คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : After Christmas
วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม วันนี้อากาศเริ่มหนาวมากขึ้นเรื่อยๆ ผมยังจำได้วันนั้นผมแทบไม่ได้ออกไปไหนเลย แต่เมื่อมองลอดหน้าต่างกระจกใสในหอพักแล้ว ผมเห็นรถยนตร์และผู้คนมากมาย ใช่แล้วครับ อีกสามวันก็วันขอบคุณพระเจ้าแล้ว มีสองอย่างที่สนุกมากในวันนี้คือกลับบ้านไปหาญาติๆ หรือ รอให้ญาติๆมาหา สำหรับผมแล้ว ผมไม่ร่วมสนุกด้วยเลย หมายถึงผมไม่ได้ไปไหนเลยครับ เพราะว่าเมื่อ สามวันที่แล้วผมสนุกกับเพื่อนๆแล้วหล่ะครับ ผมจะย้อนเล่าให้ฟังนะครับ...
วันนี้เป็นวันที่ครึกครื้นเป็นพิเศษครับ ก็ห้องขนาด สิบแปดคูณสิบห้าเมตรของผมเต็มไปด้วยเพื่อนๆของผม แม้กระทั่งห้องนอน ข้อดีคืออาหารทั้งหมดผมเอามาจากที่เหลือๆในตู้เย็นครับ ฮ่าๆๆๆ เสียดายมากที่อเล็กซ์ไม่อยู่ ผมไมได้กินอะไรมาก นอกจากดื่มน้ำผลไม้ที่ซื้อเก็บเมื่อเดือนที่แล้วถึงรสชาติจะแปลกๆ จนทำให้ผมหยุดชะงักในครั้งแรกที่ดื่มก็เหอะ
“ให้ตายสิ! ...ฉันเก็บไว้นานเกินไปหรอเนี่ย” แต่อย่างน้อยเมื่อดื่มไปเรื่อยๆมันก็เกิดอร่อยขึ้นมาซะงั้น เชส ปีเตอร์ และ ไมค์ สามพี่น้อง บิทตั้น ที่กำลังยุ่งอยู่กับการกินไก่งวงที่เกวนเนธ สาวน้อยกับผมเปียที่นั่งที่โซฟาสีแดงราคาสองพันเหรียญของผม นำมา สามคนนั่นเหมือนหมาป่าที่กำลังกินแกะตัวน้อยอย่างเอร็ดอร่อย
และหนุ่มผมบลอนด์สั้นคนนั้น “นาธาน” เพื่อนสนิทของผม หมอนั่นคงไม่มีอะไรสนุกไปกว่านั่งจีบสาวสวย เพื่อนของเกวนเนธจาก ทรินิตี้ ไฮ เกวนเนธ เป็นญาติห่างๆของผม ซึ่งปีหน้าเธอคงเรียนที่ วิทยาลัยเดียวกับผม เกวนเนธแอบชอบ อเล็กซ์ ตั้งแต่ตอนที่อเล็กซ์มาที่นี่เมื่อหลายปีก่อน เธอได้พูดแค่คำว่า “สวัสดี” กับอเล็กซ์ เท่านั้น เกวนเนธยังไม่รู้ว่าอเล็กซ์จะมาในวันขอบคุณพระเจ้านี้ ซึ่งนั่นอาจทำให้เธอขึ้นขั้นคลั่งได้เลยหล่ะหากเธอรู้ ข่าวดีคือ นาธานรู้อยู่คนเดียวและหมอนั่นคงไม่บอก เอ่อ... เกวนเนธ
“โธมัส! นายแอบเก็บเงียบหรอ?” เสียงเล็กๆของเกวนเนธดังขึ้นมา ไม่นานเธอก็ถึงตัวโธมัสซึ่งกำลังดื่มน้ำผลไม้อยู่
“อะ... อะไร ...เก็บเงียบ?” โธมัสพูดด้วยท่าทางลนลาน
“อเล็กซ์ จะมาที่นี่ในวันขอยคุณพระเจ้า” เกวนเนธเริ่มทำหน้าตาหน้ากลัว เหมือนเป็นการขู่โธมัส
“คะ... ใครบอกเธอ?” เสียงลนลานค่อยๆหายไป กับประโยคสุดท้าย เขาพูดพลางมองไปที่นาธานซึ่งกำลังสนุกกับการจีบสาวสวยทั้งสี่
“นา...”
“นาธาน เจมส์ แดนนี่” โธมัสพูดแทรกทันที นั่นคือชื่อเต็มของนาธาน
“อะไรก็เหอะนะ ...นายไม่เคยชวนฉันเลย ให้ตายสิ!” เกวนเนธไม่สนใจอารมณ์ของโธมัส และเปลี่ยนเรื่องทันที
“นั่นเพราะว่า...” โธมัสพูดไม่ออกกับคำต่อไป
“นายมันงี่เง่าไง!” เกวนเนธพูดด้วยท่าทางโมโห แต่นั่นกลับทำให้โธมัสแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่กับท่าทางของเธอ เกวนเนธดึงแก้วน้ำผลไม้ในมือของโธมัสออก และวางข้างๆเขาพลางพูด
“ให้ตายสิ นายทนกินเข้าไปได้อย่างไง รสชาติห่วยแตก!”
“คริสตี้ เบลค มาลีน่า ...จอช กลับได้แล้ว!” เกวนเนธไม่วายเรียกสาวทั้งสี่หรือแค่สาม เพราะชื่อสุดท้ายไม่มีส่วนคล้ายว่าจะเป็นชื่อผู้หญิงเลย สิ้นเสียงเกวนเนธพวกเธอก็ลุกก่อนจะกล่าวคำอำลาง่ายๆ ให้กลับนาธานทีตอนนี้นั่งตะลึงอยู่ “ลาก่อนนะ สุดหล่อ”
ทั้งสี่เดินออกจากห้องไป ซึ่งยังทิ้งปริศนาให้กับโธมัสและนาธานอยู่
“จอช ...จอชหรอ?” นาธานเอ่ยชื่อนั้นขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยท่าทางสงสัย
“แม่ ป้า หรือ น้าสาวของนายหล่ะ ที่ชื่อจอช?” โธมัสเดินมาพร้อมกับคำพูดแดกดัน ในมือถือแก้วน้ำผลไม้แก้วเดิม ผนวกกับเสียงหัวเราะเยาะของสามพี่น้องบิทตั้น
“พระเจ้า นายอย่าบอกนะว่า...”
“จอช ที่นายป้อเธอเมื่อกี้ คือผู้ชายไงหล่ะพวก แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ฉันเดินมาหานายถึงนี่นะรู้ไหม?”
“ละ...แล้ว...เรื่องอะไร?” นาธานถามด้วยท่าทางเหมื่อลอย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“นายบอกกับ เกวนเนธ ว่าอเล็กซ์กำลังจะมาที่นี่”
“ฉันเสียใจพวก ...เกวนเนธไม่ยอมให้ฉันเข้าใกล้สาวๆ กับเอ่อ...จอช แน่ๆหากฉันไม่บอกเรื่องนี้” นาธานเรียกสติคืนมาได้ และตอบคำถามกับโธมัส
“เอาหล่ะพวก หลังจากนี้นายต้องรับผิดชอบแล้ว ...อเล็กซ์ไม่ใช่...”
“ฉันรู้หนะพวก ...ไม่มีอะไรที่นาธานทำไม่ได้” นาธานกล่าวยกยอตัวเองพลางเอามือลูบหลังโธมัส
“ไอน์สไตน์น่าจะคิด ทฤษฎีนี้ให้นายนะ น่าเสียดายจัง” นาธานเอ่ยขึ้นก่อนจะหยิบแก้วน้ำผลไม้ในมือโธมัสไปและดื่ม ทันทีที่น้ำผลไม้เข้าปากนาธานเขาถึงกับสติแตก
“พระเจ้าช่วย! นายแกล้งเอาน้ำล้างส้วมมาให้ฉันกินหรอเนี่ย” นาธานจำใจกลืนน้ำผลไม้ในปากของเขาก่อนจะสบถออกมา
“นี่แกะกล้องใหม่เลยนะพวก ฮ่าๆๆๆ” โธมัสอดไม่ได้ที่จะหัวเราะนาธาน
“เธอเป็นอะไรเกวนเนธ?” เบลคสาวเปรี้ยวกับผมบลอนด์ยาวเป็นลอน เห็นเกวนเนธสีหน้าไม่ดีตั้งแต่เมื่อครู่ขณะเดินมา
“โธมัสไม่ยอมบอกฉันว่าอเล็กซ์จะมา วิเศษเลย” เกวนเนธตอบด้วยน้ำเสียงโมโห
“นี่เธอยังไม่เลิกคลั่งหมอนั่นอีกหรอ?” คริสตี้ สาวผมบลอนด์หยิบอมยิ้มซึ่งเธออมมันตั้งแต่เดินออกมาจากหอของโธมัส ออกจากปากออกมาก่อนจะถาม
“พระเจ้า เจ้าหนุ่มสเกต ที่เธอเล่าให้ฟังบ่อยๆหนะหรอ? ฉันชักอยากเห็นซะแล้วสิ!” มาลีน่าสาวหุ่นบางกับชุดแปลกที่ดูสะดุดตา รู้สึกสนใจอเล็กซ์ผู้ซึ่งเธอไม่เคยเห็นมาก่อน
“อเล็กซ์ของฉันหย่ะ!” เกวนเนธรีบพูดกันท่าทันที
“เขายังไม่ได้พูดอะไรสักคำเลยนะ ...เธอก็แค่พูดว่า สวัสดี คำเดียวเองนี่” คริสตี้รีบพูดแทรกขึ้นมา
“หมอนั่นคงกินน่าดูเลยนะ ...พระเจ้าช่วยฉันไม่อยากจะคิดเลย” คำพูดของจอชกับสีหน้าหื่นกระหายของเธอ ทำให้การโต้เถียงของทั้งสี่ เงียบไปชั่วครู่ ซึ่งแปลกที่คำพูดของจอชจะเป็นที่สนใจของ เกวนเนธ เบลค คริสตี้ และ มาลีน่า
จอชสาวในร่างหนุ่ม สังเกตุเห็นสีหน้าแปลกๆของเพื่อนๆ ของเธอ ซึ่งมีเพียงคำเดียวที่เธอควรพูดในตอนนั้น “โทษที”
ทั้งห้ากระชับเสื้อคุมทันทีที่เดินผ่านสี่แยกซึ่งมีรถผ่านไม่มากนักเหมือนเคยนั่นเพราะว่าอากาศค่อนข้างหนาวกว่าทุกปี แต่ข้อดีของ ฟลอริด้าคือ ไม่มีหิมะตก
“เอาหล่ะ ...อเล็กซ์เคยยิ้มให้ฉันด้วยหล่ะ และฉันก็ให้อมยิ้มกับเขาแต่เขาไม่เอา ...นั่นเพราะฉันอมแล้วมั้ง” เกวนเนธรีบเปลี่ยนประเด็นทันที
“แค่นั้นหรอ?” เบลคขมวดคิ้ว ทำหน้าฉงน และถามเกวนเนธออกไป
“ความจริงแล้ว ...ใช่ แต่ว่าเขายิ้มอย่างจริงใจนะและนั่นคือข่าวดี” เกวนเนธรู้สึกลนลานกับคำตอบของเธอซึ่งนั่นคือเรื่องโกหก ในความเป็นจริงแล้วอเล็กซ์เพียงยิ้มเป็นมารยาทเท่านั้น เกวนเนธยิ้มแหยๆ แน่นอนเพื่อนๆของเธอทำสีหน้าไม่เชื่อเธอเอาเสียเลย
“จอช ...ฉันนะว่าเธอเชื่อฉัน” เกวนเนธรีบโน้มน้าว จอชทันที
จอชกลอกลูกตาไปมา ก่อนกับพูดจีบปากจีบคอกับเกวนเนธ “ใช่จ้ะที่รัก ...แต่ว่าเธอเรียกฉันว่าจอชมาพันรอบแล้วนะ ...ฉันชื่อ เซลีน่า”
“ให้ตายสิฉันเกลียดชื่อนี้จังเลย ...เซลีน่าหรอ?” คริสตี้เอ่ยอุทานเสียงเล็กเสียงแหลมกับชื่อของ จอช หรือตอนนี้ เซลีน่า
“อย่าห่วงเลย ฉันไม่แฉเธอหรอกนะ ว่าตอนที่เธอนั่งกับ นาธานเธอเผลอผายลมออกมาหน่ะ” เซลีน่าพูดโต้กลับอย่าดุเด็ดเผ็ดมัน
“พระเจ้าช่วย! น่าเกลียดจังเลย” ทั้งสามคนที่เหลือพูดขึ้นพร้อมกันกับสีหน้าขยะแขยงสุดขีด
“เงียบเหอะ!” คริสตี้โต้กลับด้วยน้ำเสียงโมโห
และนั่นก็คือเรื่องราววุ่นๆในวันคริสต์มาสครับ ผมไม่ข่าวจากสก๊อตหรือแม้แต่อเล็กซ์ในวันนั้นเลย แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน ผมก็รู้ว่า สก๊อตอยู่กับบ้านและเผอิญ อเล็กซ์ก็อยู่กับบ้านเช่นกันนั่นอาจเพราะว่าหิมะหนามากทำให้เขาไม่สามารถสนุกกับสเกตบอร์ดได้ แต่วันนี้เป็นวันที่ผมค่อนข้างยุ่งกับการเตรียมจัดข้าวของที่ดูรกรุงรังไปหมด อีกไม่กี่วันอเล็กซ์ก็จะมาแล้ว แน่นอนแขกที่ไม่ได้รับเชิญ เกวนเนธ กับเหล่าเพื่อนๆเธอมาที่นี่แน่ๆ ผมอยากจะดูต่อไปว่า อเล็กซ์จะมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร
“กริ๊งงงงง” เสียงโทรศัพท์เครื่องเดิมของโธมัสที่ตั้งอยู่ข้างคอมพิวเตอร์ดังขึ้น โธมัสซึ่งกำลังนั่งดูทีวีอยู่ต้องรีบลุกขึ้นและวิ่งเข้าไปในห้องของเขาเพื่อรับโทรศัพท์
“สวัสดี”
“เฮ้! อเล็กซ์ว่าไง” ดูเหมือนว่าอเล็กซ์จะโทรมาหาโธมัส
“ตอนนี้ ฉันอยู่ที่ฟลอริด้าแล้ว ...ฉันเดินทางมาก่อน เพราะกลัวตั๋วเครื่องบินจะหมดก่อน” อเล็กซ์ตอบกลับมาโทรศัพท์
“จริงหรอ? เยี่ยมไปเลย ...แล้วนายจะมาที่นี่เมื่อไรหล่ะ?” โธมัสถามอเล็กซ์กลับไป
“นั่นคือเหตุผลที่ฉันโทรมาหาไง ...ฉันลืมไปแล้วว่าหอนายอยู่ตรงไหนหน่ะ”
“ฮ่าๆๆ โอเคๆ นายจะให้ฉันไปรับเลยไหมหล่ะ?”
ทั้งคู่คุยกันอยู่พักใหญ่ หลังจากที่โธมัสวางหูโทรศัพท์เขาก็คว้ากุญแจรถยนตร์ ที่อยู่บนโต๊ะข้างๆ คว้าเสื้อคลุมสีน้ำตาลตัวโปรดของเขาและวิ่งออกจากห้อง เขาตรงไปที่โรงรถซึ่งอยู่ข้างๆกับหอของเขา โธมัสขึ้นรถสปอร์ตคันสีน้ำเงินของเขาทันที ซึ่งนั่นโธมัสกำลังจะไปรีบอเล็กซ์ที่บ้านญาติของเขาที่อยู่ไม่ห่างมากนัก
“แม่ครับ ...เดี๋ยวโธมัสจะมารับผมไปนะครับ” อเล็กซ์เอ่ยกับแม่ของตน ท่ามกลางกลุ่มญาติๆที่คุยกันอย่างสนุก บ้างนั่งจิบไวน์รสเลิศ บ้างนั่งดูทีวี โจแอนผู้เป็นแม่หันมายิ้ม
“ได้สิลูก ...แม่ไม่ได้เจอโธมัสนานมากแล้ว อย่าลืมชวนเขามาหาแม่หน่อยนะ” สิ้นเสียงโจแอนเสียงแตรรถยนตร์ ดังอยู่หน้าบ้านที่อเล็กซ์อยู่
“แม่ครับดูเหมือนว่า โธมัสจะมาถึงแล้วนะ” อเล็กซ์พูดพลางชะโงกศรีษะมองออกไปข้างนอกบ้าน
เขาตัดสินใจวิ่งออกไป ซึ่งนั่นคือโธมัสจริงๆ
“ให้ตายสิ รถนายเจ๋งจังพวก!” อเล็กซ์กล่าวทักทายพร้อมวิ่งไปกอดกับโธมัส
“ฉันช่วยศาสตราจารย์ตั้งครึ่งปีกว่าจะได้มันมา ...ฉันรักมันมาก” โธมัสพูดเอ่ยขึ้น และประโยคสุดท้ายหันไปมองที่รถพร้อมกล่าวคำชม
“พระเจ้าช่วย ฉันเก็บเงินได้มากสุดก็แค่ สเกตบอร์ดราคา ร้อยกว่าเหรียญเอง” อเล็กซ์ทำท่าทางทึ่งกับโธมัส
“จริงด้วย ...แม่ฉันอยากเจอนายพอดีเลย เข้าไปข้างในก่อนสิ”
“เยี่ยม” โธมัสตอบสั้นๆ ซึ่งอาจหมายถึง “ขอบคุณ” ในเวลานี้
“นายสูงเร็วจัง” โธมัสพูดกับอเล็กซ์ขณะเดินเข้าบ้าน
“ฉันสิบเจ็ดนะพวก”
ขณะที่โธมัสเข้าบ้านไป โจแอนยิ้มออกมาและเดินมาทักทาย
“สวัสดีจ้า ...ดูสิ โตขึ้นเป็นกองเลย” โจแอนโผเข้ากอดโธมัส ก่อนจะกล่าวชม
“เข้ามานั่งก่อนสิจ๊ะ” โจแอนกล่าวเชิญอย่างไม่เป็นทางการนัก
“ขอบคุณครับ” โธมัสเดินตามโจแอนและนั่งลงบนโซฟาข้างคาร์ลพ่อของอเล็กซ์
“คุณคะ ดูสิใครมา?” โจแอนเรียกคาร์ลซึ่งกำลังสนใจกับไวน์แก้วหนึ่งอยู่ เขาหันมาตามเสียง
“เอ้า ทอมมี่ เป็นไงบ้าง” ‘ทอมมี่’ อาจเป็นอีกชื่อเรียกของโธมัส คาร์ลส่งแก้วไวน์ให้โธมัส
“เอาหน่อยไหม ...หรูนะ” โธมัสและทำสีหน้าแปลกๆ
“ไม่เอาน่า... ฉันล้อเล่น ฮ่าๆๆ” โธมัสยิ้มแหยๆ ก่อนจะหัวเราะตามคาร์ลที่ล้อเล่นกับเขาเมื่อครู่
“ผมเรียนอยู่ที่ ทรินิตี้ครับ” โธมัสกล่าวตอบกับคาร์ล
“น้าคิดว่า อเล็กซ์น่าจะไปเรียนต่อที่นั่นนะจะได้อยู่ใกล้กับโธมัส” โจแอนเสนอความคิดเห็นนั่นทำให้อเล็กซ์ยิ้มออกมา
“ที่จริงแล้วห้องผมยังมีที่ว่างพอให้ไสสเกตนะครับ” โธมัสพูดขึ้นพลางมองไปที่อเล็กซ์ โจแอนและคาร์ล ขำออกมาทันทีหลังโธมัสพูดจบ
“แม่ครับ ผมคิดว่าโธมัสกับผมควรไปแล้วนะครับ” อเล็กซ์พูดขัดจังหวะขึ้นมา
“จริงสินะ ...แล้วเจอกันจ้า”โจแอนหันมามองอเล็กซ์ และกล่าวลาโธมัสพร้อมกับคาร์ล
“แล้วเจอกันครับ ...ผมสัญญาครับ อเล็กซ์ไม่ตกหลังคาหอหรอกครับ” คำอำลากับมุกตลกเล็กๆทำให้โจแอนและคาร์ลยิ้มออกมา ทัง้คู่เดินมาที่รถอเล็กซ์ไม่ลืมที่จะหันไปพูดกับโธมัส
“ตกหลังคางั้นหรอ? เข้าใจเล่นนะ”
อเล็กซ์ก้าวขึ้นรถก่อนหันมากล่าวลาพ่อและแม่ของเขาซึ่งกำลังยืนมองเข้าอยู่ที่หน้าประตูบ้าน
“ไปก่อนนะครับแม่!” อเล็กซ์ทักทาย โจแอนและคาร์ลโบกมือลาและยิ้มออกมาก่อนจะเดินเข้าบ้านไป ระหว่างทางทั้งคู่คุยกันเคล้ากับเสียงเพลงจังหวะเร้าใจ “ฮิพ ฮอพ” แนวดนตรีโปรดของอเล็กซ์
“นายจะมาเรียนคณะอะไรหล่ะ” โธมัสเริ่มคำถาม
“ฉันไม่ค่อยถูกกับคณิตศาสตร์เหมือนกับนาย บางทีเคมีท่าจเวิร์คกว่านะ” อเล็กซ์ตอบพลางโยกศีรษะตามจังหวะเพลง
“นายจะทำสเกตบอร์ดด้วยโพลิเมอร์หรอพวก” โธมัสแซวอเล็กซ์
“อะไรก็เหอะนะ ...ถึงหอนายขอยืมใช้อินเตอร์เนตหน่อยก็แล้วกัน” อเล็กซ์พูดพลางกลอกลูกตาไปมา และกล่าวขอยืมประโยคสุดท้าย
“ได้เลยพวก ...ฉันขอเปิดก่อนละกัน” โธมัสตอบตกลง
เพียงไม่กี่ชั่วโมงรถสปอร์ตยุคเก้าศูนย์ก็พาทั้งคู่มาที่หอ อเล็กซ์ก้าวลงจากรถพลางพูดกับโธมัl
“ฟลอริด้า ยังสวยเหมือนเดิมแฮะ” อเล็กซ์มองไปรอบๆ หอของโธมัสซึ่งเต็มไปด้วยต้นปาล์มและตึกสีขาวดูสะอาดตา
“ขึ้นไปข้างบนกันเถอะ” โธมัสชวนอเล็กซ์ก่อนจะกดรีโมทคอนโทรลจากพวงกุญแจของเขา เสียงเล็กๆดังขึ้นจากตัวรถ นั่นหมายความว่ารถของโธมัสปลอดภัยแล้ว
“พระเจ้าช่วย! ที่นี่น่าอยู่ชะมัด” อเล็กซ์รู้สึกตลึงกับห้องของโธมัสซึ่งดูๆไปก็ไม่ได้หรูหราอะไรมากแต่เพรียบพร้อมด้วย เครื่องใช้ที่ทันสมัย รวมถึงโซฟาราคาแพงของโธมัส
อเล็กซ์ย่อตัวลงนั่งที่โซฟาตัวโปรดของโธมัส พลางมองไปรอบๆห้อง
“ทำความรู้จักกับโซฟาตัวนั้นไว้ซะ ...เดี๋ยวนายก็จะมาอยู่นี่แล้ว” โธมัสกล่าวขึ้นพลางเดินไปเปิดสวิซต์ คอมพิวเตอร์ของเขา และนั่งลงที่เก้าอี้
“เจ๋ง ...ว่าแต่แถวนี้มีที่ให้ฉันไสสเกตหรือเปล่า?” อเล็กซ์ยังคงสนใจกับโซฟาของโธมัส เขาใช้มือลูบที่โซฟา พลางถามโธมัสในประโยคสุดท้าย
“ความจริงแล้ว นายลองไปดูหลังหอฉันสิ” โธมัสพูดแต่ว่าตาเขาจดจ่อกับหน้าจอคอมพิวเตอร์
“เอาไว้ทีหลังดีกว่า ...นายทำอะไรหรอ” อเล็กซ์ลุกยืนและกล่าวปฏิเสธพลางเดินที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของโธมัส
“เพื่อนฉันส่งอีเมลมา ...ต้องตอบก่อน” โธมัสยังคงจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์มือข้างซ้ายวางอยู่บนแป้นพิมพ์ มือข้างขวาวางอยู่บนเมาส์
บนหน้าจอคอมพิวเตอร์มีรายชื่ออีเมลจากเพื่อนของโธมัสอยู่หลายฉบับ หนึ่งในนั้นคือ ของสก๊อต โธมัสเลือกที่จะตอบของสก๊อตก่อน
“ใครหรอ?” อเล็กซ์ถาม โธมัสหันมายิ้มและตอบ
“ฉันคิดว่านายเคยคุยกับหมอนี่ซะอีก”
“ไม่ ...ฉันไม่เคยเห็นหน้าหมอนี่เลยด้วยซ้ำ ...แต่จะว่าไป หมอนี่ก็โอเคนะ” อเล็กซ์มองไปที่หน้าอีเมลซึ่งทางด้านขวาบนมีรูปของสก๊อตอยู่ด้วย ก่อนที่เขาแสดงความเจ้าชู้ของตัวเองโดย กล่าวชมสก๊อต
“ไม่เบานะพวก ...ข่าวดีคือหมอนี่จะมาที่นี่เดือนเมษายนปีหน้าแล้ว” โธมัสหันมามองหน้าอเล็กซ์และกล่าวขึ้น
“เจ๋ง! หวังว่าฉันคงมีโอกาสได้ทำความรู้จักบ้างนะ” อเล็กซ์พูดและแลบลิ้นใส่โธมัส
“ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่า คอนเนคติคัท จะทำให้นายเจ้าเนี่ย ฮ่าๆๆ” โธมัสหัวเราะออกมากับทางของอเล็กซ์
“อะไรก็เหอะ ...เมื่อกี้นายบอกว่านายคิดว่าฉันคุยกับเอ่อ...” อเล็กซ์เปลี่ยนประโยค โดยถามโธมัสพลางชี้ไปที่รูปสก๊อต เขาหวังจะเรียกชื่อสก๊อตแต่ว่าเขาดันลืมชื่อสก๊อต
“สก๊อต” โธมัสรีบตัดบทแทรกเพื่อจะฟังถามของอเล็กซ์ในประโยคต่อไป
“ใช่ สก๊อต ...นายบอกว่าฉันน่าจะคุยกับสก๊อตหรอ?”
“ใช่แล้ว เพราะว่าสก๊อตมีอีเมลนายเรียบร้อยแล้ว ...นายไม่ค่อยออนไลน์ เอ็มเอสเอ็นหรอ?”
โธมัสตอบด้วยท่าทางฉงน และหยอดคำถามต่อในประโยคสุดท้าย และหันหน้าไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์พลางกดแป้นพิมพ์ เพื่อตอบจดหมายเพื่อนๆของเขา
“หรอ? ...สก๊อตอยู่ประเทศไหนหล่ะ?” อเล็กซ์ก็รู้สึกสงสัยไม่แพ้โธมัส
“เอ่อ... สโล... สโลวีเนีย” โธมัสพูดออกมาแทบไม่เป็นคำกับชื่อประเทศของสก๊อตนั่นเพราะว่าเขาเกือบลืมมันไปซะสนิท
“สโลวีเนียหรอ? บนโลกนี้มีประเทศนี้ด้วยหรอ?” อเล็กซ์รู้สึกแปลกใจกับชื่อประเทศที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
“เห็นสก๊อตบอกว่าอยู่ทางตอนใต้ของยุโรป ...ว่างๆนายก็ไปเที่ยวสิ” โธมัสยังคงสนใจกับการตอบอีเมลเพื่อนๆของเขา
“น้ำส้มอยู่ในตู้เย็น ที่ครัวนะ เผื่อนายจะหิวน้ำ” โธมัสหยุดพิมพ์และหันพูดกับอเล็กซ์ซึ่งกำลังมองสำรวจห้องของเขา
“เจ๋ง!” พูดจบอเล็กซ์เดินตรงไปที่ครัวของโธมัสซึ่งอยู่ห่างไม่กี่ก้าว เขาเดินเข้าไปในครัว และมองหาตู้เย็นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพบว่ามันตั้งอยู่ที่มุมของห้องครัวติดกับอ่างล้างมือ อเล็กซ์ตรงเข้าเปิดตู้เย็นพลางมองไปรอบๆห้องครัว และพูดพึมพำกับของใช้ต่างๆภายในห้องครัว
“เจ๋ง ...เจ๋ง เยี่ยมเลย” อเล็กซ์ใช้เวลาไม่นานในการหาน้ำส้มขวดโต เขาหยิบมันออกมา ปิดตู้เย็นและเดินตรงไปหยิบแก้ว ข้างๆอ่างล้างมือสองใบก่อนจะเดินออกจากครัว
“ฉันตัดสินใจจะอยู่กับนายที่นี่แล้วพวก” อเล็กซ์พูดกับโธมัสขณะเดินออกจากครัว
“เจ๋งใช่ไหมหล่ะ?” โธมัสหัวเราะเบาๆก่อนจะพูด ในขณะที่เขากำลังพิมพ์ข้อความคุยกับเพื่อน
“เอาหล่ะฉันใช้คอมเสร็จแล้ว ...นายจะใช้ไม่ใช่หรอ” โธมัสหันไปกดปุ่มบนแป้นพิมพ์ซึ่งอาจจะเป็นปุ่ม Enter แล้วหันพูดกับอเล็กซ์
“เจ๋ง!” อเล็กซ์ยิ้มแล้วพูดออกมา
“ฉันว่านายเปลี่ยนจาก ‘เจ๋ง’ เป็น ‘เยี่ยม’ หรือ ‘วิเศษ’ ก็ดีนะ” โธมัสรู้สึกรำคาญกับคำพูดที่อเล็กซ์พูดตั้งแต่บ้านป้าของเขา อเล็กซ์หันมายิ้มก่อนจะพูด
“เจ๋ง!”
โธมัสขมวดคิ้ว แล้วยิ้มออกมา ก่อนจะลูบหัวอเล็กซ์
หลังจากที่ผมคุยกับ ไวล์ดไชล์ด จนถึง สองทุ่มเศษผมก็ขับรถไปส่งหมอนั่น แต่ที่น่าขันคือระหว่างทางกลับบ้านอเล็กซ์เห็น เกวนเนธซึ่งกำลังเดินอยู่กับเพื่อนสาวแท้และเทียมอยู่ หมอนั่นจำเกวนเนธได้ อเล็กซ์โผล่หัวจากรถและตะโกนออกไป เพื่อจะทักทายเกวนเนธ
“สวัสดี เกวนเนธ!” อเล็กซ์ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าวันต่อมาผมต้องเจออะไรบ้างกับญาติห่างๆคนนี้ หลังจากนั่งฟังเกวนเนธสบถหลายพันคำ ผมก็เพิ่งรู้ว่าเธอเคยให้อมยิ้มอเล็กซ์ นั่นคงทำให้อเล็กซ์จำเกวนเนธได้
เอาหล่ะครับ อีกสองวันก็วันขอบคุณพระเจ้าแล้วผมได้รับเชิญให้ไปร่วมทานอาหารค่ำกับครอบครัวอเล็กซ์ เรื่องยอดเยี่ยมคือผมจะไปทานอาหารค่ำที่นั่นครับ
ความคิดเห็น