ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF SHINee] First Love,,เมื่อความรักกระทบหัวใจ [Ho x Hyun]

    ลำดับตอนที่ #4 : ,, Round 4 ,,

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ค. 56




     ,,ROUND 4,,




     

    ดูเหมือนความสัมพันธ์ของลูกคนรองของทั้งสองบ้านจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นเล็กน้อยจนคนรอบข้างแปลกใจ

     

    หมายถึง...เล็กน้อย จริง ๆ นะ

     

    อย่างเช่น --- เวลาเจอหน้ากันเริ่มมีการทักทายกันบ้างก่อนตามมารยาท หลังจากนั้นจะแยกเขี้ยวกัดกันเหมือนเดิมก็ไม่แปลก ซึ่งมันก็ดีขึ้นกว่าตอนก่อนที่เจอปุ๊บกัดปั๊บอะไรประมาณนั้น

     

     

    “หวัดดี เตี้ย”

     

    “หวัดดีเกรียน” จงฮยอนระบายยิ้มเชือดเฉือนใส่ “มินจองอยู่ไหม?”

     

    “นี่ไม่มาหาน้องผมสักวันพี่จะขาดใจตายหรือไง” โหมดคุณพี่ชายหวงน้องสาวเริ่มจะทำงาน มินโฮระบายยิ้มอ่อน (ที่จงฮยอนบอกว่าเป็น รอยยิ้มฉบับเกรียน) ยามที่ยกมือขึ้นกอดอก ขวางจังก้าเต็มประตูบ้าน

     

    “แล้วแกไม่ถามฉันสักวันมันจะตายไหมห๊ะ”

     

    “แค่นอนไม่หลับ” มินโฮหัวเราะร่าเมื่อเห็นหน้าละเหี่ยใจของอีกคน “นอนไม่หลับที่มันทรมานนะพี่”

     

    ดูมันตอบ...

     

    “เรื่องของแกสิ ตกลงมินจองอยู่ไหม”

     

    “อยู่ แต่ไม่เรียกให้” เจ้าตัวยังคงระบายยิ้มกว้าง “โอเค๊?”

     

    “กวนตีน” บ่นแบบเสียงดังสุด ๆ

     

    “ขอบคุณที่ชมครับ” ยังไม่ว่าเปล่ามินโฮยังทำท่าโค้งเสียงดงามเหมือนนักแสดงละครเวทีแสดงจบ ก่อนที่เงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มกวนประสาท

     

    “ฉันด่า”

     

    ระยิ้มพราวยังคงประดับบนใบหน้า

     

    กรรร!!

     

    เสียงคำรามดังลั่นที่ตามมาพร้อมเสียงร้องเล็ก ๆ ของสุนัขที่ดังมาจากหลังบ้านเรียกความสนใจได้มากกว่า ไม่นานหลังจากนั้นเขาได้ยินเสียงเหมือนเสียงร้องของพี่สาวกับแม่ดังตามมาติด ๆ

     

    สมองยังไม่ทันนึกอะไรออกข้อมือกลับถูกกระชากให้วิ่งตามไปเสียแล้ว

     

    เขาเห็นพ่อของเขาที่พยายามหวดไม้ท่อนยาวที่ถูกกองทิ้งไว้หลังสวนใส่สุนัขตัวโตที่กำลังแยกเขี้ยวขู่ เขาเห็นพี่สาวกำลังกอดแม่ไว้แน่น และข้าง ๆ เป็นร่างเล็ก ๆ ของสุนัขบ้านเขาเอง

     

    “พยอล..รู?”

     

    ชั่ววินาทีที่มินโฮได้ยินเสียงแหบ ๆ จากคนข้างตัวเขากลับใจหายวูบเมื่อคนที่เคยอยู่ข้าง ๆ พุ่งเข้าไปกลางวงแบบลืมกลัว

     

    “พี่!!

     

    เหมือนสุนัขตัวใหญ่ที่กำลังอาละวาดจะรู้ตัวว่ากำลังจะได้เหยื่อใหม่ มันถึงได้กระโจนเข้าใส่คนที่เพิ่งพุ่งเข้าไปใหม่อย่างแรง  คุณลุงคิมฟาดไม้เข้าใส่ดังผัวะส่งผลให้มันจำต้องวิ่งมุดกลับไปยังรั้วไม้ที่พังเป็นรูกว้างซึ่งคงเป็นที่ ๆ มันมุดเข้ามาแทนที่จะได้ขย้ำใครสักคนแทน

     

    เสียงวุ่นวายยังคงตามมาอีกระยะแต่จงฮยอนไม่ได้ยินอะไร เขาเห็นเพียงซากร่างเล็ก ๆ ที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดและไร้เสียงหายใจรวยริน ดวงตาคู่โตที่เคยมองเขาตาแป๋วตอนนี้ไร้แววทั้งยังแดงก่ำจนใจสั่น สองแขนพยายามประคองร่างปวกเปียกขึ้นแนบอกแต่ถูกบางคนดึงออกไปก่อน

     

    “หาหมอ...ต้องพาไปหาหมอ...”

     

    ในหัวเขามีเพียงแค่นั้น...ไม่รู้กระทั่งใครพาไปไหน

     

     

    xxxxxxxxxx

     

     

    มินโฮถอนหายใจเฮือกใหญ่

     

    เขามองคนที่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะไม้ฝั่งตรงข้ามอย่างหนักใจ ทะเลาะกันมาทุกวันตั้งสองปีกว่าทำให้เขารู้จักนิสัยแทบทุกทางของจงฮยอน รู้ด้วยว่าอีกฝ่ายเป็นคนคิดมากและยึดติดขนาดไหน ทุกคนต่างบอกเขาว่าปล่อยให้อยู่คนเดียวสักพักจะดีที่สุด

     

    ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...

     

    ปลายนิ้วเรียวที่ยังเปื้อนดินขะมุกขะมอมลากเล่นบนโต๊ะไม้ไปเรื่อยแบบไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง หลังจากที่พวกเขาเพิ่งจัดการฝังศพของพยอลรูไปเมื่อสักครู่

     

    ทั้งบ้านตระกูลคิมเหมือนจะเงียบลงไปถนัดตาเมื่อคนที่เคยโวยวายได้มากที่สุดในบ้านเงียบลง

     

    “พี่...”

     

    มินโฮรู้ว่าจงฮยอนได้ยินเพียงแค่ไม่ตอบจากการที่นิ้วนั้นหยุดที่จะลากไปนิดหน่อยแล้วค่อย ๆ ลากเป็นรูปต่อไป

     

    “ชอบปลูกต้นไม้ไหมครับ?”

     

    เขาระบายเสียงหัวเราะในลำคอเบา ๆ เมื่อเจอตาแดง ๆ จากการกลั้นน้ำตาขึงใส่และคิ้วที่ขมวดยุ่ง ปากได้รูปนั้นขยับพึมพำเสียงแหบเป็นประโยคอะไรสักอย่าง

     

    มินโฮเดาได้ว่าคงเป็น อย่ามายุ่ง

     

    “ผมไม่ชอบปลูกต้นไม้เพราะคิดว่ามันยุ่งยากจนกระทั่งวันที่ย่าผมเสีย” เสียงทุ้ม ๆ ยังคงเล่าไปเรียบเรื่อย “ผมเศร้าไปเป็นอาทิตย์ ช่วงนั้นพ่อแนะนำให้ผมปลูกต้นไม้ ให้ผมระบายให้พวกเขาฟัง ตอนแรกผมก็ไม่คิดหรอกว่ามันจะช่วยอะไรได้...”

     

    เขาระบายยิ้มอ่อน ๆ

     

    “แต่ว่า...เวลาที่ผมดูแลพวกเขา ผมรู้สึกว่าจิตใจผมสงบลง”

     

    ปลายนิ้วเรียวสัมผัสกับปลายผมนุ่มแผ่วเบา

     

    “ผมร้องไห้ได้..เพราะมันไม่มีใครแต่ผมรู้สึกว่าผมอุ่นใจเสมอเพราะผมรู้ว่าพวกเขาก็ดูแลผมเหมือนกัน”

     

    “...”

     

    “พี่ก็เหมือนกัน...” ฝ่ามืออุ่นบีบกระชับเข้าที่ไหล่ “ร้องไห้ได้นะครับ ถ้าอยากจะร้อง”

     

    “ใครมันจะอยากร้อง...”

     

    มินโฮส่ายหัว ปากบอกไม่อยากแต่เพียงพ่อคุณเล่นสั่นจนน่าใจหาย

     

    “ผมแค่จะบอกว่า...พี่ยังมีคนที่รับฟังพี่อยู่นะครับ”

     

     

     

     

    “กอดหน่อยดิ๊...”

     

    เสียงสั่น ๆ แหบ ๆ มาพร้อมกับวงแขนแข็งแรงที่ตวัดรอบลำคอและความชื้นที่ส่งผ่านเสื้อมาทางไหล่

     

    “มันเป็นของขวัญวันเกิด --- เจ๊จงฮีซื้อให้...ฉันเลี้ยงมันมาตั้งแต่มันยังตัวเท่าลูกแมว” เสียงสะอื้นยังคงแว่วมา “ฉับรับปากเจ๊ว่าฉันจะดูแลมันให้ดีที่สุด...แต่มัน...มัน...”

     

    คำพูดต่อมาถูกแทนที่ด้วยความชื้นที่หัวไหล่

     

    ไหล่ที่กว้างและตั้งตรงเสมอตอนนี้ดูเล็กลงไปถนัดตา ทั้งยังสั่นจนมินโฮรู้สึกได้ เหมือนกันกับใบหน้าที่เคยฉาบด้วยความกวนประสาทเท่าที่เคยเจอมาแต่ตอนนี้กลับซุกอยู่บนไหล่เขา...

     

    คิดไปคิดมาแล้วสยิวกิ้วว่ะเฮ้ย... ถ้ามีคนมาเจอนะ...

     

     

    “กรี๊ดด!!

     

    คือกูยังคิดไม่จบเลย =___________,=

     

    จงฮยอนสะดุ้งเฮือกก่อนจะผลักไอ้ไหล่ที่เพิ่งจะซบไปแหมบ ๆ อย่างแรงจนคนโดนผลักร้องอูย มือเรียว ๆ ปาดรอยชื้น ๆ ที่เปรอะรอบหน้าให้หายไปก่อนจะแทบกรี๊ดแตกเมื่อเห็นสีหน้าช็อคประหนึ่งเอเลี่ยนบุกโลก

     

    “ม...แม่”

     

    “แม่ขอโทษลูก..แม่ เอ่อ...” คุณนายคิมระบายยิ้มจืดจาง

     

    ตามปกติแล้ว...ซีนเมื่อกี้มันต้องเป็นซีนพระเอกกับนางเอกไม่ใช่!!?

     

    แล้วนี่พระเอกกับพี่(ชาย)นางเอกมากอดกันทำมายยยยยย

     

    คุณนายคิมยังคงทำได้เพียงระบายยิ้มจืด บางทีนางอาจจะคิดมากไปสักหน่อย...มันคงเป็นมิตรภาพลูกผู้ชายที่แน่นแฟ้น(?) ใช่...ต้องใช่แน่ ๆ มันคือมิตรภาพลูกผู้ชาย...

     

    แต่ทำไมท่ากอดของมิตรภาพลูกผู้ชายมันต้องละมุนขนาดนั้นฟระ!!!

     

    มันไม่ใช่ต้องตบไหล่อัก ๆ แล้วพูดเสียงห้าวๆ เฮ้ย ไม่ต้องร้องไปไอ้น้องอะไรแบบนี้เรอะ!

     

    “คือ...แม่เป็นห่วง เห็นหายกันไปนานเลย...เอ่อ...” ยิ่งเห็นตาแป๋ว ๆ ของลูกชายแล้วคุณนายคิมยิ่งพูดไม่ถูกไปใหญ่ “แม่...เอ่อ...เอาขนม...มาให้จ้ะ”

     

    หล่อนอยากจะบ้า...

     

    “ข...ขอบคุณฮะ...”

     

    จงฮยอนหน้าร้อนฉ่า เพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป ร้องไห้ต่อหน้าคู่กัดยังไม่พอ..ยังจะไปกอดมันอีก แล้วยังจะ...แม่เห็นตอนร้องไห้อีก แล้วยังจะ...โอยย เยอะเกิน T__T

     

    ฤทธิ์ความเศร้ามันทำกันได้ขนาดนี้เลยเรอะ!!!

     

    ฝ่ายคุณนายคิมได้แต่ยืนค้าง มองหน้าลูกชายที่ร้อยวันพันปีเห็นด้านได้อายอด...

     

    ทำไมคุณลูกชายต้องหน้าแดงด้วยวะคะ!!!

     

    “เอ่อ...แม่ไปเตรียม...ข้าวเย็นให้ดีกว่าจ้ะ...” พอเห็นลูกชายคนเดียวทำหน้าไม่ถูกเธอเริ่มจะทำหน้าไม่ถูกขึ้นมาบ้าง “อ่า...มินโฮ อยู่ทานด้วยไหมลูก”

     

    คนที่นั่งเงียบอยู่นานระบายยิ้มอ่อน “ไม่ดีกว่าครับ”

     

    “อ่อ..จ้ะ โอเค...”

     

    คุณนายคิมเดินหายลับไปนานแล้ว...แต่ทั้งคู่ยังไม่มีบทสนทนาเช่นเดิม

     

    จงฮยอนคว้าคุกกี้ฝีมือคุณนายขึ้นยัดเข้าปากหมดชิ้นแถมยังเคี้ยวเอาเป็นเอาตาย หูขาว ๆ ยังคงรอยแดงจาง ๆ ทั้งยังหันมาขึงตาบวม ๆ ใส่เมื่อเห็นมินโฮส่ายหัว

     

    “มองอะไรวะ! ไม่เคยเห็นคนกินไง!

     

    คือพาลอ่ะ...โอเค๊?

     

    “ถ้าแกเอาเรื่องเมื่อกี้ไปบอกใครนะ...” จงฮยอนคิดหาคำพูดจนหัวหมุนจี๋ “ฉันจะฉุดน้องสาวนายไปปล้ำทำเมีย!

     

    เฮ้ย...

     

    ยังไม่ทันจะอ้าปากพ่นคำด่าอะไรใส่สักคำ คุกกี้ชิ้นโตเป็นอันโดนระเห็จ(ยัด)เข้ามาในปากเขาเป็นที่เรียบร้อยก่อนที่คนทำจะเดินลิ่ว ๆ หายตามคุณนายคิมไปอีกคน

     

    ...

     
     

    “คิม จงฮยอน!!! กลับมาแก้คำพูดเมื่อกี้เดี๋ยวนี้นะเว้ย!!!!!

     

     

    xxxxxxxxxx

     

     

    ทูบีคอนตินิ๊วววววววววว

    วรั้ยยยยยยย ยังวุ่นวายกันไปอีกนานแสนนานค่ะ 5555555
    ยกหน้าเจอกันวันที่ฟ้าสดใส #วันไหนเนี่ย #หัวเราะ
    อย่าลืมนะ...ว่าทริปนรกรอพวกเราอยู่ แอร๊ยยยยยยย



    ShiraTHEME || Shirakuma kuma
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×