คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ตอนที่ 17 : ยู่ vs ไห่
หลังจากที่เสี่ยวยู่สั่งงานส้มเสร็จก็เดินลงมายังสำนัก มาหาอะไรทานและจะเอาไปเผื่อสาวน้อยด้วย
ขณะที่กำลังเดินผ่านสวนไปยังห้องครัวกลับมาสิ่งหนึ่งยื่นมาตรงหน้าอย่างเงียบงัน สิ่งนั้นมีลักษณะแหลมคมพุ่งมาขวางหน้าเสี่ยวยู่มาทางด้านข้างซ้ายมือจากพุ่มไม้อย่างไร้ประกาย พอเสี่ยวยู่รับสัมผัสของอีกฝ่ายก็ถอยหลังด้วยวิชาตัวเบาอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายแลเห็นก็พุ่งสิ่งแหลมคมนั้นใส่เสี่ยวยู่ทันที สิ่งนั้นคือกระบี่นั้นเอง และอีกฝ่ายก็ออกจากพุ่มไม้ พอเสี่ยวยู่เห็นหน้าอีกฝ่ายจึงกล่าวว่า
“เสี่ยวเซอ เจ้าเลิกเดี๋ยวผลุบ เดี๋ยวโผล่ ซักเสียที หยุดมือ”
เอี๊ยยยยยด
“เจ้าก็รู้นิ ว่าเหตุใด ข้าถึงกลายผี เช่นนี้ ไม่ใช่เพราะพ่อของพวกเราสองหรอกรึว่าครอบครัวเจ้าดูแล สำนักกระบี่ ส่วนครอบครัวข้าดูแลการค้าเปาเปียว พอมีปัญหาคราใด คราต้องเร่งรุดไปแก้ปัญหาทันที ข้าเบื่อแล้วนะ พวกเราสลับหน้าที่ มิได้หรือไร เสี่ยวยู่ พอมีงานจ้างขนส่งสินค้าคราใด เป็นข้าทุกที ส่วนเจ้าอยู่แต่สำนักอย่างสุขสบาย มิต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเช่นข้า”
ผู้มาขวางหน้าคือ หย่าเซอไห่ หรือ เสี่ยวเซอ เพื่อนของเสี่ยวยู่นั้นเอง เสี่ยวยู่กล่าวตอบว่า
“เจ้าต้องไปถามพ่อของเจ้าเองแล้วกันว่าเหตุใดถึงเลือกรับเปาเปียวแทนที่จะเป็นสำนักสอนวิชา แล้วเจ้าไม่คิดหรือว่าข้าจะมิเบื่อเช่นเจ้า เจ้ายังได้ออกเที่ยว แต่ข้าเล่า ต้องอยู่เฝ้าสอนวิชาที่นี้ แทบมิได้ออกกายไปยังเบื้องนอก หาประสบการณ์เยี่ยงเจ้าเลย แล้วเช่นนี้เจ้าต้องการอันใดอีก อ้อ แล้วเมื่อไม่กี่วันหลังจากที่เจ้าไปเปาเปียวน่ะ มีสำนักอีต้า มาหาเรื่องด้วย ดีที่เจ้าสำนักอีต้าเป็นศิษย์พี่ ศิษย์น้องกับพ่อข้า เลยจัดการได้ ว่าแต่เจ้ากลับมานานแล้วรึ”
“เพิ่งกลับมาเมื่อคืน ว่าแต่เจ้าว่างหรือไม่ ข้ากำลังกลุ้ม อยากหาเพื่อนซ้อมมือแก้กลุ้ม โอ๊ย กลุ้ม เครียด กินเหล้า เอ๊ย ประลองยุทธ ”
“ย่อมได้ เจ้าจะประลองอะไร”
“ครานี้ข้าไม่แพ้เจ้าแน่ คราก่อน ถึงแม้ข้าจะชนะการต่อโคลงกลอนเจ้า 3 บท และเจ้าชนะหมากล้อมข้า 2 เกม ครานี้....”
เสี่ยวยู่ได้ยิน ก็ขัดขึ้นว่า
“เดี๋ยว ข้ามิยอม การต่อโคลงกลอนเจ้าโกงข้า เจ้าใช้คำกลอนตัน ต่อมิได้ ถึงว่า พวกเราเสมอกัน”
“ก็ได้ ครานี้ข้าขอตั้งกติกาว่าพวกเราประมือกันด้วยกระบี่ ในระยะ10 ก้าว ใครถอยเกิน 10 ก้าวถือว่าแพ้ หรือว่าใครทำให้อีกฝ่ายกระบี่หลุดมือก่อนถือว่าชนะ ตกลงหรือไม่”
(ประลองยุทธในระยะ10 ก้าว คือ นับเดินหน้าและถอยหลังรวมกัน 10 ก้าว หรืออธิบายง่าย ๆ ว่า ในร่องเท้า 10 ร่องเท้า เท่านั้นที่สามารถเดินหน้า หรือ ถอยหลังได้สูงสุด โดยไม่นับการเหาะเหิน เดินอากาศ หรือ ดำดินก็ได้ แต่ว่าในระยะ 10 ก้าว )
“แล้วแต่เจ้า แต่ข้าขอให้ยุติการประลองในเวลา 1 ก้านธูปนะ ข้าต้องไปดูลูกศิษย์น่ะ”
“ลูกศิษย์ มีลูกศิษย์ที่ขนาดเจ้าใส่ใจขนาดนี้ด้วยรึ”
“เอาเถอะ เจ้าอย่าสนใจ ว่าแต่เจ้าพร้อมหรือยัง”
“พร้อมระบายเสมอเพื่อน”
“งั้นเชิญเจ้าก่อน”
“ได้ ระวังด้วย”
ขณะนี้เสี่ยวยู่อยู่ในขั้นก้าวที่ 5 และ เสี่ยวเซอ อยู่ในขั้นก้าวที่ 5 เช่นเดียวกัน ฉะนั้น แต่ละฝ่ายสามารถเดินหน้าและถอยหลังได้เพียง 5 ก้าวเท่านั้น
พอเซอไห่ กล่าวจบก็พุ่งหมุนควงกระบี่ไปด้านหน้า 4 ก้าว ยู่ ถอยหลังด้วยวิชาตัวเบาดุจภูตพราย ไปตั้งหลัก 5 ก้าว แล้วตั้งกระบี่ขึ้นปัดปลายกระบี่ของเซอไห่เป็นจานกลม เสียงกระบี่ร้องดังซี่ ๆๆ แคร้ง เซอไห่ จึงหมุนกระบี่เป็นวงกว้างเพื่อหาช่องโหว่โจมตี
ยู่ เมื่อหาไม่พบก็วก กระบี่ขี้นฟ้าพร้อมกับลอยตัวขึ้น แล้ว วกลงมา ยู่เห็นดังนั้นก็พอจะคาดการณ์ได้ว่า เซอไห่ จะมาไม้ใด จึงก้าวไปข้างหน้า 2 ก้าว แล้ววกไปทางซ้าย 1 ก้าวด้วยอาการเอี่ยวตัวและหัวชี้ไปอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เซอไห่ พลาดเป้าหมายไป ขณะที่กำลังจะถึง พอเห็นว่ากำลังจะพลาดเป้า จึงแทงกระบี่ไปทางขวา พร้อมกับก้าวเท้า ยู่พอเห็นจังหวะ จึงตวัดเขี่ยลงที่บริเวณมือด้านในกับด้ามกระบี่ แต่เซอไห่ ก็ไวพอควร จึงใช้สันมือซ้ายสับลงกระบี่
ยู่เห็นดังนั้น จึงเก็บกระบี่ลง จากนั้นกระโดดขึ้น แล้วก็ใช้เท้าเตะหมุนตัวใส่ลำแขนของเซอไห่ เซอไห่ เห็น จึงเบี่ยงหัวหลบไปและวกแขนไปไฟล่หลัง ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรุก – รับ จนเซอไห่ เริ่มหมดความอดทน จึงใช้วิชาตัวเบา ลอยตัวขึ้นแล้วพลันส่งฝ่าเท้าพิฆาตไปยังตำแหน่งแก้มขวาของยู่ ยู่สัมผัสได้ถึงพลังกำลังถูกส่งมาอีกทั้งสัมผัสเสียวที่แก้ม คล้ายกำลังมีบางสิ่งจะมาสัมผัสกับมัน จึงตวัดกระบี่ด้วยการหมุนวงแขนจากหน้าไปยังด้านหลังต้านพลังฝ่าเท้าของเซอไห่ได้พอดีราวปาฏิหารย์ จากนั้นจึงต่อยหมัดออกไปยังทางทิศเดิมที่พลังฝ่าเท้าส่งมา เซอไห่เห็นดังนั้นจึงม้วนตัวกลับหลังกลางอากาศทันที เหตุการณ์ตั้งแต่เสี่ยวเซอ ลอยตัวนั้น เกิดขึ้นเพียงกระพริบไม่กี่คราเท่านั้น ทั้งสองใช้ความไว เข้าสู่ห้ำหั่นกัน แต่ก็ตอบโต้อีกฝ่ายด้วยความไวเช่นกัน พอเซอไห่กลับหลังหันหยังเท้าลงพื้นในตำแหน่งร่องเท้าก้าวสุดท้ายของตัวเองพอดี ส่วนยู่นั้นยังอยู่ในตำแหน่งร่องเท้าเดิมคือในตำแหน่งที่ 8 ของตัวเอง เสี่ยวเซอออกอาการเหนื่อยหอบให้เห็นถึงแม้เล็กน้อยก็ตาม แต่ฝ่ายพระเอกของเรายังปราศจากอาการดังกล่าวเพราะเป็นฝ่ายรับเสียส่วนใหญ่และแทบไม่ต้องขยับกายมากมายเช่นอีกฝ่าย
“เจ้าพอใจหรือยังเสี่ยวเซอ”
เสี่ยวยู่กล่าวขึ้น เสี่ยวเซอได้ยินก็ผ่อนลมหายใจและลมปราณให้เป็นปกติ แล้วกล่าวว่า
“เฮ้อ อือ”
“ผลเป็นเช่นไรเจ้าเห็นแล้วนะ ข้าขอตัวก่อนแล้วเย็นนี้เราค่อยมาคุยกัน”
“อือ ฝากไว้ก่อนเถอะ ถึงเจ้าชนะข้า 2 แต้ม แต่ว่าคืนนี้ข้าขอท้าล้างตาเกมขาว- ดำ รับรองข้าชนะเจ้าแน่ ฮึ่ม”
“ตกลง”
แล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป เสี่ยวเซอเดินไปยังห้องทำงานของตน ส่วนเสี่ยวยู่ก็เดินเข้าไปยังห้องครัว
เพื่อจะเข้าไปดื่มน้ำและนำอาหารว่างกับน้ำชาไปให้ส้มด้วย
ความคิดเห็น