ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    God Trader

    ลำดับตอนที่ #1 : Trade 1 welcome and go away

    • อัปเดตล่าสุด 8 ธ.ค. 56


    Trade 1 welcome and go away

     

    Everything is good for something. ทุกสิ่งล้วนมีคุณค่า แม้มิใช่ต่อทุกสิ่ง แต่ย่อมมีค่าต่อบางสิ่ง


     

                    เวลาสายของฤดูใบไม้ผลิในป่าคุ้มคลั่งในเขตฟรอนเทียร์ เป็นเวลาที่เงียบสงบที่สุดต่างจากเวลากลางคืนลิบลับ ลึกเข้าไปในป่าใหญ่มีโกดังร้านค้าที่มีสภาพเก่าๆโทรมๆอยู่หนึ่งหลัง ไม่ใหญ่ไม่เล็กแต่มีบรรยากาศค่อนข้างมืดมนและพร้อมจะพังครืนลงมาทุกเมื่อ ด้านในมีสิ่งของจำพวกอาวุธของสายอาชีพต่างๆ รวมถึงสมบัติหายากมากมาย แต่กลับขายไม่ค่อยจะออก ทำไมนะเหรอ ก็ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นพวกเลือดร้อน อยากจะได้ของฟรีของถูก เวลาจะต่อลองเลยต้องมีการพังร้านกันอยู่เป็นประจำ จนทำให้พ่อค้าไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ลูกค้ามาแต่ล่ะที เลยต้องมีการลงไม้ลงมือกันอยู่ทุกครั้งไป

    “น่าเบื่อจริงๆ ต้นเดือนนี้มีแต่เรื่อง”

     เสียงเนือยๆที่ออกมาจากปากเด็กหนุ่มที่นั่งกึ่งนอนเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้นวมสีน้ำตาลเปลือกไม้ตัวใหญ่ ดวงตาสีน้ำเงินรัตติกาลลึกลับ ผมสีแดงเพลิงยาวระต้นคอยุ่งเหยิงทั้งหัวซึ่งพลิ้วไหวตามแรงหันของเจ้าของ ใบหน้าคมคายดูเอาเรื่องหันมองเด็กหนุ่มอีกคนที่นั่งเหม่อดวงตาสีแดงเลือดเปิดเพียงครึ่งเดียวดูไม่ออกว่ากำลังหลับหรือตื่นกันแน่

    “นี่ธีโอ ฉันจะไปในเมือง แกจะเอาอะไรไหม”

    “ธีโอ ตื่นอยู่รึเปล่า”

    หนุ่มน้อยคนเดิมตะโกนถามคนที่นั่งข้างๆหน้าต่างอีกครั้งเนื่องจากไม่สามารถเดาอาการว่าคนที่นั่งหลับตานั้นได้ฟังที่ตัวเองพูดอยู่หรือเปล่า

    “…ตื่นอยู่” ชายหนุ่มผิวสีขาวซีด มีเรือนผมยุ่งชี้ไปทางด้านหลังและยาวเลยไปถึงบ่าเด็กหนุ่มผู้มีดวงหน้าหล่อเหลาแต่ไร้อารมณ์ที่ดูง่วงนอนตลอดเวลา ดวงตาสีเลือดเลื่อนลอยออกไปนอกหน้าต่างร้านค้า ปากสีพีชที่ตัดกับสีผิวอ้าหาววอดบ่งบอกอารมณ์ที่เฉื่อยชา

    “ฉันจะออกไปดูงานที่ร้านในเมืองเสียหน่อย ฝากเฝ้าร้านด้วย”

     “กัลโล…อย่าลืมซื้อขนม” ธีโอเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงที่ดังขึ้นมาหน่อย หนุ่มน้อยกัลโลพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงตกลง

    “ระหว่างเฝ้าร้านก็ช่วยทำความสะอาดด้วยนะเว้ย ถ้าขืนยังเฉื่อยอยู่แบบนี้ ถ้ายัยปีศาจกลับมา นายโดนเล่นงานแน่” กัลโลพูดพลางใช้นิ้วชี้ปาดคอตัวเองซ้ำๆไปมา สีหน้าบ่งบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงคำขู่ซึ่งได้รับคำตอบกลับมาเป็นการพยักหน้างึกงักเข้าใจ

    “เดี๋ยว!กัลโล อย่าเพิ่งไป”

    “อะไรอีก”

    “พุดดิ้งถั่วแดง”

    “เออๆ รู้แล้วน่า จะซื้อมาให้ กินอะไรไม่ฮาร์ทบอยเลยนะแก แล้วก็เฝ้าร้านซักกะบ๊วยนี่ดีๆล่ะ”

    ธีโอหันมามองด้วยดวงตาที่ปิดลงครึ่งหนึ่ง และปิดทั้งดวงเมื่อร่างของกัลโลลับหายไปจากร้าน

    เจ้าของเรือนผมสีหมอกเหมือนเมฆครึ้มหลับตาลงประมาณสิบนาที แล้วก็ค่อยๆลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มือก็ปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าของตัวเอง ไม่รู้ว่าเขานั่งไม่ขยับมากี่ชั่วโมงแล้ว ฝุ่นถึงได้ลงมาจับตัวเขาหนาถึงขนาดนี้ เจ้าหนุ่มหยิบไม้กวาดขึ้นมาจ้องนานสองนาน ก่อนจะลงมือกวาดพื้นเงียบๆ ปากก็หาวเป็นครั้งคราว มือไม้ก็ขยับจัดของขายที่อยู่บนชั้นอย่างเชื่องช้า สายตาที่เปิดเพียงครึ่งเดียวจ้องไปที่รูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเป็นภาพของครอบครัวๆหนึ่งที่ดูอบอุ่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิ

    “ไม่ได้ซังกะบ๊วยเสียหน่อย…

    ตาสีแดงหม่นจับจ้องรูปถ่ายไม่วางตา ก่อนจะหลุดออกจากภวังค์ เมื่อได้รับรู้ถึงไอที่ไม่คุ้นเคยกำลังย่างกายเข้ามาในร้าน ดวงตาสีเลือดดูสงบนิ่ง ก่อนจะวางไม้กวาดลงบนพื้นอย่างใจเย็นดวงตาสีเลือดเปิดขึ้นมาอีกเล็กน้อย แต่แววตาดูเปลี่ยนไป จากเฉยชากลายเป็นวาววับ ผู้ที่มาเยือนร้านค้าที่อยู่ในป่าคุ้มคลั่งมีอยู่ไม่กี่ประเภทแบ่งเป็นหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ คือ พวกมาซื้อของสิบเปอร์เซ็นต์ พวกมาถามทางสามสิบห้าเปอร์เซ็นต์ และอื่นๆอีกห้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์

    “สวัสดีเจ้าหนู… ฉันจะมาซื้อของเสียหน่อยน่ะ” เสียงที่ดังออกมาเย็นระเยือก แต่กลับไม่เห็นตัวผู้เปล่งวาจา รู้แต่ว่า น่าจะเป็นผู้ชายวัยกลางคน

    พวกห้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์งั้นเหรอ มาอีกแล้วสิ เด็กหนุ่มถอนหายใจสั้นๆ ดวงตาสีเลือดลุกวาว สมองก็นับจำนวนผู้มาเยือนอย่างใจเย็นมากันกี่คนนะ สี่คน…ไม่สิ ห้าคนล่ะมั๊ง

    “จะเอาอะไร” ธีโอเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ แต่ไม่ทันจะเอ่ยจบดี ก็มีเงาพาดผ่านเขามาที่ด้านหลังอย่างรวดเร็วแล้วล็อคแขนของเขาเอาไว้แน่น ธีโอแยกเขี้ยวออกมาอย่างเบื่อหน่าย

    พวกนักเวทย์เหรอ…ใช้เวทย์เพิ่มความเร็ว ดูตุกติกน่าดู อ่ะ แล้วก็มีอัศวินด้วย

    “เจ้าหนู…แผนที่หุบเขาโหยหวนอยู่ที่ไหนบอกพวกลุงมาเถอะ แล้วจะไว้ชีวิตก็ได้”

    “…” ไม่มีเสียงเอ่ยออกมาจากปาก มีเพียงตาปรือๆที่จะหลับมิหลับเหล่อยู่แล้ว

    “รีบบอกมาไม่งั้น แขนแกหลุดแน่!!” พวกห้าสิบห้าเปอร์เซ็น เปล่งเสียงรอดไรฟัน ชายหนุ่มมองสำรวจพวกมันอย่างถี่ถ้วนอย่างช้าๆ ปรากฏตัวแค่สี่คน อีกคนน่าจะดูลาดเลาอยู่ด้านนอกยิ่งธีโอช้าพวกโจรนักเวทย์ความเร็วยิ่งโมโห

    “งั้นสงสัยต้องหักแขนซักข้างแล้วล่ะ ถึงจะยอมพูด!!

    “ลิเวียร์ธาน…

    เสียงที่หลุดรอดออกมาจากริมฝีปากเด็กหนุ่มเบาๆปานสายลม พอสิ้นสุดคำเพียงเท่านั้น ก็มีเสียงร้องโอดโอยเจ็บปวดจากสองในสี่คนของผู้บุกรุก ทั้งสองคนอยู่ในอาการตกตะลึงกับสภาพของเพื่อนร่วมงานฝีมือดี ชายทั้งสองถูกฟันด้วยของมีคมบริเวณสีข้างอย่างแน่นอนแต่ที่แปลกก็คือ เลือด! ไม่มีเลือดไหลลงมากองกับพื้นทั้งๆที่โดนฟันลึกเสียขนาดนั้น แต่มันกลับจับตัวเป็นก้อนแข็งอุดบาดแผลเอาไว้

    และความรู้สึกของประสาททั้งห้าที่รู้สึกคือความเย็น…อยู่ๆภายในร้านค้าเก่าๆก็มีไอเย็นปกคลุม และไอเย็นที่ว่าเหมือนจะพวยพุ่งออกมาจากเด็กหนุ่มคนที่พวกเขาเพิ่งข่มขู่เมื่อครู่ แต่ไม่ทันจะได้อ้าปากแสดงความตกใจ เด็กหนุ่มก็หายไปในควันหมอกสีขาวเสียแล้ว ฉับพลันก็ได้ยินเพียงเสียงลมที่ถูกตวัดพัดเข้ามากระทบตัว พร้อมทั้งเสียงโอดครวญของเพื่อนอีกคนและต้นคอของตัวเองที่ถูกปลายดาบจ่อ

    ดาบที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้หัวใจแทบจะหยุดเต้น ดาบขนาดใหญ่กระหายเลือด ความยาวของใบดาบก็ยาวมากกว่าสามสิบหกนิ้ว โกร่งดาบขนาดใหญ่ที่รวมกับตัวด้านดาบเป็นเนื้อเดียวกันเหมือนฟันที่กำลังกลืนกินใบดาบอยู่มีอัญมณีสีรุ่งอรุณบิดเบี้ยวฝังบนโกร่งดาบ ลายบนด้ามจับที่มีบางส่วนถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าสีขาวคล้ายเกล็ดมังกร ตัวดาบและโกร่งเป็นสีขาวงาช้าง…แต่เมื่อมีแสงสาดกระทบกลับเป็นสีเขียวมรกต

    “ร้านนี้จะไปมีของสะดวกใช้แบบนั้นได้ยังไงเล่าลุง หวังสูงไปมั๊ง”

    เด็กใบหน้าเย็นชาคนที่เอาดาบจ่อคอเขาไม่ได้เป็นคนพูด แต่เป็นผู้มาเยือนใหม่ เป็นเด็กหนุ่มผมแดง แววตาแวบวับในมือของเจ้าหนูหิ้วเพื่อนร่วมทีมของเขาอีกคนที่คอยดูต้นทางมาให้ เด็กชายโยนผู้บุกรุกไปทางด้านหน้า พร้อมทั้งทำท่าหนาวสั่น

    “บรื๋อ…หนาว ธีโอเก็บดาบ”

    “พวกอื่นๆมาน่ะ จะเอายังไง”ธีโอเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ ไอเย็นที่ออกมาจากดาบเริ่มลดระดับลง

    “เดือนนี้มากันกี่รายแล้วนะ ไอ้ที่จะขอซื้อแผนที่หุบเขาโหยหวน เป็นพวกนักเวทย์ทั้งนั้นเลย อยากรู้จริงๆอยากจะไปทำไมกันไอ้หุบเขาพิลึกพิลั่นนั่น”

    กัลโลเอ่ยขึ้นพลางทำเสียงจิจ๊ะในลำคอ

    “นี่ลุง หุบเขานั่นมันมีอะไรเหรอ”

    กัลโลเดินเข้าไปผลักเด็กหนุ่มหน้าตายออกพร้อมทั้งถามผู้บุกรุกด้วยสีหน้าสงสัย

    “รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ พ่อค้าก็อยู่ส่วนพ่อค้าไปสิ”

    “บอกมาเหอะน่า…ถ้ามันดีจริงจะได้หามาให้” เจ้าหนูยังคงพยายามถามอย่างไม่ลดละ ส่วนทางด้านธีโอก็ได้แต่จับผู้บุกรุกทั้งสี่โยนออกไปนอกร้าน พร้อมทั้งเก็บกวาดร้านด้วยความเร่งติดลบ

    ผู้บุกรุกหลบตาลงต่ำก่อนจะกลืนน้ำลายเอือกใหญ่พลางมองเพื่อนๆอย่างขอความเห็น ซึ่งทุกคนก็พยักหน้าให้บอกๆมันไปเถอะ เรื่องจะได้จบๆ

    “อารัคเน่…ที่นั่นเป็นรังของปีศาจนั่น ป่าที่เหมือนเขาวงกต หุบเขาที่เป็นเหมือนขุมนรก ถ้าผ่านไปได้ จะได้เจอกับอารัคเน่และถ้าฆ่านางสำเร็จจะได้รับรางวัลคือไม้เท้าวิเศษที่สามารถใช้เวทย์กาลเวลาได้”

    “เควสที่อยู่ในเมืองเหรอ” กัลโลลากเสียงยาวอย่างเอือมระอา “ว่าแล้วเชียว แห่มาไม่หยุดไม่หย่อน”

    “นายก็รู้ดีนี่ แต่นายเป็นพ่อค้า ทำเควสไม่ได้หรอก ปล่อยฉันไปได้รึยัง”ผู้บุกรุกเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว

    “ก็ไม่ได้จับไว้นี่”กัลโลเอ่ยขึ้น “นี่ลุง ถ้าตัดใจจากไม้เท้าวิเศษนั่นสนใจรับเศษท่อนไม้ผุๆที่มีวิญญาณสิงสู่ไหม ร้านเรามีขายนะ”

    “กระพ๊มไม่ใช่เศษไม้ผุๆนะขอรับ!!กระพ๊มคือ

    “ปังๆ!!

    เสียงที่ดังออกมาจากไม้เท้าที่วางอยู่ที่มุมห้อง สร้างความตกใจให้กับผู้บุกรุก แต่ไม่ทันจะฟังเจ้าเศษไม้พูดจบ เจ้าหนูหัวแดงก็หยิบปืนคู่ที่เก็บเอาไว้ในเสื้อนอกยิงออกไปที่ไม้เท้าปากมากนั่น ปืนสั้นคู่สีดำเหลือบม่วง ปืนเซมิ-ออโต้ ความยาวลำกล้อง8.7 นิ้ว กว้าง 1.28 นิ้ว สูง 7.7นิ้วน้ำหนัก 34 ออนซ์เสียงหวีดกับไฟที่ลุกโชนบริเวณปลายกระบอก ความสวยงามและเปลวเพลิงสีม่วงดำทำให้โจรปล้นร้านค้าอกสั่นขวัญแขวน

    “เป็นแค่สินค้า…อย่ามาสะเออะพูด”

    “กัลโลใจร้าย!!

    “ไอ้เด็กเลวกัลโล!!!

    “ไอ้ปีศาจ!!!

    “ไอ้ตุ๊ดกระปู๊เล็ก”

    และอีกหลายเสียงที่ดังระงมแซงแซ่ในร้านค้า เหล่าพวกสินค้าที่มีวิญญาณสิงสู่แข่งกันตะโกนด่าเจ้าของร้านกันวุ่นวาย ผู้บุกรุกได้แต่มองเลิกลัก ก่อนจะพึมพำเบาๆ

    “ของต้องสาป…

    “รับซักชิ้นไหม” กัลโลพูดพร้อมเก๊กท่าที่ตัวเองคิดว่ามาดแมนสมกับเป็นฮาร์บอยสุดๆ
           "ไอ้เด็กทุเรศ คิดว่าเก๊กแล้วจะทำให้หน้าแกหล่อขึ้นรึไง" เสียงออกมาจากเหล่าคทาอีกครั้ง

     

    ปังๆๆๆๆๆ!!!!!!

    เสียงปืนที่ถูกยิงออกมาระรัวรอบๆร้านโดยชี้เป้าไปที่ไอเท็มปากมากดังออกมาเป็นระยะๆ และแล้ว ร้านก็เริ่มติดไฟ เนื่องจากลูกกระสุนที่ยิงออกมาไม่ใช่ลูกกระสุนธรรมดา มันคือลูกไฟขนาดเล็กที่อัดแน่นไปด้วยเวทย์ไฟโบราณที่ถูกยิงออกมาจากปืนปีศาจ

    “…”ธีโอหาววอดอีกครั้งก่อนจะกวัดแกว่งดาบยักษ์ลิเวียร์ธานส่งไอเย็นไปแช่แข็งไฟที่กัลโลปล่อยออกมา ก่อนที่ร้านค้าซอมซ่อที่ขายแต่ของแย่ๆจะกลายเป็นตอตะโก

    “เดี๋ยวร้านพัง…”ธีโอกล่าวฉุนเล็กๆ

    “ดูพวกมันสิ!! สินค้าปากมาก!! ขายก็ไม่ออก ทิ้งก็ไม่ได้!!!” กัลโลเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว ดวงตาสีน้ำเงินครามลึกลับดูอารมณ์บูด

    “ถ้าไม่เอาอะไรก็กลับไปซะ พวกนักเวทย์สมองกลวง” กัลโลเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ นักเวทย์ผู้บุกรุกคนที่โดนกัลโลประทุสะร้ายก็ค่อยๆลุกขึ้นแบกเพื่อนออกไปนอกร้าน พร้อมๆกับนักเวทย์ที่ให้ข้อมูลเควสกับกัลโล

    คนผมแดงยัดสินค้าต้องสาปลงในกล่องผนึกด้วยอารมณ์สุดแค้น เดือนนี้ก็วุ่นวายอีกแล้ว ไม่รู้จักหยุดจักหย่อน

    “กัลโล นายต้องช่วยเก็บกวาด” เสียงนิ่งๆของธีโอเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับยื่นไม้กวาดไปทางกัลโลที่กำลังหัวเสีย

    “มันมีแต่เศษน้ำแข็งของนาย” เจ้าคนขี้เกียจจีบปากจีบคอพูด

    “ฉันแช่ไฟนายด้วยน้ำแข็ง”อีกคนก็ตอบกลับด้วยสีหน้าเย็นระเยือก

    “คิดจะหาเรื่องฉันเรอะธีโอ” กัลโลพุ่งเข้าไปประจันหน้ากับเด็กผมสีหมอกที่ตัวสูงกว่าเขาประมาณหนึ่งอย่างเอาเรื่อง

    “…” เจ้าคนตัวสูงกว่าก็ดูจะไม่ค่อยลดราวาศอกกัน หันมาประจันหน้าและขู่เหมือนพวกยากุซ่า

    และแล้ว คู่เดือดแห่งร้าน God Trader ไม่สิ หนึ่งเดือดหนึ่งเฉื่อยต่างหากก็แลกหมัดกันทันที กัลโลและธีโอแลกหมัดกันอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีใครต่อยกันโดนซักหมัด เพราะทั้งสองนั้นทั้งรุกและรับกันเป็นอย่างดี มือประสานกับขาได้สมดุล ก่อนที่กัลโลจะจับที่คอเสื้อโค๊ดขนสัตว์ของอีกฝ่ายแล้วใช้เท้ายันไปที่ท้องของธีโอ ทำให้จับเด็กหนุ่มผมสีหมอกทุ่มลงได้ ตอนนี้กัลโลทับอยู่บนร่างของธีโอโดยใช้แขนกดคอของอีกฝ่ายไว้ รอยยิ้มที่เผยออกมาของกัลโลเหมือนยิ้มเยาะว่าฉันชนะแล้ว

    “นายดึงเสื้อ…ขี้โกง” ธีโอที่อยู่ด้านล่างเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นมา

    “ใครจะไปเล่นแฟร์ๆกับไอ้บ้าต่อยหนักแบบนาย น่าๆ เป็นน้องก็หัดยอมให้พี่เสียบ้าง” กัลโลเอ่ยขึ้นมาอย่างขบขัน

    “เอ่อ…ขอโทษที่มาขัดจังหวะนะคะ ขอโทษค่ะ”

    “!!!!

    พลันเสียงที่เอ่ยจบด้วยความตกใจ หนุ่มน้อยสองคนที่อยู่ในท่าที่ไม่พึงประสงค์ก็หันขวับไปตามเสียงทันที แต่กลับสายไปเสียแล้ว พวกเขาได้เห็นเพียงด้านหลังของเด็กสาวที่วิ่งลับออกไปนอกร้าน เห็นเพียงว่า เธอมีผมยาวสลวยสีทอง และใส่ชุดกระโปรงสีขาวขลิบทองที่ปลายแขนเสื้อและชายกระโปรง ที่สำคัญ น่าจะเป็นลูกค้า…

    “เดี๋ยวก่อน!!!

    *******************************************
    จบไปตอนนะจ๊ะ ติชมได้จ้า เม้นซักนิดจิตแจ่มใสนะฮับ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×