คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 13 : ถ้ำลับธาราสวรรค์
“ อีกประเภทคือการฝึกแบบเย็น แล้วมันต่างกันตรงไหนล่ะ วิธีฝึกหรอ”
“ อืม แม่นางท่านใจเย็นฟังข้าให้จบสิ”
“ ก้อฟังจนข้าเริ่มเข้าญาณแล้วนะ น้ำเสียงท่านน่ะ ไม่มีเสียงสูงหรือต่ำบ้างเลยหรือไงนะ ฮืม เสียงยังกะพระสวดมนต์เลย อ่ะ ๆ เชิญต่อ”
ส้มบ่นพลาง พอเห็นเสี่ยวยู่ขมวดคิ้วจึงยอมเลยบ่น เสี่ยวยู่กล่าวตัดพ้อว่า
“ ขออภัย น้ำเสียงข้าก้อเป็นเช่นนี้ เปลี่ยนแปลงมิได้นิ ข้าจะพยายามแล้วกันนะ อ่ะ ต่อเลยก้อได้”
หวี่ยู่บอกหลังจากเห็นรอยคิ้วชนกันของส้ม
“ ใช่อีกอย่างคือการฝึกแบบเย็น ซึ่ง การฝึกแบบร้อนคือการฝึกโดยการเร่งลมหายใจ และโดยการออกกำลังแบบเร็วแต่ไม่เร็วนัก และ เกร็งกำลังของตัวผู้ฝึก ซึ่งการฝึกแบบเย็น เป็นการฝึกตามภาวะการหายใจตามธรรมชาติ โดยเคลื่อนไหวตามธรรมชาติแบบช้า ๆ โดยไม่ฝืนกำลังหรือ ฝืนธรรมชาติ โดยในร่างกายของมนุษย์เรานั้นมีเส้นลมปราณอยู่ 8 สายหลัก 4 สายรอง รวมเป็น 12 สาย อีกทั้งจุดบนร่างกายเรานั้นมีทั้งสิ้น 108 จุด ซึ่งลมปราณ 8 สายหลักนั้นได้แก่ ทะเลปราณใหญ่ ที่บริเวณท้องน้อย หัวใจ แขน 2 ข้าง ขา 2 ข้าง และกลางหลัง แต่ละสายจะมีจุดหลัก108 จุดรวมอยู่ด้วย ซึ่ง 1 ใน 8 จุดนั้นจะเป็นจุดตายของคนซึ่งแล้วแต่ว่าใครจะอยู่ตำแหน่งใด ไม่อาจบอกกล่าวได้
หากแม่นางต้องการทราบทั้ง 108 จุดนั้นแม่นางต้องเข้าเรียนสายแพทย์จึงทราบทั้งหมด สำหรับชาวยุทธเรามีจุดสำคัญทั้งสิ้น 36 จุด ตอนนี้ข้าจะขอบอกในจุดสำคัญ ๆ ทั้ง 16 จุดก่อนคือ
จุดตันเถียนคือบริเวณด้านหน้าท้องน้อย คือจุดทะเลปราณ โดยจุดนี้จะเป็นเหมือนกำแพงเมืองจีนของร่างกายมนุษย์เป็นที่เก็บกัก ลมปราณแต่ก้อมีความแข็งแกร่งกันบุคคลภายนอกเข้ามาทำอันตรายจุดนี้ แต่หากพลังของผู้ฝึกอ่อนด้อยกำแพงนี้ก้อจะอ่อนด้วยเช่นกัน
จุดที่ 2 คือตำแหน่งกลางหัวใจ จุดนี้จะจุดสำคัญที่สุดก้อว่าได้ หากลมปราณหรือจุดถูกทำลาย ชีวิตของผู้ฝึกก้อจบสิ้นตามด้วยเช่นกัน
จุดที่3 คือ จุด หัวไหล่ทั้ง 2 ข้าง อยู่บริเวณต่ำกว่าหัวไหล่ผู้ฝึก3 นิ้ว เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างไหล่กับลำตัวของคน ลมปราณ 2 สายนี้จะหล่อเลี้ยงให้แขนทั้ง 2 ข้างมีพละกำลังเพิ่มขึ้น หากจุดใด จึงหนึ่งโดนทำลาย หากมีลมปราณกล้าแข็งพอ แขนทั้งสองข้างที่โดนทำลายจุดนั้นยังคงทำงานต่อไปได้
จุดที่ 5 คือ ขาทั้ง 2 ข้าง เป็นเช่นเดียวกันกับแขนทั้งสองข้าง จุดสุดท้ายที่ประกบกับลมปราณคือจุดที่ 5 อยู่ตำแหน่งบริเวณกลางหลัง จุดนี้หากมีการถ่ายทอดพลังจากคนนึงสู่อีกคนส่วนใหญ่นิยมถ่ายทอดฝ่ายจุดนี้ไม่ก้อผ่านมือทั้ง 2 ข้าง เนื่องเพราะจุดนี้เป็นจุดที่รับพลังได้ง่ายจุดอื่น ๆ ในร่างกาย ยกเว้นกลางกระหม่อมศรีษะจุดนี้เป็นจุดเปราะบางที่สุดในร่างกายหากผู้รับไม่มีความแข็งแกร่งหรือมีสติเพียงพอ ร่างกายผู้รับอาจมีผลกระทบอย่างยิ่ง
จุดที่ 7 คือ บริเวณกลางกระหม่อม ดังที่ข้าได้กล่าวไปแล้วนั้นแหละ
จุดที่ 8 คือหว่างกลางหัว คิ้วทั้ง 2 ข้าง จุดนี้จะรวมประสาทสัมผัสทางตา
วันนี้แม่นางต้องจำทั้ง 8 จุด 8 สายให้ได้ก่อน หากจำมิได้ตรงใดให้ซักถามข้าได้เพียง 5 ครั้งหลังบ่าย ข้าจะทดสอบ แม่นางต้องจำทั้งตำแหน่งและความสำคัญให้ได้เพราะสำคัญยิ่งต่อผู้ฝึกอย่างยิ่ง ท่านเข้าใจหรือไม่”
“อือ”
“อือ หมายความว่าอะไร แม่นาง”
“อือ ก้อเข้าใจแล้ว ขอเวลาสักครู่นะ ขอจดก่อนนะ”
“ได้ ข้าจะให้เวลาท่านครึ่งวัน หลังเพลาอาหารเย็น ข้าจะขอทดสอบความจำของท่าน ห้ามท่านคัดลอกใด ๆ เด็ดขาดที่เป็นการทุจริตโดยเด็ดขาด หากข้าพบเห็น ท่านจำต้องโดนลงทัณฑ์นะ ”
“โธ่ ทำไมท่านใจร้ายจัง อาจารย์ เอ๊ย ยู่หลาง แหะ ๆ ”
ส้มลืมเปลี่ยนคำเรียกหาหลังจากที่เห็นเสี่ยวยู่ทำตาดุใส่
ณ.สวนในสำนัก
บ่ายนั้น ส้มจีนใช้เวลาในการอ่านเนื้อหาที่เมื่อเช้าได้เรียนพร้อมกับดูน้องสาวของตนวิ่งเล่นกันเสี่ยวหยาอย่างสนุกสนาน อีกทั้งต้องแบ่งเวลาเอาแผ่นกระดานใส ขนาด กระดาษ F4 ที่นาช่าเตรียมไว้สำหรับให้ส้มจีนทำงานของตนโดยแผ่นนี้จะเปรียบเสมือนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งส้มจีนสามารถจัดการงานของตนพร้อมกัน
“นั้นอันใดน่ะ เฟยเอ๋อ”
เสียงแว่วมาจากทางด้านหลังม้านั่งที่ส้มจีนนั่งอยู่ ส้มได้ยินถึงกับสะดุ้งเฮือก อย่างตกใจก่อนจะลุกขึ้นขึ้นหันหลังไปตะโกนกลับว่า
“ท่านว่าใครเป็นเอ๋อนะ”
“ข้ายังมิได้กล่าวหาว่าผู้ใดเป็นเอ๋อ แต่ข้าเพียงเรียกท่านเหมือนดังที่ข้าให้ท่านเรียก คำนี้แปลว่า น้องเฟย ซึ่งใช้เรียกอย่างเอ็นดูหรือใช้คำคนน่ารัก ต่างหาก เฟยเอ๋อ คิดเช่นใดถึงกล่าวหาว่าข้ากล่าวหาว่าท่านเป็นเอ๋อได้เล่า เฟยเอ๋อ ต่อไปข้าจักเรียกหาท่านเช่นนี้เมื่ออยู่กันสองคน”
“ท่านหาว่าข้าเป็นเด็กงั้นหรอ”
“เปล่าเสียหน่อย ข้าเรียกท่านในความหมายว่าท่านน่ารักต่างหากเล่า”
ส้มได้ฟังถึงกับหน้าแดง แต่แก้เขินโดยถามว่า
“แล้วถ้าอยู่กับผู้อื่นด้วย คุณจะเรียกฉันว่าแม่นางตลอดงั้นหรอ ข้าฟังแล้วรู้สึกจั้กกะเดี๊ยม”
“ข้าเรียกท่านว่าเฟยเอ๋อดีแล้ว ว่าแต่คำว่าจั้กกะเดี๊ยม คือความหมายใด”
ในใจคิดขึ้นในทันใดว่า ‘แม่นางนี้ช่างประหลาด น่าสนใจเป็นยิ่งนัก’ แว่วเสียงของส้มจีนดังขึ้นว่า
“ก้อจั้กจี้ น่ะ”
“ว่าแต่เฟยเอ๋อ ท่านทำสิ่งใดอยู่เล่า นั้นแผ่นอันใด มีกรอบรูปร่างแปลกตานัก”
“อ้อ แผ่นนี้เรียกว่า.....เอ่ออ...... แผ่นร่างน่ะ มีไว้ร่างตัวอย่างสินค้าที่บ้านข้าน่ะ ส่วนในกรอบนั้นเป็นร่างโครง ซึ่งข้าจะเอาไว้ตกแต่งภายหลังจากได้ขนาดที่ลงตัวแล้วน่ะ”
“อ้อ ว่าแต่เฟยเอ๋อ อ่านท่องเนื้อหาเมื่อเช้าขึ้นใจแล้วเช่นนั้นหรือ”
“ก้อพอจำได้เกือบหมดแล้ว ตอนนี้ขอพักสมองไปทำงานอันนี้ก่อนเพราะไม่อัน งานประจำของข้าคงไม่มีทางเสร็จทันกำหนดส่งแน่”
“เฟยเอ๋อ อยากพักงานก่อนหรือไม่ ข้าจะพาไปเที่ยว เฟยเอ๋อจะไปหรือไม่ ”
“เอ่อ ข้าพาน้องไปด้วยได้ไหม”
“ด้วยความยินดี”
เสี่ยวยู่กล่าวพลางก็โค้งคำนับ มือวาดไปด้านหลัง เหมือนกับนักแสดงโค้งขอบคุณผู้ชม ส้มจีนพูดว่า
“งั้นข้าไปเรียกน้องข้ากับน้องท่านก่อนนะ ท่านรอข้าอยู่ตรงนี้นะ”
พูดจบก้อรีบวิ่งไปหานาช่ากับเหมยทันที
เมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้ว เหมยจึงถามขึ้นว่า
“พี่ฉ่าย จาพาไปเที่ยวไหนหรอคะ นี่ ๆ หวี่ รู้เปล่าอ่ะ”
“น้ำตก อี้สุ่ยตี้”
“แล้วมานฉวยไหมคะ พี่ฉ่าย น้ำลึกป่าวอ่ะ”
“แม่นางลองไปแล้วรู้เอง”
“หรอ คะ พี่ชายคะ เรียกเหมยว่า เหมยเถอะคะ พี่ชายเรียกแม่นางแล้วรู้สึก แปลก ๆ น่ะคะ”
“อืม ต่อไปข้าจะเรียกเจ้าว่า เหมยแล้วกัน”
ณ. น้ำตก ที่ลับของสองพี่น้อง
น้ำตกแห่งนี้ อยู่ด้านใต้ของสถานฝึกสอน อยู่ด้านหลังป่าทึบ จนสามารถกั้นเสียงน้ำตกไม่ให้บุคคลภายนอกได้ยิน น้ำตกแห่งนี้ถึงแม้จะเล็ก แต่ร่มรื่นนัก น้ำตกแห่งนี้เป็นที่พักลับของสองพี่น้อง ไม่มีผู้ใดทราบถึงที่ตั้งของน้ำตก แม้แต่พ่อกับแม่ของสองพี่น้องก็ก น้ำตกที่ด้านข้างมีพุ่มไม้ทึบอยู่ด้านขวา ตรงกลางสามารถแหวกเป็นทางเข้าได้ เพราะสองพี่น้องจัดสร้างไว้เพื่อกันผู้หลงทางพบเห็นทางเข้าถ้ำที่ลับ ซึ่งทั้งสองตั้งชื่อน้ำตกที่แปลไทยได้ว่า “ถ้ำลับธาราสวรรค์” ตาม ที่ด้านหลังน้ำตก (กินพื้นที่ด้านหลังฝากหนึ่ง นั้นคือ หากพื้นที่ 10 ส่วนจะมีทางเข้าที่ด้านขวา 4 ส่วน 10 ของพื้นที่) มีความยาว 1 ลี้ (มาตราวัดพื้นที่ 1 ลี้ คือ ครึ่งกิโลเมตร) กว้าง 15 ศอก สูง 150 เซี้ยะ (1 เซี้ยะ เท่ากับ 2 ฝ่ามือ) ด้านบนมีช่องให้แสงสว่างส่องเข้าได้เป็นระยะ ความกว้างของแต่ละช่องขนาด 5 เซี้ยะ
ภายในถ้ำแห่งนี้ 2 พี่น้องได้ออกแบบและจัดสร้างให้เสมือนบ้านพักหลังหนึ่ง เนื่องเพราะ ถ้ำแห่งนี้ถูกจัดสรรแบ่งเป็นส่วน ๆ ประกอบด้วย ห้องครัวอยู่ด้านในสุดฝั่งซ้าย ห้องน้ำอยู่หลังสุดฝั่งขวา ห้องนอนมีทั้งสิ้น4 ห้อง อยู่ริมหน้าซ้ายกับตรงกลางฝั่งซ้าย 1 ห้อง ตรงกลางฝั่งขวา 2 ห้อง ห้องหนังสืออยู่ตรงกลางฝั่งซ้าย และห้องเก็บของอยู่ด้านหน้าสุดฝั่งขวาเป็นห้องลับ ห้องนี้เป็นห้องเก็บสมบัติของสองพี่น้อง ภายในมี 2 ห้อง กับ ห้องโถง อีกหนึ่งห้อง อยู่กลางด้านหน้าเลยทางเข้ามา 10 เซี่ยะ แต่ละห้องถูกคั่นกลางด้วยหินที่เกิดตามธรรมชาติเพียงแต่ประตูหน้าถูกคั่นด้วยม่านผ้าปัก
กลางห้องโถงมีโต๊ะหินทำมือ สูงกำลังพอเหมาะ เป็นลักษณะ 8 เหลี่ยม ด้านหน้าของโต๊ะ มีตารางหมากล้อม ขนาด 64*64 ที่พื้นแต่ละขอบเหลี่ยมบนโต๊ะมีร่องเปิดได้ซ่อนอยู่ภายใน ซึ่ง 2 ช่อง ใน 8 ช่องลับมีเม็ดหมากดำ-ขาว เก็บอยู่ แต่ละช่องมีความกว้าง 3 ส่วน 4 ของฝ่ามือ ความหนาของโต๊ะ หนา ½ เซี่ยะ ซึ่งถูกจัดสร้างโดยเสี่ยวยู่ พร้อมกับเก้าอี้ 8 ตัว
ณ.ห้องโถงของถ้ำ
เสี่ยวยู่กล่าวขึ้นหลังจากที่ทุกคนนั่งลงพักผ่อนจากการเดินทางที่โต๊ะหินว่า
“คืนนี้เราจะพักกันที่นี้ ข้าได้บอกท่านพ่อท่านแม่ไว้แล้ว ว่าจะมาพาเฟยกับเหมยมาสำรวจที่ทางแถวนี้ แล้วจะแวะพักในเมือง ท่านพ่อกับท่านแม่ก็อนุมัติแล้วแต่ว่า”
ทั้ง 3 คนคือส้ม เหมย และเสี่ยวหยา โดยที่นาช่าทำหน้าเตรียมเสื้อผ้า มาให้ ตามคำสั่งของเสี่ยวยู่ พร้อมทั้งอาหารว่างและอาหารดิบที่ไว้ทำอาหารเย็น ซึ่งตอนนี้ทั้งสามคนทำหน้าตาตื่นเต็นจนแทบกระโดดที่จะได้เล่นน้ำ เสี่ยวยู่กล่าวต่อว่า
“แต่ว่า ตอนนี้....”
ความคิดเห็น