ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กว่าจะเป็นสิงห์แดง...(กว่าจะสอบตรงติด)

    ลำดับตอนที่ #7 : การสัมภาษณ์...แบบ อิน อิน

    • อัปเดตล่าสุด 27 มี.ค. 53


    ตอนนี้คงเป็นมหากาพย์ภาคสุดท้ายของเรื่องที่ว่าด้วยการสอบสัมภาษณ์แล้วล่ะ หุหุ

         ก็อย่างที่บอกว่าเราเองก็ไปสอบ BMIR มาด้วย ก็ปรากฏว่าก็ติด ก็เลยไปสัมภาษณ์มา และคราวนี้ก็สมใจอยากแบบโคตรๆ เพราะระดับเทพมากันเองทั้งนั้น แบบหัวหน้าภาคมากันเลยทีเดียว อลังการมาก และก็ขนพองสยองเกล้ากันอีกด้วยเช่นกัน แต่คราวนี้ไม่ดีตรงที่ว่าเค้าจัดเวลาให้ไม่ได้เลย คือเราเป็นคนที่ 170 แล้วแบบให้ไปแต่เช้าอ่า เราได้สัมภาษณ์บ่ายสาม อารมณ์อยากฉีกคนจัดเวลามาก แทนที่จะแบ่งๆเป็นรอบๆ เช้า บ่าย เฮ่อ... แต่ดีที่บ้านใกล้ เลไปรอดูแค่สามโมง ก็กลับมาบ้าน ไปอีกที่เที่ยง เหอะๆ แต่ขนาดไปเที่ยงก็ต้องไปรอกเลยแนะนำว่าใครชื่อท้ายๆนี่หาอะไรไปทำรอได้เลย... แล้วก็ห้องรอสัมภาษณ์คราวนี้บอกได้เลยว่าไม่สนุกแบบคราวที่แล้วเลย อะไรกันกไม่รุ้อะ เหอะๆ... แล้วก็หลังจากที่นั่งรอ ก็ได้ข่าวแว่วๆมาว่า อ.จุลชีพสุดโหดได้ไปแล้วนั่นเอง ฮ่าๆๆ แอบดีใจ คือจุดนี้อยากสัมภาณ์บพวกเทพนะ แต่เป็นคนไหนก็ได้ที่ไม่ใช่คนนี้... ได้โปรดอย่าถามว่าทำไม ฮ่าๆๆ... แล้วรอไป ชักไม่ไหวแล้วเว่ย !!! ไปห้องน้ำดีกว่าตู อิอิ แล้วอตนขอกลับเรื่องไม่ขาดคิดก็เกิดขึ้น ตอนกลับมาก็ปะกันกับอาจารย์ จรัล (โอ้พระเจ้า..ตัวเป็นๆจับได้ด้วย) แล้วก็อาจารย์คนที่สัมภาษณ์เราคราวที่แล้ว ทำไมช่างบังเอิญเช่นนี้.. พอเจอเราก็สวัสดี อาจารย์เค้าก็ทำหน้าแบบเหมือน งงๆ แล้วก็ประมาณว่าเคยเจอที่ไหนนะ เราก็อ้อก็หนูสัมภาษณ์กับอาจารย์รอบที่แล้วค่ะ เค้าก็ทำหน้าจำได้ เราก็เลยถามว่าอาจารย์กลับแล้วหร๋อคะ เค้าก็ไม่ตอบไร แต่อาจารย์ จรัล นี่ทำหน้าแบบ งงๆ ฮ่าๆๆ ประมาณว่ารู้จักกันหร๋อ เด็กแถวนั้นก็แบบพูดๆว่า เห้ยเค้ารูจักกันด้วยหว่ะ ฮ่าๆๆ แม่งนึกว่าตูเส้นรึไงวะ...

         แล้วตอนที่เราสัมภาณ์มันก็บ่ายสามแล้วอาจารย์ก็เริ่มๆกลับกันแล้วเหอะๆ พอเข้าไปปรากฎว่าคราวนี้คนสัมภาษณ์สองคน แถมสัมภาษณ์นานด้วย เหอะๆดูโหดกว่าคราวที่แล้ว... แล้วตอนนั่งรอก็แอบๆฟังเค้าสัมภาษณ์ เค้าก็ถามพวกประเด็นนี่ล่ะ คือสำเนียงเค้าก็ดูไม่อะไรมากเรื่องนี้อ่านะ หมายถึงไม่ได้ใส่ใจมาก ก็จำได้เลยโต๊ะนี้ที่ถามว่าทำไมเราถึงควรรับคุณไว้ เหอะๆ คนตอบนี่เหวอไปเลยอ่า แบบนิ่งไปนิดนึง แล้วก็ตอบแบบติดๆ แบบเหมือนตื่นเต้นอ่า... เราก็แบบเหอะๆ เอาแล้วตู ณ จุดๆนี้สัมภาษณ์เป็น ENG ล้วนคร๊าบท่าน แต่เราว่าไม่ต้อง อิ๊งค์ขนาดแอ๊ดวานซ์ก็สอบได้... แล้วตอนนั่งๆไปก็เหลือบไปเห็นข้างหลังคุ้นๆ เห้ยนั่นมันอาจารย์ จรัลนี่หว่า ยังไม่ไปหนิ ถ้างั้นจารย์คนนั้นก็ต้องยังไม่ไป คือยังคุยกะแม่ก่อนเข้าห้องว่าอาจารย์ที่เอจรอบที่แล้วกลับไปแล้วเสียดาย ฮ่าๆๆ.. แล้วทันใดนั้นลางสังเห่า เอ้ยหรณ์ ก็บอกเราว่าต้องเจอคนเดิมแน่ๆ แล้วป๊าดดด ก็เจอจริงๆครับท่านนน...

         หลังจากที่วันนี้เจอกันไปแล้วหนึ่งรอบ พอเจออีกทีอาจารย์เค้าเลยยิ้ม แล้วทำหน้าแบบ ตูเจออีเด็กนี่อีกแล้วหร๋อเนี่ยะ ฮ่าๆๆ
    แต่คราวนี้มีอาจารย์อีกคนนึงด้วย เราก็เอะหน้าคุ้นๆนะ แต่จำไม่ได้แหะ แต่หน้าตาดูใจดีมากมาย เราก็นึกไม่ออกก็ไม่อะไรมาก
    คราวนี้อาจารย์ผู้ชายสัมภาษณ์คนเดียวเลย อาจารย์ผู้หญิงเลยรับหน้าที่นั่งดูแฟ้มเราอย่างเงียบๆ เหอะๆ
    ไปถึงก็เช่นเคย เราก็สวัสดีแล้วขออนุญาตินั่ง...

    ฉ.. สวัสดีค่ะอาจารย์ ชื่อ...ค่ะ มาจาก รร... จังหวัด...ค่ะ
    อ.. ฟฟ. หร๋อ โรงเรียนอยู่จังหวัดอะไรนะ (ฟฟ. สมมติเป็นตัวย่อ รร.ล่ะกัน.. ว่าแต่เป้นอะไรกับตัวย่อ รร. เรานักหนาหว่ะ 
         กี่รอบก็ต้องถามฮ่าๆๆ คงบ้านนอกนั่นเอง)
    ฉ.. อ้อ จังหวัด..ค่ะ
    อ.. เป็น รร อันดับหนึ่งของจังหวัดใช่ไหม
         เราก็เห้ยเค้ารู้จักด้วยอ่า รร.ตูดังเหมือนที่ ผอ. เม้าท์ไว้จริงด้วยเว้ย
    ฉ.. อ้อ คงใช่มั้งคะ (แบบงงๆ) อาจารย์รู้จักด้วยหร๋อคะ
    อ.. เปล่าหรอก เดาเอา (อ่าวตูอุส่าห์ดีใจนึกว่า รร.ตูดัง)... (แล้วอาจารย์ก็ยิ้มๆผ่านแว่นอย่างมีเสศนัย ฮ่าๆๆ)
    ฉ.. คือจังหวัดหนูมี รร อื่นด้วย บลาๆ เลยไม่แน่ใจว่าดีที่สุดในจังหวัดรึเปล่าหน่ะค่ะ
         แล้วก็เงียบกันไปแปปนึง คือเราก้รอเค้าถาม เค้าก็รอเราพูด ฮ่าๆๆ
    อ.. แนะนำตัวมากกกว่านี้สิ (อ่าวจะมากยังไงคะ คราวที่แล้วหนูก็พูดแค่นี้อ่า)
    ฉ.. อ้อ หนูเรียนสาขา ศิลป์..ค่ะ แล้วก็ตอนอยู่ที่ รร. ก็เป็น ST.HEAD ค่ะ (แล้วก็พยายามลากแฟ้มให้เค้าดู 
         แต่เค้าไม่แม้แต่จะชายตามองไหงเป็นงี้วะเนี่ยะ เล่นเอาอึ้งๆไปเหมือนกัน
    อ.. ทำไมถึงเลือกเรียนคณะนี้
         คำถามนี้ก็ตอบไปเหมือนตอนสอบภาคปก ฮ่าๆๆๆ หากินอยู่เท่านี้
    อ.. แล้วเรียนไปคิดว่าจะไปพัฒนาได้ยังไง (คือเราบอกว่าเรียนไปจบไปจะไปพัฒนาท้องถิ่นไรแบบนั้น)
    ฉ.. อ้อ ก็อาจเป็น สส. ไม่ก็ทำงานองค์กรระหว่างประเทศมั้งค่ะ แล้วก็เอาความรู้มาช่วยงานชุมชน
    อ.. อื่ม ครอบครัวเป็นยังไงบ้าง (สบายดีค่ะ... เห้ย อันนี้อึ้ง ไม่คิดว่าเค้าจะถาม เพราะไม่มีใครโดนถามอ่า หรือมี 
         แต่ที่แน่ๆเพื่อนเราไม่มี มีแต่ยิ่งประเด็น)
    ฉ.. อ้อ ครอบครัวหนูมี 4 คนค่ะ... แล้วก็บอกไปพ่อแม่ทำไร น้องเป็นไง
         แล้วจารย์ผู้หญิงก็แบบ โอ่ว ห่างกับน้องมากนะเนี่ยะ บลาๆ
    อ.. เสร็จแล้วครับ... อันนี้พูดไทยเลย ฮ่าๆๆ
    ฉ.. (แบบงงๆ) เสร็จแล้วหร๋อคะ ?... คืออารมณ์แบบไมไวจังวะ
    อ.. (ยิ้ม) ครับ
    ฉ.. ค่ะ งั้นก่อนนะคะอาจารย์ สวัสดีค่ะ..หันไปยิ้มอีกที 555

         ก็เลยเดินออกมาทั้ง งงๆ แบบนั้นอ่า ฮ่าๆๆๆ... คือเพื่อนเราโดนสัมภาษณ์กับ อ.จุลชีพ แบบโหดมาก ถามเรื่องมาบตาพุด แบบว่าจะแก้ยังไง แค่นี้ได้หร๋อ บลาๆ แล้วคนก่อนหน้าเราที่ว่า ก็โดนถามว่าทำไมถึงควรรับไว้ แต่เรานี่ถามวาครอบครัวเป็นไงบ้าง... เล่นเอาฮาเลยทีเดียว ไม่มีประเด็นไรเลย แบบอุส่าห์นั่งรอกะได้โชว์พาว ก็เลยได้โชว์เอ๋อสะงั้น แบบครอบครัวเป็นไง โชว์เอ๋อไปตอนแรกว่ามี 5 คน ตอนนั้นกะลังช็อคกับคำถามไง ฮ่าๆๆ ข่าว่าที่บ้านมีแค่สี่คน สงสัยตอนนั้นนับรวมแมวไปด้วย เหอะๆ... แล้วพออกมา ก็เห็นป้า 
    เอ้ยผู้หญิงคนนึง ยืนส่องเข้าไปข้างในอยุ่ นั่นคือแม่เราเองล่ะ เหอะๆ แม่กำลังดูสถานการ์นั่นเอง ก็แบบแม่ดูไรอ่า แม่ก็เดี๋ยวสิ ดูก่อนเค้าพูดอะไรกัน ฮ่าๆๆๆ แล้วก็แบบ..ไม่เห็นอะไปกันเหอะ แล้วเราสองคนก็ออกไป 555
         ตอนนั่งรถมาก็นึกๆ นึกไปนึกมา อาจารย์ผู้ชายนั่นอ.ประภัสสร์นี่หว่า... แล้วก็พูดคำวส่านึกออกแล้วลั่นรถแท๊กซี่ 555
    แบบแอบเสียดายว่าน่าจะทักอาจารย์ไง เพราะติดตามแกมาตั้งนาน อุตส่าห์ได้เจอตัวจริง เสียดายๆ แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็ได้เรียนกะแกอยุ่ดี หุหุ... พอถึงบ้านก็โทรไปเม้าท์กับเพื่อน เพื่อนก็แบบ เออทำไมขอแกสั้นจัง แกคงคะแนนเยอะมั้งเค้าเลยไม่ถามไรมาก เราก็เลยคิดตามมันไปซะงั้น เหอะๆ...

    ทริป... จำไว้ว่าไปสอบอินเตอร์นะ อย่าหลุดภาษาไทยไปล่ะถ้าไมจำเป็นจริงๆ หุหุ

    ปล.รู้สึกไม่อยากทำต่อแล้วอ่า ไม่ค่อยมีคนคอมเม้นท์เลยอ่า ToT... มันเมื่อยมือนะเวลาลงให้อ่า สายตาสั้นลงด้วย ToT

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×