ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Memorise 6 -100%-
....................................................................................................................................................................................
"วันนี้เขาจะมาอยู๋กับฉันทั้งวัน..."ยิ่งคิดยิ่งใจเต้นแรง ฉันกำลังคิดถึงเขาขณะที่กำลังเตรียมอาหารไว้ต้อนรับรับแขก
ที่จะมาถึง ซึ่งตอนนี้ก็ 8 โมงแล้ว เดี๋ยวเขาคงจะมาแล้วแหละ
กริ๊งงงงง.. นั่นไงพูดยังไม่ทันขาดคำเลย
ฉันออกไปเปิดประตูบ้านละ แต่แล้ว....
"เดินเข้าไปข้างใน"ชายรูปร่างท้วมถือปืนจี้อยู่ที่อกฉันพร้อมกับเพื่อนของเขาอีกคนที่รูปร่างพอๆกันแต่เตี้ยกว่าและ
ยังถือกล่องบางอย่างไว้ในมือ ทั้งสองใส่เสื้อเป็นบุรุษไปรษณีย์ส่งวัสดุ...
...อะไรกันฉันขอให้อากาอิมาอยู่เป็นเพื่อนแต่ทำไมเขาถึงมาไม่ทันล่ะ.. ฉันเริ่มใจเสีย
"บอกให้เดินเข้าไปยังไง!"ฉันไม่พูดอะไรและเดินนำพวกเขาเข้าไปในบ้าน
จากนั้นคนนึงก็นำเชือกที่อยู่ในกล่องกับเทปกาวมามัดและปิดปากฉันไว้ แล้วก็เดินสำรวจทรัพย์สินในบ้าน
"เมื่อไหร่นายจะมา อากาอิ"ฉันพูดในใจตอนนี้ในหัวคิดถึงแต่เขา ฉันมีความรู้สึกว่าคงเป็นเขาคนเดียวที่จะช่วยฉันได้ในเวลานี้
"ชิ! ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ใครบอกว่าบ้านนี้รวยกันวะ!!" ชายคนที่สูงกว่าสบถขึ้น
"แล้วเราจะทำไรต่อ"ชายอีกคนถาม
"ทำไงได้ล่ะ ก็เอาไปแต่ของที่พอขายได้อล้วก็ฆ่ายัยนี่ทิ้ง
"อะไรนะ ฉันพึ่งจะหมดเลยองค์กรไปเองนะ ฉันต้องตายเพราะไอโจรบ้าๆสองคนนี้หรอ!!.. อากาอิมาช่วยฉันหน่อย
สิ"ฉันพูดในใจ ตาเริ่มมีน้ำใสๆเอ่อคลอ..
กรี๊งงงง...
"รอบนี้ต้องเป็นเขาแน่ๆ"ฉันเริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้างแล้ว..
"ใครมาวะ เอ็งออกไปดูดิ๊"คนสูงกว่าเอ่ยบอก อีกคนจึงไปส่องที่ช่องตาแมว
"คนสูงหน้าเข็มๆว่ะ ดูเย็นชาๆ"เขาเอ่ยบอกเมื่อไปส่องดูมาแล้ว
นั่นไงเขาจริงๆด้วย
"แกรู้จักมันไหม"มันถาม
ฉันรีบส่ายหน้า... เรื่องอะไรจะบอกว่ารู้จักล่ะ
กรี๊งงๆๆๆ เข้ากดกริงรัวมากขึ้นเมื่อไม่มีใครไปเปิดประตูสักที
"เอาไงดีวะ."มันทั้งสองเริ่มหัวเสีย
...นายต้องช่วยฉันได้แน่ๆ เร็วหน่อยนะ อากาอิ...
“ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้น” ดีนะที่ฉันลืมโทรศัพท์ไว้บนห้อง ไม่งั้นมันคงรู้ว่าฉันโกหกแน่ๆ ถ้าเห็นอากาอิ
กำลังโทรศัพท์อยู่ผ่านช่องตาแมวพร้อมกับที่โทรศัพท์ของฉันดัง เพราะฉันคิดว่าเขาต้องโทรเข้าเครื่องฉันก่อนแน่ๆ
“เห้ยพี่ ผมว่าไอนี่เป็นคนโทรว่ะ คนตัวสูงหันมาถามฉันว่าไม่รู้จักแน่หรอ ฉันก็ตอบรับด้วยการพยักหน้า
“มันเดินออกไปแล้วว่ะพี่”อะไรนะ!!! เขาไปแล้ว แล้วฉันล่ะ ทำไงดีอะ ฉันเริ่มจะร้องไห้จริงๆแล้วนะ
“เออดี ทำงานต่อ”แล้วมันสองคนก็วุ่นอยู่กับการสำรวจบ้านพร้อมกับขนของพี่ค่าต่างๆนาๆภายในบ้าน
ทันใดนั้น ฉันก็เหลือบมองเห็นอากาอิจากห้องใต้ดิน อย่าลืมสิ นี่บ้านักประดิษฐ์นะ มันก็ต้องมีประตูทางเข้าออก
หลายๆทางหน่อย ฉันคิดว่าเขาคงสังเกตเห็นสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยของฉันแล้ว ถึงเขาจะค่อนข้างเก็บอารมณ์
เก่ง แต่ก็ดูออกว่าเขาเป็นกังวลอยู่บ้าง อดทนอีกนิดนะชิโฮะ ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเมื่อรู้ว่าเขาเข้ามาแล้ว
“แกขึ้นไปดูข้างบน”คนตัวสูงเอ่ยปากสั่ง อีกคนก็ทำตามคำสั่งแต่โดยดี
ตอนนี้โจรอีกคนขึ้นไปอยู่ชั้นสองแล้ว ก็เหลือมันแค่คนเดียว อากาอิอาศัยช่วงที่โจรกำลังหันหลังรีบกระโจน
เข้าไปประชิดตัว แล้วจัดการจี้สะกัดจุดบริเวณต้นคอจนโจรสลบไปอย่างง่ายดาย ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนฉันเอง
ยังมองแถบไม่ทัน จากนั้นเขาก็บอกฉันประมาณว่ารอแปบนึงนะ แล้วก็รีบขึ้นไปชั้นสอง ฉันเข้าใจนะว่าทำไมเขาถึง
ไม่มาแก้มัดฉันทันที เขาคงกลัวว่าโจรอีกคนจะลงมาก่อน
ใช้เวลาไม่นาน เขาก็แบกโจรอีกคนลงมาแล้วจับนอนลงข้างๆกับพวกของมัน ฉันคิดในใจว่าเขาแข็งแรงมากๆ
เลยนะ ก็โจรคนที่เข้าแบกลงมาน่ะ ตัวใหญ่มากเลยนิ จากนั้นเขาก็ตรงมาแก้มัดฉัน
แล้วจู่ๆร่างกายของฉันก็ร้อนผ่อน แกร่งไปทั่วร่างกาย เพราะว่า… เขารีบดึงฉันเข้าไปในอ้อมกอด ฉันได้ยิน
เสียงหัวใจเขาที่เต้นแรงราวกับมันจะระเบิดออกมา เขายกมือมาลูบหัวฉัน พลางบอกว่า
“ขอโทษนะที่มาช้า”เพียงแค่อ้อมกอดของเขาความกลัวของฉันก็มลายหายไปจนสิ้น ฉันไม่กอดตอบเขาแต่อย่างใด
ทำได้เพียงนั่งนิ่งๆให้เขากอด จนเมื่อเขารู้สึกเย็นลงจึงค่อยๆคลายตัวออกจากฉัน จากนั้นก็ไปมัดโจรสองคนไว้ด้วย
แล้วก็ผูกติดกับเสากันพวกมันตื่นมาแล้วจะรุกหนีไป แล้วเขาก็จัดการโทรแจ้งตำรวจ เพียงไม่นานตำรวจก็มาถึง
พร้อมกับนำตัวโจรสองคนขึ้นรถไป แล้วหันมาขอบคุณอากาอิ ส่วนฉันหรอนั่งสงบจิตสงบใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ที่
โซฟาด้านใน รู้สึกสับสนว่า ฉันควรจะตกใจเรื่องอะไรดีนะ ระหว่างโจรกับกอดของเขา....
"เป็นอะไรมั้ย"เขาถามโดยที่ไม่มองหน้าฉัน
"ไม่เป็นไร"ฉันก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบ เอาความจริงฉันยังตกใจอยู่ แต่จะไปบอกให้เขาเป็นกังวลทำไมล่ะ
"ก็ดี"คำตอบสั้นๆที่หลุดออกมาจากปากของเขา จากนั้นเราทั้งคู่ก็ไม่ได้คุยกันอีกทำ ทำให้บรรยากาศในห้องตกอยู่ใน
ความมเงียบอยู่ประมาณ10 นาทีได้
"กินอะไรมายัง"ฉันเป็นคนทำลายบรรยากาศมาคุนี้โดยการหันไปถามผู้ชายน่านิ่งขรึมที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการกดมือ
ถือของเขาที่โซฟาถัดจากตัวที่ฉันกำลังนั่งอยู่
"ยัง"สั้นๆแต่ได้ใจความ
"ไปหาไรกินมั้ย ฉันหิว"ฉันเอ่ยปากชวน เขาก็แค่พยักหน้าเป็นคำตอบประมาณว่าตกลง ฉันเดินไปหยิบกระเป๋าตังบน
ห้องจากนั้นเราท้งคู่ก็ออกจากบ้านไป
เราเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านซูชิเจ้าดัง โดยที่ฉันเป็นคนเดินนำมา ฉันอยากกินที่นี่มานานแล้วแต่ไม่มีโอกาศได้มา
//ไรท์ : พอเฮียมาด้วยนี่มีโอกาศได้มาเลยนะแม่คุ๊ณณณณณณ
"อยากกินหรอ"ฉันพยักหน้าแทนคำตอบ แล้วเราก็เดินเขาไปในร้าน ภายในร้านที่นั่งจัดไว้เป็นโต๊ะบรา มีสายพานอยู่
หน้าโต๊ะ บนสายพานมีซูจิหลากหลายหน้า แน่นอนว่าฉันเลือกนั่งที่ต้นสายพาน จะได้ไม่โดนคนก่อนหน้านั้นหยิบฉวย
เอา ของที่ฉันต้องการไปเสียก่อน ที่นี่เป็นบุฟเฟ่ต์ จำกัดเวลา 2 ชั่วโมง เมื่อพนักงานมาจัดแจงบอกเรื่องเวลาฉันก็
จัดการกินซูชิที่เคลื่อนที่มาตามสายพานโดยเลือกหน้าที่ฉันชอบที่สุดก่อน คนข้างๆฉันก็เริ่มกินแล้วเหมือนกัน ทำไม
ฉันรู้สึกว่าเรามาออกเดตกันอย่างนั้นล่ะ เราไม่พูดอะไรกันสักคำ จนร่วงเวลาผ่านมาได้ 30 นาที เขาก็หันมาหาฉัน
พร้อมพูดว่า...
"กินเยอะจัง"เดี๋ยวนี่คือประโยคของผู้ชายที่จะคุยกับผู้หญิงหรอ ไร้มารยาทสิ้นดี ฉันหันไปถลึงตาใส่เขาแต่ก็ไม่พูด
อะไร เหอะ คำพูดแบบนี้เหมือนโดนอะไรมาตบหน่้าเขาจังๆเลยล่ะ คนที่เป็นผู้หญิงด้วยกันก็คงเข้าใจนะว่าถ้ามี
ผู้ชายพูดอะไรแบบนี้ใส่ก็ต้องเสียศูนย์ไปเป็นธรรมดา ฉันเลยวางตะเกียบแล้วขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ความจริงคือฉันอาย
มากก เลยอยากออกมาให้พ้นหน้าเขาสักแปบนึงก็ยังดี
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ยัยนั่นไปเข้าห้องน้ำ ผมก็แค่อำเล่นนิดๆหน่อยๆ แต่ไม่คิดว่าจะทำตัวไม่ถูกถึงขณะต้องลุกหนีไปแบบนี้ คนอะไร
ขนาดเขินยังน่ารัก //ไรท์ : แปะหน้าไรท์ไว้ที่หน้าชิโฮะ เฮียชมเราค่ะเฮียชมเรา มโนนนนนนนนนน
ผมมองไปรอบๆร้าน คิดในใจไม่คิดเลยนะว่าจะได้มานั่งที่นี่กับยัยนั่นสองคน ถ้าคนอื่นมาเห็นคงจะแซวเรากันน่า
ดู ผมแอบยิ้มคนเดียวในใจ แต่มันก็เผลออกมาที่มุมปากเล็กน้อย ถึงเมื่อเช้าจะมีเรื่องวุ่นวายให้ผมใจเสียเอามากๆ แต่
ตอนนี้มันกลับได้บรรยากาศที่ดีขึ้นอีก ถึงแม้เราสองคนจะไม่ค่อยพูดอะไรกัน
.
.
.
.
.
.
.
..
.
.
.
ผ่านไป 10 นาที ฉันก็กลับมานั่งที่เดิม ฉันเห็นเขาแอบยิ้มนิดๆ นิดแบบนิดมากๆ ถ้าไม่สังเกตดีๆก็จะไม่มีทาง
เห็น // ไรท์ : แต่ชิโฮะของเราเห็น แอบมองเฮียอยู่ก็ไม่บอกก
ทันใดนั้นก้ได้ยินเสียงพนักงานบริการผู้หญิงคนนึงโดนลูกค้าอายุประมาณ 40 ลวนลามอยุู่ตรงที่นั่งเกือบใกล้กับ
ประตูทางออก เห็นแบบนั้นคิดว่าาไงล่ะ คนข้างฉันเป็น FBI นะ คิดว่าเขาจะยอมอยู่เฉยหรอ ฉันหันมาไปหาเขาแต่ก็
ไร้วี่แวว พอมองไปตรงนั้น... นั่นไงฉันว่าแล้ว พูดยังไม่ทันขาดคำ เขาเดินไปหยุดอยู่หน้าผู้ชายวัยกลางคนคนนั้น
แล้วผู้ประมาณว่าให้เลิกทำแบบนี้
"คุณครับ หยุดเถอะ"เขาพูดน้ำเสียงเรียบๆ นิ่งๆ แต่ฟังดูน่าขนลุกพิกล
"แกเป็นใคร มายุ่งไรด้วยวะ!!"ชายคนนั้นทำถ้าจะตรงมาต่อยเขา แต่อยู่ๆก็ต้องชะงักไป แล้วผู้จัดการร้านก็เดินออก
มาพูดคุยกันอยู่สักพัก ชายคนนั้นก็โดนไล่ออกจากร้านไป
"ขอบคุณนะคะ คุณอากาอิ"เอ๋? รู้จักกันหรอ
"ไม่เป็นไรครับ"ฉันเห็นหน้าพนักงานคนนัั้นดูเขินๆ เห็นแล้วหงุดหงิดยังไงไม่รู้ // ไรท์ : หึงอะดิ๊
"ขอบคุณที่ช่วยพนักงานของเรา ทางเราจะลดค่าอาหารของคุณสำหรับเหตุการณ์ภายในร้านที่ทำให้คุณต้องเดือด
ร้อน 40% นะครับ"อากาอิโค้งนิดๆ แทนคำกล่าวขอบคุณ จากนั้นเขาก้มานั่งประจำตำแหน่งที่เดิม
"ทำไมวันนี้มันถึงมีแต่เรื่องนะ"เขาบ่นอุบ ฉันเองยังคิดเหมือนเขาเลย พวกเราไม่ว่าจะเป็นคุโด้คุง ฮัตโตริ หรืออากาอิ
รวมทั้งฉันเองก็ด้วยเวลาไปไหนมักมีแต่เรื่องให้วุ่นวายอยู่เสมอๆ จนบางทีการเห็นเรื่องร้ายต่างๆกลายเป็นเรื่อง
ธรรมดาไปเสียแล้ว
"ผู้หญิงคนนั้น รู้จักกันหรอ"สักพักนึง ฉันก็ถามออกไปด้วยความสงสัย
"เขาอยู่แมนชั่นห้องติดกัน ชื่ออายาโนะ เคจิ"ฉันได้ยินดังนั้นก็ยิ่งหัวร้อนขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ฉันแอบเห็นสายตาจากผู้หญิงคนนั้น มองมาทางฉันด้วยสายตาแปลกๆ เหอะ ไม่ต้องเดาก็รู้ มองแบบนั้น คงคิด
ว่าฉันควงอยู่กับอากาอิน่ะสิ ขอโทษนะเธอคิดผิด....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เวลาเที่ยง เราเดินออกจากร้าน อายาโนะยังไม่ลืมที่จะส่งสายตาหวานเยิ้มมาทางอากาอิเห็นแล้วเลี่ยนเหลทอ
เกิน ฉันเองก็ไม่รู้ทำไม เมื่อเห็นอากาอิยิ้มตอบไปแบบนั้น หัวก็ร้อนเหมือนไฟจะไหม้ แต่หน้าฉันที่แสดงออกมาน่ะ
หรอ นิ่ง ไร้ความรู้สึกใดๆ เอาเถอะ เขาจะไปส่งยิ้มให้ใครที่ไหนมันก็เรื่องของเขา เพราะตัวฉันเองไม่คิดจะคิดอะไรกับ
เขาไปมากกว่านี้อีกแล้ว แต่ถึงอยากจะทำก็ทำไม่ลงหรอก...
เราเดินกลับมาถึงบ้าน ฉันก็รีบไปล้างหน้าล้างตา แล้วก็กลับมาอ่านนิยายเล่มเดิมที่ยังอ่านไม่จบอยู่ที่โวฟา
ตัวเดิม อากาอิก็นั่งอยู่โซฟาตัวเดิมเช่นกัน
"คืนนี้ขอข้างที่นี่นะ"ตามใจสิอยากทำไรก็ทำ
"ตามใจ"ฉันห้วนเสียงใส่
"เย็นนี้จำทำสตูเนื้อให้กิน"เขายังไม่เลิกชวนคุย
"อือ"
"หรืออยากกินอย่างอื่น"ยังไม่เงียบอีก
"ไม่"
"นี่เธอโกรธอะไรฉันหรือไง"จะไปโกรธเรื่องอะไร ไม่จำเป็น
"ป่าว" จากนั้นเขาก็เปลี่ยนมานั่งที่ข้างๆมาทำไม นั่งที่เดิมก็ดีอยู่แล้ว
"โกรธเรื่องที่ฉันดูสนิทกับอายาโนะซังหรอ"ทำไมมันดูจึกๆแปลกๆ
"ฉันจะไปโกรธนายเรื่องนั้นทำไม ไม่จำเป็น"ความจริงฉันคิดว่าก็เพราะเหตุผลนี้แหละ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงบังคับตัวเอ
ไม่ได้ ถ้าจะตั้งใจไม่ตคิดอะไรกับเขา ฉันก็อย่าไปโกรธอะไรด้วยเรื่องแบบนี้สิ
"ฉันไม่ได้คิดอะไร"ก็เรื่องของนาย แอบดีใจแปลกๆ
"นายจะคบ จะคุยอะไรกับใครมันไม่ใช่เรื่องของฉัน"ฉันบอกไปแบบสวนทางความรู้สึกมากๆ
"ฉันมีคนที่ฉันรักอยู่แล้ว"ใครกันนะ พี่สาวฉันงั้นหรอ
"พี่อาเคมิหรอ"เขาหันมาถามฉันด้วยสายตาที่ยากจะอ่านความรู้สึกได้ออก
"เคย"เคย งั้นตอนนี้นายก็รักคนอื่น ตาคนใจโลเล แต่อย่างว่านะ มันก็หลายปีแล้ว อายุเขาก็ไม่ใช่คุณตาคุณยายอะไร
ที่จะมีแฟนใหม่หลังจากที่แฟนตายไปแล้วไม่ได้ ฉันอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร แต่ก็ไม่ได้ถามออกไป ก็จะถาม
ทำไม มันไม่ใช่เรื่องของฉันเลยสักนิด...
- 100% -
.......................................................................................................................................................
จบไปอีกตอน รู้สึกหดหู่แปลกๆ ความจริงอยากเขียนให้สองคนนี้ตกลงปลงใจกันไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด555 แต่
มันคงเร็วไป เดี๋ยวจะไม่มีไรให้ค้นหา พระก็ซึน นางก้ซึน มันเลยออกมาอึนๆ แบบนี้ ชิโฮะก็เลิกปิดความรู้สึกได้แล้วใช่
มั้ย555 จะเป็นอย่างไรต่อไป ฝากติดตามด้วยนะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น