คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ : จัดร้าน
ในวันที่ดวงตะวันอยู่เหนือหัวได้สาดแสงเจิดจ้าในมุมตั้งฉากเปรียบเสมือนเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ และดูท่าทางจะคิดว่าเป็นประโยชน์ ใช่! มันเป็นประโยชน์ แต่บางทีก็มากเกินความจำเป็น จนอดคิดไม่ได้ว่ากำลังประชดประชันอยู่
อากาศร้อนระอุจนแทบทอดไข่ดาวกลางถนนได้ ผู้คนส่วนใหญ่ต่างมีทางเลือกและตัวช่วยมากมายที่สามารถลดระดับอุณหภูมิร่างกายหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นดื่มน้ำเย็นๆ เปิดพัดลม หรือไปเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า แต่มีส่วนน้อยที่จะอดทนต่อสู้กับมัน
“แกคิดดีแล้วเหรอวะ ที่มาจัดร้านในวันร้อนๆ แบบนี้” ชายหนุ่มตั้งคำถาม พร้อมแหงนหน้ามองท้องฟ้า แต่แดดจ้าจนต้องเอามือมาบังไว้ พลางคิดในใจว่าทำไมถึงต้องมาเป็นส่วนน้อยด้วย
คนถูกถามไม่ตอบอะไร ได้แต่ก้มหน้าก้มตาหยิบสิ่งของจากในลังทีละชิ้นขึ้นมาวางไว้บนเคาน์เตอร์อย่างระมัดระวัง
ชายที่ตั้งคำถามเมื่อตะกี้ รีบเดินเข้ามาในร้านพร้อมของกระจุกกระจิกในอ้อมแขน เพราะทนแสงแดดไม่ไหว แต่คิดผิดถนัด
ถึงกระจกบานใสจะช่วยทำให้ทัศนียภาพภายในร้านดูกว้างขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยให้อากาศภายในร้านเย็นลงแต่อย่างใด กลับทำให้ร้อนหนักยิ่งกว่าเดิม ไม่ต่างจากไมโครเวฟ แต่ทำอย่างไรได้ อยู่ข้างนอกมีแต่เสียกับเสีย เผลอๆ อาจได้มะเร็งผิวหนังเป็นของกำนัลก่อนเปิดร้าน
“ถามจริงเถอะ แกไม่ร้อนบ้างเลยรึไง ข้าร้อนจะแย่อยู่แล้วเนี่ย” ชายหนุ่มวางของไว้บนพื้น แล้วรีบขยับคอเสื้อเร็วๆ ตามสัญชาติญาณ เผื่อช่วยระบายอากาศได้บ้าง ก่อนจะสุกไปมากกว่านี้
คำตอบที่ได้มีแต่สายตาตำหนิติเตียน เขาจึงถอนหายใจจนไหล่ห่อเหี่ยว ก่อนจะช่วยจัดของตามที่วางแผนไว้ก่อนหน้านี้
คิดในแง่ดี อย่างน้อยก็ยกของเข้ามาไว้ในร้านหมดเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่จัดของภายในร้านให้เสร็จเท่านั้น ยังดีที่จัดเฟอร์นิเจอร์เสร็จตั้งแต่เมื่อวาน ถึงแม้จะมีทั้งพัดลมติดผนังกับเครื่องปรับอากาศพร้อมทำงานเพียงแค่กดปุ่มเดียว แต่ยังเปิดไม่ได้ ขืนเปิดตอนนี้ มีหวังได้กินฝุ่นจนอิ่มแน่ๆ
“มาช่วยกันยกหน่อยสิ” เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มเรียกอีกฝ่ายที่กำลังระบายความร้อนให้มาช่วยกันยกเครื่องบดกาแฟ รวมถึงตู้กระจก และอื่นๆ อีกมากมาย จนกระทั่งทั้งสองจัดเสร็จ ก็เริ่มดำเนินการปัดกวาดเช็ดถูทุกอย่างในร้านจนสะอาดสะอ้าน ชนิดมองเห็นเงาตัวเองบนพื้นได้ ส่วนฝุ่นกับหยากไย่ย่อมไม่หลงเหลืออยู่ให้รำคาญหูรำคาญตาอย่างแน่นอน ทุกอย่างดูเรียบร้อยดี ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาไปมากพอสมควร
“ฮู่ว~ เสร็จซะที” ชายหนุ่มปาดหน้าผากขับไล่หยาดเหงื่อ “จากนี้จะทำอะไรต่อ”
“ไม่มีอะไรแล้ว กลับบ้านได้เลย” ช่างเป็นคำตอบที่ทำหัวใจชุ่มชื้นมาก แต่ไม่วายกำชับคำสั่งกลายๆ “เปิดร้านอีกทีพรุ่งนี้”
ชายหนุ่มเบิกตากว้างด้วยความแปลกใจ แต่ไม่คิดจะถามพร่ำเพรื่อ “งั้นกลับก่อนนะ”
ทั้งร้านมีแต่ชายหนุ่มเพียงคนเดียวบนเก้าอี้สักตัวในร้าน สายตามองทอดไปยังถนนใหญ่ เหม่อลอยเหมือนคิดอะไรบางอย่าง
“จากนี้ไปจะเป็นยังไง...” คำพูดเบาบางที่มีแต่เขาเท่านั้นจะได้ยิน ก่อนหลับตาลงและจมดิ่งในห้วงความคิด
ความคิดเห็น