้างฯ วัชระ ผู้จัดการโครงการของบริษัทที่ปรึกษา และศรันย์ ทุกสายตาจับจ้องยังผู้เข้ามาใหม่เป็นตาเดียว หญิงสาวเดินตัวลีบไปนั่งลงที่ข้างผู้จัดการของตนทันทีอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว

    “เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ให้ทุกคนฟังหน่อยสิ ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร” ศรันย์เปิดฉากทันทีที่หญิงสาวมาถึง

    “มีคนงานเดินสะดุดถังน้ำมันสนหกรดบนกระดาษลูกฟูกค่ะ และจังหวะนั้นมีคนทิ้งก้นบุหรี่ลงมาจากชั้นลอยพอดี เลยเป็นเหตุให้ไฟลุกไหม้กองกระดาษลูกฟูกค่ะ ส่วนความเสียหายมีคราบเขม่าควันไฟที่ผนังด้านนอกของห้อง B-12 และที่เฟอร์นิเจอร์ที่รอติดตั้งในห้องนั้นค่ะ” เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสาวรายงานพร้อมพยายามยามบังคับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด

    “ตัวคนสูบบุหรี่ล่ะ” ศรันย์ถามต่อ

    “หาตัวไม่ได้ค่ะ จุดนั้นมีผู้รับเหมาทำงานอยู่หลายเจ้า ไม่มีใครยอมรับค่ะ”

    “คุณก้องภพมีความคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้” วัชระถามขึ้นบ้าง

    “เรื่องค่าปรับและค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทางบริษัทเราจะรับผิดชอบทั้งหมดครับ” ก้องภพออกตัวรับผิดชอบตามที่กฎระเบียบของโครงการได้กำหนดไว้

    “แล้วมาตรการเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำล่ะ ทางบริษัทคุณมีแนวทางยังไงบ้าง ตอนนี้ทางห้างกังวลกับเรื่องนี้มาก เพราะเกิดเหตุถึงสองครั้งภายในเวลาไม่ถึงสองอาทิตย์ ถึงแม้เราจะระงับเหตุทันทุกครั้ง แต่ก็รับประกันไม่ได้ว่าครั้งต่อไปเราจะระงับได้ทันอีก ทางที่ดีควรหาทางป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นน่าจะดีที่สุด”

    ปรัชญ์พูดขึ้นเสียงเครียด หากเกิดเหตุขึ้นอีกและไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ มิวายต้องลามลงไปถึงภายในห้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล

    “ในเรื่องของการป้องกันรุ้งจะกำชับคนงานและผู้รับเหมาในเรื่องห้ามสูบบุหรี่ภายในโครงการ ส่วนเรื่องค่าปรับกรณีพนักงานสูบบุหรี่ภายในโครงการอาจจะมีการปรับเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว และก่อนเข้าโครงการจะมีการตรวจหาบุหรี่ที่ตัวพนักงาน หากพบว่าใครมีบุหรี่ติดตัวก็จะให้ฝากไว้ที่โต๊ะ รปภ.ค่ะ” ปัถยาเสนอแนวทางที่เพิ่งคิดได้สดๆ ร้อนๆ

    “ทุกคนคิดว่าแนวทางที่ปัถยาเสนอมาเป็นไงบ้างครับ” ศรันย์ถามความคิดเห็นของทุกคน

    “ผมว่าก็โอเคนะ” วัชระพูดขึ้นเป็นคนแรกก่อนที่คนอื่นๆ จะพยักหน้าเห็นด้วย

    “ผมเองก็เห็นด้วยกับแนวทางที่เสนอมานะ แต่ผมอยากให้เปลี่ยนเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยคนใหม่ด้วย เป็นผู้ชายได้จะดีมาก คนงานจะได้เกรงกลัวบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ผมได้ตกลงกับคุณปัถยาไว้แล้วเมื่อตอนเกิดเหตุครั้งแรก ว่าหากเกิดเหตุขึ้นอีกผมจะขอให้ทางคุณก้องภพหาเซฟตีคนใหม่มาแทนคุณปัถยา”

    “ผมเห็นด้วยกับคุณศรันย์นะคุณก้องภพ ตั้งแต่เปิดโครงการมาไม่เคยเกิดเหตุไฟไหม้เลยสักครั้ง แต่พอคุณปัถยาเข้ามาไม่ทันไรก็เกิดเหตุไล่เลี่ยกันถึงสองครั้ง แสดงให้เห็นว่าเธอหละหลวมในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางห้างฯ ของเราให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เสียด้วย” ปรัชญ์สนับสนุนความคิดของศรันย์  

    จบคำพูดของตัวปรัชญ์หญิงสาวคนเดียวในห้องก็หน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด รู้ชะตาตัวเองในทันที ไม่คิดไม่ฝันว่าชีวิตการทำงานเธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าไปหากเธอไปสมัครงานที่อื่น แล้วจะมีที่ไหนรับเธอเข้าทำงานไหม หากประวัติการทำงานที่นี่ของเธอรู้ถึงหูบริษัทเหล่านั้น  คิดแล้วปัถยาก็ได้แต่ลอบถอนหายใจกับอนาคตการทำงานของตัวเองที่ดูจะมืดมนลงไปทุกขณะ เพราะคงไม่มีใครอยากรับคนที่โดนรีเจ็กต์เพราะทำงานไม่มีประสิทธิภาพอย่างเธอหรอก

     “ผมว่าให้โอกาสน้องอีกสักครั้งจะได้ไหมครับ ผมรับรองว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีกแน่นอน อีกอย่างก่อนที่จะตัดสินรีเจ็กค์ใครออก ผมว่าเราควรจะสืบสาวราวเรื่องให้ดีก่อน เพราะบางทีเหตุการณ์วันนี้มันอาจจะมีอะไรมากกว่าอุบัติเหตุไฟไหม้ธรรมดาก็ได้นะครับ” ก้องภพขอโอกาสให้ลูกน้อง ขณะเดียวกันมือข้างที่ซุกอยู่ใต้โต๊ะก็กดพิมพ์ข้อความอะไรบางอย่างในโทรศัพท์ก่อนจะกดส่งอย่างรวดเร็ว

     “คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง คุณกำลังจะบอกพวกเราว่ามีคนจงใจทำให้เกิดไฟไหม้เพื่อกลั่นแกล้งลูกน้องของคุณอย่างนั้นเหรอ คุณดูละครมากไปหรือเปล่าคุณก้องภพ” ศรันย์ถามอย่างขบขัน ซึ่งคนอื่นๆ ในห้องก็พลอยหัวเราะไปด้วย ยกเว้นคนที่ชีวิตการทำงานกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย นอกจากจะหัวเราะไม่ออกแล้วยังเอาแต่ก้มหน้ามองมือตัวเองที่กุมกันแน่นอยู่บนตัก

    “แล้วโอกาสที่ว่าผมก็ให้ไปแล้วเมื่อครั้งก่อน ตอนนี้โอกาสของเธอหมดไปแล้ว” ศรันย์พูดยืนยันคำเดิมอีกรอบ

    และก่อนที่ใครจะได้พูดอะไรต่อ ประตูห้องประชุมก็ถูกเคาะและเปิดพรวดเข้ามา ทุกคนภายในห้องหันไปมองผู้มาใหม่เป็นตาเดียว และต่างพากันสงสัยในการปรากฏตัวของชายหนุ่มในครั้งนี้



    [1]ว.2 คือ รหัสวิทยุสื่อสาร หมายถึง ได้ยินหรือไม่/ได้ยินแล้ว

    *************************

    สงสัยปีนี้จะปีชงของหนูรุ้ง งานเข้ารัวๆเลยช่วงนี้ 

    มาส่งกำลังใจให้หนูรุ้งผ่านมรสุมลูกนี้กันค่ะ

    ...คีตมินทร์...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×