ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตามรัก จอมใจราชันย์

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 : ภาค เมืองฮิบรู

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 52


    />

    ณ.  ประเทศอียิปต์ ปี 190

     

    มีฟาโรห์รูปงาม ร่างกายกำยำสีผิวเหลืองคล้ำพองาม หาได้คล้ำกร้านแดดไม่ นาม ซูโมอัส  มีพระชนม์มายุ 24 ชันษาเป็นกษัตริย์ที่เรืองอำนาจไม่มีอาณาจักรใดสามารถต่อกรได้ ฟาโรห์ มักออกรบประจำเพื่อขยายอาณาเขตดินแดนออกไปจนอาณาจักรอียิปต์ไร้ผู้ต่อต้าน

    แต่แปลกที่ฟาโรห์องค์นี้ทรงเก่งกาจ แต่กลับหามีชายาคู่ใจ อาจเพราะทรงออกรบเพื่อความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรตั้งแต่พระองค์อายุได้ 13 ชันษา พระองค์มักทรงออกรบร่วมกับพระบิดาจนพระองค์อายุได้ 18 ชันษา ฟาโรห์องค์บิดาก็ทรงสิ้นในสนามรบ ฟาโรห์ซูโมอัส จึงได้เป็นฟาโรห์แทนพระบิดา แต่แล้วพระองค์ยังทรงออกศึก อยู่เสมอ โดยให้เสนาบดี อีเฮนัพ ดูแลบ้านเมืองแทน อีเฮนัพ ก็จงรักภักดีเสมอมา ท่านเป็นเสนาบดีถึง 2 สมัย ช่วยพระองค์ดูแลบ้านเมืองให้อยู่ในความสงบ บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข                เวลาออกรบพระองค์จะมีพ่อหมอนาม ซีนัพอู และองครักษ์ฮามินรู ที่เป็นพระสหายแต่วัยเยาว์และองครักษ์ประจำพระองค์ ไปกับพระองค์เสมอจนเหล่าทหารและผู้ติดตามแอบซุบซิบกันว่า องค์ฟาโรห์และราชองครักษ์ฮามินรูเป็นคู่รักกัน เพราะทั้งสองมักจะอยู่ด้วยกันเสมอ บางคราจะมีพ่อหมอซีนัพอู อยู่ด้วย

     

    ณ.ค่ายกระโจมของกองทัพแห่งฟาโรห์ ซูโมอัส ในเพลาหลังอาหารเย็นระหว่างที่รอหน่วยลาดตระเวนมารายงาน

    พระองค์ ทรงนั่งดูนางระบำเชลยที่เพิ่งจับมาได้จากเมืองฮีบรู อย่างทรงเบื่อหน่าย ซึ่งพระองค์กำลังนั่งท้าวแขนข้างซ้ายกับพนักแขน แล้วทรงท้าวหัวของพระองค์กับต้นแขนซ้าย พ่อหมอ ซีนัพอูวัย 50 ปี รูปร่างค่อนข้างใหญ่ สมบูรณ์ร่างชายผู้หนึ่งได้พานางผู้นึงที่ปิดโฉมหน้าครึ่งใบเหลือเพียงดวงตาทั้งยังสลบไสลเข้ามายังกระโจม นางนั้นมีลักษณะทรวดทรงอวบอิ่มเต็มเนื้อสาวค่อนไปทางเจ้าเนื้อ ผิวสีขาวเหลืองใส นวลเนียนดังเทพี อายุราว ๆ 20 กว่าๆ ปี สีผิวมิคล้ายคนอียิปต์เหมือนนางเป็นชาวต่างชาติแอบเอเชียมากกว่า ได้ถูกนำมาวางไว้ที่หน้าพระพักตร์ก่อนขึ้นเฝ้าฟาโรห์ ฟาโรห์จึงยกแขนข้างทำท่าให้พวกนางรำออกจากกระโจมไป พ่อหมอพอเห็นผู้คนออกไปจนหมดแล้ว จึงกราบทูลฟาโรห์ว่า

    กราบทูลฝ่าบาทข้าจับของดีมาได้ชิ้นหนึ่ง นางนี้คือ นางแม่หมอ ของอาณาจักรฮีบรูแห่งนี้ หากอาณาจักรขาดนางซึ่งชี้นำแล้วไซร้ ก็ไม่ต่างจากบ้านข้าทาสทั่วไปหรอกฝ่าบาท

    เออ อย่าหาว่าข้าดูแคลนเจ้า หากนางเป็นแม่หมอดังคำเจ้า แล้วเหตุใด เจ้าจึงสามารถจับนางกลับมาได้เล่า นางแม่หมอทุกผู้ล้วนเก่งกล้ามิใช่หรอ

    จริงดังฝ่าบาทกล่าวมา เพียงแต่ข้าได้แอบล่อลวงให้นางดื่มยาของกระหม่อม และในยานั้นกระหม่อมได้วางยามนตราการหลับใหลแก่นาง มิสามารถมีผู้ใดล่วงรู้ว่าในนั้นมียา หากนางรู้ล่วงหน้า นางจะรู้เพียงแต่ว่าจะมีเคราะห์จากอาหารเพียงนั้น ซึ่งข้าสืบมาว่านางนั้นทำงานได้ภายในเวลาเพียง 1 เดือนก็สามารถทำให้ขุนนางที่ไม่ภักดี ที่คิดปองร้าย ฟาโรห์ อาฮูรูจนหมดสิ้นนี้เพียงแค่นางเข้ามาช่วยฟาโรห์อาฮูรูได้เพียง 6 เดือนเองพ่ะย่ะคะ

    อ้อ แล้วเจ้าจะให้ข้าทำเช่นไรกับนางเล่า

    สุดแต่พระองค์ พ่ะย่ะคะ นางเก่งกาจจริง แต่นางกลับกลัวสิ่ง ๆ หนึ่งเช่นเดียวกับข้าพระองค์ที่เกรงกลัว   พระธำมรงค์ (แหวน) ที่พระดรรชนี (นิ้วชี้) ของพระองค์พ่ะย่ะคะ

    อ้อ อันใดเล่า ที่นางนั้นกลัวนักหนา

    คือ กำไรคู่นี้พ่ะย่ะคะ หม่อมฉันใช้เพลาถึง 5 ราตรี กว่าจะนำกำไรนี่มาจากฟาโรห์ อาฮูรูได้ หากพระองค์อยากเป็นเจ้าของนางนั้นไซร้ ให้สวมกำไรนี่ นางก็จะไม่สามารถเป็นภัยต่อพระองค์ อีกทั้งยังปกป้องพระองค์ดังเป็นสัญชาตญาณของนางเอง โดยพระองค์ต้องกล่าวคำมนต์บทหนึ่ง แล้วนางจะไม่มีสามารถใช้มนต์อำนาจใด ๆ ต่อพระองค์ได้ จนกว่าจะพระองค์จะพูดบทมนต์อีกบทเพื่อถอนมนต์ เช่นเดียวกับกระหม่อม ซึ่งกระหม่อมคาดว่านางก็คงมาจากสำนักเดียวกับกระหม่อม

    อ้อ หรอ ปลดผ้าคลุมหน้านางออกสิ

    พ่ะย่ะคะ

     

    พ่อหมอปลดผ้าคลุมหน้านางออก นางนั้นสวยงามดังรูปเทพีโซฟีหรือเทพธิดาปรากฏอยู่ตรงหน้า หน้าตาของนางมองพิศ ยิ่งเหมือนคนเอเชียมากกว่าเป็นคนอียิปต์ ฟาโรห์ถึงกลับคราง

    อือ

     

    ฟาโรห์ พระองค์ถึงกับต้องทรงเงยพระเนตร(ตา) เพื่อเพ่งพินิจมองนางถึงอยู่ช่วงเพลาหนึ่ง

    ฟาโรห์เริ่มสนใจในตัวนาง พระองค์รับสั่งถามว่า

    ซีนัพอู มนต์ทั้งสองบทนั้นกล่าวว่าอย่างไร

    ขอประทานอภัยพระองค์พ่ะย่ะคะ

     

    แล้วพ่อหมอ ซีนัพอูก็เดินเข้าไปข้างพระกรรณ(หู)ของฟาโรห์กระซิบให้ฟาโรห์ได้ยินเพียงองค์เดียวว่า

    หากพระองค์ต้องการให้นางรับใช้จริงให้สวมกำไลคู่นี้ กับ ข้อพระหัตถ์ (ข้อมือ) แล้วท่องมนต์ตามนี้ว่า 

    ข้าแต่เทพไท้อนูบิส ข้าประสงค์ให้นางอยู่ข้างกายข้า เซอูลา ปาปากาลู   

    หากแต่พระองค์มิต้องการหาใช้นางแล้วไซร้ให้ทรงตรัสคำมนต์ที่ว่า

    ข้าแต่เทพอนูบิส ข้าเกลียดชังซึ่งนางนี้ไซร้ ขอปลดพันธนาการที่ผูกมัดไว้ณในบัดดล    เซปาลู ฮากาซีนัพ

     

    พ่อหมอส่งกำไรทั้งคู่แก่ฟาโรห์ ซูโมอัส 

    อือ

     

    นางที่ทุกผู้กำลังเพ่งจ้องมอง นางลืมตาสีมรกตดังอัญมณีขึ้นมองกวาดตาโดยรอบ แล้วนางก็เหลือบเห็นพ่อหมอที่ล่อลวงนางให้ดื่มน้ำใส่ยาแก้วนั้น นางถึงกับลุกขึ้นร้องด่าว่า

    แก ไอ้ชั่วบังอาจมาวางยาต่อข้าได้ เฮซูนัพ ฮับตาเย

     

    แล้วนางก็ร่ายมนต์ใส่พ่อหมอทันที พ่อหมอที่ไม่ทันระวังตัว ถึงกับต้องมนต์สะบัดจนกระเด็นกระแทก    ม้วนลำตัวใส่โต๊ะอาหารที่อยู่ด้านข้างจนโต๊ะ แตกกระจาย ฟาโรห์เห็นเช่นนั้น แววพระเนตรมีแววสะดุ้ง แต่ภายหน้าหามีปฏิกิริยาใด ๆ ไม่ พระองค์ต้องการช่วยข้าทาสของพระองค์ จึงได้ทรงตวาดว่า

    หยุดมือได้แล้ว

     

    นางได้ยินก็ชะงักไปชั่วขณะ ทหารเห็นเข้าจึงเข้ารวบตัวไว้

    ฟาโรห์หนุ่มทรงหันทหารรวบตัวนางไว้ถนัดแล้ว จึงตรัสถามออกไปว่า

    เจ้ามีนามว่ากระไร

    เจ้าเป็นผู้ใด มีสิทธิ์อันใดมาถามนามแห่งข้า

     

    พ่อหมอและขุนนางต่างพากันตกใจใหญ่ ที่จู่ ๆ หญิงนางนี้บังอาจมาตะโกนถามฟาโรห์ของตนเช่นนี้ องครักษ์ประจำตัวของฟาโรห์นาม ฮามินรู รูปร่างสมชาย ชาตรี ผิวสีคล้ำวัย 25 ปี ตวาดกลับไปว่า

    บังอาจ เจ้ามิรู้รึว่า ท่านคือผู้ใด ท่านนั..

    เหอะ มีรึข้าจะมิรู้ ผู้ใหญ่หยิ่งแห่งอาณาจักรอียิปต์ อันเกรียงไกร กษัตริย์ฟาโรห์ซูโมอัส ผู้กระหายสงคราม

     

    ฟาโรห์ได้ยินก็ทรงแย้มปรางโอษฐ์(มุมปาก) ตรัสว่า

    เมื่อเจ้ารู้แล้วเหตุใด เจ้าถึงกล่าวหาว่าข้ามิมีสิทธิ์ถามชื่อเจ้า

    มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะถามข้าได้คือนายแห่งข้า องค์ฟาโรห์อาฮูรู เท่านั้น

    อ้อ เจ้าคงหมายถึง เจ้าของกำไรคู่นี้ใช่หรือไม่

     

    นางแม่หมอเงยหน้ามองที่พระหัตถ์ของฟาโรห์ ฟาโรห์หนุ่มโชว์กำไลให้นางเห็นอีกทั้งยังทรงเขย่า    กำไลเล่น เมื่อนางเห็นแล้วถึงกับหน้าซีดเผือกถอดสีเสียในบัดดล อ้าปากหวอออกมาทีเดียว เมื่อฟาโรห์หนุ่มเห็นดังนั้น  ก็ทรงยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วทรงสวมทองพระกร ทั้งสองข้างแล้วทรงตรัสคำมนต์ดังว่า

    ข้าแต่เทพไท้อนูบิส ข้าประสงค์ให้นางอยู่ข้างกายข้า    เซอูลา ปาปากาลู

     

    ประโยคหลังทรงตรัสอย่างไร้เสียง และแล้วแสงสีเขียวดังสีของอัญมณีมรกตบนทองพระกร(กำไล)ก็อาบร่างของนางและฟาโรห์ นางถึงกับทรุดลงพื้นในพลัน ฟาโรห์ทรงแย้มปรางโอษฐ์อีกครั้ง ทรงตรัสถามนางอีกคราว่า

    แล้วตอนนี้นายของเจ้าคือข้า ทีนี้เจ้าจะบอกกล่าวนามของเจ้าแก่ข้าได้หรือยัง แม่หมอสาว

     

    นางพยายามลุกขึ้นแล้วกล่าวอย่างโกรธแค้นว่า

    เฮ้ย ก็ได้ หากเจ้าสามารถเอาชนะข้าได้

    เช่นไร

    ต่อสู้

    ได้

     

    เมื่อพระองค์ทรงเสด็จมายังเบื้องหน้านาง นางสะบัดตัวจนเหล่าทหารไม่สามารถจับนางได้ เหล่าทหารเตรียมเข้าไปจับตัวนางอีกครา ฟาโรห์ทรงยกพระหัตถ์ห้าม เมื่อนางตั้งตัวได้ก็สำรวจท่าทีของฟาโรห์ทันทีว่าพระองค์มีจุดอ่อนที่ตรงใดบ้าง แล้วนางก็จัดการเข้ากระโจนใส่พระองค์ทันที ฟาโรห์หนุ่มม้วนตัวแล้วเริ่มจู่โจมใส่นางทันทีเช่นกัน  แล้วทั้งสองก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ พอฟาโรห์จะทุ่มนาง โดยรัดตัวนางไว้เตรียมพร้อมที่จะทุ่มนางเมื่อได้จังหวะ แต่แล้วนางก็เกร็งขาตั้งตัวไว้แล้วทำการทุ่มฟาโรห์แทน โดยเอาพระวรกาย(ตัว)ของฟาโรห์ไว้ด้านล่างแต่แล้ว ฟาโรห์หนุ่มกลับคว้าศรีษะนางไว้แล้วหอมนางแทน นางตกใจรีบลุกขึ้นมาแล้วตบ   พระพักตร์(หน้า)ฟาโรห์ดัง เผียะ

    นางโกรธจัด เข้าล็อคพระพาหุ(แขน)ของฟาโรห์โดนหักพระพาหุไว้ด้านหลัง แต่ฟาโรห์หนุ่มกลับลำตัวม้วนรัดนางไว้ นางกวาดเท้าจากพื้นไปฟาดพระเศียร(ศรีษะ)ของฟาโรห์หนุ่ม ฟาโรห์หนุ่มถึงกลับปล่อยพระหัตถ์(มือ)จากนางโดยพลัน  นางกวาดฝ่ามือจากซ้ายไปขวา โดยกะระยะเหวี่ยงโดนลำตัวสีข้างของพระองค์ ฟาโรห์เห็นนางมีฝีมือดี แต่เห็นนางเริ่มหอบเหนื่อย จึงทรงกลัวว่าจะบานปลายและยังรู้สึกสนุกกับนาง แต่ด้วยความที่เวลานี้ยังมิเหมาะจะเล่นกับนาง ทรงคิดจะเก็บตัวนางไว้เป็นของเล่นข้างพระวรกายมากกว่า จึงทรงเอี้ยวตัวหลบฝ่ามือของนางแล้วรวบมือนางไว้ด้านหลังแทน จากนั้นทรงตรัสคำว่า

    หยุดได้แล้ว ข้าหมดอารมณ์เล่นกับเจ้าตอนนี้แล้ว และเจ้าก็แพ้ข้าแล้วเช่นกัน

    ยัง ข้ายังไม่แพ้ ปล่อยข้าสิ

     

    แต่ฟาโรห์กลับไม่ปล่อยทรงเรียกทหารมาว่า

    ทหาร นำตัวนางไปกระโจมพักของข้า

    พ่ะย่ะคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×