ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โปรแกรมหรรษา

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 10 แนะนำผู้มาเยือน

    • อัปเดตล่าสุด 12 มิ.ย. 49


    " ฮา ๆๆๆๆ "

    ชายวัยกลางคน ท่าทางคนท่าทางหน้าตามีสง่าราศี แต่แฝงไว้ซึ่งความสำอางค์  ลักษณะมีความเป็นผู้นำ มีความยุติธรรม ซื่อสัตย์ที่แสดงได้ตรงหน้าผาก ในมือถือกระบี่ยาว 3.5 เซียะ กว้าง 1 เซียะ ที่ฝักประดับหยกมรกตส่องประกายมาแต่ไกล แต่ส่วนอื่นเรียบ ๆ แสดงว่าเป็นคนสมถะ ไม่ถือตัวมากแต่ก้อมีฐานะชายผู้นี้มีนามว่า หวี่สู เป็นพ่อของ2 พี่น้องหวี่ยู่และหวี่หยา

    "ไม่เจอกันนานเลยนะ ไม่นึกว่าไม่เจอกัน20 ปี ฝีมือของศิษย์พี่ก้าวหน้าจนข้ายังไม่อาจเทียบได้จริง ๆ"

    หวี่สูกล่าวพลางเดินเข้ามายังห้องโถงพลาง พร้อมกับลูกศิษย์อีก 5-6 คน

    "ข้าดีใจนะที่เจ้ายังจำศิษย์พี่ชั่ว ๆ อย่างข้าได้"

    "โธ่ !! ศิษย์พี่ท่านก้รู้นิว่าพวกเราเหล่า 5 พยัคฆ์ ทอง น้ำ ไม้ ดิน ไฟ รู้ว่านางมารชั่ว สุ่ยอีจี มันใส่ไฟท่านให้ท่านเป็นแพะรับผิดแทนนางมาร ทำให้อาจารย์เข้าใจผิดคิดว่าท่านเป็นคนขโมยแจกันหยกกวนอิมไปนิ"

    "เอาเถอะน่ะ ศิษย์น้อง ยังไงข้าก้อกลายเป็นแพะให้กับนางแพศยาของอาจารย์หญิงไปแล้วนิ ช่างเหอะ"

    "ท่านพ่อ"

    เสียงของลูกชายทั้งสองดังขึ้นเกือบจะพร้อมกัน

    "ท่านอาคนนี้คือใครหรือ"

    หวี่ยู่ถามขึ้น

    "เออ ข้าขอโทษ ข้าพูดเพลินไปหน่อย ท่านนี้คือ ศิษย์พี่ข้าอดีตฉายา พยัคฆ์ ไฟ  พวกเจ้ามาคารวะท่านอาสิ"

    "คารวะท่านอา ข้าหวี่ยู่ครับ"

    "คารวะท่านอา ข้าหวี่หยาครับ"

    "ฮา ๆๆๆ ดี ๆ ดีจริง ๆ แล้วน้องสะใภ้ข้าล่ะ เสี่ยวสู"

    "ไปทำธุระต่างเมืองน่ะ ข้าเป็นห่วงที่นี่เลยกลับมาก่อนน่ะ"

    "อืม ๆ "

    หวี่สูหันไปทางหวี่ยู่แล้วพูดด้วยสีหน้าตำหนิว่า

    "ว่าแต่เสี่ยวยู่ ฝีมือเจ้าพัฒนาได้เช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน  เจ้าทำไมถึงเก็บงำประกายฝีมือเจ้าไม่บอกข้ากับแม่เจ้าห๋า หากว่าวันนี้ไม่เจอเหตุการณ์เช่นนี้ที่บีบบังคับเจ้าเช่นนี้ ทำให้เจ้าต้องแสดงฝีมือที่แท้จริงเพื่อรับศึก อีกอย่างข้ารับรู้ได้ว่าเจ้ายังไม่ได้แสดงพลังของเจ้าเต็มที่อีกด้วย  เจ้าจะบิดบังไปอีกนานเท่าใดกัน ห๋า "

    "ขออภัยด้วยท่านพ่อ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะปิดบัง แต่ว่า.... ข้าไม่รู้ว่าจะบอกกับพวกท่านอย่างไร แต่ว่าเสี่ยวหยารู้ตลอดเพราะเสี่ยวหยาเป็นคู่ซ้อมให้ข้า ดังนั้นทำให้ฝีมือเสี่ยวหยาพัฒนาขึ้นจนใกล้เคียงกับข้าทีเดียวท่านพ่อ"

    "ฮา ๆๆๆ เจ้าอย่าไปว่าเจ้าหลานชายนักเลย เดี๋ยวเด็กมันก้อไม่กล้าฝึกฝีมือต่อหรอก จริงไหมเจ้าหลานชาย"

    พูดจบจึงหันไปถามหวี่ยู่

    "ครับ"

    "แต่เจ้าก้อทำให้ข้าและพ่อเจ้าตะลึงทีเดียว เจ้ามีฝีมือพอๆ กับพ่อเจ้าเลยทีเดียว เจ้าสามารถทำให้ข้าต้องใช้พลัง ถึง 8 ส่วนเพื่อรับมือกับเจ้า ซึ่งมีน้อยคนนัก นับคนได้เลย"

    "อ้าว ท่านอา พูดชมแต่พี่ใหญ่คนเดียย ท่านยังไม่เห็นฝีมือจ้าเลยนะ ข้าน่ะมีฝีมือถึง 6 ส่วนของพี่ใหญ่เชียวนะ ท่านอา ไม่เชื่อล่ะก้อ ท่านอาทดสอบดูได้นะ"

     

    "เออ ๆ ว่าง ๆ ข้าจะขอทดสอบดูว่าจริงอย่างปากเจ้าว่าหรือไม่ เจ้าหลานชาย ฮาๆๆๆ ลูกชายทั้งสองของเจ้าน่ารักจริง ๆ ข้าชักอิจฉาแล้วสิที่เจ้ามีลูกชายที่ดีถึง 2 คน ฮาๆๆๆๆๆๆ"

    "ท่านพ่อ แล้วท่านแม่จะกลับมาเมื่อไรหรือ"

    หวี่หยากล่าวถาม

    "ก้อคงอีก 2-3 วันน่ะลูกว่าแต่ที่นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นล่ะ"

    "ท่านพ่อคือว่า เจ้าพวกนั้น"

    หวี่ยู่ชี้ไปยังกลุ่มคนที่เคยมาหาเรื่องซึ่งพวกนั้นยังคงตระหนกตกใจไม่หายตั้งแต่เจ้าสำนักของพวกมันกลายเป็นศิษย์พี่แถมยังทำตัวสนิมสนมกับอีกฝ่ายเหมือนญาติสนิทที่ไม่ได้เจอกันมานานอีก

    "วันนี้พวกนั้นมากล่าวหาว่าคนของเราไปก้าวก่ายรุกร้ำพื้นที่หากินของพวกมัน ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นเป็นเขตของเรา ซึ่งพวกนั้นเข้ามาตั้งสำนักภายในเมืองเพียงแค่ 3 วัน โดยไม่ได้ศึกษาพื้นที่เลยว่า พื้นที่ใดเป็นของใคร แล้วเช่นนี้ข้าจะยอมได้เยี่ยงไร ข้าจึงสั่งสอนพวกมันว่าสำนักเราไม่ใช่ที่ ๆ ใครที่มารังแกง่าย ๆ ท่านอาข้าขออภัยที่พูดวาจารุนแรงเช่นนี้"

    "เจ้าสำนัก เออข้า"

    ชายที่เคยสู้กับหวี่ยู่พูดเสียงสั่น ๆ  พลางหันไปถามเจ้าสำนักของตน

    "นี่ เจ้าเป็นหัวหน้าสาขาที่นี่ใช่หรือไม่"

    "ข้าเออ ใช่ ข้าเออ ท่านเจ้าสำนัก"

    เพียะ ๆๆ พลั่ก เสียงดังนั้นมาจากเจ้าสำนักอีต้าหรืออดีตฉายาพยัคฆ์ไฟ ทำร้ายลูกน้องตนนั้นเอง

    อึ่ก ตึง เสียงดังขึ้นอีกครั้งทำให้ชายผู้นั้นอยู่ในสภาพนั่งคุกเข่าลงจนหัวเข่ามีรอยเลือดปรากฏจาง ๆ

    "เจ้าเป็นหัวหน้าสาขาได้เยี่ยงไรกันห๋า  ไม่ศึกษาพื้นที่และสภาพแวดล้อม ไม่ทำความรู้จักกับเจ้าของพื้นที่ ดีนะที่หวี่สูไม่อยู่หากเจ้าเจอกับเค้า รับรองเจ้าได้พิการไม่ก้อไม่มีลมหายใจอยู่ถึงตอนนี้แน่ ถึงแม้ว่าหวี่สูจะทำการเป็นเปาเปียวแต่ก็เปิดสอนวิชาฝีมือเช่นเดียวกับเราย่อมเป็นคนกว้างขวางมีพื้นที่ดูแลคุ้มครองเป็นของตน เจ้าไม่เข้ามาคารวะแต่เจ้ากลับมาหาเรื่องเจ้าถิ่นแทน หากไม่เพราะวันนี้ข้ามาดูงานความคืบหน้าของที่นี่แล้วล่ะก้อ ป่านนี้สำนักข้าคงปี้ป่นเพราะเจ้าแน่ เด็ก ๆ จับเจ้าคนไม่รู้ความนี้ไปยังห้องลงทัณฑ์สำนัก ไป"

    "ข้าขอโทษแทนเจ้าคนของข้า และขอบใจหลานชายมากนะที่สั่งสอนเจ้าคนไม่เจียมตนแทนข้า ยังไงข้าก้อขอกลับก่อนนะ แล้วอีก 2-3 ข้าจะมาขอโทษเจ้าและพูดคุยตามภาษาพี่น้องกับเจ้านะเสี่ยวสู เออ แล้วเจ้าไว้ข้าจะมาขอทดสอบฝีมือของเจ้าว่าเป็นจริงอย่างปากเจ้ากล่าวหรือไม่ นะเจ้าหลานชาย"

    "ได้ ศิษย์พี่ไม่ต้องเกรงใจหรอก ที่นี้รอรับศิษย์พี่เสมอ"

    หลังจากพวกสำนักอีต้ากลับหมดแล้ว หวี่สูจึงถามว่า

    "เสี่ยวยู่ คนพวกนั้นใครกัน"

    กล่าวเสร็จก้อหันไปทางส้มจีนทั้งสามคน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×