คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : a change for-ever love ยอมแลกได้ให้นายคนเดียว บทนำ ลูกผู้ชาย!
อู๋จุนนำแสดงเป็นโนบุ
นี่คือนายหน้าเห่ยยูกิ
A change for-ever Love บทนำ ลูกผู้ชาย!
< "จำวันนั้นได้มั้ย? ที่สนามเด็กเล่นน่ะ...
มีใครบางคนสัญญากับฉันว่า...
เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป...
คิดแล้วตลกดีเนอะโนบุ...
ตอนนั้นน่ะ... ฉันตัวสูงกว่านายซะอีก..." >
สาส์นท้ารบ!!! ถึงไอ้โนบุ ริวจิ กับ ไอ้ยูกิ ฟุคุอิ ม.6 ห้องE ถ้าเก่งจริงก็โผล่หัวออกมาที่สวนสาธารณะโชวะทะคิสิวะ! ตัดสินกันเป็นครั้งสุดท้าย! พวกแกจะขนลูกน้องมาด้วยก็ได้... แต่ฉันไม่รับประกันความปลอดภัยให้นะโว้ย ว่ะฮ่าฮ่าฮ่า!!
ลงชื่อ โคกิ นักเลงสุดเท่แห่งโรงเรียนโอฮาราดะ
...
หนุ่มคนหนึ่งเดินมาหยุดอ่านแผ่นกระดาษยับๆ ที่ใช้เทปกาวติดไว้บนรั้วโรงเรียน ในนั้นมีข้อความเป็นสาส์นท้ารบระหว่างแก๊งอันธพาลโรงเรียนโอฮาราดะกับแก๊งอันธพาลโรงเรียนที่เขาเรียนอยู่ พออ่านผ่านๆ เสร็จ เขาก็ถอนสายตาลงมาที่กล้วยหอมในมือ หายใจออกมาแรงๆ หนึ่งเฮือกแล้วปอกกล้วยเข้าปาก งั่ม...
"ไอ้พวกบ้า... มันจะอยากออกรบอะไรนักหนาฟะ อยากใช้กำลังกันนักก็ขึ้นเครื่องบินไปโดดร่มที่ตะวันออกกลางเลยเซ่... ไอ้พวกกุ๊ยเอ๊ย! " เขาบ่นออกมาแหบแห้งเหมือนเสียงตดยาวๆ จากนั้นจึงหันไปทิ้งเปลือกกล้วยลงถังขยะอย่างบรรจง
หนุ่มคนที่บ่นๆ อยู่เมื่อกี๊เป็นนักเรียนชั้นม.6ห้องE เขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาแย่ที่สุดในโรงเรียน ขอย้ำอีกทีว่าแย่สุดๆ (จากการจัดอันดับของชมรมนักข่าวและชมรมคนหน้าตาดี) เพราะนอกจากเขาจะมีดวงตาที่ตี่สุดๆ กับอวัยวะบนใบหน้าที่ไร้เสน่ห์โดยสิ้นเชิงแล้ว เขายังชอบทำหน้าประหลาดเหมือนกับคนไม่เต็มเยนอีกต่างหาก เหมือนที่เขากำลังทำอยู่ขณะนี้...
อวัยวะทุกส่วนบนใบหน้ากำลังเคลื่อนตัวมากระจุกรวมกันอยู่ที่จมูก ในระหว่างที่เขาอ่านข้อความในสาส์นท้ารบนั่นอีกครั้ง... ไอ้โนบุ ริวจิ กับ ไอ้ยูกิ ฟุคุอิ หรอ?? ชื่อคนหลังนี่มัน... มัน... มันชื่อตูนี่หว่า!! เฮ่ย!!!
"เวรล่ะสิ ซวยอีกแล้ว... อะไรกันนักกันหนาฟะ! " คราวนี้เขาตะโกนเสียงเหมือนเผลอตดดังๆ (วันนี้เป็นหวัดเลยเสียงไม่ค่อยมี)
ฝ่ามือด้านๆ เอื้อมไปฉีกกระดาษแผ่นนั้นออกมาขยำจนเละเทะแล้วเขวี้ยงลงที่พื้น จังหวะนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงคำรามเบาๆ จากยานพาหนะคันโตที่มาหยุดอยู่ข้างหลัง ยูกิหันหลังกลับมาทันใด ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่กำลังเปิดประตูลงจากรถ
"ทำไมต้องมาตอนนี้ด้วยว้า..." ขณะที่ยูกิกำลังคิดถึงความซวยที่กำลังจะมาเยือน เขาก็ก้มลงหยิบเอากระดาษที่ยับเยินก้อนนั้นไปทิ้งลงถังขยะอย่างนุ่มนวล ชายหนุ่มรูปงามก้าวเท้าลงมาจากรถพร้อมลิ่วล้ออีกสองสามคน ชายหนุ่มรูปหล่อยืนพิงประตูรถ จุดบุหรี่แล้วพ่นควัน... ฟู่ว...
การแต่งตัวของเขาไม่ได้ต่างอะไรกับดาราฮอลลีวู้ดเลยสักนิด ถ้าบวกกับความหล่อล่ำบึ้กแบบนั้นด้วยแล้ว เขาจึงเหมาะสมกับBMWคันงามที่เขายืนพิงอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย ชายหนุ่มคนนี้ก็เรียนอยู่ม.6ห้องEเหมือนกัน แถมยังเป็นคนที่สาส์นท้ารบแผ่นนั้นกล่าวถึงเป็นคนแรก ใช่แล้ว... ชายคนนี้ก็คือ โนบุ ริวจิ!
ยูกิพยายามยิ้มทักทายโนบุด้วยสีหน้าที่ทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรบ้างเลยมากที่สุด
"ว่าไงโนบุ... วันนี้มาแต่เช้าเลยนะ ฮะฮะฮะฮ่า... - . - "
โนบุไม่หันมาสนใจยูกิเลยสักนิด เขาพ่นควันฉุนๆ นั่นต่อไปจนหมดมวนแล้วโยนก้นบุหรี่ลงข้างทาง
"นายจะเอายังไง? " โนบุพูดขึ้นแล้วเดินเข้าไปหายูกิ
"อะ... อะ
เอาอะไร ฉันก็ไม่ได้จะเอาอะไรนี่ อ๋อๆ ก็ใกล้จะจบม.6แล้วไง ฉันจะเอาอะไร? เอาใบประกาศไง ฮ่าฮ่า รึไม่ใช่?? -.- " ยูกิผิวปากเป็นเพลงชินจังเบาๆ แล้วหันไปยิ้มให้สาวๆ ที่กำลังเดินเข้าโรงเรียนกัน
"ก็สาส์นท้ารบนั่นไงล่ะครับคุณยูกิ... อ๊ะ อ้าว! หายไปแล้วอะ?? " ลิ่วล้อคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมาแต่ก็ต้องชะงัก เพราะตรงที่เขาชี้มันไม่มีกระดาษแผ่นนั้นอยู่แล้ว
"สาส์นท้ารบอะไร? ไม่มีนี่... ไม่มีๆ (สวัสดีจ้าสาวๆ ) " ยูกิตอบลิ่วล้อคนนั้นไปโดยไม่มองหน้า เขาพยายามโบกมือให้สาวๆ และยิ้มให้ด้วยความจริงใจ แต่กลับดูเหมือนไอ้หื่นกามซะมากกว่า
โนบุหันหลังไปมองพวกผู้หญิงที่กำลังทยอยกันเดินเข้าไปในโรงเรียนบ้าง หน้าตาที่คมคายของเขาเหมือนกับจะเก๊กหล่อได้อยู่ตลอดเวลา คิ้วเข้มๆ ตาโตมีเสน่ห์ จมูกโด่งเหมือนยอดเขาเอเวอเรสต์ แล้วก็รอยยิ้มกระชากใจแบบนั้น... มันทำให้สาวๆ แข้งขาอ่อนจนไม่กล้าเดิน
โนบุหันหลังกลับมาหายูกิที่กำลังทำหน้าเบ้หมั่นไส้เขาอยู่แล้วพูดว่า
"มัวแต่มองสาว? นายน่ะไม่ได้แอ้มพวกหล่อนอยู่แล้วล่ะน่า... อย่าเอาดีทางด้านนี้เลย ฮ่าๆๆ " โนบุยิ้มเย้ย
"ฮึ่ม... ไอ้หล่อ... งั้นงานนี้แกก็ไปคนเดียวเลยสิโว้ย!! "
"หึหึ..." โนบุจุดบุหรี่ขึ้นอีกมวน ในขณะที่ลูกน้องทั้งหมดของแก๊งราวๆ 50คนยกพวกกันมาที่หน้าโรงเรียน
"เราจะไปกันแล้วนะ นายจะเอายังไงก็บอกมายูกิ..." โนบุถามเขา
ยูกิถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่แล้วยกมือขึ้นกุมขมับ เพิ่งจะด่าไอ้พวกบ้ากำลังไปหยกๆ แต่ดันวกมาเข้าตัวเองซะได้ ฮึ่ม... ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็... ช่วยไม่ได้สินะ...
"พวกเราฟัง!! เล็งที่ไข่! จิ้มที่ตา! แล้วเตะตูดมันโลดดดดด!! ลุย!!! "
"เฮ!!!" สมาชิกแก๊งเฮลั่น เหมือนพลทหารรับบัญชา และแล้ว... วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เกิดเหตุการณ์ยกพวกตีกันของนักเรียนมัธยมปลาย!!!
...
อีกแค่สองสามวันนักเรียนชั้นมัธยม6ก็ต้องเข้ารับใบประกาศจบการศึกษาแล้ว ยูกิกับโนบุก็เช่นกัน ทั้งคู่เรียนโรงเรียนนี้มาตั้งแต่อนุบาล ทั้งสนามบอล ดาดฟ้า ห้องชมรม มันกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตพวกเขามาตั้งแต่เด็กๆ จนตอนนี้... ชื่อของคู่หู "โนบุกิ" ก็ได้กลายเป็นชื่อแก๊งนักเลงที่ดังที่สุดในโคลิยามะไปแล้ว...
จริงๆ แล้วเมืองนี้ก็ไม่ได้ใหญ่มากมาย เป็นแค่เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เหนือโตเกียวตั้งไกล แถมยังอยู่ในเขตหนาวอีก หิมะตกตลอดตั้งแต่เดือนพฤษจิกาไปถึงต้นเดือนกุมภาเลย อืม... จะเรียกว่าบ้านนอกก็คงได้ จะมีก็แต่บ้านโนบุที่เป็นโรงแรมกึ่งรีสอร์ทห้าดาวเท่านั้นแหละที่เชิดหน้าชูตาเมืองนี้ไว้...
ปกติแล้ววันเวลาของทั้งสองคนจะหมดไปกับภารกิจแบบแก๊งอันธพาล ถึงแม้ยูกิต้องการที่จะเลิก แต่ทว่า ก็ดันเกิดเรื่องซวยๆ ไปทุกที่ๆ เขาเหยียบย่าง ให้ตายสิ! ยังไงก็ถอนตัวไม่ขึ้นซะที แล้วอีกอย่าง... โนบุก็คงไม่ปล่อยให้ยูกิทิ้งแก๊ง "โนบุกิ" นี้ไปแน่... ก็ทั้งสองคนเป็นคนก่อตั้งขึ้นมานี่นา
"ข้าวสุกแล้วนะแม่... " เด็กหนุ่มอายุประมาณ18ตะโกนบอกแม่ที่กำลังเคี่ยวแกงกะหรี่อยู่ในครัว เขาค่อยๆ เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเอากล้วยหอมมาจิ้มมายองเนสกินอย่างอร่อย หนุ่มหน้าตาบ๊องๆ คนนี้ชื่อยูกิ ถึงยูกิจะมีท่าทางที่ดูเพี้ยนๆ ไปบ้าง แต่เขาต้องตื่นมาช่วยแม่ทำกับข้าวตั้งแต่ตี4ทุกวัน แม่ของยูกิทำอาชีพขายอาหารแผงลอยอยู่หน้าห้าง ต้องแย่งที่กับแม่ค้าคู่แข่งอยู่เป็นประจำ รายได้ก็อยู่แค่ระดับพอกินพอใช้ไปวันต่อวันเท่านั้นเอง แต่โชคดีที่แม่เป็นคนประหยัด จึงสามารถใช้เงินส่วนหนึ่งส่งลูกเรียนโรงเรียนมัธยมได้จนจบอย่างหวุดหวิด
เหตุผลหลักที่ทำให้เด็กหนุ่มรูปร่างหน้าตาแย่แล้วยังต้องมีฐานะแย่ๆ อีกก็คือ... การที่เขากับแม่ต้องทนสู้ชีวิตกันเพียงแค่สองคน ด้วยเหตุผลบ้าๆ ของผู้ใหญ่ที่อ้างถึงความผิดพลาดในอดีต... หัวหน้าครอบครัวอย่างผู้เป็นพ่อจึงตัดสินใจทิ้งภาระทั้งหมดไว้เบื้องหลัง หอบข้าวหอบของหนีออกจากบ้านไปตั้งแต่ยูกิอายุไม่ถึง12ขวบ
ใช่แล้ว... ยูกิน่ะมีชีวิตที่แสนลำบากจนน่าสยอง... แต่เพื่อนสุดซี้อย่างโนบุกลับรวยมหารวย ยูกิมักไม่เป็นที่ต้องการของใคร ทว่าโนบุเปรียบเสมือนดวงจันทร์ที่ล้อมรอบไปด้วยดวงดาวที่สุกสกาว...
"ตักข้าวใส่ถุงเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับแม่" ยูกิเดินเข้ามากอดเอวแม่ที่กำลังยืนเคี่ยวแกงกะหรี่อยู่ แล้วเขาก็อ้าปากชิมแกงกะหรี่ที่แม่ป้อน
"โอ๊! อร่อย!! แม่ค้าข้าวแกงที่เก่งที่สุดในญี่ปุ่น คือแม่ซูซูกิของผมผู้นี้นี่เอง!! ฮ่าฮ่า" ยูกิแกล้งยอแม่ตัวเอง
"แหม... ไอ้ลูกชายจอมบ๊อง เรียนจบจนได้สินะเรา แม่ล่ะเป็นห่วงแกจริงๆ เรียนก็ดีแต่ดันไปคบกับพวกนักเลงซะได้..."
กริ๊งงงง!! กริ๊งงงง!! กริ๊งงงง!!! เสียงโทรศัพท์บ้านเครื่องเก่าดังสะดิ้งขึ้นในขณะที่ยูกิกำลังจะหอมแก้มแม่
"แม่ครับ ผมไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ..."
กรึก...
"ฮัลโหลววววว ยูกิพูดคร๊าบบบบบบ" (ทำเสียงหวานเพราะอารมณ์ดี)
"เออ ฉันเอง" โนบุตอบรับอย่างคุ้นเคย
"โทรมาแต่เช้า มีอะไรฟะ? " ยูกิเปลี่ยนเสียงทันที เขารับรู้ได้ว่าต้องเป็นเรื่องนั้นอีกแน่
"ก็เมื่อคราวก่อนนั่นไง วันนี้คงต้องสะสางให้มันจบๆ "
"อีกแล้ว? ฉันต้องไปด้วยหรอ? พรุ่งนี้ต้องเข้าพิธีที่โรงเรียนด้วยอะ"
"เออ... ยังไงนายก็ต้องไป จะได้ออกไปจากเมืองนี้อย่างหมดห่วงแล้วก็สมศักดิ์ศรีไง"
"โถ่เว้ย... จะเรียนจบอยู่แล้วนะ เมื่อไรจะเลิกซะทีวะ? ศักดิ์ศรีอะไรตูไม่มีเว่ย! "
"วันนี้ครั้งสุดท้ายแล้วล่ะน่า จะได้ตัดสินกันไปเลย! อย่าลืมสิว่าฉันกับนายช่วยกันสร้างแก๊งนี้ขึ้นมา..."
"อ้าว... ก็แกบอกจะเลี้ยงข้าวสมาชิกแก๊งนี่หว่า แล้วจะตัดสินบ้าอะไรกันอีก? นี่ครั้งที่เท่าไรแล้วเนี่ย!! "
"จะไปไม่ไป? นายจะปล่อยให้แก๊งเราหมดชื่อเสียงตอนจบเพราะนายรึไง? "
"เออๆ ไปก็ได้ฟะ ตอนไหนล่ะ อย่าให้ยืดเยื้อนะเฟ้ย..."
"ที่เก่าเวลาเดิม... โอเค๊... "
กรึก...
ยูกิวางโทรศัพท์ลงแล้ว เจ้าบ้าโนบุนี่ก็หาเรื่องให้ตลอด... พรุ่งนี้ก็จะจบม.ปลายอยู่แล้ว ยังจะทิ้งทวนหาหอกอะไรอีกล่ะ จะไม่ไปก็ไม่ได้ซะด้วย ก็นี่มันแก๊งโนบุกินี่หว่า... ฮึ่ย...
ตลอดเวลาที่ยูกิรู้จักกับโนบุมา... ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำใจคบเจ้าหมอนั่นลงคอได้ยังไง นอกจากความหล่อรวยของโนบุแล้ว นอกนั้นเขาก็แทบจะไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง การเรียนก็ไม่เคยสนใจ วันๆ เที่ยวใช้กำลังชกต่อยเค้าไปทั่ว ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ค่อยมีเพื่อนสักเท่าไหร่ จะมีก็แต่ยูกินี่แหละ ที่บังเอิญไปช่วยโนบุออกมาจากวงล้อมของรุ่นพี่ตั้งแต่ตอนประถมต้น และนับแต่นั้นมา โนบุผู้บ้ากำลังกับยูกิผู้ว่องไว (ฉลาดแกมโกง) จึงสัญญากันว่าจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป...
แต่แล้วพอโตเป็นหนุ่ม ก็กลายเป็นคู่หูคู่แสบ ตั้งตนเป็นหัวโจกในโรงเรียนขยายแก๊งจนเลื่องลือไปทั่ว และด้วยอำนาจทางการเงินของโนบุจึงทำให้ยูกิและสมาชิกแก๊งไม่โดนไล่ออกง่ายๆ แต่เห็นๆ ยูกิคบเพื่อนแบบนี้อยู่ก็เถอะ ยูกิน่ะ เป็นถึงนักเรียนเกรดนิยมเลยเชียว!
ส่วนเรื่องรักๆ น่ะหรอ โนบุมันฟันไปทั่วแหละ!!!! (โอ้ววว พวกชิงสุกก่อนห่าม รับม่ายด๊ายยยยยยย) สิบปีที่ผ่านมานี้... ทั้งสองคนได้ผ่านอะไรกันมาเยอะจริงๆ และทุกอย่างก็สร้างความประทับใจเอาไว้ไม่น้อย ยกเว้นก็แต่... เรื่องความรักของยูกิที่กินแห้วอยู่ตลอดศก...
ณ หอประชุมโรงเรียน มีการจัดพิธีจบการศึกษาของนักเรียนระดับชั้นม.6 โนบุ... ยูกิ... และพรรคพวกอีกนิดหน่อยต่างก็นั่งกันหน้าสลอน มีผ้าพันแผลและพลาสเตอร์ยาติดตามตัวดูเท่แบบทุเรศชอบกล เมื่อคืนคงศึกหนักไปหน่อย วันนี้เลยมาร่วมพิธีด้วยสภาพแบบนี้ ดูดีแบบผู้ชายซะไม่มีล่ะ! นี่ขนาดวันนี้เป็นวันจบการศึกษานะเนี่ย สภาพเยินยังกับไปฟัดกับหมามายังไงยังงั้น...
ผู้ชายก็แบบนี้... พอว่างๆ ก็ไม่รู้จะทำอะไร เที่ยวหาเรื่องใช้กำลังชกต่อยกับเขาไปเรื่อย เหมือนกับทฤษฎีที่ว่า ถ้าคนเราไม่มีศาสนาและไม่มีกฎหมาย เชื้อบ้าในตัวมันจะถูกปลดปล่อยออกมา เพราะพื้นฐานของคนเราแล้ว ถ้ามีมากกว่าสองคน สักพักมันก็คงจะแบ่งพวกฆ่ากันเอง ฮ่าๆ มันเป็นความจริงที่เจ็บแสบเลยนะนั่น...
แต่กระนั้นแล้ว... ก็ยังเชื่อว่า... นอกจากภายนอกที่ดูเหมือนพวกชอบใช้กำลังแล้ว พวกยูกิก็ยังมีความรักและความสามัคคีกันในหมู่เพื่อนที่ซ่อนอยู่บ้างไม่มากก็น้อย... ถึงสภาพจะเป็นแบบนี้ก็เถอะ แต่มันก็ไม่ได้แย่ซะทุกเรื่องหรอกนะ
...
แปะๆๆๆๆๆๆๆ เสียงปรบมือแสดงความยินดีของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองดังขึ้นในหอประชุม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตบให้อย่างจริงใจรึว่าหมั่นไส้หรืออย่างไร...
ยูกิรับใบประกาศฯ เสร็จแล้ว เขาเรียนได้อันดับ1ดียอดเยี่ยมอีกตามเคย แต่พอกลับมานั่งที่เขาก็สังเกตเห็นได้ว่า โนบุกำลังถือถุงผ้าอะไรไม่รู้อยู่ในมือ มันเป็นถุงผ้าที่ชวนให้น่าสงสัยอย่างยิ่ง
"ถุงไรอะ? " ยูกิพยายามเบิ่งตาตี่ๆ ของเขาเพื่อเพ่งมองถุงในมือโนบุให้ชัดๆ เผื่อว่าจะมีสายตาเซ็นเซอร์ทะลุทะลวงแบบซุปเปอร์แมน
"เฮ้ย... อย่ามายุ่งน่า เพลิดเพลินกับการชื่นชมใบเกรดของตัวเองไปเถอะ หึหึ... "
"เออ ฉันชื่นชมของฉันทุกปีอยู่แล้วล่ะน่า ฮุฮุ แต่ว่านั่นมันถุงอะไรเล่า? บอกมาเด้..."
"รู้แล้วแกจะอิจฉาฉันน่ะสิ..."
"เฮ่ย อะไรฟะ? รึว่าเป็นของกินหรูๆ "
"ไม่ใช่โว้ย เอ้านี่... ดูซะ!! "
ในที่สุดโนบุก็ยอมเปิดถุงให้ยูกิดู... ข้างในเป็นซองจดหมายเล็กๆ สีหวานแหววเต็มไปหมด... มีข้อความเขียนซ้ำๆ บนซอง โดยทุกซองจะมีความหมายรวมๆ ว่า...
"มอบให้แด่เธอ โนบุผู้เป็นที่รัก... "
โอ้ว *0* น่าคลื่นไส้ซะไม่มีล่ะ แล้วไอ้เม็ดๆ ตุงๆ ในซองจดหมายพวกนี้มันอะไรกันหว่า... รึว่า!! กระดุมเม็ดที่สอง... แต่นี่มันกระดุมผู้หญิง...
'เคยได้ยินมาบ้างเหมือนกัน แต่นี่มันสลับกันนี่หว่า... ไม่เคยคิดว่าจะมีคนได้เยอะมากขนาดนี้ด้วย นี่โนบุมันกวาดหัวใจสาวๆ ทั่วโรงเรียนเลยรึไงกันฟะ โอ๊ยยย อิจฉาโว้ยยยยยยยย!! ' ยูกิคิดออกมาดังๆ
"วันจบการศึกษาแบบนี้... นอกจากอะไรเน่าๆ ที่ใต้โต๊ะตัวเองแล้ว นายได้อะไรเป็นของขวัญก่อนจบบ้างล่ะ? "
โนบุแกล้งถากถางเพื่อน แต่มันก็จริงของเขา... นอกจากสิ่งของเน่าๆ ใต้โต๊ะที่ต้องเก็บไปทิ้งเองอย่างพะอืดพะอมแล้ว ก็ไม่มีใครสนใจหนุ่มหน้าเห่ยอย่างยูกิเลย...
เป็นธรรมดาที่หนุ่มหน้าตาดีมาดขรึมอย่างโนบุจะมีสาวๆ มาชอบเยอะ... แต่ก็ไม่น่าจะมากมายขนาดนี้ นี่มันเหนือความคาดหมาย... รึว่า... เป็นเพราะยูกิ...
ยูกิเป็นผู้ชายหน้าเห่ยที่บ้าเรียนแต่ก็พูดได้ไม่หยุดปาก... วันๆ เขาแซวสาวไปทั่ว แล้วยิ่งตอนใกล้จะจบการศึกษายิ่งจีบได้ไม่เลือกหน้า จนได้ฉายาว่านายหน้าเห่ยหัวม้าลาย... อ๋อ... หัวหม้อนั่นเอง... แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงเป็นพรีเซนเตอร์แห้วกระป๋องควบไปด้วย...
ลุคแบบนั้นมันอาจช่วยส่งเสริมให้โนบุดูเด่นยิ่งขึ้นก็เป็นได้... ยิ่งอยู่ใกล้กันบ่อยๆ ด้วยแล้ว เหมือนนรกกับสวรรค์ชัดๆ ดังคำกล่าวที่ว่า มีแสงก็ต้องมีเงา ถ้าไม่มีคนชั่วจะรู้ได้ยังไงว่าคนที่เหลือเป็นคนดี... อืมแบบนี้นี่เอง!
"ฮ่าๆๆ ฉันเป็นผู้มีพระคุณของแกนะเว้ย รู้ตัวรึเปล่า? " ยูกิตอบกลับคำถากถางนั้นไปอย่างหน้าระรื่นไม่รู้สึกรู้สา
"ขำบ้าอะไร ไปแปรงฟันไป! ปากเหม็นเป็นบ้า..."
"ฮะ? จริงหรอ คือ... ฉันแอบลองชิมนมบูดใต้โต๊ะดูอะ กลิ่นมันเหมือนโยเกิร์ตดี ไม่นึกว่ากลิ่นมันจะติดปากมา *-* ฮะๆๆ ฮ่า... "
"โถ่...ไอ้โสโครกเอ๊ย... หยุดพูดไปเลย!! "
ณ ห้องชมรมฟุตบอล ฐานที่มั่นของแก๊งโนบุกิ (โนบุ+ยูกิ -*- ) มีสมาชิกแก๊งหน้าตาโหดเอาเรื่องมาชุมนุมกันอยู่หลายคน รวมแล้วคงสักประมาณหนึ่งห้องเรียนได้เลย มีทั้งรุ่นเดียวกันและพวกรุ่นน้องเด็กปั้นทั้งหลาย สภาพทุกคนดูคล้ายกับกระดานดำเน่าๆ ที่มีรอยขีดข่วนอยู่เต็มไปหมด... เพราะศึกครั้งสุดท้ายนั่นแท้ๆ
เฮ... เฮ... !!
คนที่ยืนบนโต๊ะคือโนบุจอมบ้ากำลังผู้เป็นหัวหน้าแก๊ง... และคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะข้างๆ คือยูกิรองหัวหน้า (แปรงฟันมาแล้ว) โนบุสุดหล่อเป็นฝ่ายบู๊ล้างผลาญ ส่วนนายหน้าเห่ยรับหน้าที่เป็นฝ่ายบุ๋น เขาเรียนดีและสามารถเป็นหน้าเป็นตาทางการเรียนให้กับแก๊งได้... เพราะถึงยูกิจะเป็นนักเลง แต่ก็สามารถตั้งใจเรียนจนได้เกรดดีๆ มาครอง
วันนี้เป็นวันส่งมอบอำนาจจากหัวหน้าแก๊งให้รุ่นน้อง หลังจากที่มอบหมายกันเสร็จแล้ว โนบุก็กล่าวคำอำลาปิดท้าย
"ลาก่อนทุกคน! " หลังจากเสียงเข้มๆ ของโนบุสิ้นสุดลง เสียงตบมือเคาะโต๊ะก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงเซ็งแซ่ที่สงสัยกันว่าโนบุอยากจะไปเรียนต่อรึเปล่า??
"ค... คือ... ขอถามได้ไหมครับว่า ท่านโนบุจะไปเรียนต่อที่ไหน? " สมาชิกท่าทางงกๆ เงิ่นๆ คนนึงลองยกมือถาม
"เฮ้ยๆ เรื่องเรียนถามฉันก่อนเด้! " ยูกิแทรกขึ้นมา
"เอ่อ... คุณยูกิตอบก่อนก็ได้ครับ"
"ฉันน่ะหรอ... ก็ต้องเป็นที่โทไดอยู่แล้ว มหาลัยอันดับหนึ่งไงเฟ้ย! "
"โอ... ถ้าเป็นคุณยูกิล่ะก็... ต้องสอบเข้าได้แน่ๆ แล้วท่านโนบุล่ะครับ? "
โนบุนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง... ท่าทีของเขาบอกเป็นนัยๆ ว่า รอตูแป๊บนึง ยังคิดไม่ออก ตูจะเรียนต่อที่ไหนหว่า ลืม...
"เอ่อ... คุณโนบุก๊าบ จะเรียนต่อที่ไหนหรอ?? "
โนบุนั่งนึกอยู่สักพัก ก่อนที่จะตะโกนออกมาอย่างดีใจ (เพิ่งจะนึกออก)
"ใช่แล้ว!! ที่เดียวกับเจ้านั่นแหละ" โนบุชี้ไปทางยูกิ แต่ไม่ได้ใช้นิ้วมือชี้ เขาใช้เท้ากระดกขึ้นชี้หน้ายูกิแทน
"เฮ้ยๆๆ มั่วรึเปล่า อย่างนายน่ะเรียนม.6จบได้ก็บุญแล้ว (แล้วทำไมต้องเอาตีนมาชี้หน้าตูด้วยฟะ! ) "
"หึหึ... ฉันอยากได้อะไรก็ต้องได้... ใช่มั๊ยพวกเรา?? "
เสียงเฮกึกก้องลั่นห้องหลังจากที่โนบุเผยความลับว่าจะไปเรียนต่อถึงโทได ทั้งๆ ที่โนบุไม่เคยนั่งเรียนด้วยความมีสติเลยสักครั้ง ไม่เมาเหล้าในห้องเรียนก็นั่งหลับโดยที่ไม่มีอาจารย์คนไหนเข้ามายุ่ง ก็เพราะอำนาจทางการเงินของเขาอีกนั่นแหละ ที่ทำให้การเรียนต่อโทไดของโนบุเป็นเรื่องที่เป็นไปได้...
"โทได !! โทได !! โทได !! โทได !! " เสียงเชียร์ดังลั่นห้องในขณะที่ยูกิส่ายหัวและทำหน้าเบ้ ฟันเสียดสีกันดังกรอด...
อะไรกันฟะ! ฉันตั้งใจเรียนแทบตายกว่าจะมั่นใจว่าจะเลือกสอบเข้าโทได... แต่เจ้าบ้านั่นจะใช้เงินยัดเข้าไปงั้นเรอะ!?! โลกนี้มันไม่ยุติธรรมเลยนี่หว่า... ท่านเอเลี่ยนลำเอียงจริงเว้ยยยยยยยยเฮ้ยยยย!!
http://www.o2pluz.com/ แนะนำเว็บไซต์โพส-อ่านนิยาย แต่งไอดีและนิยายตัวเองได้ มีโปรไฟล์เม้นหากันแบบไฮ5 และจะมีระบบแจ่มๆ ที่จะตามมามากมาย ต้องการนักเขียนนักอ่านน่ารักๆ ไปทดลองเล่นหลายอัตรา ลองมาเล่นกันดูนะคะ
ความคิดเห็น