ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โปรแกรมหรรษา

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 7 ส่งงานและรับออเดอร์

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 49


    ณ.ห้องรับแขก

    มีผู้ชาย 2 คนแต่งตัวดี มีภูมิฐาน ใส่สูทผูกไทด์ คนนึงอยู่ในช่วงวัยกลางคน ดูเหมือนเป็นหัวหน้างานหรือเจ้าของกิจการ อีกคนดูเป็นวัยรุ่นพอ ๆ กับส้มจีน ดูเป็นผู้ช่วยหรือเลขาชายวัยกลางคน

    ส้มเดินเข้ามาในห้องรับแขกแล้วเดินมายังโซฟาอีกตัวที่เหลือ แล้วพูดว่า

    "นี่คะ งานที่คุณต้องการ"

    "เท่าไรครับ"

    ชายวัยกลางคนถามส้มจีน

    "ก้อที่ตกลงกันไว้ก้อ 500,000 ไม่รวมค่าติดตั้ง ซ่อมบำรุง 6 เดือนคะ แต่ถ้ารวมด้วยก้อ 950,000 คะ"

    "ตกลงครับ งั้นผมเขียนเช็คให้คุณล่วงหน้า คุณเบิกได้ในเดือนหน้าเหมือนเดิมนะครับ"

    "ตกลงคะ แล้วไม่ทราบว่ามีงานใหม่หรือเปล่าคะ"

    "อ้อ มีครับเกือบลืม สมพงศ์อธิบายให้คุณส้มฟังหน่อย"

    "ครับ คือทางบริษัทต้องการให้คุณผลิตเกมตัวใหม่ โดยที่สอดแทรกข้อมูลการขายและการตลาดลงในเกม โดยที่คุณนำเอกสารนี้เป็นข้อมูลได้เลยครับ พร้อมทั้งในเอกสารนี้ยังมีรูปแบบหน้าจอ พร้อมลักษณะตัวละครให้คุณพร้อมแล้วครับ"

     

    พูดเสร็จก้อส่งซองเอกสารสีน้ำตาลให้ส้มจีน

    หลังจากที่เจรจาตกลงกันเสร็จสรรพว่า นัดส่งงาน 1 ปี ราคา 1,000,000 พร้อมติดตั้งและซ่อมบำรุง 6 เดือน โดยส่งตัวอย่างงานในอีก 5 เดือนข้างหน้า

     

    จากนั้นส้มก้อพาเหมยไปทานข้าว กลับมาแล้วก้อนึกถึงเรื่องไปเที่ยวที่เมืองยุทธจักร จึงถามว่า

    "เหมยบ่ายนี้ว่างไหม พี่อาจพาไปเที่ยวอ่ะ"

    "ก้อว่างอ่ะ ทำไมหรอจาไปไหนหยอคะ"

    "ก้อขอพี่ดูงานก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยบอกล่ะกาน"

     

    หลังจากกินข้าวเสร็จกลับบ้านแล้ว ส้มก้อตรงดิ่งไปยังห้องของตน แล้วไปถามนาช่าว่า

    "นาช่า อยู่ไหม"

    "ครับนายหญิง"

    "ขอถามหน่อยสิ ว่าฉันพาน้องสาวฉันไปด้วยได้ไหม ฉันยังไม่ได้ชมสวนแล้ว แล้วขอไปยังจุดเดิมได้ไหม"

    "ได้สิครับก้อ โปรแกรมจะหยุดเวลาไว้หากผู้เล่นออกจากเกมจนกว่าผู้เล่นจะเข้าไปสู่เกมน่ะขอรับ"

    "งั้นเดี๋ยวฉันไปเรียกน้องมาก่อน นายก้อเตรียมเกมไว้ให้ฉันล่ะกัน"

                                    "รับทราบคำสั่งครับนายหญิง"

     

    จากนั้นเหมยก้อพาน้องมายังห้องและเข้าไปสู่เกม โดยที่เหมยไม่ทันตั้งตัว

     

    วิ๊ง ๆๆๆๆ

     

    ณ.สำนักสำนึกกระบี่ ป่าบริเวณนอกสำนัก

    "โอ๊ย เจ็บจัง พี่ส้มนี้ที่ไหน แล้วมันอะไรกานอ่ะ เหมยงงไปหมดแล้ว แล้วคนข้าง ๆ กะคนที่พี่พูดด้วยในห้องใครกัน เหมย งงอ่ะ"

     

    "คืองี้เหมยน้องรัก คอมพิวเตอร์ที่พี่ซื้อน่ะ ....."

    ส้มจีนก้ออธิบายจนกระทั่ง

    "นี่พวกเจ้ายังไม่ได้ธุระของพวกเจ้าอีกหรอแล้วนั้นใครกันล่ะ"

    นาช่าหันไปพบกับหวี่ยู่ ได้ยินจึงตอบแทนไปว่า

    "ขอพวกข้าทำธุระเสร็จแล้ว แล้วนี่นายหญิงน้อยของข้าขอรับนายท่าน"

    "อ้อ"

    ยังไม่ทันที่จะได้คุยอะไรกันมากหวี่หยาก้อวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาหวี่ยู่แล้วร้องว่า

    "แย่แล้วพี่ใหญ่ แย่แล้ว พวกสำนักอีต้า มาหาเรื่องเราอีกแล้ว ครั้งนี้มานบอกว่า แฮ่ก ๆๆๆ บอกว่า แฮ่ก ๆๆ"

    "อะไร ใจเย็น มันบอกว่า แฮ่ก ๆ ๆ เนี้ยอะไร คืออะไร"

    "เปล่าข้าเหนื่อย พวกมันบอกว่า ศิษย์สำนักเราเข้าไปยุ่งเรื่องของพวกมันในเมืองน่ะ แฮ่ก ๆ ทำไงดี ท่านพ่อกับท่านแม่ก้อไปเมืองหลวงน่ะ ทำไงดี"

    "เดี๋ยวข้าจัดการเอง เจ้าพาพวกแม่นางเหล่านี้ไปห้องพักก่อนดีกว่า เดี๋ยวข้าจัดการเสร็จแล้วจะพบพวกนางเอง"

    "ได้ แต่พี่ใหญ่ต้องระวังตัวด้วยนะ"

    "ได้ ข้ารู้แล้ว"

     

    ณ.ห้องโถงของสำนัก

     

    "ไง ไอ้หน้าอ่อน ขี้สำอางค์แล้วพ่อกับแม่ของเจ้าอยู่ไหนล่ะ ไสหัวออกมาสิ พวกเจ้าชอบใช่ไหมไอ้พวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน"

    ชายที่ดูเป็นหัวหน้าสาขาของสำนักกล่าววาจาลบหลู่และแสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก

     

    "ท่านพ่อท่านแม่ข้าไม่อยู่ ไม่ทราบว่าคนของข้าไปทำอะไรพวกเจ้าล่ะ ถึงได้เห่าหอนถึงที่นี้ได้"

    เมื่อหวี่ยู่เดินเข้ามาในห้องโถงก้อเห็นชาย 3-4 คนยืนอยู่กับศิษย์ในสำนักตนอย่างประจันหน้า หวี่ยู่เหลือบมองไปเห็นท่าทางของชายที่ลักษณะคล้ายหัวหน้าสาขาอีกฝ่ายจึงตอบอย่างกวนโทสะฝ่ายตรงข้าม

     

    "นี่เจ้า !!! "

    ว่าพลางก้อเสือกแทงกระบี่มายังหวี่ยู่  แต่หวี่ยู่ไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวแต่กลับเพียงแต่ยื่นกระบี่อย่างช้าๆ ไปข้างหน้าจากนั้นก้อค่อย ๆ ม้วนข้อมืออย่างช้า  ๆ พร้อมกับขณะที่อีกฝ่ายแกว่งกระบี่กวัดไกวเข้ามาในวงรัศมีของกระบี่เอง ทำให้กระบี่ของหวี่ยู่ม้วนเข้ากับกระบี่ของอีกฝ่ายทำให้อีกฝ่ายมีความรู้สึกว่าพลังของตนนั้นถูกดึงดูดไว้ไม่สามารถไปต่อได้ จึงเตะเท้าเข้าใส่แทน หวี่ยู่จึงใช้มืออีกข้างแผ่พุ่งพลังเข้าใส่เท้าของอีกฝ่ายอย่างถนันถนี่ ทำให้อีกฝ่ายกระเด็นจำต้องปล่อยมือจากกระบี่ของตน

     

    หวี่ยู่เห็นดังนั้นจึงร้องคำรามในลำคอ ฮึม ๆ อย่างรู้สึกสมเพชอีกฝ่าย ที่เป็นผู้ใหญ่กว่าแต่กลับสู้ตนไม่ได้ แต่อีกฝ่ายกลับแพ้แล้วพาลจึงพูดว่า

    "พวกเจ้าเป็นอะไรเล่า ยืนเซ่ออยู่ทำไม ทำไมไม่รุ้มมันเล้า"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×