ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic khr/reborn] SO CUTE รักวุ่นๆป่วนหัวใจคุณชายวองโกเล่

    ลำดับตอนที่ #3 : MEET [mukuro&hibari] รีไรท์ 100%

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 60


    So Cute

    Chapter 13 

    Meet Part Mukuro& Akari &Mutsuri

    CH.3 MEET [Akari & Mukuro & mutsuri ]

    ขอย้ำอีกรอบว่าตอนนี้รร.นามิโมริมีปี 4 แล้วนะคะ (.4 นั่นแหละค่ะ )

    ย้ำอีกรอบให้คนเก่าๆอ่านซ้ำ และทุกคนที่เข้ามาอ่านอ่านทอล์คกันด้วยน้า เดี๋ยวจะไม่เข้าใจกันนะคะ

     

    NAMIMORI HIGH  SCHOOL

    ปี 4-A

    “คุณฮิบาริมายังวะ” เสียงนร.ชายคนนึงกระซิบกับเพื่อนในห้อง

    “ยังเว้ย”

    “งั้นเหรอ…. ทุกโค้นนนน กูไปเผือกมาเว้ย ห้องเราจะมีนักเรียนมาใหม่ 3 คนเลยว้อยย” เมื่อนร.คนนั้นค้นพบว่า ฮิบาริ เคียวยะยังไม่มา ก็รีบตะโกนบอกเพื่อนในห้องอย่างรวดเร็ว

    “เห้ย จริงดิ”

    “ผู้หญิงหรือผู้ชาย”

    “หน้าตาดีป่าววะเพื่อนรัก”

    “จ้อกแจ้กจอแจบลาๆๆๆๆ”

    เห้ย ฮิบาริ มาแล้ววว” นร.ชายที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูห้องรีบบอกทันทีหลังจากที่เห็นปลอกแขนสีแดงๆนั่นอยู่ไกลลิบๆ

    ครืดดด

    เงียบกริบ

    ฮิบาริ เคียวยะ ที่เพิ่งเดินเข้ามาปรายตามองนักเรียนทุกคนที่ดูสงบเสงี่ยมทุกครั้งที่เขาเข้ามาอย่างพอใจก่อนจะเข้าไปนั่งที่ตัวเอง สร้างแรงกดดันให้เพื่อนๆในห้องทุกๆคน

     

    ครืดดดด

    “เอ้า สวัสดีนักเรียนทุกคน  เอ่อสวัสดีคุณฮิบาริด้วยนะครับ” อาจารย์ทักทายนักเรียนอย่างร่าเริงจนมาสะดุดที่ฮิบาริ  เมื่อเห็นฮิบาริพยักหน้าอาจารย์จึงพูดต่อไป “วันนี้จะมีนักเรียนเข้ามาใหม่ 3 คนนะ อันที่จริงแล้วมี 5 คนแต่ไปอยู่ที่ปี 2  ด้วยน่ะนะ  เอาเป็นว่า เข้ามาพร้อมกันทั้งสามคนเลยนะนักเรียน”

              เมื่อสิ้นเสียงอาจารย์ นักเรียนใหม่ก็เดินเข้ามาแต่ว่า เดินเข้ามาแค่คนเดียว !?!

    “อ้าวทำไมเธอเข้ามาคนเดียวล่ะ”

    “เหมือนว่าพวกเขาจะมีปัญหากันนิดหน่อยน่ะค่ะ - -

    “งั้นเธอพูดเลยก็ได้”อาจารย์พูดไปพลางมองผมสีแดงเพลิงของเด็กสาวไปพลาง เห้อ ฮิบาริ ยิ่งไม่ชอบคนสีผมแสบตาซะด้วย

    “สวัสดีค่ะ มิซึจิ มัทสึริ ค่ะ”พูดแล้วก็โค้งตัว “ฝากเนื้อฝากตัวเห้ยย” พูดยังไม่ทันจบเด็กสาวผมสีเพลิงก็ต้องรีบเอี้ยวหลบเพราะสัญชาตญาณสัตว์ป่า(?) ของเธอนั้นร้องเตือนในหัว

    “คนโรงเรียนนี้ทักทายกันอย่างนี้เลยเหรอ..” มัทสึริที่ตอนนี้เอามือกุมหน้าอกอย่างขวัญเสีย เมื่อกี้น่ะ เธอโดนอะไรก็ไม่รู้ รู้แค่หลบได้เฉยๆ แล้วนี่ถ้าเธอไม่ได้มีสัญชาตญาณดีนี่คงได้มาแนะนำตัวใหม่อาทิตย์ไปแล้วนะเนี่ย!!

    “เธอ ทำผิดกฎ ไม่ติดกระดุมเม็ดบน ใส่ต่างหู และใส่สร้อย ฉันขอริบและลงโทษเธอ นอกจากนี้ สีผมเธอน่ารำคาญมาก เปลี่ยนซะ” ฮิบาริพูดสั้น ก่อนจะดึงสร้อยและถอดต่างหูเธอแล้วเดินออกจากห้องไป

    ”อาจารย์เงียบ

    ”นักเรียนเงียบ

    แต่……

    มัทสึริไม่เงียบ

    “ไอบ้าหัวเป็ด คิดว่าตัวเองเป็นใครกันยะ แล้วนั่นอะไร นายก็ผิดกฎนี่ไอกระดุมเม็ดบนอะไรนั่น ไหงมาทำโทษฉันล่ะยะ อีกอย่าง เอาสร้อยฉันคืนมา  อผู้ชายหัวเป็ด อ๊ะ!! กรี๊ดดดดดด!!!!” ยังไม่ทันได้ด่าจบประโยค มัทสึริก็โดนล็อคคอแล้วลากไปจากห้องเรียนทันที

    “อาเมน”นักเรียนและครูในห้องพูดขึ้นมาพร้อมกัน

    “หน้าตาก็ดี ไม่น่าตายก่อนวัยอันควรเลยเนอะ

    “เห้อออ คงเหลือเด็กใหม่แค่ 2 คนแล้วล่ะ”

    “ยังไม่ทันได้เรียนซักคาบก็ต้องมาเป็นยังงี้ไปซะแล้ว”

    “เห้อมมมมมมมมมม”

    .

    .

    .

    .

    “เห้ย…. มึงว่ามันมีอะไรแปลกๆป่ะ”

    “เออนั่นดิ”

    “เอ่อ….แล้วเมื่อไหร่นักเรียนอีก 2 คนมันจะเข้ามาวะ”

    *ย้อนเวลากลับไป

    “เอ้า สวัสดีนักเรียนทุกคน  เอ่อสวัสดีคุณฮิบาริด้วยนะครับ” อาจารย์ทักทายนักเรียนอย่างร่าเริงจนมาสะดุดที่ฮิบาริ  เมื่อเห็นฮิบาริพยักหน้าอาจารย์จึงพูดต่อไป “วันนี้จะมีนักเรียนเข้ามาใหม่ 3 คนนะ อันที่จริงแล้วมี 5 คนแต่ไปอยู่ที่ปี 2  ด้วยน่ะนะ  เอาเป็นว่า เข้ามาพร้อมกันทั้งสามคนเลยนะนักเรียน”

    “พวกเธอ….ไม่เข้าไปเหรอ- -“ มัทสึริหันมาถามนักเรียนอีก 2 คน

    เข้า ไป คน เดียว ก็ ได้ ว้อยยย เมื่อไม่มีใครตอบคำถามอะไรเธอจึงเดินเข้าห้องไป

    “เอ่อ….นี่ใช่อาคาริรึเปล่าครับ”

    “ไม่ใช่ค่ะ จำผิดคนแล้ว”

    “แต่มันเหมือนมากนะครับ”

    “ก็บอกว่าไม่ใช่ไงคะ”

    “แต่ผมว่า

    “ถ้าอยากให้ใช่งั้นก็ใช่ สวัสดีโรคุโด มุคุโร่”

    “ครับ ไม่ได้เจอกันนานคิด

    หุบปาก” อ่า..ยังโกรธอยู่จริงๆด้วย เด็กหนุ่มหัวสับปะรดสีน้ำเงินที่ดีใจเหมือนหมาเจอเจ้าของตอนเห็นอาคาริ เปลี่ยนอารมณ์เป็นหม่นหมองลงทันที

    “คุณอาคาริครับ ถ้าคุณยอมรับฟังผมอธิบาย เราอาจจะกลับมาคุยกันได้เหมือนเดิม”

    “งั้นก็ลองอธิบายมาสิ”

    “ถ้าผมอธิบายไปตอนนี้คุณก็ไม่เชื่ออยู่ดี”

    “ถ้ารู้แล้วก็หุบปาก” อาคาริทำท่าจะเดินไปเปิดประตูห้อง แต่อยู่ดีๆประตูห้องก็กลายเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวสะอาดตาไป

    “ตั้งใจจะทำอะไร โรคุโด มุคุโร่”

    “ตั้งใจจะให้เราสองคนปรับความเข้าใจกันไงครับ”

    “ไม่มีวันซะหรอก”  ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังจ้องตากันอย่างจริงจรัง อาคาริจึงรีบสะบัดมือของเธออย่างรวดเร็ว ปรากฏเป็นไพ่รูปโพดำ  4 ใบพุ่งเข้าใส่มุคุโร่อย่างรวดเร็ว

    เปรี้ยงง!!  แต่มุคุโร่ก็คือมุคุโร่ เขาหลบได้ทั้งหมดอย่างสวยงาม ส่งผลให้ไพ่โพดำทั้ง 4 ใบไประเบิดอยู่ด้านหลัง

    “ถึงผมจะชอบความรุนแรงอยู่หน่อย แต่ว่าอยากจะขอเตือนว่าอย่าใช้ความรุนแรงกับตึกเรียนโรงเรียนนี้ดีกว่านะครับ ถ้าไม่อยากนั้นถึงผมจะเป็นเพื่อนคุณก็คงช่วยอะไรไม่ได้”

    “ไม่ได้ต้องการ” อาคาริตอบกลับอย่างรวดเร็ว พลางตั้งท่าเตรียมสะบัดมือออกมาอีกครั้ง แต่ทว่า….

     

     

    ครืด

    “โรคุโด มุคุโร่….” ฮิบาริที่เดินออกมาพร้อมกับล็อคคอมัทสึริมาด้วย หันมาแผ่จิตสังหารใส่มุคุโร่ “อย่าเปลี่ยนอาคารเรียนเป็นสนามหญ้า..

    นั่นทำให้มุคุโร่คลายภาพลวงตาออกไปอย่างเสียไม่ได้ เอาจริงๆ เขาเริ่มรู้สึกเหม็นขี้หน้าไอหัวหน้ากรรมการคุมกฎนี่อีกแล้ว

    “แล้วนั่น….ใครบังอาจทำให้กำแพงเป็นรู” ฮิบาริตวัดสายตามองสลับระหว่างอาคาริ และมุคุโร่ โดยมีเสียงแบล็คกราวน์เป็นมัทสึริที่กำลังร้อง อ้วยด้วย อะอายอู่แอ้วว อย่าน่าเวทนา

    “นั่นต้องเป็นโรคุโด มุคุโร่อยู่แล้วสิคะ” อาคาริรีบตอบอย่างรวดเร็ว พลางทำหน้าเหรอหราใส่มุคุโร่ทีมองเธอด้วยความตกตะลึง

    โยนขี้กันง่ายๆยังงี้ก็ได้เหรอครับอาคาริซัง T^T

    “ผมเป็นคนทำเองล่ะครับ” แต่ไหนๆก็ต้องพยายามทำตัวดีให้คุณอาคาริยอมมาพูดด้วยอยู่แล้ว เอาวะ!! สับปะรดสู้ๆสับปะรดสู้ตายสับปะรดไว้ลายโดนฮิบาริฆ่าตายก็ต้องสู้

    ดีมาก

    โครม!!!  เมื่อประทุษร้ายเสร็จสิ้นหัวหน้ากรรมการคุมกฎก็เดินจากไป (ไม่อยากจะบอกว่าระหว่างการต่อสู้ฮิบาริยังไม่ได้เลิกล็อคคอมัทสึริแม้แต่น้อย ทำให้สาวน้อยผู้น่าสงสารโดนเหวี่ยงไปมาแทบจะเป็นลมตายคาแขนฮิบาริถ้าไม่ติดว่า อีตาประธานมากระซิบข้างหูว่า ถ้าเป็นลมเธอโดนเหวี่ยงตกตึกแน่

    “หึ สมน้ำหน้า”เมื่อเห็นสภาพมุคุโร่ที่ไม่ยอมโต้ตอบเพราะจะได้ดูเป็นสุภาพบุรุษในสายตาเธอ ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ แต่ใครสนกันล่ะ

    “เห้ออ นี่ผมเจ็บตัวเพื่อคุ

    ครืด

    อาคาริปิดประตูหนีเข้าห้องเรียนไปแล้ว ได้ครับได้ เดี๋ยวได้รู้ว่าใครมันจะเข้มแข็งกว่ากัน คึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึ…….

    สวัสดีค่ะ คิริซากิ อาคาริค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ J” อาคาริแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มสดใส แตกต่างจากตอนคุยกับมุคุโร่อย่างสิ้นเชิง ซึ่งนั่น….สร้างความอารมณ์เสียให้กับมุคุโร่ที่พึ่งเดินตามมาไม่น้อยทีเดียว

    “มีแควนยังจ๊ะ

    “สนใจเก๊ามั้ยตัว เค้ายังว่างนะ”

    “มานั่งข้างเราได้นะ ที่ข้างเราว่าง เห้ยๆมึงอ่ะไปนั่งที่อื่นดิ้” เหล่าผู้ชายในห้องที่เมื่อฮิบาริก็ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวขึ้นมาทันที

    “อะแฮ่มมม!! โรคุโด มุคุโร่ครับทุกคนยินดีที่ได้รู้จัก”

    “กรี๊ดดดดด”

    “หล่อจังเลยอ่ะแก”

    “เนอะๆๆ”

    ไม่เห็นจะหล่อตรงไหนเลย

    “ไม่หล่อแต่อร่อยนะครับ” มุคุโร่หันไปตอบกลับ

    “เสียใจนะ ฉันไม่กินสับปะรดน่ะ เหม็นเปรี้ยว” อาคาริพูดพร้อมทั้งเอามือมาปิดจมูกตัวเอง

    “อ๋อ….

    เปรี๊ยะ !!

    (- -)>>>>>>><<<<<<<(^ ^)

    นักเรียนชั้นปี 4 ห้อง a ขอสาบานอย่างจริงจังว่าพวกเขาเห็นกระแสไฟฟ้ากำลังประทุระหว่างดวงตาของทั้งสองคน!!!

    "เอ่อ....พวกเธอ 2 คนไปนั่งข้างกันที่หลังห้องแล้วกันนะ"

     

    "ไม่เอ--"

     

    "อย่ามาโต้แย้ง เอาล่ะ เริ่มเรียนกันเลย เราจะเรียนต่อกันที่อิเหนาเลยนะนร. อิเหนาเนี่ย บลาๆๆ" ผมพึ่งรู้ว่าโรงเรียนญี่ปุ่นเค้าเรียนเรื่องอิเหนากันด้วยนะครับหึหึ

     

    จะว่าไปแล้ว....คุณฮิบารินี่ทำไว้แสบมากเลยนะครับ จะยิ้มทีนึงนี่แสบยันก้นกบ ว่างๆคงต้องไปทักทายซักหน่อย

     

    **ตัดมาทางด้านมัทสึริและฮิบาริ

     

    อ่อกก!! ฮิบาริเลี้ยวซ้าย

     แอ่กก!! ฮิบาริเลี้ยวขวา

    แอ้ก!! ฮิบาริเดินไปข้างหน้า

    อ่อยย!! ฮอบาริถอยหลัง

     

    แต่ทั้งหมดนี่ไม่ใช่เสียงของฮิบาริ เสียงฉันเอง มิซึจิ มัทสึริ คนเดิมเพิ่มเติมคือหายใจไม่ออก อีตาประธานบ้านั่นเดินไปเดินมาทั้งๆที่แขนยังล็อคคอเธออยู่แบบแทบจะไม่ปล่อยให้ออกซิเจนเข้าไปในถุงลมปอดแม้แต่น้อย มันน่าหยิบมีดมาแทงให้ไส้ทะลักนัก

     

    แอ้ด

     

    โครม!!!!! เสียงแอ้ดคือเสียงโซฟา ส่วนเสียงโครมที่ดังลั่นโลกาที่ดังมาครั้งสองนั้น...

    .

    .

    ถ้าคุณเดาว่าฮิบารินั่งลงบนเก้าอี้ หรือมัทสึริทำลายข้าวของ คุณ.....

     

    คิดผิด!!!

     

    คำตอบที่ถูกต้องก็คือ

    .

    .

    .

    .

    (ไอบ้า)ประธานหัวเป็ดเขวี้ยงเธอใส่โซฟาอย่างรุนแรงจนแทบจะกระเด้งเอาหน้าชนเพดานห้อง(นี่ไม่ใช่ฟิค sm ใช่ม้อยย//มัทสึริ)

     

    "ไอประธานใจโฉด โหดเหี้ยมอัมหิต ไอประธานเป็ดเจ็บนะยะ" เมื่อได้ทีมัทสึริก็รีบด่าฮิบาริ แต่ทันทีที่ถูกจ้องด้วยนัยน์ตาคมน่ากลัวนั้น เธอก็ตัดสินใจว่า...

     

    การหุบปากน่าจะดีที่สุดในสถานการณ์นี้

     

    "เงียบปากได้ซักที ยัยสัตว์สัตว์กินพืชหัวแดง" เมื่อกี๊นายหัวเป็ดเรียกเธอว่ายังไงนะ 'สัตว์กินพืชหัวแดง' เหรอ….

    เห้ยย!! มัทสึริกินสัตว์นะ เธอไม่ได้กินมังสวิรัติซะหน่อยทำไมถึงต้องกินพืชอย่างเดียวด้วย อีกอย่าง สัตว์กินพืชนี่ใช่คำด่ารึเปล่าหว่า  แต่เธอไม่ชอบกินผักนะเห้ย ไม่ได้ๆ อย่างนี้ต้องเถียง

     

    "=[. ]=" กำลังอ้าปากจะเถียงเรื่องที่ตัวเองกินสัตว์แต่กับต้องถูกขัดด้วยเสียงเปิดประตูห้องโดยรองประธานหัวม้วน

     

    "คุณเคียวครับ.  เอาแฟ้มเอกสารมาให้แล้วครับ" รองประธานคุซาคาเบะเดินเข้ามาพลางวางเอกสารกองโตลงตรงหน้ามัทสึริ   "คุณมิซิจิครับ เอกสารพวกนี้เป็นเอกสารย้อนหลัง 3 ปีทั้งหมดที่คุณเคียวดองเอาไว้ ถ้าเป็นไปได้ก็รีบทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุดนะครับ"

     

    "=[.     ]=" ยังไม่ทันได้หุบปากนี่ต้องอ้าปากค้างอีกแล้วเหรอ... เอกสารสามปีบ้าบออะไร บอกเธอทำไมกัน(วะ) ว่าแล้วก็เงยหน้าเด๋อด๋าไปสบกับนัยน์ตาคมของคนที่นั่งโซฟาฝั่งตรงข้าม

     

    "นี่ไงบทลงโทษของเธอ ทำมันให้เสร็จก่อนตอนกลางวันล่ะ ฮ้าวว" หลับ.... ไอประธานเป็นหลับไปแล้วอ่ะ แล้วนี่เธอต้องทำยังไง ทำไอเอกสารเฮงซวยนี่เหรอ…..

     

    ไม่มีวันซะหรอก!!!! อย่างงี้มันต้องหนีสถานเดียว

    หลังจากพอใจกับความคิดที่ยอดเยี่ยม มัทสึริก็ค่อยๆย่องออกไปที่หน้าประตู

     

    "อืมม...ถ้าไม่ทำตาม ตาย!" เมื่อตอนที่มือกำลังวางอยู่ที่ลูกบิดนั้น อยู่ดีๆก็มีเสียงนุ้มทุ้มลอยมาตามลง ทำให้เธอต้องชะงักมือที่กำลังจะหมุนลูกบิดไปอย่างกะทันหัน

     

    "..." สงสัยจะละเมอ

    "..." ไม่น่าหมายถึงเราหรอกมั้ง

    "..." หนีต่อดีมั้ยน้าา

     

    ชิ้งง!! อยู่ดีๆฮิบาริก็เอามือกำทอนฟาไว้แน่นทั้งๆที่ยังนอนอยู่

     

    เหอะ กะอีแค่คนนอนหลับใครจะไปกลัว

    .

     

    .

     

    .

     

    "ที่เห็นว่านั่งทำเอกสารอยู่นี่ไม่ได้กลัวเลยนะ บอกไว้ก่อน ฉันแค่กลัวว่าถ้ามีคนรู้ว่าโรงเรียนไม่ทำเอกสารย้อนหลังมา3 ปี มันจะเสียชื่อเอ๊าา" ก้มหน้าก้มตาเซ็นต์เอกสารในมือไปพลาง บ่นไปพลาง โดยไม่ได้รู้เลยว่าคนตรงข้ามที่นอนอยู่ จะยกยิ้มขึ้นมาบางเบา(มากๆ) แต่สำหรับฮิบาริแล้วนั้น การยกยิ้มเพียงแค่นั้นก็เป็นเรื่องที่ควรตกตะลึงมากพอกับการที่สึนะกล้าบอกรักเคียวโกะนั่นแหละ (ทำไมต้องพาดพิงด้วยฟะ!!!//สึนะ)


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    **พักกลางวัน**

     

    ทางด้านมุคุโร่

     

    มุคุโร่คิดว่าไอทอนฟามหาประลัยนั่นต้องอาบยาพิษ หรือไม่ก็ไพ่โพดำของยัยคนใจร้ายนั้นต้องมียาพิษซ่อนอยู่ เขาเจ็บแผลจนแทบจะกรี๊ดออกมาถ้าไม่ติดว่าที่นี่คนเยอะนะ พ่อจะร้องให้ตึกถล่มเลย!!

     

    "ใกล้ตายรึยังน่ะ" แล้วดูยัยตัวการปวดแสบปวดร้อนครั้งนี้สิครับ ผู้หญิงคนนั้นนอนเอาหน้าทาบไปกับโต๊ะและตะแคงหัวหันมามองทางผม ยกยิ้มเหยียดหยามขึ้นมา พลางเอานิ้วเรียวจิ้มแก้มของเขาที่ตอนนี้มีเลือดเกรอะกรังจากการถูกฟาดด้วยทอนฟา(มหาประลัย)

     

    "ถ้าตายแล้วผมจะมาหลอกคุณทุกวันเลย"

     

    "กลัวมากกก"

     

    "หึหึหึ ไม่ไปกินข้าวเหรอครับ" ผมถามคนข้างตัวเมื่อเห็นว่าเธอยังคงนั่งอยู่  นี่มันถึงเวลาพักแล้วครับแต่ยัยปิศาจข้างตัวนี่ยังไม่ลุกไปไหนเลย

     

    "ไม่หิวน่ะ นั่งดูสับปะรดทำหน้าปวดขี้ก็ตลกดีเหมือนกัน ไว้จะทำให้เจ็บกว่านี้อีกนะ" พูดเสียงสดใสแต่ความหมายนี่ดิบเถื่อนเชียวนะครับ

     

    "โกรธแค้นกันขนาดนั้นเลยเหรอครับ"

     

    "ขนาดนั้นนี่ขนาดไหนล่ะ"

     

    "นั่นสินะครับ...."

     

    "..."

     

    "...."

     

    "นายโง่เปิดประเด็นขึ้นมาเองนะ เพราะว่าแผลนี่เป็นฝีมือของฮิบาริ เคียวยะที่ทำนายเจ็บ ฉันจะถือว่าครั้งนี้ฉันผิดกติกาในการทำร้ายนายละกันนะ"

     

    "ครับ?"

     

    "ไปห้องพยาบาลกัน J "

    ….

    “ไปสิยะ รออะไรล่ะ”

    .

    .

    "เอาจริงๆ ผมชอบถูกทำร้ายนะครับ อาคาริ"

     

    "ไอสับปะรดโรคจิต!!!!"

     

    --ห้องพยาบาล--

     

    "ไม่รับรักษาผู้ชายครับ อ้าว นี่ผู้หญิงนี่นา หน้าตาน่ารักซะด้วย ขอจุ๊บซักทีสิจ๊ะ" เมื่อเปิดประตูเข้ามาแทนที่จะพบความสงบสุขที่คาดหวัง กันต้องมาเจอเจ้าโรคจิตชามาลเข้าซะก่อน

     

    "ผมว่าโรงเรียนนี้แปลกนะครับ แต่ไม่น่าเชื่อว่าแปลกจนถึงขนาดกล้าจ้างคุณมาทำงานด้วย - -"

     

    "หึ ไม่คุยกับผู้ชายเฟ้ย"

     

    "ไทรเด้นส์ชามาลที่เขาร่ำลือนี่ต่างจากที่คิดไว้เยอะเลยนะคะ"

     

    "หืมม หล่อกว่าเหรอจ๊ะ"

     

    "เหมือนตาแก่โรคจิตมากกว่าหมอ...."

     

    "..."

     

    "คึหึหึ...."

     

    "อย่ามาขำฉันนะว้อย เจ้าโรคุโด แล้วนี่ไปโดนอะไรมาล่ะฟะ สภาพเละตุ้มเป๊ะอุบาตว์โสโครกมาก" ชามาลผู้โดนว่าซะเสียหมา เอ้ย หมอ หันไปใส่อารมณ์กลับมุคุโร่แทน นอกจากจะพูดด้วยเสียงขึ้นจมูกแล้ว ยังแสดงท่าทางอีเดียจอย่างโอเว่อร์จนน่าหทมันไส้

     

    "ผมแค่โดนฮิบาริ เคียวยะทักทายมาน่ะครับแต่เหมือนจะรุนแรงไปหน่อยนึง"

     

    "อ๋อ..งั้นเหรอ แต่ต้องขอโทษด้วยฉันไม่รักษาผู้ชาย แล้วก็ไม่ทำแผลให้ผู้ชายด้วยเฟ้ย. แถมเมื่อกี๊นี้แม่หนูคนนี้ทำฉันเสียใจสุดๆ ต้องไปหาคนมาดามใจแล้วล่ะนะ ลาเลยแล้ว" ว่าแล้วก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่วายส่งจูบให้อาคาริ ที่รีบหลบให้พ้นจากรัศมีของจูบที่ส่งมาอย่างรวดเร็ว

     

    "ที่นี่ไม่ค่อยมีคนปกติเลยนะ" ผมพูดกลั้วหัวเราะหลังจากชามาลออกไปแล้ว

     

    "แม้แต่นายก็ไม่ปกติ" อาคาริเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลแล้วมานั่งข้างมุคุโร่ มือบางหยิบสำลีมาชุบแอลกอฮอล์ก่อนที่จะค่อยๆ เช็ดทำสะอาดรอยแผลบนหน้าคมคายของคนตรงหน้า

     

    "คุณปกติมากมั้งครับ"

     

    "มากกว่านาย" พูดแล้วอาคาริก็กดสำลีลงบนแผลของมุคุโร่อย่างแรง

     

    "ซี้ดดดด ผมบอกคุณไปแล้วนะครับว่าผมชอบโดนทำร้าย" มุคุโร่กัดฟันพูดตอบ สำลีที่กดลงมาเมื่อกี๊ไม่ใช่แค่แกล้งเขาเล่นๆเหมือนนิยายรักหวานแหววทั่วไปหรอก ยัยนั่นตั้งใจทำร้ายเขาอย่างจริงจังและตั้งใจ เพราะแรงที่กดลงไปไม่ได้ออมแรงไว้แม้แต่น้อย

     

    "ทนต่อไปสิ สับปะรดโรคจิต - -" อาคาริตอบกลับไป มือเปลี่ยนจากสำลีชุบแอลกอฮอล์ เป็นทิงเจอร์แทน

     

    กดลงไปตรงแผลสด ที่ยังคงเห็นเนื้อสีขมพูนั่นเต็มแรง!!

     

    "อึ่กกก....." มุคุโร่พยายามกัดฟันไม่ให้หลุดเสียงอื่นออกไป แต่อาคาริก็ยังกดค้างไว้แบบนั่น มุมปากยกยิ้มพอใจขึ้นมาเล็กน้อย

     

    "หึ ว่าผมเป็นโรคจิตแต่คนที่มีความสุขตอนได้ทำร้ายคนอื่นแบบคุณนี่... ต้องเรียกว่ายังไงดีล่ะ" ยกยิ้มขึ้นลอกเลียนแบบคนตรงข้ามที่ชะงักมือที่กำลังประมุษร้ายแผลผมอย่างเลือดเย็น   มือบางเผลี่ยนเป้าหมาเป็นใช้ผ้าก๊อดปิดแผลบริเวณต่างของผมแทนโดยไม่ได้ลงมือทำร้ายใดๆอีก

     

    "ฉันทำร้ายแค่นายเท่านั้นแหละ" เสียงใสนั่นตอบกลับมาหลังจากที่แปะผ้าก๊อตหใดทุกบริเวณ แล้วเดินจากไป ทำไมยัยนั่นถึงไม่ทำอะไรรุนแรงกับผมกันนะ

    .

    .

    ว่าแต่….

    รู้สึกเหมือนลืมอะไรไปอย่างนึง

    .

    .

    อ่า….  ผมรู้แล้วว่าทำไมยัยใจร้ายนั่นถึงไม่ได้ทำรุนแรง ก็ก่อนใส่ผ้าก๊อตน่ะมันควรใช้แผ่นปิดกันการติดกันของแผลกับผ้าก๊อตใช่มั้ยล่ะครับ แต่นี่ ไอแผ่นที่ว่ามันวางอยู่เป็นระเบียบเรียบร้อยไว้ในกล่องโดยที่ไม่ได้ถูกใช้เลยซักนิดเดียว

     

    หึ นึกถึงตอนที่ถอดผ้าก๊อตออกแล้วแผลจะแสบแค่ไหนกันแล้วนั้น.....

     

    บางครั้งผมก็เคยคิดว่าอยากจะฆ่าอาคาริทิ้งไปเหมือนกันนะครับเนี่ย คึหึหึ

     

    ผมจะทำเป็นคิดในแง่ดีว่าเธอลืมว่าต้องใช้มันแล้วกันนะครับ

     

    แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ….

    เมื่อไหร่จะกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้อีกก็ไม่รู้แฮะ

     

    *ฮิบาริมัทสึริ

    ห้องคณะกรรมการคุมกฎโรงเรียนนามิโมริ

    “มิโดริ ทานาบิคุ  นามิโมริโน~~~” เสียงร้องเพลงโรงเรียนนามิโมริดังเจื้อยแจ้วทางหน้าต่างทำให้เด็กสาวที่นั่งทำงานอย่างขมักเขม้นต้องหันไปมองอย่างเสียไม่ได้

    “นกนี่นา….ถ้าเปิดให้เข้ามาประธานเป็ดจะว่ามั๊ยนะ..” ครุ่นคิดอยู่พักนึง แต่ทำไมจะต้องสนใจประธานเป็ดด้วยล่ะ หลังจากที่ขู่เธอไปในครั้งนั้น ประธานนั่นก็หลับสนิทมาโดยตลอดไม่แน่อาจจะตายไปแล้วก็ได้ “เปิดเลยแล้วกัน

    แอ้ด

    “มิโดริ ทานาบิคุ  นามิโมริโน~~~” นกน้อยตัวนั้นบินไปเรื่อยๆ

    แล้ว

    ..

    .

    .

    .

    ไปนั่งบนหัวประธานเป็ด!!!

    นังนกโอหัง ไม่ได้เปิดหน้าต่างมาให้มาหักหลังกันอย่างนี้นะว้อยยย!!!! ถ้าเกิดฮิบาริตื่นมาแล้วจิกหัวใช้เธออีกเธอจะกินเจ้าลิตเติ้ลนกนี่เข้าไปแบบสดๆเลยคอยดู!!!

    “หืมม..ฮิเบิร์ด” พูดยังไม่ทันจะขาดคำไอประธานหัวเป็ดก็ตื่นขึ้นมาแล้วล่ะ

    ฮิเบิร์ด……

    สาบานเถอะว่านั่นชื่อนก สิ้นคิดซะไม่มี (และแน่นอนว่าเธอต้องคิดเรื่องนี้ในใจ ไม่เช่นนั้นแล้ว ชีวิตเธอคงดับสูญหลังจากพูดยังไม่ทันจบประโยคเป็นแน่ U.U)

    “ประธานเป็ด”

    “ประธานเป็

    “ฮิบาริ เคียวยะ”

    “อ่ามิซึจิ มัทสึริ ยินดีที่ได้รู้จักนะประธานเป็ด  เห้ยย!!” พูดยังไม่ทันจบประโยคก็ต้องเด้งตัวออกจากโซฟาเพื่อหนีคุณประธานใจโหดที่เอาทอนตั้งท่าจะทำประทุษร้ายเต็มที่ นี่เธอทำอะไรผิดไปกันนะ ก็เห็นฮิบาริ เคียวยะแนะนำตัวมาเธอก็แนะนำตัวเองกลับไป ทำไมต้องโกรธด้วย(วะ)

    ฮิบาริ เคียวยะ ไม่ใช่ ประธานเป็ด” ฮิบาริพูดเสียงเย็น มือทั้งสองข้างยังคงกำทอนฟาแน่น

    “อ๋อออโกรธที่เรียกว่าประธานเป็ดนี่เอง แล้วนี่ฉันต้องเรียกว่าอะไรอ่ะ เรียกฮิบาริได้เลยมั้ยหรือต้องมีคุณนำหน้า โปรดชี้แนะนิดนึงค่ะ” มัทสึริที่เพิ่งเข้าใจสถานการณ์รีบตอบฮิบาริไปอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาใสยังคงจ้องไปที่ทอนฟาในมือคนตรงข้ามอย่างระแวดระวังภัย

    “น่ารำคาญ ทำงานเสร็จรึยัง” ฮิบาริที่ไม่ได้ตอบคำถาม แต่กลับเปลี่ยนเรื่องไปถามเรื่องอื่นแทน

    “ก็นี่แหละ สาเหตุที่ฉันเรียกนาย ฉันทำงานย้อนหลัง 3 ปีของนายเสร็จแล้วนะ เหลือบางอันที่เป็นลายเซ็นนายโดยเฉพาะ แยกไว้ตรงกองขวามือแล้วล่ะนะ” มัทสึริพูดพร้อมทั้งชี้มือไปทางกองเอกสารหลายตั้งที่นั่งหลังขดหลังแข็งทำมาอย่างตั้งใจตลอดช่วงเช้า “ดังนั้นคืนสร้อยฉันมาได้แล้ว  นั่นมันเป็นของสำคัญของคุณแม่” มัทสึริพูดด้วยสีหน้าจริงจังกว่าครั้งไหนที่คุยกัน

     

     

    ไม่ - -‘

     

    ไอประธานเป็ดดดดดดด มัทสึริกรีดร้องในใจอย่างบ้าคลั่ง

    “มันสำคัญจริงๆนะ คืนชั้นมาเถอะ”

    “ทุกเที่ยงและเย็นต้องมาที่ห้องกรรมการคุมกฎ..” ฮิบาริเอ่ยขึ้นมาลอยๆ

    “ทำไมชั้นต้องมาด้วยล่ะ ไม่จำเป็น”

    “งั้นก็กลับไปซะ เรียนจบค่อยมาเอาคืน”

    “ไอบ้า!!!! โอเคๆๆ ยอม”

    “หึ ก็แค่นั้น” ฮิบาริหัวเราะในลำคอก่อนที่จะหยิบสร้อยคอเส้นบางขึ้นมาอย่างเบามือ ก่อนจะโน้มตัวไปใส่สร้อยคอบนลำคอระหงของมัทสึริ ใช้เวลากับตะขอซักพักก่อนที่มือข้างนึงปัดผมของมัทสึริออกจากลำคอ และผละใบหน้ากลับมา

     

     

    “ตัวหอมดี”

     

     

    rftghyujydrs#$#@-//////////////////- มัทสึริที่ตัวแข็งค้างไปพักนึง ก่อนที่จะสบถคำด่าหลากหลายภาษาที่หยาบคายจนฮิบาริต้องยิ้มมุมปาก ก่อนที่ร่างสูงจะลุกออกมาและจากไป

     

    “หยุดพูดเมื่อไหร่ก็ปิดห้องด้วยล่ะ อ้อ แล้วก็ไม่ต้องเปลี่ยนสีผมแล้วนะ เหมือนว่าจะสีเดียวกับหน้าเธอตอนนี้เลยนี่ หึ”

     

     

    ไอประธานหัวเป็ดสารเลวววววววว

    ถ้าไม่ได้เอาเลือดหัวฮิบาริ เคียวยะ ออกมาในชาตินี้

    .

    .

    .

    .

    ชาติหน้าก็จะพยายามใหม่ . _ .

     

     

    ­

    บนดาดฟ้าของโรงเรียนนามิโมริในยามค่ำยังคงมีเด็กชายตัวน้อยยิ้มอย่างพอใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้

    ไม่เลวนี่ พวกรุ่นที่ 10

    นภา    มาดอนน่าในใจตลอดหลายปี ซาซางาวะ เคียวโกะ

    วายุ   คู่กัดหมาต้องกราบตามนิยายน้ำเน่าทั่วไป มิอูระ ฮารุ

    พิรุณ  ความสนิทสนมที่ลืมเลือน ป้ำๆเป๋อๆพอกัน ซัทสึกิ  อากาเนะ

    สายหมอก  คนนึงก็ชอบโดนทำร้าย อีกคนก็จ้องจะทำร้าย คู่โรคจิต อาคาริ

    เมฆา  สาวน้อยที่ฮิบาริคุยมากที่สุดในรอบหลายปี ขอโทษนะแต่คงต้องจับมาร่วมก๊วนแล้วล่ะ มัทสึริ

    ส่วนอรุณกับอัสนีก็คงรู้กันดีอยู่น่ะนะ


    ---------------------------

    talk

    29/11/59

    50เปอร์ก่อนเน้อออ แต่งไม่ทันจ้า5555

    ทำไม 2 คนนี้ถึงยาวกว่ากว่า 3 คนก่อน หรือนี่จะเป็นแรงพิศวาศ 555555

    อย่าลืม เม้น แอดเฟบ vote บลาๆๆ ให้กำลังใจไรท์เตอร์ด้วยนะค้าาาา

    เค้าเหงามาก อยากคุยกับรีดทุกคนมากเลย เม้นได้นะไรท์ไม่กัดแน่นอน555555


    มีเรื่องมาถามค่ะ

    คือพอต่อๆไปมันจะเริ่มมีแบ่งพาร์ทเป็นคู่ๆ รีดอยากให้เราแบ่งเป็น สองตอน  หรือว่าห้าตอนดีคะ

    เค้ามาตอบกันหน่อยน้า

    1. คือให้แบ่งสึนะโกคุยามะไว้1 ตอน มุคุกับฮิบะอีก1ตอน

    2. คือให้แยกเป็นตอนๆของแต่ละคนไปเล้ยย


    แล้วก็อีกอย่างนึงคืออยากให้คอมเม้นบอกเราทีว่า 1 ตอนนี่เราเขียนยาวไปหรือสั้นไปยังไงบอกเราทีนะคะขอบคุณค่าบบบบบบบบ

    cinna mon
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×