ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [exo] 'NICE BODY' || CHANBAEK #แบคฮยอนอ้วน

    ลำดับตอนที่ #9 : NICE BODY : 08

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.68K
      52
      6 เม.ย. 58

    8

    Have a Good day

     

     

     




     






     














     

     

    คำว่าชอบของมึงกูขอได้มั้ย

     

     

    ฉ่าาาาาาาาาา

     

    ผมจะบ้าตาย

     

     

    “ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก” น่าอาย น่าอายจริงๆ ถึงแม้ว่าจะหลบหน้าชานยอลมาสองวันติดๆแล้ว แต่ผมก็ยังเขินประโยคนั้นของเขาไม่หาย โอ้ย! ผมไม่ได้เป็นเกย์สักหน่อย ทำไมจะต้องไปรู้สึกดีใจกับคำพูดประหลาดๆ แนวชายรักชายแบบนั้นด้วยว่ะ!

     

     

    สิ่งที่ต้องคิดตอนนี้นั่นก็คือ โชยู สิ!

     

     

    วันนี้เป็นวันที่ผมจะต้องไปดูหนังกับโชยูแล้ว ผมควรจะตื่นเต้นกับเรื่องนี้กว่าสิ่งอื่นใด เพราะจะเรียกว่าวันนี้เป็นเดทแรกของเราทั้งสองคนก็ยังได้ บ่ายสองโมงนี้ผมแพลนเอาไว้ทั้งหมดแล้วว่าหลังจากที่เรากินป๊อบคอร์นกับโคล่าแก้วใหญ่แล้วเราจะทำอะไรกันต่อดี ผมกะว่าจะพาเธอไปเล่นเกมที่เกมเซ็นเตอร์ อาจจะเป็นเกมแนวต่อสูที่เธอถนัด และต่อด้วยการจับตุ๊กตาในตู้แบบที่ผมชอบ ต่อจากนั้นเราก็จะไปกินเนื้อย่างกันต่อ

     

     

    เนื้อย่างสามชิ้นแบบที่เราชอบ...

     

     

     

    ถ้าหิวก็กินไม่ต้องห้ามใจหรอก

     

     

    “ว้ากกกกกกกกกกกก”

     

     

    ทำไมต้องคิดถึงชานยอลตลอดเลยว่ะ!!!

     

     

    ผมสะบัดหัวไปมาเพื่อลบความคิดฟุ้งซ่านที่ลอยอยู่ในหัวของผม สิ่งที่ควรจะทำตอนนี้ก็คือเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว เอื้อมมือไปเปิดในตู้เสื้อผ้าของตัวเองออกมาดูก็ได้แต่ต้องถอนหายใจออกมายาวๆ เมื่อเห็นชุดที่แขวนอยู่บนราวโดยมีโพสอิสสีเขียวอ๋อยแปะติดอยู่บนนั้น โดยมีตัวหนังสือให้กำลังใจเขียนไว้ตัวใหญ่เบ้อเร่อ ‘Have a Good day’ แน่ล่ะ ผมอยากจะให้วันนี้เป็นวันที่ดีจริงๆ

     

     

    ก่อนหน้านี้ผมต้องเผชิญปัญหาอันใหญ่หลวงของตัวเองอีกเรื่องนอกจากน้ำหนักที่ขึ้นมาถึงสองกิโล นั่นก็คือเรื่องที่ผมไม่มีเสื้อผ้าดีๆที่สามารถใส่ไปเจอโซยูได้เลย...

     

     

    ชุดดีที่สุดในตู้เท่าที่จะหาได้ผมก็มีแค่เสื้อยืดสกรีนลายกราฟฟิกแล้วก็กางเกงยีนส์เท่านั้น และผมไม่อยากจะใส่เสื้อยืดไปเจอโซยูเลยจริงๆ

     

    อ่ะ...ลองคิดดูเล่นๆนะว่า ถ้า...ร่างอย่างผม หุ่นอย่างผมถ้าใส่เสื้อยืดสกรีนลายไปเจอหน้าสาวมันจะทุเรศลูกกะตามากแค่ไหน นี่ยังไม่นับไปถือเรื่องเสื้อที่แม่งฟิตยิ่งกว่าชุดประดาน้ำนั่นอีก โห่ ถ้าผมเป็นโซยูผมคงจะเสียเซลฟ์ไปหลายตลบอะเอาจริง

     

     

    ฟายเย่ออออออ

     

     

    เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของตัวเองออกไป ผมเลยขอวานแกมๆบังคับให้เซฮุนมาช่วยเลือกเสื้อที่เหมาะกับผม และเป็นแฟชั่นที่คนในเมืองเขาใส่กัน การที่ผมเลือกเซฮุนก็เพราะเห็นว่าเขาเซ้นต์ดี แค่ใส่ชุดนักเรียนกับเสื้อกันหนาวเขายังดูดีเลยคิดดูสิ! ดังนั้น ถ้าผมใส่มั่งก็คงจะไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพราะเซฮุนเองก็หล่อ เท่ห์ น้อยกว่าผมไปไม่เท่าไหร่

     

     

    ผมยื่นมือไปลูบเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้าประหนึ่งเหมือนได้ชุดแต่งงานมาไว้บ้านใหม่ๆ ใช้เวลาในการเปลี่ยนชุดไม่นานทุกอย่างก็เปลี่ยนให้ผมทั้งหล่อ ทั้งเท่ห์กว่าเดิมหลายสิบขุมนัก ผมมองเงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกด้วยความอิ่มเอิบใจ จะว่าผมดูดีกว่าเดิมก็ได้นะ เพราะผมเองก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน

     

     

    “จะเป็นไปได้มั้ย ถ้าหากเรา...มองข้ามความเป็นพี่น้องไป”

     

     

    อ่า... ให้ตาย นี่มันแบคฮยอนโอ้ปป้า!

     

     

    มองตัวเองแล้วก็อดที่จะยิ้มกว้างๆออกมาไม่ได้ เสื้อเชิ้ตสีดำภายใต้เสื้อแจ็คเก็ตหนังทำให้ผมดูอ้วนน้อยลง แถมผมยังใส่กางเกงยีนพอดีตัวแบบที่เซฮุนแนะนำมาด้วย และถ้าจะให้ดีก็ต้องเซ็ตผมไปข้างหลัง เซฮุนสอนผมมาแบบนี้ และผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำตามคำแนะนำของเขา สเปรย์เซ็ตผมกลิ่นที่เซฮุนหยิบมาให้และบอกว่าดีนี่แม่งโครตจะแมนเลย โครตจะซังนัมจา

     

     

    นี่ถ้าแม่มาเห็นผมตอนนี้รับรองเลยว่าแม่จะต้องตกใจวิ่งเข้ามาซบอกลูกชายคนนี้ด้วยความภูมิใจอย่างแน่นอน และผมจะบอกด้วยว่าที่ผมทำได้ถึงขนาดนี้ก็เพราะความรักของผมมันยิ่งใหญ่มากพอที่จะทำให้ผมกล้าเปลี่ยนแปลง...

     

     

    ถึงแม้ว่ามันจะเหนื่อยมากก็ตาม

     

     

    งั้นก็หาคนที่ต้องการแค่คำว่าชอบของมึงสิ

     

     

    บึ้ม~

     

     

    เห็นหน้าแดงๆของตัวเองในกระจกแล้วผมก็รีบปิดตู้อย่างแรงทันที ผมลูบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติ เพราะเวลาที่คิดถึงคำพูดของชานยอลเมื่อไหร่ ผมก็มีอันเครียดจนต้องเดินไปเปิดตู้เย็นหาอะไรมากินรองท้องทุกที ผมเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาพร้อมกับกัดขนมปังเคลือบน้ำตาลไปด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นระส่ำ

     

     

    ออกไปจากหัวของกูได้แล้ว ปาร์คชานยอล!!!

     

     

     

    ตึ้ง!

     

     

    โยดา :

    ถ้าหนีไปโรงเรียนก่อนมึงตายแน่

     

    โยดา :

    จะหลบหน้ากันให้ได้ใช่มั้ย คิดว่าพ้นก็ลองดู!!

     

    โยดา :

    ต้องให้พังห้องเข้าไปใช่มั้ย แบคฮยอน!

     

    โยดา :

    ย๊า!!!!!

     

    โยดา :  
                          

     

     

     

    แล้วไง ผมบอกเลยว่าไม่กลัวอยู่แล้ว คนอย่างปาร์คชานยอลจะทำอะไรได้ คำพูดแต่ละคำของเขามันก็เชื่อไม่ได้พอๆกับสายตากรุ้มกริ่มของเขานั่นแหละ การที่เขาแสดงออกถึงว่าเขานั้นสนใจผมและพยายามที่จะเข้าใกล้มันอาจจะเป็นแค่การหยอกเล่นก็ได้

     

     

    ชานยอลมีตัวเลือกมากมายแล้วทำไมคนๆนั้นถึงเป็นผม

     

     

    มันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด ถ้าหากว่าก่อนหน้านี้เขาไม่พูดประโยคนั้นออกมาความสัมพันธ์ของเราอาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่นี้ก็ได้ ส่วนผมที่คอยหลบหน้าชานยอลอยู่ตลอดเวลานั้นก็เพื่อป้องกันตัวเอง กำแพงที่ล้อมตัวของผมเอาไว้มันไม่ได้ทำมาจากเหล็กกล้า มันเป็นแค่กำแพงไม้ซีกพุๆที่ไม่ว่าใครอยากจะเข้ามา ก็สามารถเข้าได้อย่างง่ายดาย

     

     

    ดังนั้น นี่เป็นการป้องกันตัวของผมเอง เหมือนกับที่กิ้งก่าต้องเปลี่ยนสีให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เพราะหัวใจดวงนี้ของผม...คงทนไม่ไหวแน่หากถูกเขาเข้ามาปั่นป่วน

     

     

     

     

     

     

     

     

     



     

     

     

     


     

    Baekhyunee_ee :

               Read                   มาถึงแล้วนะ

     

    Baekhyunee_ee :

               Read                    ยังมาไม่ถึงหรอ

     

    Baekhyunee_ee :

    เฮ้ๆ ไม่ต้องรีบนะ พี่รอเราได้

     

    Baekhyunee_ee :

     

     

    ผมกดดูโทรศัพท์ของตัวเองอีกครั้งด้วยความกังวลใจ สลับกับมองดูนาฬิกาข้อมือของตัวเองเป็นระยะๆ ก่อนจะตัดสินใจโทรหาน้องโซยูอีกครั้ง ซึ่งก็เหมือนเดิม...

     

     

    เธอไม่รับสายผมเลย

     

     

    ผมมาถึงที่หน้าโรงหนังก่อนเวลานัดประมาณสิบห้านาที เพราะอยากจะมาก่อนโซยู อยากจะมาซื้อป๊อบคอร์นและโค้กไซต์จัมโบ้เพื่อเอาไปกินในโรงหนังด้วยกัน ผมซื้อถังที่เป็นรูปการ์ตูนเรื่องที่เราจะมาดูด้วยกัน ซึ่งตอนนี้ คนที่ผมตั้งใจจะกินด้วยกลับยังมาไม่ถึง

     

     

    ผมแทบจะเฉาตายคาหน้าโรงหนังอยู่แล้ว แถมยังนั่งโต๊ะสำหรับสองที่นั่งมาเกือบๆสองชั่วโมง มองดูคนนั้นคนนี้เดินสวนกันไปมาจนแทบจะเป็นบ้าตาย ป๊อบคอร์นและน้ำที่ซื้อมาก็ถูกผมกินจนแทบจะหมดอยู่แล้วตอนนี้ แต่เพราะเธอยังไม่มาผมเลยไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับชีวิตดี การที่โซยูทำแบบนี้มันให้ใจของผมสั่นไหวแปลกๆ ผมยอมให้เธอได้ถ้าหากว่าเหตุผลในการเบี้ยวนัดของเธอนั้นมันสมเหตุสมผล

     

     

    แต่ถึงอย่างนั้น ถึงเธอจะบอกว่าลืมนัด ผมก็จะโกหกเธอไปว่ามาสายเหมือนกัน

     

     

    ผมคาดหวังกับวันนี้ค่อนข้างเยอะ หวังว่าเราจะมีวันดีๆด้วยกัน หวังว่าเราอาจจะสานสัมพันธ์กันได้มากกว่านี้ แต่ทว่ายิ่งหวังมาก เวลาที่ผิดหวัง มันก็ย่อมเจ็บปวดมากเท่าที่หวังไว้ อย่างน้อยๆขอแค่มาอธิบายสั้นๆให้กับผมสักคำก็เพียงพอแล้ว ผมจะไม่อะไรมาก จะลืมๆมันไปให้ก็ได้เพื่อที่เราทั้งคู่จะได้ก้าวไปด้วยกันอีกครั้ง

     

     

    แต่นี่อะไร...ผมรอแล้วรอเล่าเธอก็ยังไม่มา

     

     

    “แบคฮยอน” เสียงทุ้มที่ติดจะแหบหน่อยๆเรียกผมเอาไว้ ซึ่งก็ทำผมผิดหวังอีกนั่นแหละเมื่อคนที่เรียกนั้นไม่ใช่โซยู ผมหันไปตามเสียงแต่เมื่อเห็นว่าเป็นใคร ผมก็รีบหันหนีไปทางอื่น และพยายามที่จะทำตัวให้กลมกลืนกับเก้าอี้มากที่สุด แม่ง! คนที่อยากจะเจอก็ดันไม่มา คนที่ไม่อยากเจอแม่งเสือกมา

     

     

    ชานยอลที่มันชานยอลจริงๆ!

     

     

    ปัง

     

     

    “แบคฮยอน!!!” ฝ่ามือใหญ่ของเขากระแทกเข้ากับโต๊ะตัวที่ผมนั่งพร้อมกับเสียงทุ้มที่ตะคอกใส่ผมดังลั่น ผมที่ทำเป็นเมินเหมือนไม่เห็นเขาจึงได้แต่หันมายิ้มเจือนๆอย่างไม่รู้ว่าควรจะทำหน้ายังไงดีในสถานการแบบนี้ดี ชานยอลขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะมองสำรวจร่างกายผมราวกับมีสิ่งผิดปกติ

     

     

    “ไฮ้~ มาด้วยหรอจะดูหนังใช่มั้ย งั้นก็ต้องรีบๆหน่อยนะเพราะโรงสองใกล้ตะ...”

     

     

    “กูไม่ได้จะมาดูหนัง” ชานยอลพูดแทรกผมทันควัน เขามองมาที่ผมอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมาเหมือนกับว่ามีเรื่องราวอะไรมากมายที่ต้องแบกรับเอาไว้

     

     

    “แล้ว.. มาทำไม”

     

     

    “โซยูไม่มาแล้ว ยัยนั่นฝากกูมาบอกมึงว่าอย่างที่บอกไปนั่นแหละ ...โซยูไม่มาแล้ว” น้ำเสียงทุ้มใหญ่ในประโยคหลังไม่อาจจะทะลุเข้ามายังโซนประสาทของผมได้ทั้งหมด เพราะคำพูดในประโยคแรกของเขา มันได้ดึงจังหวะการเต้นของหัวใจผมไปหมดแล้ว

     

     

    ชานยอลสูบเอาวิญญาณ เอาลมหายใจของผมไปหมด ผมเหมือนปลาที่ขาดอากาศหายใจ แต่ก็ไม่ได้ตายในคราเดียว เพราะผมยังคงลอยอยู่เหนือน้ำ ร่างกายไม่มีความเจ็บปวดใดๆ แต่ทว่าในความรู้สึกปวดหนึบนั้นกลับชอนไชเข้ามาจนอยากจะตายไปให้เสียพ้นๆ

     

     

    โซยูไม่มาหาผมแล้ว...

     

     

    “หรอ”

     

     

    “ความจริงกูพยายามโทรหามึงแล้วแต่มึงก็ไม่รับสาย ไลน์ไปก็ไม่คิดจะอ่าน แล้วนั่นมึงแต่งตัวอะไรของมึง ทำไมเหมือนไอ้เซฮุน”

     

     

    “กูไม่ได้แต่ตัวเหมือนเซฮุน!” ร่างกายของผมมันร้อนไปหมด เหมือนกับว่ามันไม่สามารถเก็บอารมณ์ เก็บความรู้สึกนึกคิดเอาไว้ได้อีกแล้ว ผมมองชานยอลอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่งดื้อๆ ทิ้งน้ำทิ้งป๊อบคอร์นที่ผมรีบมาซื้อเพื่อเรา ผมทำทุกอย่างก็เพื่อคำว่าเรา แต่ตอนนี้มันพังหมดแล้ว!!!

     

     

    “แล้วนั่นนายจะไปไหน”

     

     

    “ขอล่ะชานยอล ให้ฉันอยู่คนเดียวนะ” ผมบอกชานยอลก่อนจะดึงมือใหญ่ของชานยอลออกไปจากแขนของตัวเอง แล้วรีบเดินดุ่มๆไปที่ลิฟต์เพราะอยากจะหนีออกไปจากที่นี่เต็มทน อยากจะกลับไปที่ห้องแล้วลืมความผิดหวังที่ผมได้รับมาอย่างล้นหลาม

     

     

    “เดี๋ยว แบคฮยอน” ชานยอลยังคงตามเข้ามาถึงในลิฟต์ ตามติดผมเหมือนรีเทนเนอร์ ซึ่งเขาเป็นบุคคลอันดับต้นๆที่ผมไม่อยากเจอหน้ามากที่สุดในตอนนี้ ทำไมโซยูถึงเลือกบอกชานยอลแทนที่จะบอกผมกันทั้งๆที่ผมคือคนที่นัดเธอเอาไว้ ทำไมต้องฝากไอ้บ้านี่มาบอกผมด้วยล่ะ? เธอไม่คิดว่าผมจะเจ็บบ้างหรือไงที่เห็นว่าเธอยังติดต่อกับแฟนเก่าของเธออยู่น่ะ!

     

     

    “แบคฮยอน”

     

     

    “สะใจแล้วก็ไปสิ!!!

     

     

    “...”

     

     

    “ทำไม? ยังสมน้ำหน้ากันไม่พออีกหรอ แล้วแค่ไหนถึงจะพอใจ ต้องให้ฉันร้องไห้อยู่ตรงนี้ให้นายเห็นเลยมั้ยถึงจะพอใจ” ผมถลึงตามองชานยอลพร้อมกับคำพูดที่ลีบแห้งไปกับลำคอ เสียงของผมมันเหมือนกำลังกระจุกตัวกันอยู่ที่ลำคอของผม ยามที่กลืนน้ำลายลงไปความเจ็บปวดมันเสียบแทงใจผมทะลุจนพรุนไปหมด

     

     

    ผมมองนัยน์ตาสีน้ำตาลเวลเวทของชานยอลด้วยความอิจฉาที่วาวโรจน์ไปทั้งใจ ผมอยากจะรู้นัก ถ้าหากว่าผมเป็นแบบชานยอลได้สักครึ่งนึง โซยูจะมาตามนัดของผมมั้ยและอยากจะรู้จริงๆว่าความรู้สึกที่ผ่านมาของเรานั้นมันเป็นเรื่องที่ผมคิดไปเองคนเดียวรึเปล่า

     

     

    “กูไม่ได้อยากทำแบบนั้น”

     

     

    “แต่นายทำไปแล้ว ซึ่งก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยแล้วกันนะชานยอล ...นายทำมันสำเร็จ หัวใจกูมันแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆจนแทบจะร้องไห้ออกไปได้อยู่แล้ว”

     

     

    ถ้าชานยอลตั้งใจสิ่งที่ผมพูดดีๆเขาคงจะได้ยินความสั่นเครือที่ปนไปกันน้ำเสียงในประโยคเมื่อกี้ด้วย  ขอบตาทั้งสองข้างมันร้อนผ่าวแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังกลัวว่าคนอื่นเขาจะมองเห็นว่าผมมันน่าสมเพชมากกว่าที่จะน่าสงสาร หรือเป็นไอ้อ้วนน้ำตาแตก ที่คิดว่าผู้หญิงสวยๆนั้นหลงรักตัวเองเข้าให้แล้ว

     

     

    เมื่อลิฟท์เลื่อนตัวลงมาถึงชั้นล่างผมก็รีบผละตัวออกมาจากลิฟต์ พยายามกวาดสายตาที่พร่ามัวของตัวเองไปมาเพื่อหาทางกลับหอ แต่ทว่าตัวของผมก็ถูกแรงมหาศาลฉุดรั้งให้หันกลับไป สีหน้าตอนที่ชานยอลเห็นผมเขาดูเหมือนจะตกใจค่อนข้างมาก

     

     

    “ไม่ร้องดิมึง”

     

     

    มือใหญ่ของชานยอลเกลี่ยเข้ากับข้างแก้มของผมแผ่วเบา ยามนั้นเองที่ผมรู้สึกว่าเหมือนเกินไฟฟ้าสถิตระหว่าเราสองคน มันเจ็บแปลบแต่ทว่าก็เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ดวงตาของเขาหม่นแสงลงเมื่อยามที่สบตาเข้ากับผม ผมไม่รู้ว่าชานยอลนั้นคิดอะไรอยู่และผมก็ได้แต่หวังว่า เขาคงจะไม่หัวเราะเยาะผมในใจอย่างที่กลัวมาตลอด

     

     

    ในที่สุดชานยอลก็ดึงตัวผมไปกอดเอาไว้แน่น ธารน้ำอุ่นร้อนที่ปริ่มในดวงตาก็กลิ้งตกลงมาอย่างไม่ทีทางหยุดยั้งได้ ผมโอบรัดช่วงเอวของชานยอลเอาไว้มั่นอย่างกลัวว่าเขาจะหายไปไหนไกล กลิ่นสัมผัสของชานยอลมันหอมหวานราวกับพระอาทิตย์แช่แข็ง แต่มันคงจะอยู่ได้ไม่นานเพราะน้ำแข็งคงต้องละลายไปเสียก่อน

     

     

    ภาพสะท้อนจากโลหะวาวใส เป็นไอ้อ้วนที่กำลังยืนกอดใครบางเอาไว้แน่น ในสายตาผมแล้ว เขาไม่มีดีอะไรเลย หน้าตาจืดชืดแถมยังพยายามแต่งตัวเหมือนคนอื่นทั้งๆที่รูปร่างของตัวเองก็ไม่ได้เข้ากับเสื้อผ้าแบบนี้สักเท่าไหร่

     

     

    และไอ้อ้วนคนนั้นคือผมเอง

     

     

    ผมที่ไม่มีอะไรดี ไม่มีอะไรให้ใครมารัก

     

     

    “นายอาจจะลืมไปแล้วว่าที่นี่คือสังคมไนซ์บอดี้”

     

     

    “...”

     

     

     

     

    “แค่คำว่าชอบคำเดียวมันไม่พอหรอกชานยอล”

     

     


     
     

     

     

     

     

     

     

     



     

    กระเทยท้อค

     

    หายไม่ไม่นานเล้ยยยย 5555555555

    กระเทยก็ต้องซอรี่ด้วยนะคะที่แบบ ไม่ได้มาบ่อยๆ แต่ว่ามาแต่ละทีนี่เต็มเม็ดเต็มหน่วยน่า

    ลงทีละร้อยเปอร์ไปเล้ยยย แบบนี้โอเคกว่าลงเป็นกระปิดกระปอยแม่นก่อ (แม่นนนนนน)

     

    ยังไงเทยก็ต้องขอขอบคุณผู้นับสนุนใจดีทุกๆท่านะคะที่คอยอ่านมาตลอด

    ทั้งเก่าใหม่ ทำติดชมที่ทำให้กระเทยตัวน้อยๆน่าฮักคนนี้มีกำลังใจ

    อาจจะรำคาญกันนิดนึงที่แบบ รีบทเก่าบ่อย แต่ว่าการแก้ทุกครั้งหมายถึงเอาได้พัฒนาขึ้น

    ยังไงก็อยู่เป็นกำลังให้กระเทยเยอะๆนะค้า

     


    สาหวัดดีเจ้า

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×