ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างรัก [ มี Ebook ]

    ลำดับตอนที่ #8 : สร้างรัก...บทที่ 8

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ย. 62


    บทที่ 8

         ปัถยาวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุในเวลาไม่กี่นาที แต่ก็ไม่ทันกาลเมื่อไฟที่มีต้นเพลิงจากถังสีได้ลุกลามไปยังผ้าม่านที่เตรียมไว้สำหรับติดตั้งในห้องที่ทำเสร็จแล้ว นอกจากนี้ยังลุกไหม้ไปตามเสื้อผ้าของช่างสีที่ผสมสีอยู่ตรงนั้นพอดี

    รีบถอดเสื้อผ้าออกเร็วช่างเซฟตีสาวที่ยังสติดีอยู่ตะโกนบอกผู้เคราะห์ร้ายที่กำลังวิ่งพล่านไปมาเพราะความร้อนที่กำลังแผดเผากาย ก่อนหันไปสั่งคนงานที่อยู่ใกล้เคียงที่ต่างพากันยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก

    หาน้ำมาดับไฟที่ตัวพี่เขาทีค่ะพูดจบปัถยาก็วิ่งไปหิ้วถังดับเพลิงที่อยู่ไม่ไกลมาปลดสลักและฉีดไปยังฐานของไฟบนถังสีและกองผ้าม่าน

    ชวกรที่เพิ่งวิ่งมาถึงเห็นดังนั้นก็รีบไปดึงสายยางที่ช่างปูนต่อไว้สำหรับผสมปูนมาฉีดไปยังตัวของช่างสีทันที ด้านคนอื่นๆ ก็ไม่รอช้า ต่างพากันวิ่งไปนำถังดับเพลิงมาช่วยดับไฟก่อนที่จะลุกลามและสร้างความเสียหายมากกว่าที่เป็นอยู่

    หลังเพลิงสงบลง คนเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงในทันที เพราะความร้อนได้ทำลายชั้นผิวหนังจนพุพองไปทั้งตัว จากนั้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็เข้ามาสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นพร้อมสอบสวนหาสาเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนี้

     

    เรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไงศรันย์ถามเสียงเข้ม สีหน้าดูจริงจังจนปัถยาไม่กล้าสบตา

    จากการสอบสวนสาเหตุเกิดจากสะเก็ดลูกไฟจากงานตัดเหล็กด้วยแก๊สบนชั้นเหนือฝ้าร่วงลงมาตรงตำแหน่งที่ช่างสีผสมสีพอดี เลยเป็นเหตุให้ไฟลุกและลามไปที่ผ้าม่านที่เตรียมติดตั้งและที่ตัวของช่างสีค่ะปัถยาบอกเสียงอ่อยอย่างคนมีความผิด

    ลืมไปแล้วเหรอว่าก่อนทำงานที่มีความร้อนต้องทำอะไรบ้าง

    ไม่ลืมค่ะ

    ไม่ลืมแล้วมันเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นได้ยังไง ก่อนทำงานไม่มีการขออนุญาต อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ก็ไม่มีศรันย์ตวาดเสียงดังจนหญิงสาวสะดุ้ง

    ทางช่างเขาไม่ได้แจ้งมาค่ะว่าจะมีงานตัดเหล็กตรงนั้น รุ้งเลยไม่ได้ทำเรื่องขออนุญาตและไม่ได้ไปตรวจดูก่อนที่จะเริ่มทำงาน

    ไม่ต้องมาแก้ตัวหรืออ้างอะไรทั้งนั้น นั่นมันเรื่องภายในบริษัทของคุณที่ต้องประสานงาน ที่ต้องกำกับและควบคุมกันเอง

    ค่ะ รุ้งบกพร่องในหน้าที่เองที่ไม่สามารถทำให้พนักงานและคนงานในบริษัทให้ความร่วมมือในเรื่องความปลอดภัยได้

    หญิงสาวก้มหน้ายอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ไม่แม้แต่จะกล่าวโทษถึงตัวต้นเหตุ เมื่อคิดๆ ดูแล้วมันก็เป็นความบกพร่องของเธอจริงๆ นั่นแหละ ที่ไม่สามารถทำให้ทุกคนในไซต์งานเห็นถึงความสำคัญของความปลอดภัยในการทำงานได้

    เรื่องง่ายๆ แค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วถ้าเรื่องใหญ่กว่านี้คุณจะไหวเหรอ ถ้าไม่ไหวก็บอกนะ ผมจะได้ให้คุณก้องภพหาคนมาแทนคุณ

    ชายหนุ่มพูดอย่างหยันๆ คิดแล้วไม่มีผิด ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับรู้ว่าเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยคนใหม่ของบริษัท แกรนด์ คอนสตรัคชั่น แอนด์ ดีไซน์เป็นผู้หญิง เขาก็ทำใจไว้แล้วว่าเธออาจจะควบคุมคนงานได้ไม่ดีเท่าไร เพราะขนาดผู้ชายท่าทางดุๆ อย่างสุชาติ ยังไม่ค่อยมีใครเชื่อฟัง แล้วนับประสาอะไรกับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างปัถยา

    รุ้งยังไหวค่ะหญิงสาวตอบกลับทันควัน

    อย่าเพิ่งมั่นใจไป ระหว่างนี้คุณก็ไปพิจารณาตัวเองดูละกันว่าคุณเหมาะที่จะทำงานนี้ไหม ถ้าคุณยังทำต่อไปคุณจะสามารถคุมคนงานและผู้รับเหมาให้ปฏิบัติตามได้ไหม โครงการนี้เปิดมาเป็นปี ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงขนาดนี้มาก่อน แต่คุณเข้ามาได้แค่สองเดือนก็เกิดเหตุซะแล้ว

    รุ้งมั่นใจค่ะ และต่อไปรุ้งจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างวันนี้อีกค่ะน้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นหนักแน่น เพื่อยืนยันความตั้งใจของตนเอง

    ถ้าคุณยืนยันขนาดนี้ ผมก็จะให้โอกาสคุณอีกสักครั้ง และผมก็หวังว่าคงจะไม่มีเหตุการณ์อย่างวันนี้เกิดขึ้นอีกนะ ถ้ามีอีกครั้งผมคงต้องทำเรื่องขอให้เปลี่ยนเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยคนใหม่ เพราะเกิดเหตุแต่ละครั้งไม่ได้เสียชื่อแค่บริษัทผู้รับเหมา แต่มันเสียมาถึงบริษัทที่ปรึกษาและโครงการด้วย อีกอย่างคุณก็น่าจะรู้ดีว่าทางห้างฯ เขาซีเรียสและเข้มงวดเรื่องไฟไหม้แค่ไหน

    ค่ะ รุ้งจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบวันนี้อีกค่ะปัถยารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ก่อนจะเดินหน้าหงอยออกจากห้องประชุมไป

     

    พี่โจ้มีเรื่องด่วนอะไรเหรอครับ ถึงเรียกผมมาพบกะทันหันแบบนี้ชวกรถามขึ้นขณะลากเก้าอี้มานั่งลงตรงหน้าผู้จัดการหนุ่ม

    ตรีมีปัญหาอะไรกับน้องรุ้งหรือเปล่า

    คิ้วหนาขมวดมุ่นขึ้นทันทีเมื่อได้ฟังคำถามของลูกพี่ ไม่มีนี่ครับ

    ไม่มีแล้ววันนี้ทำไมถึงเกิดเรื่องขึ้นได้ ปกติตรีไม่ใช่คนที่จะละเลยเรื่องความปลอดภัยเลยนี่ก้องภพอดแปลกใจไม่ได้ จนต้องเรียกลูกน้องคนสนิทมาสอบถามดู เผื่อทั้งสองมีปัญหาอะไรกันเขาจะได้ไกล่เกลี่ยเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำอีก

    เขามาบอกอะไรพี่เหรอครับโฟร์แมนหนุ่มเข้าใจไปว่าปัถยาคงนำเรื่องที่เขาไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของเธอจนเกิดเรื่องมาบอกให้ผู้จัดการหนุ่มรับรู้

    เปล่า รุ้งไม่ได้บอกอะไรพี่หรอก พี่แค่คาดเดาจากสถานที่เกิดเหตุในวันนี้ ตกลงว่ามีเรื่องกันจริงใช่ไหมถึงได้ถามพี่แบบนั้น

    เปล่าครับ ไม่ได้มีอะไร ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ผมสะเพร่าเองที่ลืมแจ้งเรื่องทำงานตัดเหล็ก และไม่ได้ตรวจดูความเรียบร้อยก่อนให้ช่างทำงาน ต่อไปผมจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกครับพี่

    ถ้าตรียืนยันขนาดนี้พี่ก็จะเชื่อ ต่อไปก็ระมัดระวังอย่าให้เกิดเรื่องขึ้นอีกละกัน ลำพังเรื่องโดนค่าปรับมันไม่เท่าไรหรอก แต่เรื่องภาพลักษณ์ของบริษัทเรานี่สิสำคัญกว่า

    ครับพี่

    ถ้าน้องเขาขอความร่วมมืออะไรก็ช่วยๆ น้องเขาหน่อยละกัน น้องเขายังใหม่อยู่ อีกอย่างเรื่องความปลอดภัยเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่ต้องช่วยกันขับเคลื่อน ลำพังน้องเขาคนเดียวเอาไม่อยู่หรอก อยู่บริษัทเดียวกันก็ต้องช่วยกัน เพราะเกิดเรื่องมาทีมันเสียไปทั้งบริษัท วงการก่อสร้างมันยิ่งแคบอยู่ด้วย เรื่องแพร่ออกไปเมื่อไหร่ไม่เป็นผลดีกับบริษัทเราเท่าไร เมื่อภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยเราไม่ดี ต่อไปยื่นประมูลงานที่ไหนใครเขาจะอยากจ้าง เข้าใจที่พี่พูดใช่ไหม

    ผมเข้าใจครับพี่

    พี่มีเรื่องจะคุยกับตรีแค่นี้แหละ

    ถ้าพี่ไม่มีอะไรแล้วผมลงไปดูหน้างานก่อนนะครับ

    ตามสบาย

    หลังได้คุยกับก้องภพ ชวกรกลับมานั่งทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันไม่ใช่ความผิดของปัถยาเลยสักนิด ทุกอย่างมันเกิดจากตัวเขา เกิดจากอคติที่มีต่อตัวหญิงสาว เธอจะทำตัวยังไงมันก็เรื่องส่วนตัวของเธอไม่ใช่เหรอ ในเมื่อเรื่องงานเธอก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง แล้วทำไมเขาต้องเก็บเรื่องส่วนตัวเธอมาคิดแล้วนำมาปนกับเรื่องงานจนเกิดเรื่องราวใหญ่โต คิดได้ดังนั้นความรู้สึกผิดต่อหญิงสาวเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ

    น่าสงสารเซฟตีรุ้งเหมือนกันเนอะ มาทำงานไม่ทันไรก็งานเข้าซะแล้ว

    นั่นน่ะสิ เมื่อกี้ฉันขึ้นไปเบิกกุญแจบนออฟฟิศ ได้ยินเสียงเซฟตีก้องด่าเซฟตีรุ้งดังลั่นเลย แถมยังบอกอีกว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้นอีก จะให้ช่างโจ้หาคนใหม่มาแทน

    ชวกรหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเองทันทีที่ได้ยินชื่อของปัถยาในบทสนทนาของคนงานสองสามีภรรยาที่ดังอยู่ด้านหลัง ก่อนจะตั้งใจฟังบทสนทนานั้นอย่างเงียบๆ

    ขนาดนั้นเลยเหรอผู้เป็นภรรยาถาม

    เออน่ะสิ เซฟตีรุ้งนี่หงอยเลย เห็นเดินคอตกออกมาจากห้องประชุม เดินเหม่อขึ้นไปบนดาดฟ้าจนป่านนี้ยังไม่เห็นลงมาเลย ไม่รู้เครียดจนจะคิดสั้นหรือเปล่า

    เรื่องแค่นี้เอง คงไม่ถึงขนาดคิดสั้นหรอกมั้งภรรยาแย้งความคิดของผู้เป็นสามี

    มันก็ไม่เสมอไปหรอก แกไม่เคยเห็นข่าวคนคิดสั้นในทีวีหรือไง แค่เรื่องขี้หมูขี้หมายังเครียดจนฆ่าตัวตายได้เลย ดูท่าทางเซฟตีรุ้งก็คงเครียดไม่เบา ปกติเห็นร่าเริง ยิ้มแย้มอยู่ตลอดแม้จะโดนด่าสักแค่ไหน แต่วันนี้นิ่งเงียบกว่าทุกครั้ง อีกสักพักถ้ายังไม่เห็นลงมาฉันว่าจะขึ้นไปดูสักหน่อย

    ขึ้นไปดูหน่อยก็ดีเหมือนกัน เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยทัน

    ได้ยินอย่างนั้นชวกรก็ผลุนผลันขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าทันที กลัวเหลือเกินว่าหญิงสาวจะคิดสั้นอย่างที่สองสามีภรรยาคุยกัน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเขาคงจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต ที่อคติส่วนตัวของเขาทำลายชีวิตคนคนหนึ่ง โดยที่ตัวเธอนั้นไม่ได้ทำอะไรผิดเลย

    หลังออกมาจากห้องประชุมปัถยาก็ตรงดิ่งขึ้นมายังชั้นดาดฟ้าทันที เพราะบนนี้เงียบสงบ ไร้ผู้คนและเสียงรบกวน ซึ่งเหมาะแก่การทบทวนตัวเองของเธอเป็นอย่างมาก

    เวลาผ่านไปเนิ่นนานหญิงสาวยังคงยืนเกาะราวกั้นดาดฟ้าแน่น ตาทั้งสองเหม่อมองไปบนฟ้ากว้าง ส่วนในหัวคิดวนเวียนกับเรื่องที่เพิ่งเผชิญมา

    หรือเราจะไม่เหมาะกับงานด้านนี้จริงๆ เราคงไม่มีศักยภาพพอที่จะทำให้คนงานเชื่อฟังและทำตามในสิ่งที่เราแนะนำได้

    ปัถยาตั้งคำถามกับตัวเองในใจพลันภาพโฟร์แมนหัวดื้อก็ปรากฏขึ้นมาในหัว ไม่รู้เธอไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจตอนไหน เขาถึงได้ทำเหมือนไม่ชอบขี้หน้าเธอขนาดนั้น ทั้งยังต่อต้านทุกอย่างที่เธอแนะนำ เซฟตีสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ คิดไม่ตกกับเรื่องที่ต้องเผชิญในวันข้างหน้า หากเขายังดื้อรั้นอยู่แบบนี้ ไม่วายคงเกิดเรื่องขึ้นอีกในสักวัน และวันนั้นโอกาสที่เธอจะได้ทำงานที่นี่ต่อก็คงจะหมดลง คิดถึงตรงนี้หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาอีกเฮือกใหญ่

    เมื่อรู้สึกตัวว่าขึ้นมาบนนี้นานเกินไปแล้ว ปัถยาจึงตั้งใจจะกลับลงไปทำงาน ขณะกำลังหมุนตัวกลับก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อชนเข้ากับร่างบึกบึนของคนที่กำลังอยู่ในความคิด ไม่รู้เขามายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทันทีที่ตั้งหลักได้หญิงสาวก็เดินหลบเขาไปอีกทาง

    เดี๋ยวก่อนสิคุณ จะรีบไปไหน อยู่คุยกันก่อนสิชวกรคว้าแขนหญิงสาวไว้ทันก่อนที่เธอจะเดินลิ่วลงบันไดไป

    จะรีบไปทำงานค่ะ ขืนมัวแต่โอ้เอ้เดี๋ยวจะเกิดเรื่องขึ้นอีกเมื่อเห็นหน้าคนต้นเรื่องหญิงสาวก็อดพูดกระทบเขาไม่ได้ คงจะมาเยาะเย้ยเธอละสิที่เธอโดนต่อว่าหนักขนาดนั้น

    ผมขอโทษชวกรกล่าวเสียงเรียบห้วนตามแบบฉบับของเขา

    ช่างมันเถอะค่ะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว กลับไปแก้ไขอะไรก็ไม่ทันแล้ว รุ้งคงจะไม่เหมาะกับงานด้านนี้อย่างที่พี่ก้องว่าจริงๆหญิงสาวบอกอย่างหยันๆ ปรายตามองคนต้นเรื่องด้วยหางตาแบบที่เขาชอบทำกับเธอ

    คุณจะลาออกเหรอ

    มันก็ไม่แน่นะคะ ในเมื่ออยู่ต่อไปก็ไม่มีใครเชื่อฟัง ขอความร่วมมือจากใครก็ไม่ได้ ก็ไม่รู้จะอยู่ต่อไปทำไมเซฟตีสาวไม่วายประชดอีกรอบ

    คุณว่าผมเหรอ

    เปล่าค่ะ รุ้งพูดรวมๆ

    ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น

    รู้ตัวก็ดีแล้วค่ะปัถยากระแทกเสียงใส่ จากนั้นก็หันหลังเดินลงบันไดไปทันที

    ผมพูดยังไม่จบเลยนะคุณโฟร์แมนหนุ่มรีบสาวเท้าตามหญิงสาวไป

    แต่รุ้งไม่มีอะไรจะพูดกับนายช่างแล้วค่ะ

    คุณยังโกรธผมอยู่เหรอ

    เปล่าค่ะ

    คุณบอกว่าเปล่า แต่น้ำเสียงคุณไม่ได้หมายความอย่างที่พูด

    ก็ได้ค่ะ รุ้งโกรธนายช่าง โกรธมากด้วย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยโกรธใครขนาดนี้มาก่อน พอใจหรือยังคะปัถยาระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างสุดจะห้ามได้ กำปั้นน้อยๆ ระดมทุบที่อกแกร่งอย่างไม่ออมแรง ขณะเดียวกันน้ำตาแห่งความอ่อนแอที่พยายามกลั้นไว้ก่อนหน้านี้ก็พังลงมาราวกับทำนบแตก ด้าน
    ชวกรแทนที่เขาจะปัดป้องกลับยืนนิ่งให้เธอประทุษร้ายจนพอใจ

    ผมขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้คุณต้องโดนด่าและโดนคาดโทษ

    คนต้นเรื่องกล่าวเสียงอ่อยอย่างสำนึกผิด ทั้งยังรั้งร่างบางที่สะอื้นไห้จนตัวโยนเข้ามากอดแนบอกแกร่ง ไม่มีถ้อยคำปลอบโยนใดๆ เล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน มีเพียงมือหนาที่ลูบไล้บนกลุ่มผมนุ่มอย่างปลอบประโลม เห็นน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่ขาดสายของเธอแล้วใจที่แข็งกระด้างมานานปีของเขาก็อ่อนยวบยาบราวเทียนไขโดนไฟลน นอกจากนี้ความรู้สึกผิดยังพวยพุ่งขึ้นมาเกาะกุมในจิตใจ ชวกรสัญญากับตัวเองตั้งแต่นี้เลยว่าเขาจะแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว เรื่องส่วนตัวเธอจะเป็นอย่างไรก็ช่าง เขาจะไม่นำมาปนกับเรื่องงานอีกต่อไปแล้ว

    ด้านคนที่ถูกความอ่อนแอเข้าเล่นงาน มัวแต่เผลอไผลไปกับอ้อมกอดแสนอบอุ่นของคนตัวโต จนลืมไปเลยว่าอ้อมกอดนี้เป็นของตัวต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด กว่าจะรู้ตัวก็เมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่มที่ดังอยู่ชิดริมหู

    ยกโทษให้ผมได้ไหม

    ปัถยารีบผละออกจากอกแกร่งเมื่อรู้สึกตัว มือบางถูกยกขึ้นมาปาดน้ำมูกน้ำตาออกอย่างลวกๆ จนคนที่มองอยู่ถึงกับเผลอยิ้มให้กับท่าทางราวเด็กน้อยของเธอ

    ก็ได้ค่ะ ครั้งนี้รุ้งจะยกโทษให้ แต่อย่าให้มีครั้งต่อไปนะคะเซฟตีสาวอภัยให้โดยง่าย เพราะไม่ชอบผูกใจเจ็บกับใครสักเท่าไร โกรธใครก็ไม่เคยข้ามวันสักที เพื่อนหลายคนมักว่าให้เธอเสมอว่าเธอมันเป็นนางเอกโลกสวย ซึ่งเธอก็ไม่คิดจะโต้แย้งสักครั้ง

    แล้วต่อไปเวลารุ้งแนะนำหรือตักเตือนอะไรช่วยให้ความร่วมมือหน่อยได้ไหมคะ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว

    ได้สิชวกรตกปากรับคำอย่างไม่อิดออด

    ขอบคุณมากค่ะ รุ้งขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ ทิ้งหน้างานมานานแล้ว เดี๋ยวจะเกิดเรื่องขึ้นอีกพูดจบปัถยาก็สะบัดหน้าเดินลงบันไดไปทันที ทิ้งให้คนสำนึกผิดยืนเคว้งอยู่ลำพัง

    ระหว่างทางเดินลงบันไดชวกรเป็นอันต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ในห้องข้างบันไดเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน เขาคงจะเดินผ่านไปเลยหากหัวข้อสนทนาครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนที่สะบัดหน้าใส่แล้วเดินหนีเขาไปเมื่อสักครู่

    สองคนในห้องแยกย้ายกันไปทำงานแล้ว แต่โฟร์แมนหนุ่มยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เพราะตอนนี้ความคิดด้านดีและด้านร้ายในหัวตีกันให้ยุ่งไปหมดอย่างไม่มีใครยอมใคร

    *************************

    สองคนนั้นนินทาอะไรหนูรุ้งให้พี่ตรีได้ยินน้อ หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรนะ

     ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ

    ...คีตมินทร์...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×