ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [exo] 'NICE BODY' || CHANBAEK #แบคฮยอนอ้วน

    ลำดับตอนที่ #14 : NICE BODY : 13

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.09K
      41
      6 เม.ย. 58

    13

    His Boyfriend




















     

     

    เมี้ยว~

     

     

    “ชานยอลอุ้มมันสิ เร็วๆเข้าอุ้ม!” ผมว่าพร้อมกับชี้นิ้วที่สั่นระริกไปทางเจ้าสัตว์หน้าขนที่กำลังเลียอุ้งเท้าหลังจากกินซูชิหน้าแซลมอนของผมหมดแล้ว ผมไม่รู้ว่ามันเข้ามาได้ไง หรือว่าของแถมจากร้านซูชิหน้าโรงเรียนรึเปล่า แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าผมไม่ค่อยชอบแมว และประเด็นที่สองก็คือแมวมันก็ไม่ชอบผมเหมือนกัน!

     

     

    “แต่มันน่ารักดีออก”

     

     

    “อีดอกสิไม่ว่า ดูมันกินซูชิที่ฉันซื้อมาจนหมดแล้วด้วยนะ มันเป็นแมวขี้ขโมยซึ่งฉันให้มันอยู่ในห้องนี้ไม่ได้!!!

     

     

    เหมี้ยว~

     

     

    “ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนั้นคิดว่าจะใจอ่อนรึไง” ผมว่าแล้วขยับตัวซ่อนหลังกว้างของชานยอลเอาไว้เป็นเกราะกำบัง ต่อให้เป็นลูกแมวสีขาวตาโตก็ตามผมก็ขอยืนยันอยู่ตรงนี้เลยว่าผมจะจับมันโยนออกจากห้องได้ ไม่สิ ต้องเป็นชานยอลที่เป็นคนจับมันโยนออกไป

     

     

    “น่าสงสารออกนะ กูว่า”

     

     

    “มันตอแหล มันจะตะลอมให้นายตายใจจนนายกลายเป็นทาสมันอย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นแหละนายถึงจะเห็นธาตุแท้ของมัน เจ้าหน้าขนนี่มันร้าย”

     

     

    “ตัดสินแมวแค่ภายนอกได้ไง ดูนี่นะ” ชานยอลว่าก่อนจะยื่นมือของตัวเองเข้าไปใกล้ๆกับเจ้าขนปุยนั้น ตอนนั้นแหละที่เจ้านั่นเริ่มแยกเขี้ยวและคงคิดว่านิ้วใหญ่ๆของชานยอลเป็นไส้กรอกไปแล้ว

     

     

    “โอ้ไม่นะ นายจะกลายเป็นอาหาร!” ผมรีบดึงชานยอลกับมาพร้อมๆกับกันกับ... “จะ เจ้าปุย”

     

     

    “น่ารักนะเนี้ย ฉลาดสุดๆ” ชานยอลชื่นชมปีศาจขนปุยที่พยายามเดินขึ้นมาตามแขนของตัวเองอย่างออกนอกหน้า ผมช็อคตัวแข็งที่เขตรัศมีป้องกันตัวถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย “มึงดูสิ มันขี้อ้อนด้วยล่ะ”

     

     

    “...”

     

     

    “แบคฮยอน”

     

     

    เมี้ยว~

     

     

    “อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ตาเรียวรีรีบปิดเข้าหากันสนิทก่อนที่จะกรีดร้องออกมายาวเหยียด ณ ตอนนี้จากชั้นห้าที่เขาอยู่คงจะได้ยินกันทั่วทั้งหอแล้ว มือใหญ่ของชานยอลรีบปิดปากผมก่อนที่คนทั้งหอจะพากันมาเผาห้อง ผมที่ควรจะสงบกลับคลั่งหนักยิ่งกว่าเก่าสามเท่าเมื่อเจ้าขนปุยทำท่าจะกระโจนตัวเข้ามาหาผม

     

     

    “นิ่งๆเข้าไว้ มันไม่ทำอะไรมึงหรอก”

     

     

    ตุบ!

     

     

    “กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

     

     

    เหี้ยไรล่ะไอ้จอมมารบู แม่งโดดยาวอย่างกับนักกีฬาทีมชาติ นี่ถ้าแข่งจริงคงจะได้เหรียญทองไปแล้วไอ้เหี้ยเอ้ย ตอนที่อุ้งเท้านุ่มนิ่มพยายามดันตัวเองขึ้นโดยถีบเข้าแก้มผมอย่างจัง ตอนนั้นเองที่ขนอ่อนพากันลุกขึ้นยืนอย่างพร้อมเพรียง ร่างกายของผมมันดิ้นไปโดยอัตโนมัติ ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากแฟนตัวสูงซึ่งไม่ได้เห็นความพยายามในการต่อสูครั้งนี้ของผมเลย!

     

     

    แผลบ

     

     

    “หยึ๋ย ชะ ชาน มันเลีย” สองเท้าย่ำกันพื้นไปมาโดยที่หน้ายังคงมีเข้าขนปุยเกาะอยู่ที่หน้า สาบานได้ว่าภาพที่ออกมามันคงตลกมากๆแน่ๆ แต่พอจะกลั้นใจจับเจ้าปุยนี่ออกจากหน้าก็ทำไม่ลงเพราะความกลัวมันฝังลึกอยู่ในใจ

     

     

    “มันกำลังอ้อนหรอก คงจะอยากได้เจ้านายใหม่”

     

     

    “ก็ไปหาคนอื่นซี่ ชาน งื้ออออ อะ เอามันออกไปนะ” ผมเอื้อมมือคว้าชายเสื้อคนตัวสูงเอาไว้พร้อมกับออกแรงกระตุกน้อยๆขอความเห็นใจจากยักษ์ตัวแดง ซึ่งเป็นตอนที่เจ้าปุยทำมิชชั่นในการปีนขึ้นมาบนหัวของผมสำเร็จพอดี

     

     

    “ร้องไห้เลยหรอ หืม?”

     

     

    “เปล่านะ!

     

     

    “โอ๋”

     

     

    ชานยอลแม่ง...

     

     

    จะด่านิสัยขี้แกล้งแฟนของไอ้ตัวโตแต่นี่ก็ทำไมลง เพราะสุดท้ายผมกลับบ่อน้ำตาแตกออกมาซ่ะอย่างนั้น จนชานยอลรีบกระวีกระวายดึงปีศาจตาใสออกไปจากหัวของผมแทบไม่ทัน หัวใจที่เต้นถี่รัวเพราะความกลัวก็ค่อยๆสงบขึ้นหลังจากที่เห็นว่าชานยอลวางเจ้านั่นไว้บนเคาน์เตอร์เหมือนเดิม

     

     

    “ก็บอกว่ากลัวไงไอ้บ้าเอ้ย!

     

     

    “ขอโทษ” จากที่หน้าง้ำงอนเขาเต็มประดาก็ต้องใจอ่อนลงเมื่อถูกเขาพูดจาอ่อนหวานใส่ นุ่มทุ้ม แถมยังดึงผมเข้าซุกกับอกกว้างที่อบอุ่นเสียยิ่งกว่าภูผาของเขา และต่อให้เขาทำให้ผมโกรธมากกว่านี้ร้อยเท่า พันเท่า เพียงแค่ชานยอลจูบแผ่วเบาบนริมฝีปากความโกรธของผมมันก็จะละลายหายไปพร้อมๆกับจูบที่แสนอ่อนโยน

     

     

    ผมเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ เพราะนับวันมันก็ยิ่งทำให้ผมเสียนิสัย ยอมให้เขากลั่นแกล้ง อ้อนขอกอดจากเขา บางทีก็แกล้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อที่เขาจะได้ใช้ลำตัวสูงใหญ่เข้ามาปกป้อง

     

     

    “ฮื่อ มึง แม่ง... ชอบแกล้ง”

     

     

    “เพราะชอบไงถึงได้แกล้ง”

     

     

    “อึก ปล่อย.. ปล่อยเลยนะ นิสัยแย่แบบนี้ไม่ต้องมากอดเลย อื้อออ!” ยิ่งผมดิ้นก็ชานยอลยิ่งกอดแน่น ยิ่งต่อสู้ผมก็มีแต่จะเสียเปรียบอยู่ท่าเดียว แค่ผมทุบกำปั้นเข้ากับอกกว้างหน่อยเดียวก็โดนหอมฟอดใหญ่จนหน้าร้อนฉ่าไปหมด

     

     

    “ปล่อยให้โง่”

     

     

    “มึง!!!

     

     

    “เดี๋ยวนี้หัดหยาบคายเหรอ”

     

     

    “ใครดีมาก็ดีตอบ ทำดีกับกูแล้วรึยังล่ะ” ว่าแล้วก็ยักคิ้วไปสองทีซึ่งผมไม่คิดว่ามันจะเป็นผลดีต่อตัวเองมากนักหรอก ทำไงได้ล่ะก็คนมันหมั่นไส้นิ

     

     

    “ต่อปากต่อคำ”

     

     

    “เปล่า”

     

     

    “บอกกูดีๆก็ได้ กูต่อปากให้มึงได้ยันเช้าเลยแบคฮยอน”

     

     

    “เหี้ยไรล่ะมึง แหมๆ คิดว่าที่พูดมาทั้งหมดนี่หล่อมากแมะชานยอล นี่จะบอกอะไรให้อย่างนะแบบวิถีคนแมนเลย ทำอย่างเนี้ยะ แม่งไม่หล่อหรอกว่ะ มันเหมือนไอ้โรคจิตแถวคยองกีมากๆ กูจะให้โอกาสใหม่นะ กลับไปที่ห้องแล้วฝึกมาใหม่”

     

     

    แต่ก็นั้นแหละ...ได้คิดเท่านั้นเพราะว่าผมไม่มีทางสู้คนตรงหน้านี้ได้อยู่แล้ว

     

     

    เมี้ยววววววว~

     

     

    (ภาพตัดไปที่แมวหน้าโง่ยืนไอ้อ้วนตุ้ยพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ นี่ถ้าพูดได้มันคงจะเอ่ยกับแบคฮยอนท่ามกลางความเงียบกริบว่า ...บายค่ะ ดีออก)

     

     

     

     

     



     




     














     

     

     

     

    ชีวิตหลังจากที่มีแบคฮยอนเข้ามามันเปลี่ยนไปมาก

     

     

    จากที่มักจะออกไปทานข้าวข้างนอก ทำอะไรคนเดียวแบบชายโสด มันก็เปลี่ยนไปหมด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในที่นี้หมายถึงว่าเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นนะในความคิดของผู้ชายเหี้ยๆแบบชานยอล

     

     

    เขาเป็นคนที่มีหน้าตาสมบูรณ์พร้อมแม้ขาจะโก่งก็ตาม นอกจากนั้นหุ่นยังล้ำบึ้กสมกับที่คอยแบกลังแอปเปิ้ลให้แม่ตั้งแต่เด็ก อีกทั้งลำตัวสูงยาวที่ได้มาจากพ่อซึ่งเป็นคนเซจูโดยตรง ผิวที่ออกไปทางแทนๆก็ยิ่งขับให้ใบหน้าของเขาคมเข้มอีกเป็นเท่าตัว

     

     

    โถ่ นี่มันโครตจะเพอร์เฟ็ค

     

     

    ด้วยความรวยของลูกเจ้าของไร่และบทละครจอแก้วที่ติดหนึบกันทั้งประเทศแล้ว ต่อให้ชายคนนี้โฉด เถื่อน สถุล ถ่อย ไม่เว้นแม้แต่เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ หรือผู้สูงอายุก็ตาม สาวเล็กสาวใหญ่ก็พร้อมที่จะมองข้ามข้อเสียเหล่านั้นของปาร์คชานยอลให้ได้

     

     

    “อ้วนเอ้ย”

     

     

    ริมฝีปากอวบบ่นอุบอิบขณะเดินไปหาร่างอวบอ้วนของแฟนตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อสภาพตอนนอนนั้นแม่งดูไม่ได้สุดๆ นอกจากจะอ้าขากว้างน้ำลายย้อยแล้ว แบคฮยอนยังครางเสียงหงุงหงิงเหมือนหมาอีกด้วย

     

     

    ก็เข้าใจนะว่าแบคฮยอนก็แค่ผู้ชายคนนึงที่ไม่จำเป็นต้องห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองมากก็ได้ แต่ประเด็นคือชานยอลเสือกมองว่ามันน่ารักไง น่ารักขึ้นทุกวันๆโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ร่างสูงถอนหายใจอีกครั้งแล้วก้มไปหยิบผ้าห่มที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาสะบัดๆก่อนจะห่มให้กับไอ้อ้วนของเขาตามเดิม

     

     

    “เยนยี่ ฮื่อ เยนยี่ งั่มๆ หมีเยนยี่”

     

     

    “เยนยี่เหี้ยไรล่ะ นี่นิ้วกู” พูดจบก็รีบดึงนิ้วชี้ของตัวเองออกจากปากแฟนตัวอ้วนทันที ถ้าขืนทิ้งเอาไว้นานมากกว่านี้มีหวังโดนเขี้ยวเล็กๆนี่ฉีกแดกแล้วแน่ๆ ถึงแม้ภาพเลียน้ำลายแจ้บๆของไอ้นุ่มนิ่มจะไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่แต่ชานยอลก็ยังยื่นหน้าเข้าไปฉกหอมเข้าที่แก้มตุ่ยฟอดใหญ่เพราะรู้สึกว่ามันช่างน่ารักเหลือเกิน

     

     

    เมี้ยว~

     

     

    “ไม่ได้ๆ กูหอมให้แค่แบคฮยอนคนเดียว”

     

     

    นิ้วชี้หนาส่ายไปมาเป็นเชิงปฏิเสธเจ้าตัวเล็กขนปุยที่พยายามอ้อนขอให้เขาหอมสักครั้งผ่านดวงตาที่วาววับไปด้วยน้ำใสๆ เพราะเป็นแมวที่แสนรู้ด้วยละมั้งเลยทำให้ชานยอลไม่กล้าไล่ออกไปจากห้อง ต้องทำข้อตกลงกับคนตัวอ้วนที่กลัวแมวสุดชีวิตอยู่นานก่อนจะได้ข้อสรุปที่ว่า ให้แมวนอนอยู่ห้องแบคฮยอน ส่วนแบคฮยอนมานอนกับชานยอล

     

     

    นั่นแหละ..ฟังๆดูแล้วชานยอลมีแต่ได้กับได้

     

     

    เหมี้ยวววว~

     

     

    “ไป ข้าวมึงอยู่ตรงนู้น เดี๋ยวแบคฮยอนตื่นมาเจอมึงแล้วมันจะตกใจ” ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะหลับไปเพราะร้องที่โดนเลียจนเหนื่อยก็ตามเถอะ

     

     

    เดี๋ยวนะ

     

     

    “นี่กูคุยกับแมว?”

     

     

    ชานยอลรู้สึกว่าตัวเองแม่งบ้ามากขึ้นทุกวัน

     

     

    ใบหน้าของคนเมื่อยามหลับจุดประกายเสียงหัวเราะทุ้มในลำคอให้กับชานยอล มือหนาเสยผมด้านหน้าขึ้นไปก่อนจะหัวเราะออกมาอีกครั้งเพราะไม่ว่ายังไงก็รู้สึกว่าตัวเองบ้าขึ้นอยู่ดี แล้วสุดท้ายก็จบด้วยการยื่นหน้าไปขโมยหอมแก้มจากแฟนนุ่มนิ่มอีกที

     

     

    นี่มันเกย์มากๆ

     

     

    เกย์ตัวเบอเร่อที่แบคฮยอนชอบพูดบ่อยๆ ชานยอลว่าไม่รู้ว่ามันเริ่มขึ้นมาได้ยังไง ยิ่งเป็นแบคฮยอนก็ยิ่งแล้วใหญ่รายนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองนั้นต้องเป็นฝ่ายรับ เพราะนึกเอาเองมาโดยตลอดว่าตัวเองแมน และชอบผู้หญิงนมบึ้มๆแบบโซยู ชานยอลที่เคยคบแต่กับผู้หญิงสวย หมวย เอ็กส์ ก็เอาแต่ถามกับตัวเองทุกวันว่า กูเป็นเกย์ใช่มั้ยอยากกอดอยากฟัดแบคฮยอนทุกวันนี่ เกย์ป่ะวะ

     

     

    ซึ่งก็จบด้วยประโยค ช่างแม่งทุกครั้งไป

     

     

    Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     

     

    “งื้อออออ” ร่างอวบอ้วนที่นอนอืดบนโซฟาหนานุ่มพลิกตัวไปมาพร้อมกับนิ้วมือที่พยายามควานหาอะไรสักอย่างซึ่งชานยอลคิดว่าน่าจะเป็นโทรศัพท์เครื่องเงินที่กำลังแผดเสียงดังลั่น เขาหยิบมันยื่นให้กับเจ้าของก่อนเจ้าตัวรับสายด้วยน้ำเสียงอู้อี้

     

     

    คาดว่าคงจะเป็นแม่แน่ๆหลังจากเห็นสีหน้ายิ้มแย้มหลังตื่นนอน และเสียงนุ่มหวานจากปลายสาย

     

     

    “คิดถึงตัวเองที่สุดเลยยยย”

     

     

    (เดือนนี้พอใช้รึเปล่า ใกล้สิ้นเดือนแล้วนี่) ดวงตารีเหลือบมองผมนิดหน่อยก่อนจะส่ายหัวไปมากับโทรศัพท์ ชานยอลก็คิดนะว่าทำแบบนี้แล้วคนปลายสายจะเห็นรึเปล่า แต่มันกลับทำให้เขามองเห็นว่ามันน่ารักมากจริงๆ

     

     

     

    “ที่จริงเราลดความอ้วนแหละ ตอนนี้หยุดอยู่ที่ร้อยสามกว่าๆ มันก็โอเคนะเสื้อนักเรียนใส่ได้ง่ายขึ้นเยอะเลยตัวเองจะได้ไม่ต้องเปลืองตังตัดชุดให้เค้าอีก”

     

     

    (โกหกเป็นบาปนะแบคฮยอน) แบคฮยอนส่ายหัวอีกครั้งเพื่อเป็นการบอกว่าไม่ได้โกหก ที่ปลายสายไม่มีทางจะได้เห็นท่าทางน่ารักๆนี้แน่นอน ยกเว้นคนที่ยังนั่งอยู่ตรงนี้อย่างชานยอล ที่หมั่นเขี้ยวจนอดที่จะหยิกแก้มอีกคนไปทีนึง

     

     

    “งื้อออออ นี่แก้มคนนะโว้ย”

     

     

    “ก็เห็นๆกันอยู่ว่าอ่อยกู”

     

     

    “ฮึ้ย~” เมื่อเถียงไม่ได้ก็พลิกตัวตะแคงเข้าหาพนักพิงโซฟา คุยกับแม่อู้อี้อยู่คนเดียว ชานยอลมองนาฬิกาก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำรอเจ้าอ้วนที่ชอบทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ให้ได้ทุกทีเวลาที่แม่ถามสารทุกข์สุขดิบ แต่ครั้นจะร้องไห้ออกมาก็ไม่ใช่แบคฮยอนสิ ต่อให้ตาแดงยังไงเสียงเหมือนคนเป็นหวัดมากแค่ไหนก็จะไม่ยอมรับเด็ดขาดว่าร้องไห้

     

     

    คิดว่าตัวเองแมนทุกยี่สิบสี่ชั่วโมง

     

     

    นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ชานยอลมักสงสัยว่าแบคฮยอนเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน ทำไมถึงได้คิดว่าตัวเองหน้าตาเหมือนท็อปบิ้กแบงบวกกับอีกซึงกิ แล้วเท่ห์แบบแอล ทั้งๆที่หน้าแบบแบคฮยอนนี่มันโครตจะออริจินอลเกาหลีเลย แต่ก็นั่นแหละปล่อยให้เจ้าตัวคิดไป ความไม่มีอะไรเลยของแบคฮยอนมันคือเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ชานยอลเผลอตกหลุมรัก

     

     

    “อ้วน” ร่างสูงก้าวออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวพังรอบเอวที่หมิ่นเหม่จะตกแหล่ไม่ตกแหล่ มองไปที่ก้อนกลมๆใต้ผ้าห่มที่ไม่แม้แต่จะขานรับ

     

     

    “....”                                                                

     

     

    “นี่อย่าบอกนะว่าหลับต่อ” ชานยอลขยี้ผมที่เปียกน้ำอยู่สองสามทีก่อนจะเดินมาเปิดผ้าห่มออก ปรากฏว่าคนตัวอ้วนไม่ได้หลับแต่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ มือหนาก็จัดการดึงโทรศัพท์เครื่องบางยึดเอาไว้ในมือแบบที่อีกคนไม่ทันได้ตั้งตัว

     

     

    “ย๊าห์ เสียงมารยาทนะไอ้บะ..บ้า //////” จากที่รีบเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาเพื่อหวังจะด่าคนขี้แกล้งก็ต้องพับโครงการเก็บไปเสียก่อนเหมือนเห็นร่างกายเปียกน้ำของอีกฝ่าย ร่างสูงกระตุกยิ้มที่มุมบางเมื่อเห็นว่าใบหน้าขาวเนียนนั้นเริ่มมีสีชมพูเกิดขึ้นระเรื่อย บวกความอยากแกล้งร่างสูงจึงโน้มตัวเข้าไปหาก่อนจะกระซิบข้างใบหูขาวแผ่วเบา

     

     

    “ไปอาบน้ำได้แล้ว”

     

     

    ฟอดดดดดดดดดดด~

     

     

    จมูกโด่งที่กดจูบลงมาที่หลังใบหูพร้อมกับสูดดมความหอมหวานเป็นของแถมกลับไปซึ่งทำเอาแบคฮยอนหน้าร้อนแดงขึ้นมาเป็นสองเท่าของที่เป็นอยู่ หัวใจทำงานหนักมาขึ้นทุกวันจนแบคฮยอนเกือบลืมไปแล้วว่าหัวใจที่เต้นเป็นปกตินั้นเป็นอย่างไร

     

     

    “อะ ไอ้บ้าเอ้ย!” ร่างอวบอ้วนรีบกระวีกระวายเปิดเอาผ้าขนหนูออกมาจากตู้เสื้อผ้าแล้ววิ่งแจ้นเข้าไปในห้องน้ำทันที ร่างสูงยิ้มมุมปากอย่างชอบใจที่สามารถปราบพยศของอีกคนได้อีกครั้ง ความหอมที่ฉกฉวยมานั้นยังคงติดตรึงอยู่ที่ปลายจมูก กลิ่นที่ไม่เหมือนใครของแบคฮยอนทำให้ชานยอลอยากจะสูดดมบ่อยๆ

     

     

    มือถือในมือเขายังคงสว่างอยู่และดูเหมือนว่าอีกคนกำลังอ่านกระทู้ในบอร์ดโรงเรียนเหมือนเคย ที่เข้าอ่านบ่อยๆก็เห็นจะมีแต่กระทู้ไร้สาระเรื่อง ผู้ชายแบบชานยอลสามารถหาได้จากที่ไหนถ้าไม่ใช่จากแบคฮยอนหรือ ไม่เข้าใจว่าแบคฮยอนมีอะไรดี ทำไมถึงเป็นคนที่ถูกเลือกคะ?’ ซึ่งเลื่อนๆดูผ่านตาแล้วก็มีแต่การคอมเม้นต์กล่าวร้ายคนรักตัวอ้วนทั้งนั้น

     

     

    แบคฮยอนเป็นคนมองโลกในแง่ดี มีความอดทนสูง ไม่ชอบทำร้ายผู้หญิง ซึ่งชานยอลมองว่านี่มันสุภาพบุรุษดีๆนี่เองเพราะขนาดเขายังทนความน่ารำคาญเหล่านั้นไม่ได้เลย แต่ข้อเสียก็คือชอบเก็บเรื่องเล็กเรื่องน้อยไปคิดมาก ทั้งๆที่ร่างสูงเองก็พยามบอกแล้วว่าให้สนแค่เขาก็พอ

     

     

    “อาบน้ำเสร็จแล้วไปที่ห้องฉันด้วยล่ะ”

     

     

    “ไปไหนก็ไปเลยไอ้โรคจิต!

     

     

    “ด่าแบบนี้ ...อ่อยกูอยู่หรอ?”

     

     

    “ห่า!

     

     

    เสียงแว้วๆในห้องน้ำจุดประกายรอยยิ้มของเขาได้เป็นอย่างดี ชานยอลกระชับผ้าขนหนูรอบเอวก่อนจะเดินออกมาจากห้องแฟน เอ่อ...ฟังไม่ผิดหรอกเดินโถ่งๆออกมาแบบนั้นจริงๆเพราะพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่มีชุดอยู่ในห้องแฟนเลยเลยต้องเข้ามาใส่ชุดให้เรียบร้อยก่อนที่ร่างอ้วนๆจะเลือดขึ้นหน้าอีก

     

     

    Rrrrrrrrrrrrrrrrrr

     

     

    นางฟ้าโซยูของโอ้ปป้า

     

     

    โถ่ถัง ชานยอลอยากจะบ้าตาย ไอ้อ้วนแบบแบคฮยอนเอาความมั่นใจมาจากไหนในการเมมชื่อโซยูแบบนี้ เดี๋ยวนะ..ทำไมไอ้อ้วนกับยัยจอมโหดนี่ยังติดต่อกันอยู่

     

     

    “ยัยชู้”

     

     

    (ห่ะ?)

     

     

    “จะๆคาตากูเลย แบคฮยอนมีลูกมีผัวแล้วยังหน้าด้านโทรมาอีก” ออกแนวหึงโหดไปซ่ะหน่อยจนปลายสายนิ่งเงียบไปเพราะเสียศูนย์ ที่โดนเสียงทุ้มเบสด่าอัดจนหน้าสาบไหม้ เดี๋ยวนะๆ คนที่เป็นแฟนเก่าควรคุยกันแบบนี้หรอวะ

     

     

    (ย่าห์!! ชู้บ้าอะไรฮ่ะ แบคฮยอนเป็นของฉัน)

     

     

    “เหี้ยไรล่ะ กูเอาของกูทุกวัน”

     

     

    (ตลกเถอะ ฉันจะฟ้องพี่แบคฮยอนแน่ ค่อยดูนะฉันจะบอกพี่แบคฮยอนว่านายหยาบคายใส่นางฟ้าของเขา แถมยังพูดจาลามกๆด้วย)

     

     

    “ถุ๋ย! นังมาร”

     

     

    (ไอ้เหี้ยยยย!)

     

     

    “แต้งจ้า บรั้ยยยยย” พูดจบก็รีบว่างสายไปก่อนจนรู้สึกว่านี่มันวิถีวินเนอร์ชัดๆ แลบลิ้นใส่จอโทรศัพท์เจ้ากรรมก่อนที่มือหนาจะจัดการดีลีตเบอร์โทรมารหัวใจทิ้งไปทั้งๆที่ไม่ได้ของอนุญาติเจ้าของเลยสักนิด

     

     

    “นั่นทำอะไรน่ะ” ร่างสูงของชานยอลสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นเงาหมูตัวอ้วยยืนจังก้าอยู่ลางๆที่ประตูหน้าห้อง ตัวอ้วนๆกลมๆที่อยู่ในชุดนอนลายมิกกี้เมาส์เดินเตาะแตะเข้ามาในห้องพร้อมกับใบหน้าที่มองมาอย่างไม่ไว้วางใจ

     

     

    “เอ๋อ ประกันน่ะ” พูดจบก่อนจะตีหน้ามึนยื่นโทรศัพท์คืนให้อีกคนที่ทำให้เหมือนไม่เชื่อใจ “แล้วได้ปูผ้าให้เจ้าปุยนอนรึยัง”

     

     

    “ไม่จับกดกับชักโครกก็ดีเท่าไหร่ละ” พอพูดถึงปีศาจตัวจ้อยในห้องเจ้าตัวก็ถึงกับเป้ปากด้วยความหมั่นไส้ทันที ชานยอลอมยิ้มที่ไม่ว่าจะพูดยังไงแบคฮยอนก็ไม่ยอมเชื่อสักทีว่าแมวมันไม่กัด อาจจะเพราะว่าโดนกัดตั้งแต่เด็กเลยฝังใจล่ะมั้ง

     

     

    “มึง” ชานยอลทักเมื่อเห็นร่างอวบอ้วนเดินดุกดิกๆเนียนไปเปิดตู้เย็น ทั้งๆที่เป็นฝ่ายบอกเขาเองว่าขอลดความอ้วน เดี๋ยวนะเปิดตู้เย็นค้างเอาไว้แล้วกินทั้งๆอย่างนั้นเนี่ยนะ ไม่บอกก็รู้เลยว่ากินยังไงให้อ้วนมาถึงร้อยโลได้ขนาดนี้

     

     

    “อะไร” แบคฮยอนตอบกลับมาอย่าไม่หยีระในขณะที่มือก็จ้วงตักโยเกิร์ตเข้าปากอย่างเอาเป็นเอาตาย โถ่ ต่อให้สิ้นเดือนตังในกระเป๋าแบคฮยอนก็ยังคงอยู่เพราะมันตังเขาไงล่ะ จะว่ารวยมั้ยก็ขอยืดอกตอบเลยว่ารวยมากและเต็มใจจะเลี้ยง แต่ก็เห็นเค้าลางๆแล้วว่าที่ลดความอ้วนไปจะสูญเปล่า

     

     

    “ไหนมึงบอกว่าจะลดความอ้วน?”

     

     

    “ก็นี่ไงลดความอ้วน” ไม่ได้การละ เห็นแผ่นหลังที่อุดดมไปด้วยไขมันของแฟนแล้วเหมือนมีภาพเยลลี่หมีสีเหลืองมาซ้อนทับอย่างไงอย่างนั้น สองขายาวรีบสาวเข้าเข้าหาแฟนอวบอ้วนก่อนจะฉกขอในมือเรียวยึดไว้เป็นของตัวเอง “งื้ออออ ชาน!!!!

     

     

    “ไม่ให้แดก กลับไปอ้วนอีกทำไง” ว่าก่อนจะดึงถุงมาร์เก็ตที่บรรจุขนมอยู่ในตู้เย็นออกมาด้วย คนตัวอ้วนที่ขยับตัวช้ากว่าจึงคว้าได้เพียงถุงทาโร่แบบบิ้กไซต์ไปกอดเท่านั้น

     

     

    “ฮื่อออ ไม่อ้วนเอาขนมคืนมานะ” แบคฮยอนตีขายาวๆที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของชานยอลดังเพี้ยะเพราะโดนขัดใจ นี่ถ้านั่งอยู่ใกล้ๆคงโดนตบไปแล้ว

     

     

    “ก็แดกไม่หยุดปากแล้วเมื่อไหร่จะผอมล่ะ”

     

     

    “ก็มันบอกว่าไขมันศูนย์เปอร์เซ็นต์”

     

     

    น้อง...เชื่ออย่างนั้นหรอครับ

     

     

    “เหี้ยไรล่ะ แมะ..”

     

     

    “อย่าเถียงนะ! ไม่เคยอ่านข้างๆขวดล่ะสิ นั่นไงๆตัวหนังสือแดงๆน่ะมันบอกว่าไขมันศูนย์เปอร์เซ็นต์ ทีนี้เอาคืนมาได้ยังรู้มั้ยว่าหิว” คำพูดของแฟนจอมเฮี้ยวทำเอาชานยอลอยากจะยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองดังเพี้ยะ ตั้งแต่เด็กจนโตนี่คิดแบบนี้มาตลอดเลยล่ะสิถึงได้อ้วนออกๆแบบนี้

     

     

    “แบคฮยอน” เขาค่อยๆย่อตัวลงมานั่งยองๆเพื่อที่จะได้คุยกับแฟนตัวอ้วนได้ง่ายขึ้น

     

     

    “...”

     

     

    หน้างอแบบนี้งอนชัวร์

     

     

    “ถึงมันจะบอกว่าไขมันศูนย์เปอร์เซ็นต์ แต่น้ำตาลกับแป้งมันไม่ได้ศูนย์ไปด้วย ขนมมันเป็นสารให้พลังงาน ซึ่งนั่นก็หมายความว่ายิ่งกินยิ่งอ้วน” ร่างสูงยิ้มอ่อนโยนเสียจนคนมองเผลอไผลไปกับดวงตาสีน้ำตาลเวลเวท ปล่อยให้ใจเคลิ้มไปกับเสียงทุ้มนุ่มข้างหู จนไม่รู้เลยว่าร่างกายได้หลอมละลายไปเพราะดวงอาทิตย์ชานยอลเสียแล้ว

     

     

    “ก็..หิวนี่นา”

     

     

    “ถ้าหิวนักเดี๋ยววันหยุดนี้กูพาไปที่ไร่ ไปเก็บส้ม เก็บแอปเปิ้ล กลับมากินที่หอดีมั้ย”

     

     

    “...”

     

     

    “เวลาหิวมึงก็กินตามใจมึงเลย”

     

     

    แบคฮยอนก็คิดนะ..

     

     

    ว่าเพราะมีแฟนแบบชานยอลรึเปล่า เขาถึงได้เอาแต่ใจตัวเองแบบนี้

     


     

     



     

















     

    กระเทยจ่ม

     

    แม่งโทษทีจริงๆ มาช้าเสือกกวนตีนด้วยสามสิบเปอร์อีกนะคะ

    ช่วงนี้ว่างนะแต่ทำตัวเหมือนไม่ว่าง คือพยายามจะคว้ามงมาให้ชาวไทยได้ชมแต่ก็พลาดไปจนได้

    คือกระเทยเสียใจจริงๆค่ะ ถ้ารู้ว่าผลจะเป็นแบบนี้ รู้งี้กระเทยแบกวัดพระแก้วไปสู้ดีกว่าค่ะ
    คงจะได้ชุดประจำชาติมาสวยๆแล้ว

     
     

    โถ่ะ อิตอแหล

     
     

    ที่จริงแม่งคิดถึงพี่ลู่มาสามวันติดละ ฉากจูบพี่คริสอีก ห่าราก เหมือนวันรวมความเศร้า

    นอนน้ำตาไหลอย่างไม่ทราบสาเหตุ บายค่ะอิกระเทยหน้าโง่

     



    งงๆตัวเองกับบทนี้เหมือนกันว่าจะมีแมวมาขั้นทำหอยอะไร
    ช่างมันละกันโน้ะ ถือซะว่าเฮฮาปาจิงโกะไป คือนี่ก็เขินไง
    แบบโดนชานยอลจีบตัลหลอยเลย เดียวหอม เดียวหยอด
    กระเทยบอกเลยว่าฟินตัวแทบขาด ฮอลลลลล





    ปล. ชอบน้องต่ายของเค้าล่ะซี่ หีหีหีหีหี
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×