ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แนะนำการ์ตูนและนิยายเพื่อผ่อนคลาย

    ลำดับตอนที่ #8 : ประวัติผู้เขียน อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 50


    อัฐิชีวประวัติของเลโมนี สนิกเก็ต

    (สนิกเก็ตยืนยันให้ใช้คำว่า อัฐิ แทน อัต เนื่องจากข่าวการเสียชีวิตปริศนาของเขาที่ลงในเดอะเดลี่พังค์ทิลิโอ)

    ...แด่ เบียทริช แม้ยามลาลับ ยังน่าจับใจ น่าหลงใหล ไฉนเลยผมจะหักห้ามใจได้

          ทางสำนักพิมพ์ได้รับอัฐิชีวประวัติของเลโมนี สนิกเก็ตผ่านทางจดหมายนิรนามสีซีดมอที่ทิ้งไว้ในถังขยะด้านหน้าสำนักพิมพ์ ตอนกลางดึกมีหมาหลงทางหิวโซตัวหนึ่งผ่านมาคุ้ยขยะจนกระจุยกระจาย และของอย่างหนึ่งทึ่หล่นออกมาข้างนอกด้วยก็คือจดหมายกลิ่นเหม็นฉึ่ง จ่าหน้าเพียงว่า “ กรุณาทิ้งจดหมายฉบับนี้ไว้ในถังขยะถ้าคุณไม่อยากให้ชีวิตคุณสิ้นหวังไปมากกว่านี้ ” ทางเรารู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่จดหมายแสนสุขธรรมดา และยิ่งเมื่อเปิดซองและโดนกระดาษรีไซเคิลบาดนิ้วจนเลือดไหลรินลงไปในกระดาษ เราก็ยิ่งรู้ว่า ความโชคร้ายเริ่มมาเยือนแล้ว

          ลายมือในจดหมายหวัดจนน่าเวียนหัว เอ่ยแต่เพียงว่าตนมีอาชีพเป็นร่างทรง และเพราะความรันทดที่ไม่เคยทรงใครได้ วิญญาณของเลโมนี สนิกเก็ตจึงเข้ามาในร่างเพราะสัญญาณแห่งความโชคร้ายและรันทดจูนกันติด และในคืนนั้นเขาได้เล่าประวัติที่แท้จริงของตนเองให้ฟัง

          เลโมนี สนิกเก็ต เกิดขึ้นเมื่อไรไม่ทราบได้ รู้เพียงว่าเขาเกิดก่อนทุกท่าน และแน่นอนย่อมตายก่อนทุกท่าน (เพราะบัดนี้เขาลาจากโลกนี้ไปแล้วอย่างที่ทุกท่านไม่ควรรับรู้) สนิกเก็ตเกิดในฟาร์มปศุสัตว์ แทนที่จะเป็นโรงพยาบาล ครอบครัวของเขามีรากเหง้ามาจากดินแดนแสนโชคร้ายที่จมหายไปใต้สมุทร นั่นคือ แอตแลนติส จึงอาจกล่าวได้ว่าเขาได้รับดีเอ็นเอแห่งความไม่เพลิดเพลินเจริญใจมาตั้งแต่ก่อนปฏิสนธิเสียอีก

          สนิกเก็ตเกิดในเมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยผู้คนช่างสงสัยและค่อนข้างสับสนอลหม่าน เขาใช้ชีวิตในวัยเด็กในสนิกเก็ต วิลล่า ที่ค่อนข้างจะหรูหรา ซึ่งภายหลังบ้านแสนรักได้เปลี่ยนเป็น โรงงาน ป้อมปราการ ร้านขายยา และปัจจุบันที่น่าเศร้าไปกว่านั้นก็คือ สนิกเก็ต วิลล่า ตกเป็นของคนอื่นแล้ว

          เมื่อสนิกเก็ตโตขึ้นเป็นหนุ่ม “ ร่างสูง ตาสีน้ำตาล ” ก็ย้ายไปอยู่ในเมืองใหญ่ เขาได้รับการศึกษาขั้นแรกจากโรงเรียนรัฐบาลและครูเอกชน แล้วก็โรงเรียนรัฐบาล สั่งคมความเฉลียวฉลาดจนกลายเป็นนักวิชาการที่มีอนาคตไกล และเริ่มงานเป็นนักวิจารณ์ละครให้หนังสือพิมพ์เดอะเดลี่พังค์ทิลิโอ ตามด้วยการตีพิมพ์บทความที่มีอนาคตดีหลายชิ้นเกี่ยวกับความคิดที่ว่าวัตถุ สัตว์ และพระเจ้ามีรูปร่างลักษณะและอารมณ์ความรู้สึกเช่นเดียวกับมนุษย์ ซึ่งในที่นี้หมายถึง “ รายงานที่ยาวมากๆ ” ช่วงเวลาแห่งความพึงพอใจในความเป็นมืออาชีพและข้อสงสัยถึงความรักที่ไม่ได้รับการตอบสนองจบลงเมื่อมีข่าวว่าเขาเกี่ยวข้องกับ ว.ฟ.ด. ซึ่งหนังสือพิมพ์ได้ลงข่าวอื้อฉาวตามมา

          มิสเตอร์สนิกเก็ตกลายเป็นผู้ลี้ภัยตามคำสั่งศาล และแทบจะไม่ปรากฏตัวให้เห็นในที่สาธารณะ เขาหวาดกลัวและท้อแท้ที่ไม่มีภรรยาและลูก เขามีแต่ศัตรู เพื่อนร่วมงาน และคนรับใช้ชายผู้ภักดีเป็นครั้งคราว ภาพของเขามักถ่ายให้เห็นเพียงด้านหลัง มีการ “ ตามล่า ” ตัวหลายครั้ง และเนื่องจากการเรียงพิมพ์ผิดจึงมักกลายเป็นการ “ ตามฆ่า ”

          สนิกเก็ตจึงต้องหลบๆซ่อนๆไปพร้อมกับการอุทิศตนและความสามารถอันเฉียบล้ำร่อนเร่ติดตามเรื่องราวชีวิตอันแสนเศร้าของเด็กๆโบดแลร์ ไปทั่ว ซึ่งด้วยเหตุนี้หรือเปล่าไม่ทราบได้ทำให้มีผู้สันนิษฐานว่า เลโมนี สนิกเก็ต “ ตายโดยสันนิษฐาน ” แต่ข้อสันนิษฐานโดยสันนิษฐานนี้ไม่ได้ถูกพิสูจน์หักล้างว่าไม่ผิด (และเจ้าตัว “ คุณสนิกเก็ต ” ที่กำลังอาศัยมือผมเขียนอัฐิชีวประวัตินี้สันนิษฐานว่า การตายโดยสันนิษฐาน น่าจะเป็นข้อสันนิษฐาน ที่นำการสันนิษฐานมาหักล้างได้)

          เนื่องจากคงไม่มีใครรู้ว่าเขาตายเมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไร และทำไมเขาถึงตาย (สนิกเก็ตก็ไม่ยอมบอกผมเหมือนกัน เขาไม่อยากให้ผมโชคร้ายไปมากกว่านี้) ดังนั้นจะไม่มีงานศพให้เขา (เขาบอกว่า ดีใจที่จะไม่มีใครต้องเศร้าใจที่เขาจากไป) การฝังศพอาจจะมีขึ้นในภายหลัง (เขาบอกว่าเศร้าใจที่มีคนดีใจที่มีโอกาสได้ไปงานศพเขา และเตือนว่า ทุกคนที่รู้ข่าวกรุณาอย่าไปร่วมงานฝังศพ “ ได้โปรดเถอะ ” )

          แม้จะ “ ตายโดยสันนิษฐาน ” ไปแล้ว แต่สนิกเก็ตยังยืนยันว่าจะติดตามชีวิตพลิกพลันอันน่าสลดของเด็กๆโบดแลร์ต่อไป ทุกท่านสามารถติดตามเล่มล่าสุดได้ในชื่อตอน... (สนิกเก็ตอนุญาตให้บอกได้ แต่ย้ำว่าถ้าคุณยังอยากมีความสุขก็กรุณาอย่าอ่านเลย เพราะมันเศร้า เศร้ามากๆ ถึงตอนนี้เขาก็ร้องไห้โฮออกมา)

          เขาฝากบอกหญิงคนรักที่ชื่อ เบียทริช ว่าถ้าได้อ่านอัฐิชีวประวัติฉบับนี้ (ถ้าบนสวรรค์มีอินเตอร์เนตให้เล่น) กรุณารับรู้ว่าเขายังรักเธออย่างโศกเศร้า และไม่เคยลืมสองร้อยหน้าที่เธอใช้บรรยายเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ยอมแต่งงานกับหนุ่มผู้โชคร้ายอย่างเขา (ซึ่งสนิกเก็ตบอกว่าเธอโชคดีแล้ว)

          สำนักพิมพ์ต้องขออภัยที่ลืมบอกไปว่าบัดนี้เจ้าหน้าที่คนที่ไปพบจดหมายเกิดติดโรคโชคร้ายที่แนบมาด้วย และโรคนี้กำลังแพร่ไปทั่วสำนักพิมพ์อย่างรวดเร็วกว่าโรคเวียนหัวตัวอักษรเสียอีก เพราะฉะนั้นทุกท่านกรุณาหยุดอ่านอัฐิชีวประวัติชิ้นนี้นับแต่บรรทัดนี้เป็นต้นไป และกรุณาอย่าแนะนำให้เพื่อน คนรัก หรือคนรู้จักผู้ใดอ่านเป็นอันขาด

          ขอโชคร้ายและความทุกข์จงอย่าได้ไปเยือนทุกๆท่าน

          กรุณาอย่า (ห้าม) เผยแพร่ต่อ ? 



    เบร็ตต์ เฮลควิสต์ ผู้แปลการค้นพบอันแปลกประหลาดของสนิกเก็ตให้กลายเป็นภาพวาด

                    เบร็ตต์ เฮลควิสต์ เกิดที่เมืองกานาโด มลรัฐแอริโซนา เติบโตที่เมืองโอเร็ม มลรัฐยูทาห์ เขาร่ำเรียนอย่างหนักจากมหาวิทยาลัยบริกแฮม ยัง เพื่อจะเป็นนักวาดภาพประกอบ แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่จะนึกสงสัยว่าเขาอาจจะเคยทำอย่างอื่นที่ปลอดภัยกว่าหรือเปล่า อย่างเช่น เป็นโจรสลัด แต่ทั้งๆที่เสี่ยงอันตราย เขาก็ยังยอมทำงานแปลการค้นพบอันแปลกประหลาดของเลโมนี สนิกเก็ต โดยใช้ดินสอหัก สีหม่นทึม และกระดาษทิชชูกล่องแล้วกล่องเล่า เพื่อวาดให้เห็นโศกนาฏกรรมในชีวิตของเด็กๆโบดแลร์ต่อไป

              ในยามที่ว่างเว้นจากภารกิจแสนอันตราย บีบคั้น และตรอมตรมนั้น เฮลควิสต์ใช้กระดาษชั้นดี สีสดใส และจิตใจอันเพริศพริ้งถ่ายทอดภาพแสนงดงามให้นิตยสาร Cricket และ The New York Times นอกจากนี้ยังได้เพลินฝันสร้างผลงานภาพปกและภาพประกอบในหนังสือแสนสุข โชคดี แฮปปี้เอ็นดิ้ง อย่างเช่น Chasing Vermeer, Capt. Hook, และ Son of A Witch เป็นต้น

                    นอกจากนี้ในยามที่อารมณ์สุนทรีย์ (ที่คงเหลือน้อยเต็มที่) เขายังมีเวลานั่งกลั่นความสุขปั่นหนังสือของตัวเองชื่อ Roger, the Jolly Pirate

                    แต่คาดว่าเวลาแสนสุขของเฮลควิสต์คงกำลังหมดลงในไม่ช้า (ก็เร็ว) เพราะผู้ใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเด็กๆโบดแลร์ และเลโมนี สนิกเก็ต มักต้องพบจุดจบที่โชคไม่ดี เจอกับอันตรายที่มาซึ่งๆหน้า หรือแอบแฝงมากับของแสนสวย ไม่แน่ว่าขณะที่ประวัติปลอดภัยของนักวาดผู้มีชีวิตปกติดี (แม้จะเศร้านิดหน่อย) กำลังถูกถ่ายทอดออกมานี้ อาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีส่งทิชชูอาบยาพิษของชนเผ่าโบราณในแอฟริกาไปให้เขา หรือดินสอแท่งใหม่ที่ขีดแล้วเกิดประกายแปลบปลาบแสบตา จนทำให้เฮลควิสต์ไม่อาจทำหน้าที่แปลการค้นพบอันแปลกประหลาดของเลโมนี สนิกเก็ต เพื่อวาดให้เห็นชีวิตรันทดของเด็กๆโบดแลร์ได้อีก

    แย่แล้ว คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครจะอยู่เบื้องหลังแผนการนี้ มีคนเดียวที่จะได้ประโยชน์ถ้าภาพไม่ถูกเผยแพร่ออกไป!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×