ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โปรแกรมหรรษา

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 9 เกิดเรื่อง part2

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 49


    "โธ่ นายหญิง ก้อในนี้มันเป็นโลกจำลอง ฉะนั้นผมก้อกินได้สิขอรับ ส่วนนายหญิงทั้งสองก้อกินได้โดยความรู้สึกจะบ่งบอกว่าได้รับอาหารแต่ร่างกายจริง ๆ นั้นไม่ได้รับสารอาหารตามไปด้วยน่ะขอรับ"

    "อ้าวหรอ"

    "ขอรับ"

    "เออ  ถึงแล้ว ไม่ทราบว่านาย บ่าว คู่นี้จะคุยกันอีกนานไหม"

    "อ่ะขอโทษขอรับ"

    เสียงหวี่หยาร้องถามซึ่งมาถึงห้องโถงรวมสำหรับทานอาหารของครอบครัวเจ้าสำนัก

    "ว้าว พี่ส้มดูสิอาหารน่ากินทั้งน้านเลย เออ พวกนี้เรียกว่าอะไรหรอ"

    "อ้อ จานนี้เรียกว่า ไก่กระยาจก คือนำไก่ไปปรุงรสก่อนจากนั้นนำฟางมาห่อไก่แล้วนำไปพอกดินแล้วนำอบไฟที่ใต้เตา ส่วนจานนี้เรียกว่าผัดสี่สหาย คือ นำผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง ผักกะหล่ำปลี และ ผักขึ้นชื่อของเมืองคือ ผัดน่ำไช้ มาผัดหัวไชท้ายกับเห็ดหอม ส่วนนี้คือ..."

    "พี่ใหญ่ เดี๋ยวข้าพูดเองจานนี้ของโปรดของข้า คือ ผัดผักคะน้าน้ำมันหอยใส่ดอกไม้จีน ส่วนจานสุดท้าย น้ำแกงพี่น้องคู่กัด ที่ชื่อนี้เพราะน้ำแกงถ้วยนี้จะมีรสเค็มกัดกับหวานซึ่งมีลูกพลับจีนทำให้ความเค็มและความหวานเข้ากันแต่ก้อรู้สึกว่ารสเค็มกับหวานเข้มข้นแต่ก้อไม่รู้สึกว่ามันจะมีรสชาติแปลก ๆ ออกมาจนทานไม่ได้ซะทีเดียว พวกท่านลองทานดูสิ"

    "เชิญนั่ง"

    หวี่ยู่บอกเชิญแต่ไม่ทันที่จะบอกเสร็จหวี่หยาก้อรีบนั่งก่อนใครเพื่อน เมื่อรอจนสาว ๆ นั่งเสร็จตนก้อนั่งต่อ แต่ส้มจีนก้อหันไปทางนาช่า ซึ่งนาช่ายังคงยืนอยู่ จึงถามว่า

    "อ้าว นายไม่นั่งหรอ ฉัน เอ๋ย ข้าไม่ถือหรอก นั่งสิ"

    "ขอบคุณขอรับ เดี๋ยวข้าปรนนิบัติพวกท่านก่อนจึงค่อยนั่งแล้วกันนะขอรับ"

    หลังจากที่นาช่าได้ตักข้าวและเทน้ำชาให้ทุกคนแทนเด็กในสำนักแล้วจึงนั่งลงทานอาหารด้วยแต่เมื่อทานอะไรไม่ทันหมดจานก้อมีคนเข้ามาในห้องโถงแล้วพูดว่า

    "คุณชายใหญ่ คุณชายใหญ่ขอรับพวกสำนักอีต้า มาอีกแล้วขอรับ จะทำอย่างไรดีขอรับ คุณชายใหญ่"

    "ไม่เป็นไรพวกท่านทานไปเถอะเดี๋ยวข้าจัดการเอง"

    "ไม่  ข้าไปด้วยพี่ใหญ่ ข้าอยากเห็นไอ้พวกหน้า xxx ที่มาหาเรื่องพวกเราและก้ออยากเห็นพวกมันโดนพี่ใหญ่จัดการ"

    "งั้นฉัน เอ๋ย ข้าไปด้วย"

    "งั้นเราก้อไปด้วยกันทั้งหมดนี้แหละ ไปเถอะ"

    หวี่ยู่พูดจบก้อเดินออกไปทันที

    ณ. ห้องโถงรวมของสำนัก

    ภายในห้องโถงประกอบด้วยสำนักอีต้าประมาณเกือบ 10 คน ซึ่งมีผู้ชายอายุประมาณ 40 กว่า 50 ปีท่าทางอ้วนท้วน หน้าตาดุดัน แต่แววตาแฝงความใจดีอ่อน ๆ  ซึ่งน่าจะเป็นเจ้าสำนักอีต้า นามว่า "ลู่ปงตัง" และยังมีชายท้วมที่มาเมื่อเช้า

    "ไง ไอ้หนูลูกน้องข้าบอกว่าเจ้ามีฝืมือดี งั้นหรอแล้วยังมาหาเรื่องลูกน้องข้าอีกใช่ไหม เจ้าอวดดีนักหรือไงไอ้หนู"

    "ถ้าท่านอยากรู้นัก ก้อลองกระบี่กับข้าสิแล้วท่านจะรู้ว่าข้าดีหรือเลว"

    "เจ้าอวดดีนัก รับมือ"

    กล่าวจบก้อวาดกระบี่ออกจากล่างอย่างช้า ๆ แต่ลำแสงรัศมีกระบี่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว จนทำให้คนรอบข้างรวมทั้งหวี่ยู่ เริ่มรู้สึกอึกอัดขึ้น

    หวี่ยู่ยังคงท่าทีปกติ หน้าตายังคงเก็บอาการตะลึงในฝืมือของฝ่ายตรงข้าม แต่ยังนึกถึงบุคคลที่ยืนอยู่ด้านหลังและลูกศิษย์ในสำนักคนอื่น ๆ จึงทำการปล่อยพลังคุ้มครองคนทั้งหมด แล้วจึงเริ่มชักกระบี่ช้า ๆ  แต่ถึงกระนั้น ส้มและเหมยยังรู้สึกคลื่นไส้อ่อนๆ จนหน้าแดงขึ้นมา เมื่อนาช่าเห็นดังนั้นจึงทาบฝ่ามือลงบนหลังของส้มและเหมยจากนั้นจึงส่งพลังผ่านทางฝ่ามือทำให้ทั้งสองรู้สึกร้อนวูบวาบแต่ไม่รู้สึกคลื่นไส้อีก ส้มจึงหันไปหานาช่าแล้วบอกขอบคุณ จากนั้นจึงดูการต่อสู้ต่อซึ่ง

    ทางฝ่ายเจ้าสำนักอีต้าเริ่มจากส่งรัศมีกระบี่มากดทับหวี่ยู่จากนั้นจึงแทงกระบี่พร้อมกับวิชาตัวเบาเข้ามาหาหวี่ยู่ด้วยความเร็วซึ่งดูจากสภาพภายนอกแล้วคนที่มีรูปร่างอ้วนท้วมขนาดนั้นไม่น่าจะสามารถแทงกระบี่เข้าใส่ด้วยความเร็วเท่าคนที่มีขนาดปกติอย่างนั้นได้    แต่ว่าเจ้าสำนักอีต้าดูน่าจะมีฝืมือฝืเท้าเท่ากับชาวยุทธจักรที่เยี่ยมยุทธคนหนึ่งไม่เหมือนเจ้าสำนักของพวกนักเลงเหล่านั้นแต่ว่า ทำไมถึงปิดบังฐานะและฝีมือไว้เช่นนั้นเล่า แต่ว่าขณะนั้น ลำแสงรัศมีกระบี่ที่มีมาจากหวี่ยู่ได้ย่านกรายมาถึงตัวของเจ้าสำนักอีกต้าลู่ปงตัง ทำให้เจ้าสำนักอีต้าจำเป็นต้องสร้างเกาะป้องกันตัวเองขึ้นมาปกป้องตน และต้องต้านพลังกระบี่ของฝ่ายตรงข้าม ถึงกระนั้นหวี่ยู่ก้อพุ่งแทงกระบี่ขึ้นลงและแทงทะลุพร้อมกับเหินเวหาเข้าหา เข้ามายังเกาะป้องกันของตน เจ้าสำนักอีต้า จึงร่ายรำกระบี่ช้อนขึ้นสอดรับกับกระบี่ของหวี่ยู่ หวี่ยู่จึงใช้ ฝ่ามือแทงเข้าไปยังม่านเกาะป้องกันของเจ้าสำนักอีต้าอย่างรวดเร็วเพียงชั่วพริบตาโดยที่เจ้าสำนักอีต้าไม่ทันสังเกตเห็น จึงโดนเข้าไปหนึ่งฝ่ามือ ถึงแม้ฝ่ามือนี้ไม่โดนตัวเจ้าสำนักแต่กำลังภายในของหวี่ยู่สามารถแทงทะลุโดนเนื้อตัวภายในร่มผ้าของเจ้าสำนักบริเวณซี่โครงสีข้างกับไส้ติ่งของเจ้าสำนัก  เมื่อเจ้าสำนักโดนฝ่ามือเข้าจึงวาดกระบี่ออกแล้วแทงกระบี่มายังคอของหวี่ยู่ เมื่อหวี่ยู่เห็นดังนั้น จึงถอยหลังไปสามก้าวแล้วพุ่งแทงกระบี่มาหัวของฝ่ายตรงข้าม ในการต่อสู้ครั้งนี้ใช้เวลาเพียงแค่กระพริบตาไม่ถึง 20 ครั้ง อีกไม่ช้าก้อจะตัดสินแล้ว แต่ว่าฝืมือของคนทั้งสองมีฝืมือสูสีกันอย่างมาก แต่ก้อคล้ายว่าเจ้าสำนักอีต้าลู่ปงตังไม่ได้ออกฝีมือเต็มที แต่ว่าชั่วพริบตานั้น เจ้าสำนักอีต้าก้อกระโดดขึ้นมา แล้วก้อเหินเข้ามาหาหวี่ยู่ด้วยความเร็วมาก พร้อมกับรอยฝ่าเท้าที่แฝงพลังเข้า แต่หวี่ยู่กลับหยุดนิ่งแทนแล้ว แล้วใช้ฝ่ามือมาบังแนววิถีพลังของฝ่ายตรงข้าม แล้วจึงแทงกระบี่ขึ้นมาช้อนรับพลังใต้ฝ่ามือ เพื่อใช้ฝ่ามือรับฝ่าเท้า และใช้กระบี่ที่ทะลุทีหลังรับกับกระบี่ของฝ่ายตรงข้ามหลังจากปะทะกันเสร็จต่างฝ่ายต่างแยกจากกัน มาประจันหน้ากัน เมื่อต่างฝ่ายต่างสอดกระบี่เสร็จ

     "ฮา ๆๆๆๆๆๆๆ"

    เสียงหนึ่งดังขึ้น

                   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×