คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : My Passion, My Lust - 04
My Passion, My Lust – 04
“คาเมะจางงงงงงง” โคกิทำเสียงยานคางมาแต่ไกลเรียกชื่อเต่าน้อยอย่างอารมณ์ดี คาเมะหันไปตามเสียงเห็นเฮียแกเดินโย่มาตามทางจนทีมงานและรุ่นน้องต้องคอยหลบห่างๆ ออกอาการผวาเล็กน้อยถึงปานกลาง
แล้วในที่สุดตัวต้นเรื่องก็ลงมานั่งแปะข้างๆ เหยียดแข้งเหยียดขาขยายซะเต็มโซฟา “ช่วงนี้สวยขึ้นรึปล่าวเนี่ย...555+” ว่าแล้วก็หัวเราะลงลูกคอจนคนถูกทักหน้าขึ้นสี...ใครใช้ให้ชมว่าสวยเนี่ย...ถึงปกติจะมีคนพูดแบบนี้บ่อยแต่พอออกมาจากปากโคกิแล้วมันฟังแหม่งๆ ชอบกล
“จริงเหรอ” คาเมะก็บ้าจี้กระโดดลงหลุมพรางไปตามโดยไม่ได้ฉุกใจเลยว่ามันเป็นแผนการของคนแถวนี้ เมื่อยูอิจิที่ซ้อมเต้นอยู่ จู่ๆ ก็ทิ้งตัวลงนั่งขนาบอีกข้าง
“จริงแท้และแน่นอน” อีกฝ่ายยืนยัน “เอ...เขาพูดกันว่ายังไงนะคิ” โคอาล่าแกล้งโง่สามวินาทีเพื่อขอความเห็น
“ก็ประมาณว่า...คนเราจะสวยที่สุดเมื่อตอนมีความรักน่ะสิ...555+” สองสหายหัวเราะอย่างชอบใจ ส่วนคนตรงกลางน่ะเหรอ...กลายเป็นเต่าสุกจนหน้าแดงไปเรียบร้อยแล้ว “ในที่สุดเต่าน้อยของพวกเราก็เป็นฝั่งเป็นฝาซักที”
“บ้าเหอะพวกนาย” คาเมะเขินจัด “ดีนะที่ฮิโระคุงไม่ได้อยู่ด้วย...ไม่งั้นฉันคงอายหนักกว่านี้แน่”
“No no no” โคกิจุ๊ปากเป็นเชิงปฏิเสธ “เต่าตัวนี้โง่เกินคาดแฮะ...ฉันไม่ได้หมายถึงเจ้าคุซาโนะนั่นโว้ยครับ” และยังไม่ลืมที่จะละคำว่าเพื่อนที่เคารพไว้ในฐานที่เข้าใจ
“ช่ายๆ” ยูอิจิเสริม พยักหน้าเหมือนรู้ดีเต็มที่ “ช่วงนี้เห็นไปเดทกันบ่อยๆ น้า...”
“เดท??” คาเมะทวน เริ่มจะงงนิดๆ นี่เจ้าพวกนี้พูดเรื่องอะไรกันเนี่ย
“คิอธิบายซิ” พี่ยูโยน ส่วนคนรับนั้นก็พึมพำประมาณว่า ‘ฉันอีกแระ’
เจ้าตัวกระแอมไอพอเป็นพิธี แต่เมื่อเห็นสายตาพิฆาตเร่งให้รีบเล่าจากคาเมะทำเอาสะดุดแล้วรีบว่าต่อ “จะให้ต้องพูดเลยมั้ยว่านายไปเดทกับนักร้องชื่อดังชื่อย่อ จ. นามสกุล อ. เนี่ย” โคกิแอบแซวพาดหัวข่าวที่ชอบมีชื่อย่อ “หมู่นี้ฉันว่าพวกนายดูสนิทกันมากเลยนะ...ถ้าเป็นจินฉันเชียร์สุดใจขาดดิ้นเลยเอ้า...ไอ้คุนั่นช่างหัวมัน”
กรรม...นี่เล่นพูดไม่เกรงใจกันเลยนะ “มั่วแระพวกนาย...ฉันกับจินก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว”
ยูอิจิส่ายหัวเบาๆ แล้วแนะอีกครั้ง “แน่ใจเหรอคาเมะ ก็สิ่งที่ฉันกับโคกิเห็นน่ะมันไม่ใช่แบบนั้นนี่นา...นายไม่รู้จริงๆ เหรอ ว่าตัวเองมีสีหน้ายังไง”
คาเมะเงียบ...สีหน้ายังไงน่ะเหรอ...
“สีหน้าเหมือนคนที่กำลังมีความรักยังไงล่ะ”
**********
...เรากับจินน่ะเหรอ...
...บ้าน่า...
“คาเมะ!!”
ร่างบางสะดุ้งสุดตัว ไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากสมอง ตกใจหมดที่จู่ๆ ก็มีคนเรียกเสียงดังๆ แบบนี้
“อยู่ใกล้แค่นี้ไม่เห็นต้องเสียงดังเลย”
“ก็เรียกตั้งกี่รอบแล้วล่ะ...คิดอะไรอยู่” จินบอกงอนๆ เขาทั้งเรียกชื่อ นามสกุล ชื่อเล่นสารพัด คาเมะก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเลยซักนิด มัวเหม่ออะไรอยู่ได้...หรือว่ามัวคิดถึงเจ้าคุซาโนะมันนะ -_-*
คาเมะหน้าแดง
...ก็คิดถึงเรื่องนายน่ะแหละ...
“แล้วมีอะไร” พยายามเปลี่ยนเรื่องสงบจิตสงบใจลง
“ก็เมื้อกี้ฉันบอกไปว่าเย็นนี้ไปเที่ยวคลับกัน...โคกิชวน” จินส่ายหัว นี่ไม่ได้ฟังกันตั้งแต่แรกเลยเหรอเนี่ย “จะไปมั้ย”
“อืม” คนถูกถามรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ เปลี่ยนบรรยากาศคลายเครียดซะบ้าง มาถึงโอซาก้าทั้งทีไม่เที่ยวตระเวนราตรีก็กระไรอยู่
“แล้วมีอะไรอีกป่าว” ความจริงก็กะไม่ถาม...แต่เมื่อเห็นสายตาจดๆ จ้องๆ จากจินทำให้คาเมะเริ่มสงสัยว่าคงยังไม่หมดเรื่อง
“เอ่อ...คือว่าเดี๋ยวฉันเดินไปรับที่ห้องนะ”
“โธ่เอ๊ย...นึกว่าเรื่องอะไร” คาเมะถอนใจ มองหน้าคนตัวโตที่ก้มหน้างุด...คราวนี้มาแปลกแฮะ ปกติไม่เห็นเอ่ยขอ นึกอยากไปหาก็ไป “มาสิจิน ฉันจะรอนะ...ถ้านายไม่มารับไม่ลงมาจากห้องพักจริงๆ ด้วยเอ้า” ยิ้มตอบอย่างใจดีจนทำให้ใครบางคนแถวนี้เริ่มใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ขอบคุณนะ” จมูกโด่งๆ ซุกลงที่แก้มใสหนึ่งที ก่อนที่เจ้าของร่างจะรีบจับจูงมืออีกฝ่ายให้เดินตาม จินมองตรงไปข้างหน้า เขินนิดหน่อยกับการกระทำแบบนี้ไม่กล้าหันหลังไป ส่วนคาเมะนั้นแก้มแดงจัดจนก้มหน้างุดหลบสายตาคนรอบข้าง ความรู้สึกต่างๆ แล่นเข้ามาในใจ กระนั้นมือเล็กยังคงไม่ขัดขืนอาการกอบกุมจากร่างสูง
...นี่เขากำลังหวั่นไหวใช่มั้ย...
**********
ในคลับนั้นบรรยากาศค่อนข้างอึมครึมเพราะเป็นโซนวีไอพี สมาชิกทั้งหกของคัตตุนนั่งล้อมวงกันบนโซฟาหนังกลับสีเขียวเข้มตัวยาว เครื่องดื่มมึนเมาและกับแกล้มเรียงรายอยู่ตรงหน้า มีเพียงจุนโนะคนเดียวที่ไปถึงก็นอนหลับตามระเบียบไม่สนใจชาวบ้านชาวเมืองตามเคย อุเอดะเห็นเงียบๆ แบบนี้แต่คอแข็งผิดคาดเผลอแป๊บๆ เครื่องดื่มก็พร่องไปกว่าค่อนโต๊ะ
ยูอิจิกับโคกิกำลังผลัดกันเล่นมุขแป็กๆ ที่คาเมะก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันขำตรงไหน แต่ลงท้ายก็ยังหัวเราะ
“งั้นเชิญอาคานิชิซังมาโชว์หน่อยสิครับ” พี่ยูบอกพลางทำท่าเอางานเอาการมากขึ้น คาเมะหัวเราะคิกคัก แต่คนที่ถูกเรียกชื่อนั้นกลับคอพับคออ่อนซบอยู่ที่ไหล่บอบบางทำตาปรือไม่สนใจสองสหาย
“วันนี้เมาเร็วแฮะ” คาเมะทัก “ไม่สบายเหรอ”
คนถูกถามผงกหัวหงึกๆ เหมือนอ่อนเพลียเต็มที่
โคกิและยูอิจิมองตากันเงียบๆ และเห็นพ้องต้องกันโดยมิได้นัดหมายว่า...มันแกล้งเมาอ้อนคาเมะชัวร์...อย่าง อาคานิชิ จิน น่ะเหรอ กินเข้าไปยังไม่ถึงขวดเลยมันจะไปเมาได้ยังไง พี่แกต้องล่อเป็นลังครับถึงจะน็อค!!
“เมื่อตอนหัวค่ำยังเห็นนายเต้นเย้วๆ อยู่เลยนี่นา” ยูอิจิพูดลอยๆ คนร้อนตัวรีบสวนทันควัน
“ก็ตอนนี้มันเหนื่อยแล้วนี่” มองจิกไปที่โคอาล่าส่งสายตาประมาณว่า ‘พูดมากกว่านี้แกตาย’ แล้วกลับไปอ้อนคาเมะต่อ “คอแห้งจัง”
คาเมะหยิบแก้วใบใหม่ที่ไม่มีน้ำแข็งมารินน้ำให้ยื่นให้ แต่คนได้คืบก็กะจะเอาศอก “เจ็บข้อมืออ่ะ...คอนฯ เมื่อวานตีลังกาจนเจ็บเลย”
...มันตีลังกาตอนไหนฟระ...โคกิแอบคิดในใจ...วันไหนเห็นหมูตีลังกาโลกคงกลับตาลปัตร แค่ทุกวันนี้มันยอมขยับตัวเต้นบ้างไม่ยืนเป็นประติมากรรมหมูก็บุญเท่าไหร่แล้ว แต่สุดท้ายก็โดนสายตาพิฆาตแบบเดียวที่ใช้กับยูอิจิมองกราดมาจึงหันไปสบตากับเพื้อนซี้เงียบๆ แล้วนั่งปล่อยมุขเล่นกับอุเอดะต่อสามคน
สุดท้ายคาเมะเลยต้องจ่อแก้วจนถึงปาก ค่อยๆ ประคองให้คนเรื่องมากดื่ม
...จินจะรู้สึกรึป่าวนะ...ว่าตอนนี้ใจของเราเต้นแรงขนาดไหน...แล้วทำไมมือต้องสั่นด้วยเนี่ย...T_T
สายตาคมๆ จ้องมองมาที่คาเมะไม่วางตา จ้องจนคนถูกมองเริ่มรู้สึกอึดอัด รีบดึงแก้วลงวางที่เดิมแล้วผลักให้จินนั่งตัวตรงๆ “หนัก” คำพูดสั้นๆ ดวงตาเสมองไปที่อื่น แล้วคว้าแก้วเครื่องดื่มของตัวเองที่ดื่มค้างไว้มาดื่มต่อ
จินขยับตัวอิดออด ไม่อยากจะผละออกมากนักแต่ก็ยอมเอนตัวไปทางอื่นเพราะกลัวคาเมะจะรำคาญ ซึ่งถ้ามองจากสายตาคนนอกแล้วมันก็แทบจะไม่เป็นการขยับมากมายเลยซักนิด ก็แค่เลิกพิงแล้วหันมานั่งจนชิดแทน หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ จินแค่ยกหัวขึ้นจากไหล่คาเมะแค่นั้น
“ฉันว่าถ้านายไม่ค่อยสบายก็กลับก่อนดีมั้ยจิน” อุเอดะแนะ ทำเอาสองเพื่อนซี้ตลกคาเฟ่งงว่าจะมาไม้ไหนกันแน่ “คาเมะช่วยพาจินไปส่งทีสิ” เลื่อนสายตาไปยังคาเมะ แค่นี้ทุกคนก็ถึงบางอ้อ
“ที่แท้มันก็เชียร์จินเหมือนพวกเรานี่เอง” ยูอิจิแอบกระซิบเบาๆ บอกความเห็นกับโคกิ
“มันจะดีเหรอ...ฉันว่าไหนๆ ก็มาแล้วน่าจะนั่งอยู่ด้วยกันจนจบ” ฝ่ายถูกโยนให้เป็นคนดูแลโดยอัตโนมัติเริ่มหาข้ออ้างเลี่ยง...ช่วงนี้เขาไม่อยากอยู่กับจินสองต่อสองจริงๆ ไม่ใช่ช่วงที่เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองสับสนแบบนี้...
แต่คนอย่างจินก็ย่อมเป็นจินวันยังค่ำ...มีเหรอที่จะยอมปล่อยให้โอกาสที่อุเอดะสร้างให้หลุดรอดไปได้ รีบโอดครวญอย่างหนัก “อยู่ในนี้นานๆ เหม็นบุหรี่จนปวดหัวมากเลย” (จริงเหรออะคานิชิ =_=)
“งั้นพวกเราก็กลับเถอะ” คาเมะไม่ยอมง่ายๆ
“มีใครพูดว่ากลับเหรอ” จุนโนะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพอดีโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังขัดจังหวะ แถมยังออกแนวเจ๋อ พี่คิจึงกดหัวให้นอนหลับไปเช่นเดิม
“มันละเมอน่ะ” เจ้าตัวเอ่ยแก้แล้วจัดการฆาตกรรมเพื่อนร่วมวง -_-“
“เหล้ายังไม่หมด...ฉันไม่กลับหรอกนะ” อุเอดะบอกเสียงเรียบ
“ง่า...โทษที ฉันกับคิก็ยังไม่กลับอ่ะ คือว่าพวกเรากะว่าจะไปคาราโอเกะกันต่อ” เกาหัวแกรกๆ แล้วก้มหัวน้อยๆ เชิงขอโทษ คาเมะก็พยักหน้าเข้าใจ...นี่เขาไม่มีทางเลือกแล้วสินะ...ช่างเถอะ...ไหนๆ จินก็ไม่สบายจริงๆ นี่นา
ส่วนคนไม่สบายนั้นแอบยิ้มร่าอยู่ด้านหลัง
“งั้นเราก็ไปเถอะ” คาเมะชวน “ราตรีสวัสดิ์นะพวกนาย กลับที่พักดีๆ ล่ะ อย่าดื่มหนักมากแล้วกัน”
ทุกคนโบกมือร่ำลา จินเดินตามร่างบางไปเงียบๆ ออกจากคลับแห่งนี้ไป เหลือสมาชิกอีก 4 หน่อ ซึ่งหนึ่งในสี่นั้นกลายเป็นศพไปเรียบร้อยแล้ว
“เหล้ายังไม่หมดงั้นเหรอทัตจัง” ยูอิจิพูดขึ้น จ้องมองขวดว่างเปล่าประมาณห้าหกขวดวางอยู่บนโต๊ะ และอีกขวดที่ไหลกลิ้งไปตามพื้น “นี่แกจะกินทั้งร้านเลยมั้ย”
โคกิหัวเราะขำเจ้าหัวหน้าวง เห็นมันเงียบๆ คิดว่าไม่สนซะอีก ที่ไหนได้ อยู่ฝ่ายเดียวกันก็ไม่บอกตั้งแต่แรก ปล่อยให้เขากับยูอิจิจัดการกันเองสองคนอยู่ได้ตั้งนานสองนาน
“แล้วร้องคาราโอเกะตอนทัวร์คอนเสิร์ตนี่นะ” อุเอดะสวนกลับ “ช่างไม่รักษาเสียงซะเล้ย”
ถอนใจเฮือกใหญ่...เหตุผลของพวกเขาแต่ละคนนี่งี่เง่าจริงๆ แม้แต่เด็กอมมือยังดูออกเลยว่าชี้โพรงให้กระรอกแค่ไหน...แต่ทำไมคาเมะถึงดูไม่ออกนะ...หรือเพราะเป็นเต่า?? ไม่ใช่เด็ก (อย่าแทรกมุขแป็กๆ ดิวะไอลูน เห็นแระอนาถจิต - -“ / เฟลอรี่)
“น่าๆ พวกเรามันก็ครือๆ กันนั่นแหละ” โคกิสรุป “ว่าแต่พวกนายก็หวังอย่างเดียวกันใช่มั้ยล่า ^o^”
“ช่วยขนาดนี้ที่เหลือก็ต้องขึ้นอยู่กับจินแล้วล่ะ” จุนโนะที่ฟื้นขึ้นมาตอนไหนไม่รู้โพล่งออกมา ทำให้เพื่อนๆ ขวัญผวาไม่น้อย “จะรุ่งหรือร่วงก็ต้องอยู่ที่หมอนั่น”
“เห...งั้นก็แสดงว่ารุ่งสินะ” พูดอย่างไม่ค่อยจะเข้าข้างเพื่อนตัวเองเลยซักนิด ยูอิจิสั่งเครื่องดื่มอีกขวดมารินให้ทีละแก้ว “ชนเอาฤกษ์เอาชัยหน่อยเป็นไง”
หนุ่มหล่อหน้าตาดีจัดทั้งสี่คนยิ้มกริ่ม ในมือถือแก้วเครื่องดื่มสีอำพันเรืองรอง ใบหน้าออกแนวมั่นใจในความช่วยเหลือที่ได้ให้ไปเต็มที่ สายตาทั้งหมดจับจ้องกัน ไม่ต้องมีคำพูด คำอธิบายอะไร พวกเขาสนิทกันมากจนถึงจุดที่เสียสละเพื่อกันและกันได้ และจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน...แน่ล่ะ...ก็เพราะว่านั่นคือสิ่งที่เรียกว่า ‘เพื่อน’ อย่างไม่ต้องสงสัย
“เพื่อหมูกับเต่าน้อยของพวกเรา...คัมปายยยย!!!”
ความคิดเห็น