ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic No Hero] Gentleman and The Beautiful Beast [อันเซียร์ x โจชัว]

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 4 :: ในคืนพระจันทร์เต็มดวง

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 58



    Chapter 4



    แสงจันทร์สีเงินยวงสาดส่องมายังร่างสองร่างที่ยืนประจันหน้ากันท่ามกลางพื้นหิมะสีขาวโพลน

     

    หนึ่งคือหญิงสาวสูงศักดิ์ที่ยืนเชิดหน้าอย่างถือดี ใบหน้าสวยสะคราญ ดวงตาคมจ้องมองอีกร่างหนึ่งอย่าสาแก่ใจ

     

    อีกหนึ่งคือร่างสูงเพรียวของชายหนุ่มผู้มีผิวกายซีดขาวจนเห็นเส้นเลือดสีน้ำเงินที่แล่นริ้วตามร่างกาย สองแขนแข็งแรงอุ้มร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวคนหนึ่งไว้ ดวงตาสีมรกตคู่นั้นแห้งผากแม้จะแดงก่ำราวกับจะร้องไห้

     

    ท่านทำแบบนี้ทำไมเสียงนุ่มที่ถูกเปล่งออกมาคล้ายจะเป็นตวาด ท่านจะแก้แค้นข้า...ข้าไม่ว่า ทำไมต้องยุ่งกับนาง

     

    เพราะนางคือคนที่เจ้ารักเสียงนั้นหวานทว่ากลับเย็นเยียบไปถึงขั้วหัวใจ ความรักหนอความรัก... ทำให้คนฉลาดตามืดบอด นักปราชญ์กลายเป็นคนโง่เขลา แค่เพราะรักยอมกระทั่งแลกชีวิต

     

    ...

     

    มีความสุขไหมกับชีวิตใหม่ที่นางมอบให้เจ้า

     

    ริมฝีปากงามแสยะยิ้มทั้งพอใจ สาสมและปวดร้าว

     

    น่าเสียดายที่ชีวิตใหม่นี้หัวใจกลับไม่เต้น ร่างกายไร้ความรู้สึก แต่ข้ารู้...ว่าเจ้าจะทรมานกับชีวิตที่เจ้าได้มากเพียงไหนนางหัวเราะ จงเจ็บปวดให้ยิ่งกว่าที่ข้าเคยได้รับ จงเคียดแค้นให้มากกว่าที่ข้าเคยรู้สึก

     

    โจชัว เอนด์เลส จงใช้ชีวิตของนาง จงอยู่กับความทรมานนี้ไปชั่วนิรันดร์เสียเถอะ

     

     

    จันทร์คืนนี้งามนักแต่อันเซียร์นอนไม่หลับ

     

    แผลที่ไหล่ซ้ายของเขาดีขึ้นมาก อันที่จริง...เรียกว่าหายสนิทแล้วยังดีเสียกว่าด้วยฤทธิ์ของน้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเคยสัมผัส ทว่าสิ่งที่รบกวนการนอนของเขาไม่ใช่ความเจ็บปวดของแผล แต่เป็นความฝัน

     

    ฝันประหลาดที่เขาฝันถึงทุกค่ำคืนนับตั้งแต่มาอยู่ที่นี่

     

    ทุกคืนเขามักฝันถึงเหตุการณ์ประหลาด มักได้ยินเสียงพูดคุยของหญิงสาวและชายหนุ่ม บางครั้งเขาได้ยินเสียงร้องไห้และการก่นด่าแต่ทุก ๆ ครั้ง ภาพที่เห็นกลับเลือนรางจนบางครั้งก็หายไปยามที่เขาตื่น ทว่าคืนนี้ไม่ใช่แบบนั้น...เขาจำได้ดีถึงความสาแก่ใจของหญิงสาวคนหนึ่ง และใบหน้าของชายหนุ่มและหญิงสาวไร้วิญญาณในอ้อมแขน

     

    หญิงสาวผู้มีใบหน้าเดียวกับหญิงสาวในภาพวาด

    และชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเดียวกับเจ้าของปราสาท

     

    โจชัว เอนด์เลส...

     

    “ดึกป่านนี้ทำไมยังไม่นอน”

     

    ราวกับรู้ใจ... อันเซียร์หันกลับไปมองร่างสูงเพรียวใต้เงามืดที่แสงจันทร์ส่องไม่ถึง ริมฝีปากได้รูประบายยิ้มอ่อนเมื่อเห็นดอกกุหลาบสีแดงสดในมือขาวซีด

     

    “ถ้าข้านอนแล้วก็คงไม่เจอเจ้า”

     

    อันเซียร์หัวเราะร่วนเมื่อเห็นเจ้าของปราสาทส่ายศีรษะให้อย่างระอาใจในยามที่ร่างเพรียวขยับไปเปลี่ยนดอกกุหลาบในแจกันข้างเตียง ชายหนุ่มกระโดดลงจากระเบียง ขยับเดินเข้ามาใกล้ก่อนคว้าข้อแขนขาวเมื่อมือคู่นั้นละออกจากดอกกุหลาบในแจกัน

     

    แรงกระตุกที่ข้อมือไม่เบานักดึงให้ร่างที่ไม่ทันตั้งตัวเซถลาเข้าไปใกล้

     

    ใกล้มากเสียจนโจชัวอดไม่ได้ที่จะเกร็งตัวขึ้นมาด้วยความระแวดระวัง...

     

    ปลายนิ้วอุ่นร้อนสัมผัสตามโครงหน้าก่อนที่จะผละจากไปคลอเคลียกับกลุ่มผมสีดำสนิทแทน ข้อนิ้วเรียวเกี่ยวปอยผมที่ปรกตามใบหน้าไปทัดข้างหู นัยน์ตาสีเขียวใสเหลือบมองใบหน้าคมเข้มของชายวัยฉกรรจ์เบื้องหน้า รับรู้ได้ถึงระยะที่ใกล้กันจนเกินไปจนต้องเบือนหน้าหนีนัยน์ตาคมกล้าที่มองสบไม่มีหลบ

     

    โจชัวรู้สึกเหมือนก้อนเนื้อที่ตายแล้วในอกเต้นขึ้นมาทั้งที่มันไม่เป็นจริง

     

    อันเซียร์ถือโอกาสสำรวจดวงหน้าเรียวที่เคยแต่พิศมองไกล ๆ เมื่อมีโอกาสได้มองใกล้ ๆ ขนาดนี้คำที่เคยนึกชมอีกฝ่ายในใจอาจจะไม่พอ อีกฝ่ายไม่ได้สวยเหมือนหญิงสาวโฉมงามในความฝันทว่ามีแรงดึงดูด แรงที่ชวนให้ใครก็ตามไม่เป็นตัวของตัวเองเอาง่าย ๆ

     

    “โจชัว...” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วชิดริมหู “มีใครเคยบอกไหมว่าเจ้าสวยมาก...”

     

    มีใครบอกพี่ไหมว่าพี่สวยมาก... สวยกว่าข้าอีก

     

    ประโยคคุ้นเคยดังขึ้นในหัวยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้อง (ทั้งที่เขาไม่หายใจ ?) ไปทุกที ร่างสูงเพรียวถึงได้ขยับออกห่างเพื่อรักษาระยะห่างอย่างเงอะ ๆ งะ ๆ

     

    การกระทำที่อยู่ในสายตาของพรานหนุ่มตลอดเวลาชวนให้อันเซียร์ขยับยิ้มกว้างขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะเอ็นดูหรือว่าอะไรกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนไม่สามารถควบคุมอะไรที่เป็นร่างกายตัวเองได้เลยสักอย่าง โดยเฉพาะก้อนเนื้อที่เต้นอยู่ที่อกด้านซ้าย เขายอมปล่อยมือออกจากข้อแขนเย็น ๆ แต่ โดยดี ทั้งยังไม่วายสำทับด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ “ขอโทษที”

     

    โจชัวไม่ตอบ... ทั้งยังเดินหนี

     

    ทิ้งไว้เพียงความสั่นไหวในอกของคนที่ยังยืนอยู่ที่เดิม

     

     

    xxxxxxxxxxxxxxx

     

     

    ในคืนที่หนาวเหน็บจนถึงขั้วกระดูก...แต่เขากลับไร้ความรู้สึก

     

    พื้นดินตรงนั้นเขาฝังร่างไร้วิญญาณของเธอไว้ --- พร้อมเมล็ดพันธุ์กุหลาบ ที่เธอชอบนักหนา

     

    เขาขุดดินทั้งที่หัวใจที่ไม่เต้นของเขาบีบรัดด้วยความทรมาน กลบดินทั้งที่รู้สึกเหมือนร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตารินไหล กรีดร้อง คร่ำครวญทั้งที่รู้แก่ใจว่าเธอไม่มีทางหวนกลับคืนมา ในหัวมีแต่คำว่าทำไม ทำไมเธอถึงเลือกทางเช่นนี้

     

    เขาเจ็บปวด...เขาไม่ว่า

    เขาทรมาน...เขาไม่สน

     

    แต่กับเธอ --- หญิงสาวที่เขาเฝ้ารักและทะนุถนอม โจชัวหวังเหลือเกินว่าเธอควรมีชีวิตที่ดีต่อให้ไม่มีเขา ควรที่จะจากไปบนเตียงอุ่น ๆ ท่ามกลางลูกหลานมากมายพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า สิ้นใจด้วยความแก่ชราอย่างสงบไม่ใช่เพราะเขา

     

    พื้นดินตรงนั้นเขาดูแล ใส่ใจ ทดแทนช่วงเวลาที่ควรจะมีของเธอ --- จนกุหลาบนั้นงอกงาม ผลิดอกสวยสะพรั่ง

     

    แด่เธอผู้เป็นที่รัก ซาดีนา...

     

     

    เป็นอีกคืนที่อันเซียร์นอนไม่หลับ...

     

    ความชื้นที่ปลายหางตายังคงอยู่ ความหน่วงในอกยังคงชัดเจน ยิ่งอันเซียร์นึกถึงความฝันในค่ำคืนนี้มากเท่าไรดูเหมือนความปวดหน่วงนั้นยิ่งทวีมากขึ้นทุกที

     

    เสียงไม้ปริแตกจากเตาผิงดึงสายตาให้เขาหันกลับไปมอง

     

    ร่างสูงเพรียวในความฝันอยู่ตรงนั้น มือเรียวนั้นเขี่ยฟืนไม้ในเตาผิงเก่า ๆ ให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่อีกฝ่ายจะทิ้งตัวลงที่ปลายเตียงของเขา ดวงตาคู่นั้นสบกับเขาอยู่นานกว่าที่เสียงนุ่ม ๆ จะยอมเอ่ยออกมา

     

    “ลมแรง ไปนั่งตรงนั้นนาน ๆ เดี๋ยวก็ไม่สบาย”

     

    โจชัวขยับยิ้มบางเมื่อพรานหนุ่มยอมขยับเข้ามาจากระเบียงแต่โดยดี ร่างสูงสะโอดสะองนั้นขยับเข้ามาใกล้ก่อนที่จะทิ้งตัวอยู่เคียงข้างกับเขา โจชัวขยับออกห่างเล็กน้อยเพื่อรักษาระยะห่าง ไออุ่นจากร่างกายอีกฝ่ายเป็นอะไรที่เขาไม่ชินเอาเสียเลย

     

    แม้ว่ามันอุ่นจนลามมาถึงหัวใจเขาด้วยก็ตามที

     

    อันเซียร์มอง --- อดรู้สึกไม่ได้ว่าดวงตาสวย ๆ ของอีกฝ่ายเหมือนจะทาบทับด้วยความเศร้าตลอดเวลา

     

    “เต้นรำกัน”

     

    อันเซียร์โพล่งขึ้นมาในความเงียบ

     

    โจชัวอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงแปลกประหลาดออกไป แต่เมื่อสายตาสบเข้ากับดวงตาคมกล้าที่จ้องมองมาก่อนเขาถึงรับรู้ว่าอีกฝ่ายเอาจริง

     

    อันเซียร์เม้มริมฝีปากด้วยความไม่รู้ตัว ชายหนุ่มไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำไมถึงกล่าวแบบนั้นออกไป สิ่งที่วนเวียนอยู่ในหัวมีเพียงภาพความทรมานของเจ้าของปราสาทในความฝัน กับจิงจี๋...

     

    จิงจี๋ชอบเต้นรำหรือ ?เขาจำได้ว่าเคยเอ่ยถามเธอเมื่อนานมาแล้ว

     

    ไม่ใช่เด็กสาวปฏิเสธเสียงใส ข้าชอบเต้นกับพี่ต่างหาก

     

    ทำไมล่ะ ?’

     

    ข้ารู้สึกดี รู้สึกดีมาก ๆ สาวเจ้าว่า เวลาที่ข้าไม่สบายใจแล้วได้เต้นกับพี่ มันเหมือนพี่กำลังปลอบข้าอยู่เลย

     

    เสียงหัวเราะแผ่ว ๆ ดังมาจากร่างข้างกาย

     

    อันเซียร์เลิกคิ้ว ทั้งประหลาดใจแต่ก็อดดีใจไม่ได้เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ชายหนุ่มคว้าแขนเรียวก่อนจะออกแรงดึงให้อีกฝ่ายลุกขึ้นยืนตาม สบโอกาสที่จะสาวเท้าเข้าประชิดตัว

     

    อีกแล้ว... เข้าใกล้อีกแล้ว...

     

    โจชัวเหลือบตามองร่างสูงสะโอดสะองที่ยืนอยู่ชิดจนแทบจะหลอมเป็นร่างเดียว ช่วงนี้เหมือนเขาใกล้ชิดอีกฝ่ายบ่อยมากเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นไออุ่นจากอีกคนก็ทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่ทุกครั้งไป

     

    “เจ้าเต้นผู้หญิงเป็นหรือ ?”

     

    อันเซียร์ไม่ตอบแต่ว่าคว้ามือของเขาไปวางไว้บนเอวตัวเองแทนทั้งยังวิสาสะวางมือใหญ่นั้นลงบนไหล่เขาเสียด้วย อีกมือหนึ่งประคองมือเรียวขึ้น กระชับมั่น

     

    “อย่าเกร็ง” เสียงทุ้ม ๆ กระซิบชิดริมหูเมื่อสัมผัสได้ถึงอาการเกร็งตัวจากเจ้าของปราสาทคนงาม “ปล่อยตัวตามสบาย ไม่มีอะไรต้องกลัว”

     

    เท้าสองคู่ค่อย ๆ ขยับเป็นจังหวะ

     

    เงอะ ๆ งะ ๆ บ้างในยามแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ดีขึ้น

     

    โจชัวหลับตาลง ระยะใกล้แค่นี้ยิ่งทำให้เขาได้ยินชัดว่าอีกฝ่ายใจเต้นเร็วมากขนาดไหน เป็นเครื่องยืนยันว่าไม่ใช่แค่เขาที่เป็นฝ่ายประหม่าจนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกไป

     

    “หัวใจเจ้า...” เสียงที่หลุดออกมาแทบเป็นเสียงกระซิบ “เต้นเร็วมาก...”

     

    “ไม่แปลกหรอก” อันเซียร์ตอบกลับ น่าแปลกที่ใจเต้นเร็วขนาดนี้แต่น้ำเสียงยังคงมั่นคง ชายหนุ่มขยับยิ้มอ่อนโยนที่ชวนให้อีกฝ่ายที่ทอดมองอยู่ตาพร่ามัว

     

    “เวลาอยู่กับเจ้า...มันไม่แปลกหรอก”

     

    โจชัวเม้มริมฝีปากแน่น แม้ว่าร่างกายจะค่อย ๆ ผ่อนคลายลง

    แต่เขารู้สึกเหมือนมีผีเสื้อนับร้อยตัวบินวนเวียนอยู่ภายในท้อง

     

    ท่ามกลางแสงจันทร์สีเงินยวง ร่างสองร่างนั้นขยับเคียงคู่กันไปอย่างเชื่องช้า

     

     

    xxxxxxxxxxxxxxx

     

     

    ไออุ่นที่รายล้อมอยู่รอบตัวนั้นไม่คุ้นชินเอาเสียเลย

     

    เปลือกตาบางกระพริบเปิดอย่างเชื่องช้า ภาพแรกที่ปรากฏสู่สายตาคือริมระเบียงสีนวลที่ตัดกับผืนฟ้าสีเข้มที่ขอบฟ้าทอประกายสีอ่อน บ่งบอกถึงเวลายามรุ่งสาง สิ่งต่อมาคืออ้อมแขนแข็งแรงที่โอบกระชับอยู่รอบกายรวมถึงผ้านวมผืนหนาที่ถูกเนรเทศลงจากเตียงมาอยู่ข้างเตียงเสียแทน

     

    ถัดมาคือเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของพรานหนุ่ม รวมถึงใบหน้ายามหลับใหลที่โจชัวเคยเห็นมากี่ครั้งไม่รู้ต่อกี่ครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่ได้ใกล้ชิดเท่าครั้งนี้...

     

    ในความมืดนั้น...โจชัวยิ้ม

     

    กี่สิบกี่ร้อยปีมาแล้วที่เขาไม่เคยหลับในยามที่พระจันทร์อยู่บนท้องฟ้า

    ไม่เคยหลับพร้อมไออุ่นที่รายล้อมอยู่รอบกาย

    ไม่เคยหลับโดยที่มี คน ตระกองกอดเขาอยู่

     

    โจชัวอดรู้สึกไม่ได้ว่าบางครั้งสิ่งที่เขารอคอยกำลังจะมาถึง

     

    หนทางดำมืดที่กัดกินหัวใจเขาเป็นเวลานานอาจกำลังจะสิ้นสุดลง

     

    แค่นึกถึงหัวใจพลันอุ่นวาบแต่ก็บีบรัดในครั้งเดียวกัน

     

    “ขอบคุณนะ...”

     

    ความว่างเปล่าข้างกายฉุดรั้งสติให้คืนมา...

     

    อันเซียร์ขมวดคิ้วยามที่สองแขนทำได้เพียงโอบกระชับความว่างเปล่า ชายหนุ่มลืมตาขึ้นเพื่อพบว่าร่างข้างกายที่เคยนอนหนุนกันมาทั้งคืนได้อันตรธานหายไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงผ้านวมผืนหนาที่โอบรอบสองร่างให้ผ่านพ้นความหนาวเหน็บยามค่ำคืนเอาไว้

     

    ผ้านวมผืนหนาถูกกระชับเข้าจนไม่เหลือช่องว่างที่เคยมี

     

    เสียงนกร้องดังทำนองต้อนรับวันใหม่แว่วอยู่ลิบ ๆ ขณะที่ขอบฟ้าค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีทอง บรรยากาศรอบข้างค่อย ๆ สว่างขึ้นเป็นลำดับ อันเซียร์ทิ้งศีรษะลงพิงขอบเตียง นอนมองธรรมชาติเบื้องหน้าอยู่นาน

     

    ริมฝีปากขยับยิ้ม

     

    ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง...

     

     

    xxxxxxxxxxxxxxx

     

     

    Talk

    แอ๊ะ กลัวคนอ่านจะงงจังเลยค่ะ

    อนึ่งว่าตัวเราเองยังไม่รู้เลยว่าเขียนอะไรลงไป

    แฮ่ ต้องขอโทษไว้ตรงนี้ด้วยนะคะ

     

    ป.ล. ถึงอย่างนั้นก็ยังหวังว่าคนอ่านจะยังมีความสุขกับการอ่านเรื่องนี้นะคะ

     

    ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ;]]

    #โค้ง

    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×