กว่าจะเป็นสิงห์แดง...(กว่าจะสอบตรงติด)

ลำดับตอนที่ #2 : ห้อง ๒๓๑...

และแล้วก็ถึงเวลา... ที่เราจะต้องออกไปเผชิญหน้ากับความจริง (จะซีเรียสทำไม)...
     แต่แล้วเราก็เดินออกไปด้วยหัวใจอันแช่มชื่น ไร้ซึ่งความกังวล แต่แอบตื่นเต้นนิดๆ บังเอิญ ตอนที่นั่งนั่งรออยู่นั้น เพื่อนที่รู้จักกันก็สอบเสร็จพอดี พออกมาก็เลยถาม ได้ความว่า เพื่อนโดนสัมภาษณ์กับ อ.ผู้ชาย แต่เป็นใครนั้น ถึงบัดดนี้ก็ยังไม่รู้ ฮ่าาา เค้าก็ให้วิเคราะห์ข่าวให้ฟัง แล้วก็มีถามคำถามเล็กน้อย... ซึ่งพอได้ยินแบบนี้ แอบเครียดเล็กน้อย เนื่องจากไม่ได้เตรียมข่าวอะไรมาเลย นอกจากข่าวบันเทิง ฮ่าาา ก็มันมีความสุขอ่า อารมณ์ประมาณว่าหลังจากผ่านข้อเขียน โลกช่างสดใสเหลือเกิน จึงมัวหลงระเริงอยู่กับสิ่งที่ไม่ประเทืองปัญญาทั้งหลาย (ที่ห่างหายไปนาน) ... หลังจากที่สอบถามเพื่อนเสร็จ ก็มัวสาละวนอยุ่กับการเลือกซื้อเสื้อ ฮ่าาา คือเป็นเสื้อที่พวกพี่เอามาขาย หาเงินมาเลี้ยงน้องวันพบเพื่อนใหม่ แต่เสื้อก็สวยจริงๆนะ ใส่แล้วรู้เลยว่าสังกัดไหน เหอะๆ เลยซื้อมาสองตัว... แล้วสักพักก็มีเสียงคนเรียกเลขที่ ที่ฟังดูคุ้นๆ อ่าวววว มันเลขที่เรานี่หว่า(ขณะกำลังจะควักเงินซื้อเสื้อ) ก็เลยต้องรีบไปก่อน ตอนนั้นรู้สึกแบบตายล่ะ อ.จะนั่งรอป่าววะ โดนด่าแน่ตู... ปรากฎว่า เข้าไปก็ยังต้องไปนั่งรออยุ่ดี เหอะๆ แต่ก็รุ้สึกโล่ง... จากเรื่องนี้ทำให้สำเนียกตัวเองได้ว่า ยังไม่ควรสนใจเรื่องอื่นจนกว่าจะสอบเสร็จ ฮ่าาา... ขณะที่นั่งรอนั้น ก็เม้าท์กับเพื่อนข้างๆไป (ยังไม่เลิก) แต่สายตาก็แอบสอดส่องว่าโต๊ะไหนจะลุก
ซึ่งโต๊ะสัมภาษณ์ในห้องจะแยกเป็นสามแถว ตามสาขาคือ บริหารรัฐกิจ ไอเอ และปกครอง... เราก็อ่า ไอเอ อยุ่แถวกลาง มองไปปรากฎว่ามี อ.ผู้ชายคนนึง นอกนั้นเป็น อ.ผู้หญิง มีบางท่านที่รู้จัก และส่วนมากไม่รุ้จัก และโดยส่วนมากจะเป็น อ.ใหม่ๆ นั่งไปก็ภาวนาไปไม่เอาโต๊ะสองๆ ขณะที่คำภาวนายังไม่ทันจบ ก็มีเสียงเก้าอี้ และคนลุกออกมา โต๊ะสองเสร็จแล้ววววอ่าวงั้นต่อไปก็เราล่ะสิ... และเราก็ได้โต๊ะสองจริงๆ ที่ไม่อยากได้โต๊ะสอง เพราะอาจารย์ที่สัมภาษณ์หน้าตาแกดูเยาว์วัยเป็นที่สุด ราวรุ่นพี่ก็ไม่ปาน (ฮ่าาา เว่อร์ไปปะแก) ซึ่งผิดวิสัยที่ชอบอะไรที่ท้าทายของเรา (ประมาณว่าชอบเม้าท์กะคนแก่) ฮ่าาา แต่หลายคนคงชอบ เพราะไม่ค่อยกดดัน... บทสนทนา

ฉัน... สวัสดีค่ะอาจารย์ขออนุญาตินั่งนะคะ (สภาพแบกแฟ้มไปด้วยสองแฟ้มหนาๆ)
อาจารย์... เชิญค่ะ
ฉ.. ขออนุญาติวาง (แฟ้ม) นะคะ
อ.. เอาเลยค่ะ
แล้วอาจารย์ก็มองมาที่หน้าอกเรา(อย่าคิดลึก) แล้วก็ถามว่า...(อักษรย่อ รร. เรา) ย่อมาจากอะไร?
เราก็บอกไป แล้วจารย์ก็ถามอีกว่ามาจากจังหวัดอะไร เราก็ตอบว่ามาจาก... ค่ะ
จารย์ก้ถามอีกว่าอ่าวแล้วมายังไงเนี่ยะ มาตั้งแต่วันไหน... เราก็เลยร่ายยาว(มันเป็นเทคนิค) "ก็มาตั้งแต่วันโน่นแล้วค่ะอาจารย์ กะว่าจามาดูแข่งฟุตบอลประเพณี แต่แบบคนเยอะเลยไม่ได้ไปค่ะ" แล้วก็เลยเม้าท์กันเรื่องนี้ต่อ จารย์ก็ถามอ้อแล้วผลเป็นไงครุไม่ไดดู เราก็โม้ๆไป แบบหนูนะลุ้นมากเลย เจ็บใจด้วยยิงเท่าไหร่ไม่เข้า บลาาา....
เสร็จปั๊ป เราก็จับๆแฟ้ม(มันเป็นเทคนิค)
อ.. โห ทำอะไรเยอะแยะเลย (หมายถึงแฟ้ม)
ฉ.. อ้อก็ แฟ้มแบ่งออกเป็นสองอย่างนะคะ อันนี้เป็นแฟ้มเกี่ยวกับ กิจกรรมที่ทำภายในและภายนอก รร (พูดไปก็เปิดให้ดู)แล้วอันนี้ก็เป็นกิจกรรม กน. คือหนูเป็น ST.head หน่ะคะ แล้วก็มีผลงานที่ประทำใจด้วย
อ.. อันไหนผลงานที่ประทับใจ
ฉ.. (เปิดให้ดู)ก็อันนี้ได้เฝ้าพระเทพฯ เพื่อ... บลาๆ
      แล้วก็อันนี้ไปประกวดสุนทรพจน์อังกฤษ(เรื่องเกี่ยวกับสันติภาพ)...แล้วก็โม้ๆไปว่าเขียนตั้งสี่วันนะคะ บลาๆๆ
อ.. ไหนลองเล่าให้ฟังสิ เขียนไปว่าไง
ฉ.. อ้อก็พูดเรื่องเกี่ยวกับ นิวเคลีย์เกาหลี การเลือกตั้งในอิหร่าน ซิมบับเว แล้วก็พม่า บลาๆ
อ.. อื่ม แล้วชนะไหม
ฉ.. ค่ะ
อ.. อื่มมมม เก่งนะเนี่ยะ ทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง
ฉ.. อ้อไม่หรอกค่ะ คือหนูทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำหน่ะค่ะ หนูคิดว่าคนเราเกิดมาครั้งนึงน่าจะได้ลองทำอะไรหลายๆอย่างจะได้ดูใช้ชีวิตคุ้มดีหน่ะค่ะ
อ.. อื่มม แล้วทำไมอยากเข้าคณะนี้ ? (คำถามยอดฮิต คิดว่าจาไม่ถาม)
ฉ.. ก็คือหนูอยาเข้าคณะนี้มาตั้งแต่อยุ่ ป.๖ แล้วอ่าค่ะ แล้วก็ไม่ได้สอบที่อื่นไว้เลย สอบที่นี่ที่เดียว
      ก็ที่อยากเรียนก็เพราะบ้านหนูอยู่บ้านนอกอ่าค่ะ (แอบขำ) ก็ไม่ค่อยมีการพัฒนาเท่าไหร่ อย่างเช่น...
      กี่สิบปีก้เป็นอยุ่อย่างนั้น แต่ว่านักการเมืองที่นี่ร๊วยรวยนะคะ แต่ไม่พัฒนาอะไรเลย ก็เลยอยากจบไปแล้วไปช่วยพัฒนา
      อะไรๆบ้างหน่ะค่ะ
อ.. อ่าว แล้วทำไมแบบนี้ไม่เลือกเรียนปกครองหรือบริหารรัฐกิจหล่ะ
ฉ.. (เออหว่ะ) อ้อก็คือหนูเป็นคนที่ชอบเรียนรุ้หน่ะค่ะ ชอบที่จะรุ้อะไรกว้างๆ แบบว่าตอนนี้ที่นี่ ที่โน่นเข้าเป็นยังไงบ้างหน่ะค่ะ
      แล้วก็ไม่อยากเรียนปกครองเพราะเบื่อหน่ายกับระบบการเมืองไทย แล้วไม่อยากเรียนบริการรัฐกิจก้เพราะ ตอนทำงาน
      กน. นี่ทำไปแล้วรู้สึกไม่ค่อยชอบ รู้สึกไม่เป็นตัวเองหน่ะค่ะ
      (ประเด็นนี้แถสุดๆ รู้สึกตอบไม่ค่อยเข้าประเด็น แต่คือในความคิดเราจบการระกว่างประเทศไม่จำเป็นต้องเป็นทูต 
      หรือทำงานองค์กร ตปท. อย่างเดียวหนิ ไปเป็ด ผู้ว่า สส. ไรก็ได้ เหอะๆ
อ.. อื่ม แล้วจบไปอยากทำอะไรล่ะ
ฉ.. ก็ยังไม่แน่ใจหน่ะค่ะ ก้อาจจะทำงานองค์กร ตปท. ยูเอ็น อาเซียน พอแก่ๆหน่อยอาจจาเล่นการเมือง (ฮ่าา) มั้งคะ
      ถ้าอะไรๆมันดีกว่านี้ หรือไม่ก็ อื่ม
อ.. ไม่อยากเป็นอาจารย์หร๋อ อาจารย์ว่าคุณเหมาะนะ ดู บลาๆๆ
ฉ.. อ้อก็อยากเหมือนกันค่ะ ก็คิดๆไว้ แต่ก็ยังไม่รู้
อ.. อื่มแต่เป็นอาจารย์มันก็เหนื่อยระ ต้องช่วย ศ. เค้าทำงาน เยอะอยุ่เหมือนกัน ต้องวางแผนการสอน บลาๆๆ
ฉ.. อ้าวแล้วอาจารย์ไม่ชอบหร๋อคะ (เสือกอีกตู)
อ.. อื่ม คือยังไงล่ะก้เรียนจบมาด้านการทูตนะ มันเหมือนเป็นอะไรที่ต้องปฏิบัติมากกว่า บลาๆ
ฉ.. ไม่ทราบว่า อ. จบมาจากไหนหร๋อคะ (เสือกอีกแล้วตู)
อ.. อ้อ จบจากอ๊อกซ์ฟอร์ด ค่ะ
ทันใดนั้น ดิฉันก็ยกมือขึ้นไหว้ อาจารย์อย่างไม่ทันรู้ตัว ฮ่าาา พร้อมพูดว่าสวัสดีค่ะอาจารย์ (แบบอารมณ์ตกใจ แบบชีจบอ๊อกฟอร์ดดดด มันเป็นอะไรที่ในฝันของเรามากกก) อาจารย์แกก็ขำๆ
หลังจากนั้น...
อ.. อื่มวันนี้เตรียมอะไรมาวิเคราะห์ให้อาจารย์ฟังบ้าง
นึกในใจซวยแล้วตู ไม่ได้เตรียมไรมาเลย อย่างที่บอกว่าไม่ได้เตรียมเพราะไม่รู้ว่าจะโดนถามอะไร แล้วอารมณ์ช่วงนั้นชิวมาก
ฉ.. อ้อ อันที่จริงก็ไม่ได้เตรียมอะไรมาเป็นพิเศษ (สารภาพบาป).. แล้วแต่อาจารย์ดีกว่าคะ ว่าอยากให้พูดถึงเรื่องอะไร (นี่มันทางออกที่ดีหรือฆ่าตัวตายวะ)
อ.. อื่ม งั้นในลองพูดเกี่ยวกับพม่าก็ได้.. คิดว่าจะมีการเลือกตั้งเร็วๆนี้ไหม แล้วจะเป็นยังไง
ฉ.. อ้อก็เห็น เอสพีดีซี ประกาศออกมาว่าจะมีการเลือกตั้งภายในปีนี้หน่ะคะ 
แล้วก็พูดเกี่ยวกับพม่ากะยูเอสเอ ประมาณนั้น จำไม่ค่อยได้
อ.. แล้วคิดว่าซูจีจะได้ลงเลือกตั้งไหม
ฉ.. อ้อคงไม่อ่าค่ะ เพราะ รธน.พม่าเค้าเขียนไว้ว่าไม่ให้คนพม่าที่แต่งงานกะชาวต่างชาติลงสมัคร
อ.. อื่ม แต่เค้าเปลี่ยนแล้วไม่ใช่หร๋อ อันนั้นมันรธน. ปีเก่าไม่ใช่หร๋อ (คำถามนี้คาดว่า อาจารย์ตั้งใจจะหลอก เพราะความจริงมันก็ยังไม่เปลี่ยน แต่คำถามนี้เล่นเอาเราอึ้งไปเหมือนกัน ก็จารย์แกจบอ๊อกฟอร์ดหนิ เหอะๆ)
ฉ.. อ้อหร๋อคะ แต่ที่ดูมาล่าสุดก็ยังไม่เปลี่ยนนะคะ ก็คิดว่ายังไงซูจีก็ยังคงไม่สามารถมีส่วนร่วมได้
แต่แนวโน้มเรื่องนี้ก็มีแนวโน้มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นนะคะ ตอนนี้เริ่มหันหน้ามาใช้วิธีเจรจากันมากขึ้น เพราะว่าจากที่ผ่านๆมา การบอยขอตพม่าหรืออะไรก็ตามก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย บลาๆ
แล้วเราก็พูดต่อเรื่องเขมรกับบทบาทอาเซียนต่อเรื่องนี้  แล้วจารย์ก็เลยถามเรื่ององค์กร... ชักขี้เกียจพิมพ์แล้ว ขอโทษนะคะ
เอาสรุปๆ จารย์เค้าก็ถามว่า คุณคิดว่าองค์กรแบบภูมิภาค กับแบบยูเอ็นอันไหนมีบทบาทมากกว่ากัน
เราก็ตอบไปตรงๆว่า ตามความรู้สึกจริงๆแล้วเนี่ยะก็ไม่เห็นว่าองค์กรไหนจะมีบทบาทเลย ไม่แน่ใจว่าตัวเองเอียงซ้ายรึป่าวแต่เห็นด้วยกับกัดดาฟี ที่บอกว่าควรยกเลิกสมชิกถาวรซะ เพราะมันลำเอียง เช่น อูเอสเอ จะให้โสมแดง กับอิหร่าน ปลอดนิวเคลียร์ แต่ตัวเองกลับมีไว้ในครอบครอง บลาๆ แล้วก็บอกว่าอาเซียนคงต้องรอการพัฒนาอีกสักระยะ สิบปีไรก็ว่าไป ก็บอกว่าองค์กรที่ดูดีสุดก็คงเป็นอียู บลาๆ... ก็จบล่ะ

ปล.โปรดติดตามตอนต่อไปใน... " คำแนะนำสำหรับการสัมภาษณ์ "