คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Special St. Valentine's Day - La Rose
Special St. Valentine’s Day – La Rose
Oh m’amour est rouge, la rouge rose
Qu’est nouvellement épanou en Juin;
Oh m’amour est presque le même la mélodie
Qu’est la douceur joue en la cadence.*
- Robert Burns –
(*หมายเหตุ - ต้นฉบับเป็นภาษาอังกิดฮ่ะ แต่เจ๊ใช้ให้เฟลอรี่มันแปลงเป็นฝรั่งเศสให้ 555+ ( - -" มันโทรมาจิกเร่งให้แปลให้มันตอนกินข้าว...ใช้เยี่ยงทาสเรยค่ะ Y_Y / เฟลอรี่) )
**********
...หากเปรียบความรูสึกรักประหนึ่งมวลบุปผา
ความรักครั้งนี้คงร้อนแรงเช่นเดียวกับดอกกุหลาบสีแดงสดน่าหลงใหล...
**********
ร่างสูงสง่าเดินลงจากรถปอร์เช่สีดำสนิท มือใหญ่ขยับกรอบแว่นตาโดลเช่แอนด์กาบบาน่าที่กำลังชอบๆ อยู่ในตอนนี้ให้เข้าที่ เสื้อเชิ้ตผ้าไหมเรียบลื่นสีดำสนิทกลืนไปกับไทค์ เข็มขัด และกางเกงสีเดียวกัน แม้จะดูเรียบหรูด้วยเสื้อผ้าสีเข้มทั้งชุด หากแต่เขากลับโดดเด่นยิ่งกว่าผู้คนโดยรอบ เส้นผมสีน้ำตาลเข้มพลิ้วน้อยๆ ตามแรงลม หิมะยังคงโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าบางเบา ไอสีขาวพวยพุ่งทุกครั้งที่ผ่อนลมหายใจ
อาคานิชิ จิน ส่งกุญแจให้พนักงานรับรถ ย่างเข้าสู่ตัวอาคารหรู โรงแรมสไตล์เครอเนสแซชื่อดังของญี่ปุ่น หากใครคิดจะเข้ามารับบริการครั้งหนึ่งๆ คงไม่ต่ำกว่าครึ่งล้าน...แต่นั่น....ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาคนนี้ ผู้จัดการโรงแรมเดินเข้ามาทักทายอย่างนอบน้อม...แน่ล่ะ ลูกค้าระดับ VIP ต้องได้รับบริการที่ดีที่สุด เพียงแค่เอ่ยชื่อ อาคานิชิ ก็แทบไม่มีปัญหา
"ยินดีต้อนรับครับ คุณอาคานิชิ...คุณพ่อสบายดีรึเปล่าครับ"
จินปรายตามองผ่านทางแว่นกันแดดยี่ห้อหรู ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ "วันนี้ไม่พูดเรื่องงาน อุเอฮาระ...เรื่องที่ฉันให้จัดการล่ะ"
อุเอฮาระซังพยักหน้าแล้วโค้งต่อ "เรียบร้อยแล้วครับ...เดี๋ยวผมจะนำทางไป"
เขาเดินตามชายร่างท้วมไปยังห้องอาหารของโรงแรม โคมคริสตัลห้อยระย้ากระทบแสงไฟวาววับ ภายในภัตตาคารอบอวลไปด้วยบรรยากาศของคู่รักที่พร้อมใจกันมาดินเนอร์ท่ามกลางทิวทัศน์หรูหรา วอลเปเปอร์สีหม่นขลิบคิ้วและบัวทองอร่าม เทียนสีขาวจุดพร่างพราวสาดแสงสลัวเหนือโต๊ะไม้มะฮอกกานีขัดมัน
คนมองรู้สึกพอใจ...มั่นใจว่าคนสำคัญของเขาจะต้องชอบแน่ๆ อุตส่าห์คิดเตรียมการเป็นเดือนๆ เพื่อวันนี้เพียงวันเดียวเท่านั้น...คราวนี้...ก็แค่รอล่ะนะ...
**********
คาเมะยืนหมุนอยู่หน้ากระจก ปลายเท้าข้างหนึ่งยื่นเขย่งเขี่ยเสื้อตาตามิเล่น ชอบสัมผัสเย็นๆ แบบนี้เป็นที่สุด สำรวจผมเผ้าจนเรียบร้อย แต่ติดตรงที่เสื้อผ้านิดเดียว...ก็จินน่ะสิ ร้อยวันพันปีไม่เคยยอมให้ใส่พวกของแบบนี้ แต่ไหงวันนี้ซื้อมาถวายถึงที่ซะงั้น เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มเป็นประกายเงินระยับ (ตอนเฟิร์สคอนฯ อ่ะจ้ะ) ไหงกระดุมมันมีแค่สามเม็ด -_-“ แล้วไหนจะกางเกงหนังสีดำสนิทเข้ารูปนี่อีก เอวต่ำสุดๆ ทั้งๆ ที่คาดเข็มขัดทับแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนจะหลุดอยู่ดี TT_TT
ความจริงก็แปลกใจอยู่เหมือนกันที่วันนี้จินไม่ยอมมารับ...บอกว่าจะรอๆ ท่าเดียว แต่สุดท้ายก็ทนเป็นห่วงไม่ไหวต้องส่งลีมูซีนคันโตมาถึงบ้าน มีพ่วงคนขับแต่งชุดเต็มยศแถมมาอีกต่างหาก ดวงตาสีอ่อนเหลือบมองนาฬิกา...ทุ่มสิบห้า...นัดกันไว้ตั้งสองทุ่ม มีเวลาอีกนานเลย...
ร่างบางเดินฮัมเพลงตลอดทางออกจากบ้าน ก้าวขึ้นรถยนต์คันโก้ นั่งอมยิ้ม...วันนี้จินจะเตรียมการอะไรไว้บ้างนะ...แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว...
รถยนต์เคลื่อนออกไปจากซอยช้าๆ ภาพรายรอบกายเคลื่อนผ่านไปเรื่อยๆ ราวกับฟิล์มฉายหนัง คาเมะเฝ้ามองตามร้านอาหารต่างๆ คนแน่นเอี๊ยด คู่รักเดินจูงมือกันเต็มไปหมด ร้านของที่ระลึกขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในคืนวาเลนไทน์เช่นนี้ ยิ่งมีหิมะตกโปรยปรายยิ่งส่งเสริมให้คืนนี้ดูมีมนต์ขลังอย่างน่าประหลาดอีกเท่าตัว
...ไม่อยากจะเชื่อเลย...ว่าจะมีวันนี้...บอกกับตัวเองในใจถึงเรื่องราวที่ผ่านมา
ในที่สุดก็ถึงโรงแรมที่ว่า คาเมะลงจากรถ ซุ้มกุหลาบโค้งมนเหนือทางเข้า แล้วร่างของคนที่ไม่คาดคิดก็ปรากฏขึ้น
“ฮ...ฮิโระคุง” ถอยหลังไปสองสามก้าว นี่มันอะไรกัน...ฮิโระคุงมาที่นี่ได้ยังไง ก็ในเมื่อเรื่องของพวกเรา...
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ” คุซาโนะว่า ใบหน้าขี้เล่นยิ้มทักทาย แต่รอยยิ้มนั้นไม่ทำให้คนมองรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย เพราะมันไม่มีอีกแล้ว...ร่องรอยที่แสดงถึงความผูกพันกันแบบแต่ก่อน มีเพียงแววเศร้าๆ ในดวงตาที่ทำให้คาเมะรู้สึกผิดไปด้วยเวลาจ้องมอง
“อืม...สบายดีเหรอ” รู้สึกเหมือนว่าจะยิ้มตอบกลับไป...แต่จริงๆ แล้วยิ้มไม่ออกเลยด้วยซ้ำ อยากจะบ้าตายที่ถามคำถามงี่เง่าแบบนั้น
“ครับ” คุซาโนะรับคำเรียบๆ เปลี่ยนไปมาก...หัวใจดวงนี้คงไม่มีความผูกพันหลงเหลือให้เขาอีกแล้ว น้องชาย...คนเคยรัก...เป็นได้แค่นี้จริงๆ ใช่มั้ย “แต่ดูท่าทางคุณคาเมะดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีก...รุ่นพี่อาคานิชิคงดีกับคุณมากสินะครับ”
คาเมะเงียบ คำตอบนั้นก็รู้ๆ กันอยู่แล้ว ไม่อยากจะย้ำอะไรทั้งนั้น นี่มันถึงเวลานัดแล้วด้วย รู้ดีว่าจินเป็นยังไง ขืนไปสายได้งอนยกใหญ่แน่ แต่ที่กลัวยิ่งกว่านั้นคือคนใจร้อนจะไปอาละวาดลงที่คนแถวๆ นั้นเสียก่อน
“ว่าแต่มาทำอะไรแถวนี้เหรอ” คาเมะถามเรื่อยเปื่อย คนฟังรู้สึกเจ็บแปลบกับประโยคนั้น...เหมือนกับจะรีบบอกให้ไปทำธุระของตัวเองได้แล้วอย่างนั้นแหละ
คุซาโนะเอื้อมมือมาสัมผัสข้อมือบอบบางช้าๆ น้ำเสียงอ้อนวอน “ถ้าบอกว่าผมมาหาคุณล่ะครับ”
ขืนตัวหนี แต่อีกฝ่ายรีบฉวยดึงข้อมือไว้ “อย่าเพิ่งไปหาหาเขาได้มั้ยครับ” พยายามทำใจแล้วให้ลืม...แต่ลืมไม่ได้ ลืมไม่ลง เพราะไม่เคยคิดอยากจะลืมเลยซักเสี้ยวนาที “ผมรู้ว่าไม่มีสิทธิ์อะไรไปมากกว่านี้...แต่แค่ไปนั่งคุยกันซักพัก คงไม่ไล่ผมนะ”
แพขนตาสีอ่อนหลุบลง พยักหน้า เดินเลี่ยงไปตามคนที่เคยเรียกว่าเป็นคนรักไปนั่งทางลานน้ำพุขาวของโรงแรม
...ความรู้สึกผิดนี้ไม่เคยจางหายไปจากใจเลยซักครั้ง...
...ทำไมถึงได้โลเลแบบนี้...คาซึยะ...
คาเมะบอกตัวเอง
“ผมคิดถึงคุณนะครับ” มือเอื้อมมาลูบเส้นผมนิ่มเบาๆ มองดูอดีตคนรักที่นั่งก้มหน้านิ่ง
...ผมทำให้คุณคาเมะลำบากใจสินะ...
“ขอโทษนะ”
**********
“นี่คาเมะทำอะไรอยู่นะ” จินโทรเช็คคนขับรถหลายครั้ง ไหนจะพยักงานต้อนรับตรงหน้าทางเข้าห้องอาหารอีก...นี่มันชั่วโมงกว่าแล้ว เรื่องที่ตั้งใจจะเซอไพรส์พังครืนไม่เป็นท่า
หงุดหงิดเป็นที่สุด ใบหน้าหล่อจัดเคร่งเครียดจนผู้จัดการโรงแรมที่คอยสังเกตการณ์ห่างๆ นึกหวั่น ถ้าทำให้คุณอาคานิชิไม่พอใจมีหวังได้ซวยกันยกแผง แชมเปญที่แช่น้ำแข็งไว้ละลายจนเสียรสหมดแล้ว จินลุกขึ้น...ทนไม่ไหว...คาเมะชักจะทำตัวเหลวไหลใหญ่
เดินปึงปังออกไปที่หน้าล็อบบี้ อุเอฮาระวิ่งรี่ตามแทบไม่ทัน ชายวันกลางคนร้องเรียกด้วยน้ำเสียงวิตก “เอ่อ...เชิญนั่งก่อนเถอะครับคุณอาคานิชิ เดี๋ยวทางเราจะจัดเตรียมของใหม่ให้ครับ...พิเศษไม่คิดค่าบริการเลย”
จินหันขวับ คนกำลังเครียดๆ อยู่ไม่ว่าจะพูดอะไรมันก็เหมือนเอาน้ำมันราดเข้ากองไฟเท่านั้น “อย่ามายุ่ง!”
“เอ้อ...คุณครับ” ผู้จัดการยังคงไม่ลดละ หวังกอบกู้ชื่อเสียงโรงแรม ถึงแม้ไม่ใช่ต้นเหตุ แต่การบริการลูกค้าคือสิ่งสำคัญที่สุด
“บอกว่าไม่ต้องมายุ่ง!!” แล้วจินก็ระงับอารมณ์ไม่อยู่จนได้ เดินโครมๆ ไปเรื่อยๆ มองหาไปทั่ว ก็คนขับรถบอกว่ามาส่งคาเมะแล้ว แต่คาเมะเดินไปกับเพื่อนที่ไหนก็ไม่รู้...เพื่อนที่ว่าน่ะใครกัน -*-
สายตาคมๆ มองกราดไปทั่ว จนในที่สุด...
“แก!!!”
“จิน...ฟังก่อน!”
พลั่ก!!
ก้ำปั้นต่อยโครมลงไปที่ใบหน้าของคุซาโนะอย่างไม่เกรงกลัวว่าอีกฝ่ายเป็นไอดอล...ใบหน้าสำคัญยิ่งชีวิต ก็ภาพที่เห็นมันจะจะคาตา คาเมะกับไอ้นี่กอดกันกลม แถมยักซบไหล่สะอึกสะอื้น
“แก...ยังมีหน้ามาอีกเรอะ...” ลงมือกับอีกฝ่ายต่อ คุซาโนะไม่ทันตั้งตัวจึงไถลลงไปกับพื้น รสเค็มคาวของเลือดฟุ้งเข้ามาในปากและจมูก
“จิน...หยุดนะ” คาเมะพยายามห้ามแต่ไม่เป็นผล ท่อนแขนสะบัดผละออกจากการกอบกุมของเจ้าตัวที่พยายามจะแยกทั้งคู่
“ยังอาลัยอาวรณ์มันอยู่รึไง!” ขึ้นชื่อว่าหึงจนหน้ามืด เอาช้างมาฉุดอีกกี่สิบตัวก็คงรั้งไว้ไม่อยู่ คาเมะหยุดสะอื้น เรียกให้คนแถวนั้นเข้ามาช่วย
“ยืนมองอะไรล่ะ...เข้ามาห้ามสิ!” ตะโกนสั่งผู้จัดการโรงแรมและพนักงานที่ยืนอึ้งอยู่แถวนั้นให้รีบเข้ามาช่วยแยกหมีคุที่ตอนนี้โดนหมูเล่นงานจนปางตายแล้ว จินยันร่างไปติดขอบน้ำพุ ก่อนจะกดศีรษะอีกฝ่ายแนบพื้นหินเย็นเยียบ
“จำไว้...อย่ามายุ่งกับเมียฉัน!!” สั่งลาขณะที่พวก รปภ. ค่อยๆ หิ้วปีกคุซาโนะออกไปแล้วกันจินแยกออกมา มุมปากมีเลือดซึมน้อยๆ
เพราะไม่คิดว่าเจ้านั่นจะสวนกลับได้ เห็นหนิมๆ แบบนั้น คาเมะร้อนวาบไปทั้งหน้า โกรธจินที่ทำแบบนั้นกับฮิโระคุง...แล้วยังพูดจาอะไรหน้าไม่อายอีก
เงียบกันไปพักใหญ่ก่อนที่จะเคลียร์พื้นที่บริเวณนั้นได้ อุเอฮาระที่ได้สติเห็นเลือดไหลซิบ “เอ่...ผมว่าเรียกหมอมาดูดีมั้ยครับ” เขาเสนอ หากแต่จินกลับไม่สนใจเลยซักนิด เบนสายตามาที่ร่างบางที่ยืนเงียบๆ เพราะรู้ดีว่าตัวเองผิด ทั้งกับฮิโระคุง และกับจิน
“ฉันจะขึ้นห้อง...ให้คาเมะทำให้”
“เอ๋” คาเมะหน้าเหวอ จินลากข้อมือบางเข้าลิฟต์เรียบร้อย...ไม่ต้องดินเนอร์บ้าบออะไรมันแล้ว แผนการพังหมด เมื่อถึงห้องพักชั้นสูงสุดของโรงแรมจินจึงปล่อยมือ แล้วนั่งทิ้งตัวลงที่โซฟาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“เจ็บ”
คนฟังนึกอยากจะฆ่าหมูขึ้นมาทันที เมื่อกี้เล่นงานชาวบ้านจนเละ โดนแค่นี้มีหน้ามาบ่นเจ็บ “ก็สมควรแล้ว” คาเมะซ้ำ ไม่ชอบเลยที่จินใจร้อนวู่วามแบบนี้
“ก็เพราะใครล่ะ!” เดือดขึ้นมาซะงั้น เกลียดเจ้าหมีคุจริงๆ ให้ตาย...เพราะมันตัวเดียวเลยเชียว คาเมะก็อีกคน ทำไมถึงทำแบบนั้น “นายมาสาย...แล้วยังไอ้บ้านั่นอีก”
คาเมะนั่งลงข้างๆ มือวางทับลงบนมือใหญ่ “ไม่มีอะไรทั้งนั้น...มันจบไปแล้ว”
“แล้วไอ้ที่กอดกันหมายความว่าไง” ความหึงยังคงพลุ่งพล่านในอก หวง ไม่อยากให้ใครได้ไป แค่คิดก็แทบคลั่งตายแล้ว
คาเมะเข้าใจดี...แต่ที่เห็นกอดกันนั้นเป็นเพราะตัวของเขาเองที่ร้องไห้พร่ำของโทษฮิโระคุงอยู่อย่างนั้นจนอีกฝ่ายยอมอภัยให้ จินจะเข้าใจผิดก็ไม่แปลกหรอก
“นายไม่เชื่อใจฉันหรือไง”
เจอคำพูดนี้เข้าไปจินถึงกับเงียบ ไม่ใช่ไม่เชื่อใจ แค่เป็นห่วงต่างหาก ในเมื่อคาเมะไม่เคยให้หลักฐานอะไรยืนยันกับเขาเลยซักครั้งว่ายินดีที่จะอยู่กับเขามันทำให้ร้อนรน เหมือนไม้หลักปักอยู่กลางเลนเป็นที่ยึดเหนี่ยวของใครไม่ได้ โอนไปเอนมาจะพาลล่มวันไหนก็ไม่รู้
“ฉันรักนายนะ” เพียงแค่คำกระซิบเบาๆ ก็พรากลมหายใจให้ขาดห้วงไปได้ จินเงียบ หากแต่ด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ฝันไปหรือเปล่า...ที่เขาได้ยินคำบอกรักจากปากของคาเมะไม่ใช่เรื่องที่ละเมอเพ้อพกไปเองใช่มั้ย
สัมผัสจากริมฝีปากเรียวบางประทับลงมาแผ่วเบาเรียกความรู้สึกทั้งหมดให้หายไป จินโน้มตัวเข้าไปใกล้...อยากได้ใจจะขาด...
“เดี๋ยวสิ” คาเมะขืนตัว นี่มันวันพิเศษนะ ถึงแม้จะเริ่มต้นไม่ดีนักก็เถอะ “ไหนล่ะ...วาเลนไทน์ทั้งที ไม่เห็นมีอะไรจะให้เลย”
จินมองคนทวงของ...ก็นี่ไงล่ะ นั่งอยู่ข้างหน้าเนี่ย ของขวัญวันวาเลนไทน์...จะให้ไปหาที่ไหนให้อีก -_-
“อย่าบอกนะว่าเป็นนาย” คาเมะเดาถูกเผง เพราะจินเริ่มงอนที่อีกฝ่ายทำท่าเหมือนไม่อยากได้ “คิกๆ..^o^” ขำในความเสี่ยวของหมูจริงๆ
“ไม่อยากได้หรือไง” สีหน้าส่อแววกู่ไม่กลับซะแล้ว แก้มพองลมจนป่อง
“โอ๋ๆ” คาเมะง้อ “ขอของจริงๆ สิ คนไม่เอา” เจ้าตัวแหย่...ตบหัวแล้วลูบหลังชัดๆ
จินยิ้มกริ่ม เรื่องที่เตรียมไว้น่ะมีอีกเยอะ ก็เคยถามคาเมะนี่นาว่าชอบอะไรระหว่างดอกไม้กับของกิน และคำตอบที่ได้ก็คืออย่างที่เห็น...ร่างสูงจูงมือคนรักเข้าไปในส่วนของห้องตอน กลีบกุหลาบสีแดงสดโรยทั่วพื้นและเตียงจนแดงฉาน เทียนหอมกลิ่นกุหลาบตรลบฟุ้ง เลยเข้าไปในห้องน้ำอีกยิ่งไม่ต้องพูดถึง ดอกไม้ลอยฟ่องเต็มอ่าง ผ้าม่านถูกเอาออกไป แทนที่ด้วยมาลาดอกไม้ร้อยเรียงห้องลงมา
เพราะดอกกุหลาบสีแดงคือรักที่มั่นคงตลอดไป...เพราะความรู้สึกที่มีให้ควาเมะนั้นมันมากมายจนไม่สามารถบรรยายออกมาได้จบสิ้น
สวยจัง...อึ้งจนพูดไม่ออก ไม่คิดว่าจินจะคิดอะไรโรแมนติคแบบนี้เป็นด้วย
“ชอบรึปล่าว” จินถามอย่างอารมณ์ดี คาเมะมัวแต่ชมความงดงามของห้องจนไม่สังเกตท่าทางมีพิรุทธ์และสีหน้าเจ้าเล่ห์นั้น
“อืม”
“อยากดูนานๆ มั้ย”
“แน่สิ” กว่าจะรู้ตัวก็เสียรู้หมูขี้โกงตัวนี้เข้าอย่างจัง
“งั้นไม่ต้องนอนทั้งคืนนะ...”
“อืม...ห...เห้ย” คาเมะเย็นวาบไปทั้งตัว หลงกลเข้าแล้วมองจินที่ทำท่าอย่างผู้ชนะแล้วชักอารมณ์เสีย
“พูดแล้วห้ามคืนคำนะ...คาเมนาชิ คาซึยะ”
ท่าทางคืนนี้คงไม่หมดเรื่องง่ายๆ แน่ TT^TT
ความคิดเห็น