คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Part1:Rachter
Part 1:Ratchter
“แอบหลงรักเทออยู่ แต่เทอคงดูไม่ออก ซ่อนความรักไม่กล้าบอก กลัวเทอจะเปลี่ยนไป ห้ามใจยังไงไม่ไหวในเมื่อเทอน่ารักเกินกว่าใคร ปฏิเสธอย่างไร เมื่อรักเทอจนไม่อาจจะถอนตัว”
“บอสคะ...บอส”เสียงหวานนั่นทำให้ผมหลุดจากภวังค์ได้อย่างง่ายดาย
“หะ!เมอเชล มีอะไรรึป่าว?”ผมถามกลับ พลันรอยยิ้มไร้เดียงสาจากผู้พิทักษ์สายหมอกแห่งแฟมมิลี่ของผมก้ผุดพรายขึ้นมาเต็มใบหน้าหวานใสนั้น
“นั่งเหม่ออะไรอยู่อ่ะบอส...ฮิๆ ชั้นแค่อยากให้บอสไปฟังเพลงนี้ให้หน่อยค่ะ ตามมาเร็วๆนะ”
“อ่ะ...อืม”แน่นอนผมปฏิเสธเทอไม่ลงหรอก รอยยิ้มนั้นของเทอ ตรึงผมได้อยู่หมัดเสมอ
ผมให้เทอเดินไปซักพักแล้วจึงเดินตามทางที่ทอดไปถึงถึงห้องเปียโน จะว่าไปถ้าจะเรียกห้องนั้นว่าเปนห้องเมอเชลก้คงไม่ผิดหรอกเพราะเทออยู่ที่นั่นตลอดเวลาจะมีออกมาข้างนอกบ้างแต่ก้แค่แปปเดียวเท่านั้น เพราะเทอคือเมอเชลผู้พิทักษ์แหวนสายหมอกแห่งvolate’ fammilyของเราผู้มีรอยยิ้มอันอ่อนโยน บวกกับท่วงทำนองอันไพเราะและอ่อนหวานจากเปียโนสิ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอาวุธประจำกายคู่ใจของเทอ...เอ่อจะว่าไปแล้วเทอเปนสายหมอกที่แปลกๆอยู่นะเทอเปนสายหมอกที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอไม่ใช่ว่าเทอไม่ชอบการต่อสู้อย่าง”อากิ”ผู้พิทักษ์สายหมอกแห่ง”Silent screem”ผู้รักความสงบสุขและอิสระนั่น แต่เมอเชลก้มีลีลาการต่อสู้ที่สัมผัสได้ว่าเปนสายหมอกของแท้ จากท่วงทำนองที่เปนดั่งกลลวงให้ตกไปในหลุมพรางของเทออีกทั้งภาพมายาที่เกิดจากการได้ยินเสียงจากเปียโนของเทอ โอ...ดูร้ายกาจไม่หยอกใช่ไม๊ล่ะ??แต่เทอก้ไม่ใช่ผู้ใช้มายาขั้นรุนแรงแบบรุกร้ายแบบ”สเตลล่า”ผู้พิทักษ์สายหมอกแห่งGenesisผู้ใช้เข็มพิษเปนอาวุธคู่กับด้ายแห่งมายาที่มองไม่เหนแต่กรีดเนื้อลึกลงไป ถึงแม้จะรู้ตัวว่าสิ่งที่ลอบทำร้ายอยู่คืออะไรก้ไม่สามารถไขว่คว้าหาต้นตอได้ อีกทั้งพิษร้ายแรงที่เข็มนั้นมีฤทธิ์ในการครอบงำจิตใจคนได้เธอจึงสามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตต่างๆได้โดยง่ายดายและร้ายกาจ อีกทั้งความสามารถทางด้านการสะกดจิตคนนั้นผมไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเทอรุกหนักกับคู่ต่อสู้แล้วใช้วิธีแผลงๆนั้นขึ้นมาคนๆนั้นจะต้องทรมารมากมายแค่ไหนผู้หญิงอะไรสวยแต่ร้ายกาจชะมัด แถมยังร้ายเงียบเย็นชาอีกต่างหาก ให้ตายสิผมล่ะอยากจะรู้จุดอ่อนของเทอจริงๆ เอ...ดูเหมือนว่าผู้พิทักษ์สายหมอกของทั้งสามแฟมมิลี่ที่กล่าวมานั้นจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยนะนั่น เมอเชลของผมเธอใช้วิธีอ่อนโยนในการสยบคู่ต่อสู้ ใช้การเล่นปียโนกล่อมเกลาจิตใจให้เหนภาพลวงตาที่อยู่ภายในจิตใต้สำนึกที่แท้จริงของคนผู้นั้นทำให้ฝ่ายนั้นกลับใจ แน่นอนเมอเชลน่ะเลือกคู่ต่อสู้ที่มีแต่คนประเภทนั้นเท่านั้น ส่วนอากิสาวน้อยผู้รักสันโดษ รักความสงบไม่วุ่นวายและชอบใช้ชีวิตอย่างอิสระ เอ่อ...ตามแหล่งข่าวว่ามางั้นนะ เพราะตอนนี้ทางSSยังหาตัวเทอไม่พบเลย คาดว่าเทอคงต่อสู้ไม่เปนด้วยล่ะมั้งเพราะเด็กผู้หญิงที่ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวในโลกอันแสนสงบสุขนั้น คงไม่เคยได้ต่อสู้กับใครหรอก ผมเองยังคิดไม่ออกเหมือนกันนะว่า”วิคตอเรีย”บอสแฟมมิลี่อันชั่วร้ายนั้นจะเอายังไงกับเทอ และสุดท้าย”สเตลล่า”ผมไม่ค่อยรู้ประวัติของเทอเลยแฮะไม่ว่าจะให้ลูกน้องช่วยกันสืบหามาเท่าไหร่ก้ได้มาแต่เพียงความสงสัยเท่านั้นเพราะมันมีแต่ชื่อ สเตลล่า อันโทเนีย สังกัดGenesis family แหวนสายหมอก อายุ16ปี มาจากประเทศอิตาลี มีเพื่อนสนิทที่มาจากอิตาลีด้วยกัน คือ มาอะ ฮามาโอกะ Genesis familyเหมือนกัน แหวนอรุณ จบ...ข้อมูลอื่นๆไม่มีปรากฏสำหรับหญิงสาวที่มีชื่อว่า สเตลล่า อันโทเนียคนนี้ ที่สำคัญเทอเปนผู้หญิงที่สวย เก่ง และร้ายกาจมาก จะว่าดีๆเทอได้รับสมญานามว่า “The scolar of illution”ปราชญ์แห่งมายา แน่นอน ความสามารถของเทอไม่ใช่เล่นๆอย่างที่บอกไปในตอนต้น นอกจากครอบงำจิตใจคนและสะกดจิตคนได้แล้วนั้น เทอยังสามารถเหนภาพความทรงจำทั้งหมดตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันของสิ่งมีชีวิตทุกสิ่งได้ และประสาทสัมผัสของเทอยังไวมากๆไม่ว่าจะเปนการรับรู้ถึงจิตสังหารของคนอื่น หรือว่าคู่ต่อสู้กำลังคิดอะไรอยู่เทอก้รู้และตั้งรับได้อย่างสง่างามสมภาคภูมิทั้งนั้น และที่สำคัญประสาทการรับพิษของเทอนั้นสุดยอดมากๆ เพราะไม่ว่าจะพิษอะไร ร้ายแรงขนาดไหน ก้ไม่คณามือเทอเลย ไม่ว่าจะเป็นการได้รับพิษจากการกิน สัมผัส หรือถูกฉีดเข้าเส้นเลือดก้ไม่สามารถทำอันตรายเทอได้ หากแต่พิษยิ่งร้ายแรงเท่าไหร่ก้ยิ่งกระตุ้นให้เทอแข็งแกร่งและทำให้ท่าไม้ตายของเทอทวีความรุนแรงขึ้นอีกเท่านั้น อืม...จะว่าไปก้เหมือนผู้หญิงบ้าเลือด ผมล่ะดีใจมากมายที่ Volate’ family ของผมกับ Genesis familyของเทอเปนพันธมิตรกันไม่งั้นเมอเชลของผมจะเปนไงมั่งล่ะเนี่ย...จะว่าไปสเตลล่าเนี่ยก้แปลกๆดีเข้ากับ”เฟริส”บอสของGenesisได้ไงไม่รุ เฟริสน่ะ เป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาไม่ได้มีความร้ายกาจอะไรในตัวเลยด้วย ทุกๆคนในแฟมมิลี่ก้เช่นกัน มีแต่สเตลล่าเท่านั้นแร่ะที่ร้ายกาจในแฟมมิลี่นั้น อ่า...งั้นSSก้เช่นเดียวกันสินะ คนในแฟมมิลี่นั้นมีแต่พวกคนโหดเหี้ยม ร้ายกาจ มีเพียงอากิเท่านั้นที่ไร้เดียงสา...เฮอะตลก
เข้าเรื่องของเราดีกว่า ทำไมเด๋วนี้ผมถึงชอบคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่คนเดียวเสมอเลยนะ??
ตอนนี้ผมหยุดอยู่หน้าห้องของเมอเชล เอ้ย...ห้องเปียโนแล้ว...จะเข้าไปล่ะนะ
Knock
ๆๆๆ
ผมเคาะประตูก่อนจะได้ยินเสียงขานรับอณุญาติให้เข้าจากข้างในห้องนั้น ผมจึงเดินเข้าไป
“ขอบคุณค่ะบอสที่มาฟังเพลงของชั้น”เมอเชลพูดจบแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้เปียโนแล้วเริ่มเล่นเพลงใหม่ของเทอ...เสียงหวานใสของแกรนด์เปียโนสีขาวก้องกังวานขับกล่อมทุกโสตประสาทของผมให้ตื่นตัว เพลงของเทอทำให้สิ่งที่ผมไม่มั่นใจมาเนิ่นนานได้กระจ่างขึ้นภายในใจของผม อา...ใช่แล้วผมไม่เคยรู้สึกอยากจะงัดเรื่องนั้นขึ้นมาคิดเลยนะ แต่ในตอนนี้ทุกอย่างมันกลับฉายชัดขึ้นมาในสมองของผม มันกำลังประมวลผลตัวเองอย่างช้าๆ และแถลงคำตอบให้กับผมถึงสิ่งที่ผมไม่มั่นใจมานานแสนนานเหลือเกิน ในตอนนี้ผมมั่นใจในสิ่งที่อย่างบอกเทอคนนั้นแล้วล่ะและแน่นอน ผมจะบอกกับเทอ เสียงเปียโนนั้นเงียบลงแล้ว ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆและพบว่าคนตรงหน้าหันมามองและยิ้มให้กับผมอยู่ ในแววตานั้น...ใช่แล้วมันเหมือนกับตอนที่เทอมาหาผมที่ห้องทำงานเลยนี่นา ตอนแรกผมไม่เข้าใจความหมายในแววตานั้นเลยซักนิดแต่ตอนนี้ผมเข้าใจกระจ่างในทุกสิ่ง ทั้งในตัวผม และตัวเทอแล้วล่ะ
“ท่าไม้ตายใหม่เหรอ?”ผมเอ่ยปากถาม
“คะ??”เธอทำท่าทางสงสัย อืม...ท่าทางจะไม่ใช่ท่าไม้ตายใหม่แฮะ แต่มันคงเปนความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาจนคนฟังซาบซึ้งไปด้วยนั่นแหละ
“ก้...เทอรู้ตัวรึป่าว?ว่าเทอใช้มายาทำให้คนฟังรู้สึกตัวและรับรู้ถึงสิ่งที่อยู่ภายใต้จิตสำนึกน่ะ”
“เอ๊...หรอคะ??^^”เทอยังคงยิ้ม
“และ...มันก้ทำให้ผมได้รับรู้ถึงสิ่งที่อยู่ภายใต้จิตสำนึกของผมเช่นกัน”
“งั้นหรือคะ??...ชั้นอยากรู้ซะแล้วสิ”
“อืม...ผมรักเทอ”ผมพูดติดขัดเล็กน้อยแต่ก้มั่นใจว่าเทอจะฟังรู้เรื่อง
“ค่ะ”เทอตอบอย่างเรียบง่ายและยิ้มอย่างเดิม
“เอ๊ะ??เทอรุเหรอ?”ผมเริ่มฟอร์มแตกแล้วไม๊ล่ะ
“คนเปนสายหมอกน่ะ ถ้าไม่มีความสามารถในการหยั่งรู้จิตใจคนแล้วล่ะก้ จะเอาหน้าแฟมมิลี่ไปไว้ที่ไหนล่ะคะ?”เทอตอบผมอย่างฉะฉาน
“อะไรกัน...ทั้งที่ขนาดผมยังไม่มั่นใจตัวเองเลยนะเนี่ย”เอ๊ะ...นี่แสดงว่าเทอ...วางแผนไว้เหรอ?”ผมอึ้งอย่างแรง นี่มันหมายความว่าไงกันล่ะเนี่ย??
“ค่ะ...เพราะชั้นก้รักคุณค่ะบอส”ประโยคหลังเทอเขย่งปลายเท้าขึ้นมากระซิบที่ข้างหูผมเล่นเอาหน้าผมแดงซ่าเลยทีเดียว...ก็นะ ผมมันไม่ใช่พวกคาสโนว่าอย่างไอ้นาธานนี่
“...”ผมก้พูดอะไรตอบเทอไม่ถูกอยู่ดีอ่ะแหละ
“เพราะชั้นเปนผู้หญิงคิดว่าถ้าจู่โจมบอกบอสก่อนคงดูไม่ดีเท่าไร”
“อืม...ลองคบกันดูม้า??”ผมตัดสินใจถามเทอออกไป...โอ้ยตายๆผมจะสรรหาคำพูดทีดีกว่านี้ไม่ได้แล้วใช่ไม๊ล่ะเนี่ย??
“คิกๆ ค่ะชั้นไม่ปฏิเสธการได้เปนคนรักของบอสอยู่แล้ว”เทอจะรุตัวไม๊นะว่าคำพูดของเทอทำให้ผมรู้สึกมีความกล้าหาญมากขึ้น
“ครับ...เมอเชลคนรักคนเดียวของผม”ใช่...กล้าหาญที่จะพูดสิ่งนี้ออกไปไงล่ะ
“ค่ะ บอสคนรักของชั้นเช่นกัน...อ้อบอสคะเพลงนี้มีเนื้อร้องด้วยนะ”เทอพูดจบก้เริ่มเล่นเพลงนั้นอีก“แอบหลงรักเทออยู่แต่เทอคงดูไม่ออกซ่อนความรักไม่กล้าบอก กลัวเทอจะเปลี่ยนไปห้ามใจยังไงไม่ไหวในเมื่อเทอน่ารักเกินกว่าใคร ปฏิเสธอย่างไร เมื่อรักเทอจนไม่อาจจะถอนตัว”~ใช่แล้ว...มันเปนเพลงที่เพราะที่สุดเท่าที่ผมเคยฟังมาเลยแหละ
ความคิดเห็น