ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic No Hero] Gentleman and The Beautiful Beast [อันเซียร์ x โจชัว]

    ลำดับตอนที่ #7 : Special Chapter :: When you're drunk

    • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 58



    Special Chapter :: When you're drunk [AU]

    Couple :: อันเซียร์ x โจชัวร์

    Rate :: PG-15

    Talk :: เรื่องนี้แม่งมโนล้วน ๆ ค่ะ ไม่มีสาระอะไรทั้งสิ้น แค่รู้สึกอยากลองเห็นคู่นี้ในอีกมุมหนึ่งเท่านั้นเอง อาจจะวายป่วงและไร้สาระจนต้องเหนื่อยใจ อาจจะมีคำหยาบและการกระทำไม่เหมาะสมบ้าง ต้องขอโทษด้วยนะคะ #หัวเราะ

     



    ณ ผับดัง นามูห์นอนใจกลางมหานครเซตติ้งซัน

     

    เอาจริง ๆ แล้วนามูห์นอนไม่ใช่ผับดัง แต่อยู่ ๆ ก็ดังเปรี้ยงชั่วข้ามคืนเมื่อ คนดังหรือ เซเลบเข้าไปใช้บริการแล้วกลายเป็นผับประจำ ยิ่งมีข่าวว่าวันนี้กองถ่ายแบบสุดฮอตนำทีมโดย จี โลชูตากล้องมือฉมังที่ทำแต่ละงานออกมาดู แพงและ แซ่บเว่อร์แล้วตัวตากล้องเองก็ แซ่บไม่แพ้งานมาปิดผับเลี้ยงฉลองเมื่อโปรเจคพิเศษถ่ายทำเสร็จสิ้น

     

    นอกจากตากล้องจะแซ่บแล้วตัวนายแบบเองก็แซ่บไม่แพ้กัน การันตีด้วยดีกรีตำแหน่งเจ้าชายตัวจริงเสียงจริงและเจ้าชายแห่งวงการถ่ายแบบ ที่สาว ๆ ในเมืองเซตติ้งซันพร้อมใจกันโหวตให้เป็นผู้ชายในฝันอันดับ 1 อย่าง ซอนเน่ อันเซียร์

     

    ตามด้วยผู้จัดการสาวพราวเสน่ห์อย่าง เมโลดี้ที่ครองใจหนุ่ม ๆ ในเซตติ้งซันไม่แพ้กัน ยืนยันด้วยยอดฟอลโล่วในไอจีที่ตามติดมากับ เจ้าหญิงแห่งวงการบอดี้การ์ดอย่าง จิงจี๋ที่แอบมีข่าวว่าน่าจะเป็นตัวจริงของคุณเจ้าชายเสียด้วย

     

    “เอ้า หมดแก้ว !

     

    แก้วเบียร์ทรงสูงถูกยกกระดกอย่างไม่ปราณีปราศรัย น้ำสีอำพันรสชาติขมปร่าไหลลงคอจนหมดแก้วก่อนที่แก้วเปล่า ๆ จะกระแทกกับโต๊ะแก้วดัง ปึง !

     

    “เฮ้ย เบาหน่อยดิวะโจชัว” เกรน เอ่ยปรามเพื่อนที่กระแทกแก้วลงบนโต๊ะเต็มแรง “เดี๋ยวโต๊ะเค้าพัง ฉิบหายกันหมด”

     

    “เอาเบียร์มา”

     

    มันไม่ฟัง... เกรนถลึงตาใส่แต่เหมือน โจชัว เอนด์เลสจะไม่รู้สึกนอกจากจะมองตาขวางแล้วเร่งให้ของเหลวสีอำพันมาเทให้เต็มแก้วอีกครั้ง

     

    “จะดื่มก็ดื่ม แต่เกรงใจเจ้าของงานด้วยนะโว้ย” เขากระดกไปอีกอึก “อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

     

    “เกรงใจบ้าอะไร” เขาได้ยินมันสบถพึมพำในลำคอ “คนแม่งไม่สนใจกัน ทำอะไรแม่งก็ไม่สนใจ”

     

    โจชัว เอนด์เลสที่ใคร ๆ ก็รู้จักในนามของคุณชายพ่อบ้าน --- ผู้นำของตระกูล อเล็กซี่ที่ขึ้นว่าเป็นยิ่งใหญ่นำอันดับ 1 ของวงการและรั้งอันดับ 2 ในวงการธุรกิจตามหลังธุรกิจของตระกูลซอนเน่เพียงนิดเดียว นอกจากนั้นภาพลักษณ์ภายนอกที่สุภาพ อ่อนโยนและคุณชายสุดกู่ทำให้เขารั้งตำแหน่งอันดับ 1 ในโพลโหวตผู้ชายที่ต้องการมาเคียงข้างของสาว ๆ ไปอย่างไม่ต้องสงสัย

     

    และคนยังลือกันให้แซดว่าเขาคือ อดีตตัวจริงของซอนเน่ อันเซียร์ !

     

    “เบาโว้ย เบา ๆ” เกรนคว้าแขนเพื่อนเมื่อเห็นมันยกจนหมดแก้วเหมือนเคย “จะเมาแต่หัววันเลยหรือไงวะ มันจะสนุกอะไร”

     

    มันถลึงตามองก่อนจะยกหมดแก้วอีกรอบ

     

    เกรนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใคร ๆ ก็บอกว่าคุณชายตรงหน้าทั้งหล่อ ทั้งนิสัยดี แต่ใครจะรู้ไหมว่าพ่อเจ้าประคุณเวลาเหล้าเข้าปากแล้วนิสัยเปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคน

     

    อย่างวันนี้มันเรียกเขามาเป็นเพื่อนหลังจากได้รับคำเชิญจากโลชู พอเห็นสภาพมันตอนนี้บอกได้คำเดียวมันเรียกเขามาเก็บศพชัวร์ ! ฟันธง !

     

    เพลงในผับที่เปิดมันก็ดีอยู่หรอก ยิ่งบนฟลอร์ที่สาว ๆ สวย ๆ โยกย้ายกันอยู่ตรงนั้นเกรนยิ่งคิดว่ามันดีงามมาก ๆ อ่ะ แค่คิดว่าเขาไปอยู่กลางวงแม่สาว ๆ พวกนั้นเขารู้สึกเหมือนจะขึ้นสวรรค์ แต่ติดที่เขาไม่กล้าจะปล่อยคุณชายสุภาพของสาว ๆ ไว้คนเดียวนี่สิ

     

    ยิ่งเห็นมันกระดกเอากระดกเอาแบบนี้ยิ่งไม่มีทางปล่อย เด็ดขาด !

     

    ตามยอดสถิติการเก็บเพื่อนของยอดชายนายเกรนบอกได้เลยว่าแต่ละครั้งที่มันเมา จบลงไม่ค่อยจะสวยเลยสักครั้ง ! ไม่รู้เหมือนกันว่าฤทธิ์สุรามันไปกระตุ้นต่อมยั่วประสาทชาวบ้านเขาหรือไงพ่อเจ้าประคุณถึงชอบไปนัวเนียกับสาวสวย ๆ เดือดร้อนให้ คนบางคน มาตามหึงตามหวงตลอด

     

    คนบางคน ของเกรนนั่งอยู่กลางวงล้อมที่ยังคงสังสรรค์กันเฮฮาและไม่มีทีท่าว่าจะหันมามองทางนี้สักกะติ๊ด ไม่รู้ว่ามันทะเลาะอะไรกันแต่เกรนตัดสินใจว่าเขาต้องเรียกตัวช่วยเพื่อชีวิตอันแสนสุขในค่ำคืนนี้ของเขา

     

    เพราะฉะนั้น --- ทิ้งมันไว้แป๊บเดียวคงไม่เป็นไร

     

    หรอกมั้ง ?

     

     

    xxxxxxxxxxxxxxx

     

     

    ไม่เป็นไรกับผีน่ะสิ !

     

    เสียงเพลงกระหน่ำผับที่อยู่ ๆ ก็หยุดชะงักไม่ทำให้เกรนตกใจเท่าเห็นตัวสูง ๆ ของเพื่อนยอดรักชีวาวายยืนอยู่บนนั้นพร้อมแก้วเบียร์ในมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างมันถือไมโครโฟน

     

    เชี่ย --- แม่ง ถือ ไม โคร โฟน !

     

    “เรามีเรื่องมาบอก” เสียงนุ่ม ๆ ที่ผ่านไมโครโฟนดึงความสนใจให้ทุกคนหันไปมอง เกรนพยายามส่งทั้งสายตา กระแสจิตและทุก ๆ อย่างเพื่อจะห้ามการกระทำต่อไปที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรแต่เกรนมั่นใจ แม่งไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ แต่คนหน้าแดงบนฟลอร์เหมือนจะไม่สนใจ

     

    เอาจริง ๆ คือมันมองมาทางเขานี่แหละ แต่ตามันดันจ้องคนที่นั่งตรงหน้าเขาเขม็ง

     

    และเอาจริง ๆ ของจริง ๆ คือเขาจะไม่อะไรเลยถ้าผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ ซอนเน่ อันเซียร์

     

    “เราโสดแล้วเว้ย”

     

    ความเงียบกินเวลาอยู่สองสามวินาทีก่อนที่เสียงกรี๊ดจะดังถล่มทลายจนเกรนรู้สึกเหมือนนามูห์นอนต้องแตกในวันนี้แน่ ๆ เพลงที่เงียบไปสักพักก็ได้ฤกษ์เปิดขึ้นมาใหม่ แต่ประเด็นหลัก ๆ เลยคือความฉิบหายที่จะตามมาเพราะคนที่นั่งยิ้มให้คนรอบข้างดี ๆ อยู่อย่างอันเซียร์ถึงกับหน้าตึงขึ้นมาทันทีที่มันพูดจบ

     

    เขาเห็นเจ้าชายแห่งวงการถ่ายแบบหันไปกระซิบอะไรสักอย่างกับคนข้าง ๆ แต่เขาไม่ได้ยินเพราะเพลงมันดังเหลือเกินก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินหายไปในฝูงชน

     

    ณ จุด ๆ นี้เกรนทำอะไรให้เพื่อนไม่ได้นอกจากทำใจ

     

     

    xxxxxxxxxxxxxxx

     

     

    “เมื่อกี้พูดอะไร”

     

    เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นเหนือศีรษะแต่โจชัวไม่สนใจ เขาเหลือบมองร่างสูงสะโอดสะองของนายแบบแถวหน้าของวงการก่อนที่จะเบนมาให้ความสนใจกับของเหลวในมือต่อ

     

    ข้อมือถูกกระตุก แก้วที่ถือมาตลอดถูกยึด ตอนแรกก็ยื้ออยู่ดี ๆ แต่พออีกฝ่ายบอกเสียงหนักให้ปล่อยมือเจ้ากรรมก็ยอมปล่อยแต่โดยดี

     

    โจชัวเม้มริมฝีปากแน่น นึกก่นด่าตัวเองในใจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้นึกไว้แล้วว่าจะไม่ยอมลงให้ง่าย ๆ แต่พอเจอเข้าจริง ๆ ก็ทำไม่ได้อย่างที่คิด

     

    “ข้างในเสียงดัง” อันเซียร์ว่าพลางดึงคนที่ยังนั่งอยู่ในลุกตามขึ้น “ไปคุยข้างนอก”

     

    อันเซียร์มองคนที่ทำหน้าฮึดฮัดเหมือนไม่สบอารมณ์แต่ก็ยอมเดินตามโดยดีด้วยอารมณ์ที่ตัวเขายังบอกไม่ถูก พอพาผ่านฝูงชนมาพบกับความสงบด้านนอกได้ชายหนุ่มก็ปล่อยข้อแขนที่คว้ามาออก ไม่ทันเห็นว่าคนที่เดินตามมาขว้างค้อนให้ตาเขียวขวับ

     

    โจชัวลูบข้อมือข้างที่ถูกลากออกมา มันไม่เจ็บแต่ขึ้นรอยแดงหน่อย ๆ เขารอ --- รอคนที่บอกว่ามีธุระจะคุยด้วยแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมพูดอะไรออกมานอกจากยืนหันหลังให้ท่าเดียว

     

    สุดท้ายโจชัวเป็นฝ่ายทนความเงียบไม่ได้ ทั้งที่ปกติเขารู้สึกว่าเขามีความอดทนมากกว่านี้ “มีอะไร”

     

    โจชัวคิดว่าเขาน่าจะรู้สึกไปเองที่เห็นอีกคนถอนหายใจเฮือกใหญ่

     

    “เมื่อกี้พูดอะไรออกไปรู้ตัวไหม” อันเซียร์หันมามองคนที่เขาพาออกมา สองแก้มใส ๆ นั่นขึ้นสีระเรื่อคงเพราะฤทธิ์ของมึนเมา ปากแดง ๆ นั่นก็บึ้งตึงอย่างที่ปกติไม่ทำยกเว้นตอนเมา

     

    โอเค --- อันเซียร์รู้สึกว่าเขาน่าจะถูกฤทธิ์เหล้าเล่นงานด้วยนิดหน่อย เพราะอดคิดไม่ได้ว่าสีหน้าที่เจ้าตัวไม่ค่อยจะทำนั่นก็น่ารักดีเหมือนกัน

     

    “พูดอะไร ทำไม” คิ้วเรียว ๆ นั่นขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

     

    “ที่บอกว่าโสด” เขาย้ำความจำ พอได้ยินอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ร้องอ๋อเบา ๆ

     

    “ก็โสดแล้ว ทำไม”

     

    โอเค --- อันเซียร์ขอถอนคำพูดว่าคนตรงหน้าน่ารักเมื่อกี้ทิ้ง

     

    “โสดได้ยังไง ยังไม่เลิกกันสักหน่อย” เขาว่าเสียงเย็น แต่รู้สึกเหมือนต้องนับหนึ่งถึงสิบในใจเมื่ออีกคนทำหน้าไม่รู้สึกรู้สา ทั้งยังปฏิเสธหน้าซื่อ

     

    “เลิกแล้ว อย่ามามั่ว”

     

    “เลิกอะไร ใครบอกให้เลิก” อันเซียร์รู้สึกเหมือนตัวเองอาจจะต้องนับถึงร้อยเมื่อสบดวงตาสีมรกตที่เขาคิดว่ามันสวยนักหนา “นายบอกให้ฉันไม่ต้องไปยุ่งกับนาย จำได้ได้ไหม ฉันก็แค่ไม่ยุ่ง”

     

    “ถ้าไม่ยุ่งแล้วก็เลิกดิ”

     

    โอเค --- อาจจะต้องถึงพัน...

     

    “ไม่เลิก” อันเซียร์ยืนยันหนักแน่น “ให้ตายก็ไม่เลิก”

     

    แต่บางทีคนเมาก็ต่อกรยากกว่าที่คิด...

     

    “ไม่เลิกบ้าอะไร นายยังไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นอยู่เลย”

     

    “ผู้หญิงคนไหน”

     

    อันเซียร์กำลังนับถอยหลังจากหลักพัน ยิ่งเห็นนิ้วเรียวที่ยกขึ้นมานับพร้อมชื่อที่พูดออกมาแล้วรู้สึกเหมือนประสาทจะแตก “จิงจี๋ โพไซดี้ เมโลดี้...”

     

    “ฉันบอกนายแล้วว่าไม่มีอะไรกัน” ชายหนุ่มพยายามอธิบาย “จิงจี๋ก็แค่น้องสาว โพไซดี้ก็พี่สาว ส่วนเมโลดี้ก็แค่เพื่อน”

     

    คนเมาส่งเสียงดังเหอะ ! “น้องสาวอะไรมีข่าวกันทุกวัน”

     

    “ทีนายกับพี่เอสโก้ของนายล่ะ” เขาจี้จุด รู้สึกเหมือนในใจเริ่มกรุ่น ๆ ด้วยแรงอารมณ์

     

    “เอสโก้คือพี่ชาย !” คนเมาค้อนขวับ “เรากับเขาไม่มีอะไรกัน”

     

    “มันก็เหมือนกันนั่นแหละ” อันเซียร์สวนทันควัน ยิ่งเห็นอีกคนที่ถลึงตามองอย่างเอาเรื่องพร้อมอ้าปากจะเถียงเขาก็ว่าซ้ำอีกรอบ “จะพูดอะไรคิดดี ๆ นะ โจชัว”

     

    คนสู้ไม่ได้ถึงได้แต่ทำเสียงฮึดฮัด

     

    “กลับไปบอกข้างในเลยว่านายยังไม่โสด” อันเซียร์คว้าข้อมืออีกคนแต่โจชัวกลับปัดทิ้งเสียฉิบ “โจชัว !

     

    “ไม่”

     

    เรื่องที่แล้วสู้ไม่ได้ไม่เป็นไรแต่เรื่องนี้โจชัวไม่ยอมเด็ดขาด

     

    “เลิกแล้วก็เลิกดิวะ นายจะเอาอะไรกันนักกันหนา”

     

    อันเซียร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้อยู่หรอกว่าปกติแล้วอีกคนไม่มีวันพูดอะไรทำนองนี้แน่นอน การันตีด้วยความสุภาพ อ่อนโยน ใจดีที่เจอมาตลอดหลายปีแต่พอมาได้ยินแบบนี้มันก็อดเกิดอารมณ์กรุ่น ๆ ไม่ได้

     

    “โจชัว เอนด์เลส ฉันขอบอกนายอีกครั้งว่าจะพูดอะไรคิดดี ๆ นะ” เขาดึงคนที่ยืนหน้าแดงทั้งยังจวนเจียนจะล้มมาซบ เพิ่งรู้เหมือนกันว่าตอนนี้เขาสูงกว่านิดหน่อยทั้งที่สองสามเดือนก่อนหน้านี้ยังเตี้ยกว่าอยู่เลย แรงขืนเบา ๆ ในอ้อมแขนนั่นไม่ช่วยให้เขายอมปล่อยอีกคนง่าย ๆ อย่างที่อีกคนคิด “นิ่ง ๆ เดี๋ยวล้ม”

     

    “ปล่อย” คนที่ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ฮึดฮัด “เซียร์ !

     

    “ไม่” อันเซียร์ขัดเมื่อเห็นอีกคนขืนแรงหนี “จนกว่านายจะยอมกลับไปบอกในนั้นว่านายยังไม่โสด”

     

    “ก็เราเลิกกับนายแล้ว มันจะไม่โสดได้ไงว...”

     

    เสียงโวยวายเงียบลงกะทันหันเมื่ออันเซียร์ตัดสินใจคว้าคออีกคนเข้ามาปิดริมฝีปากแดง ๆ นั่นด้วยปากของเขาเอง เหลือบเห็นแสงสว่างวาบที่ปลายหางตา พนันได้เลยว่าพรุ่งนี้หนังสือกอสซิปและโซเชี่ยลได้มีเรื่องเมาท์กันอีกยาว

     

    แต่อันเซียร์คิดว่าเขาโอเคถ้าหากข่าวเกี่ยวกับผู้หญิงหลายแหล่ที่สื่อบรรจงเติมแต่งจะถูกกลบหายด้วยข่าวนี้ของเขา

     

     

     

    xxxxxxxxxxxxxxx

     

     

    แล้วก็จริงอย่างที่คิด

     

    มื้ออาหารเช้าบนคอนโดสูงกลางมหานครเซตติ้งซันถูกรบกวนด้วยเสียงกรีดร้องของผู้จัดการส่วนตัวอย่างเมโลดี้แบบที่เจ้าหล่อนหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนอันเซียร์ต้องนิ่วหน้า

     

    “ใจเย็น ๆ น่า เมโลดี้”

     

    “เย็น ?” เจ้าหล่อนแหวเสียงสูง “เย็นอะไรกันคะคุณหนู !

     

    มือขาว ๆ ถือหนังสือกอสซิปเป็นโขยงที่พาดหัวเรื่องของเขาพร้อมรูปของเขากับโจชัวเมื่อวานโบกไปมา เจ้าหล่อนใบหน้างอง้ำใส่อันเซียร์ที่ทำเพียงยิ้มบาง ๆ

     

    “ไหนคุณหนูบอกฉันว่าออกไปเคลียร์นิดเดียวไงคะ” เธอทิ้งหนังสือในมือลงบนโต๊ะ “แบบนี้ไม่เรียกนิดเดียวแล้วค่ะ !

     

    อันเซียร์ยิ้มเจือหัวเราะเมื่อเธอยังคงโวยวายไม่หยุด

     

    “โธ่ ! คุณหนูคะ ทำไมไม่บอกฉันคะว่าจะทำ ฉันจะได้ออกไปดู !

     

    อันเซียร์ปล่อยให้เมโลดี้โวยวายของเธอไปอย่างนั้น

     

    อันที่จริง --- เธอยังไม่เห็นไอจีที่กำลังโดนถล่มของเขาเสียด้วยซ้ำ และอันเซียร์เชื่อว่าเมื่อไหร่ที่เธอเห็น รูปคู่ที่เขาเพิ่งอัพไปสด ๆ ร้อน ๆ พร้อมแคปชั่นสั้น ๆ เมื่อคืนเจ้าหล่อนคงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งไปมากกว่านี้แน่ ๆ

     

     

    xxxxxxxxxxxxxxx

     

     

    “เป็นไงล่ะ ฉันเตือนพี่แล้วว่าอย่าดื่มเยอะ”

     

    คุณหญิงแห่งตระกูลพ่อบ้านอย่าง ซาดีนาฉะพี่ชายตนทันทีที่เจอหน้า ยิ่งเห็นแก้มสองข้างที่ดูจะแดงขึ้นมายิ่งอยากจะหัวเราะซ้ำ

     

    “นี่พี่ต้องไปขอบคุณเจ้าชายของพี่ด้วยนะที่เขาพาพี่ไปส่งยันห้องนอน ไม่งั้นป่านนี้พี่คงเมาเป็นหมาอยู่หน้าร้านนั่นแหละ !” สุดท้ายเธอก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อเห็นอาการเลือดสูบฉีดจนเหมือนแก้มจะระเบิดของพี่ชาย “โธ่พี่ แค่รูปในไอจีเอง คิดอะไรมาก !

     

    เธอเย้าเขาซ้ำ

     

    “ซาดีนา” โจชัวเรียกน้องสาวเสียงเข้มแต่พอมาดูแก้มแดง ๆ แล้วมันก็ขัดกันจนไม่น่ากลัว

     

    เธอหัวเราะ

     

    งานนี้ถ้าพี่ชายเธอไม่ไปขอบคุณเจ้าชายเองแล้วล่ะก็เธอนี่แหละที่จะไปเอง ช่วยไม่ได้ --- ในเมื่อเธอถูกใจเหลือเกินกับแคปชั่นในไอจีของเขาที่เพิ่งอัพสด ๆ ร้อน ๆ แล้วเป็นประเด็นดังเปรี้ยงกลบข่าวกับสาว ๆ ที่เคยมีของเขาจนสิ้น

     

    รูปที่พี่ชายเธอทำหน้าตื่นยิ่งกว่าเจอผีเพราะจมูกโด่ง ๆ ของคุณเจ้าชายที่ฝังบนแก้มพี่ชายเธอ

    พร้อมแคปชั่นสั้น ๆ ว่า ตัวจริง

     

     

    xxxxxxxxxxxxxxx

     

     

    จบเถอะ #ฮา

    #ควรไปพิมพ์เรื่องหลักได้แล้ว

    #แต่เรื่องนี้พิมพ์มันมือมากเลยนะ

    #ขอให้มีความสุขค่า



    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×