ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บนิยายตามใจฉัน

    ลำดับตอนที่ #8 : Hakuouki ดอกไม้เปื้อนเลือด

    • อัปเดตล่าสุด 4 ธ.ค. 54







    หลังจากที่ข้าได้กลับมาเป็นหัวหน้าหน่วยที่ห้าแห่งชินเซ็นกุมิอีกครั้งและรับตำแหน่งในฐานะที่แท้จริงคือ  คานามิเมะ โยโกะ    พวกสมาชิกในหน่วยของข้าก็ดูจะเกรงใจและเคารพข้าขึ้นมาบ้างอย่างเห็นได้ชัด   คงเป็นเพราะข้าคือสตรีคนเดียวในชินเซ็นกุมิที่มีฝีมือทัดเทียมเท่ากับบุรุษละมัง?   หรืออีกเหตุผลหนึ่งคงเป็นเพราะข้าเป็นผู้หญิงคนสำคัญของฮาจิเมะซัง

    อาวุธคู่กายของข้าถูกเปลี่ยนเป็นดาบยาวคุโมะโอนิมารุ (ดาบอสูรเมฆา) ซึ่งเป็นดาบคาตานะคู่กับดาบวาคิซาชิ เบนิซากุระ สมบัติประจำตระกูลที่ท่านแม่ส่งมอบให้กับข้าแทนทวนยาวอันเก่า   ข้าเห็นด้วยกับโซจิซังที่บอกว่าทวนของข้านั้นมันเกะกะแล้วก็เทอะทะเกินกว่าที่จะเอามาสู้กับอาวุธใหม่อย่างปืนที่พวกฝ่ายปฏิวัตินำมาใช้ได้    ข้าจึงทิ้งมันเอาไว้ที่เรือนนิรันดร์ของท่านแม่เพื่อเป็นของต่างหน้าไว้ให้นาง 

    แล้วก็เป็นจริงอย่างที่โซจิซังบอก     ข้าสามารถใช้มันสังหารฝ่ายตรงข้ามได้อย่างคล่องแคล่วมากกว่าทวนอันเก่าของข้าเสียอีก     แต่ข้าก็ติดนิสัยชอบกวาดทิ้งไม่เลือกหน้าตอนที่ใช้ทวนอยู่ดี     ข้าก็เลยต้องเตือนพวกสมาชิกหน่วยของข้าไม่ให้อยู่ใกล้ๆเวลาที่ข้าลงสนามรบยกเว้นแต่ว่าข้าจะไม่สามารถสู้ต่อได้แล้วจริงๆ     พวกเขาก็เชื่อฟังข้าอย่างสุดใจด้วยเพราะเห็นตอนที่ข้าลงมืออย่างไม่ปรานีกับฝ่ายตรงข้ามแล้วก็ขนหัวลุกขึ้นมาเกรียวเลยทีเดียว    เท่าที่ข้าฟังมาจากพวกเฮย์สึเกะคุงกับฮาราดะซังแล้วก็ชินปาจิซังน่ะนะ   เห็นว่าลูกน้องของข้ามาเล่าให้ลูกน้องของพวกนั้นฟังแล้วสมาชิกหน่วยของทั้งสามคนก็มาเล่าให้หัวหน้าฟังอีกที

    “โยโกะจัง   ทำอะไรอยู่เหรอ?”

    หญิงสาวในชุดฮากามะเยี่ยมหน้าเข้ามาในห้องของข้าโดยที่ไม่ได้ร้องบอก   ก็มีอยู่เพียงคนเดียวนี่ล่ะที่จะเข้าๆออกๆห้องของข้าได้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาต    จิซึรุ เพื่อนสนิทในวัยเยาว์ของข้านั่นเอง

    ข้าหันไปยิ้มให้นางขณะที่กำลังนั่งเช็ดใบดาบสีเงินปลอดทั้งเล่มด้วยน้ำยาสารพัดอย่างที่ท่านแม่ปรุงขึ้นมาสำหรับใช้รักษาสภาพของดาบโดยเฉพาะ    แล้วจากนั้นจึงวางดาบลงกับหิ้งก่อนที่จะหันกลับมาหาจิซึรุที่นั่งลงบนเบาะนั่งตรงหน้าข้าพอดี

    “มีอะไรรึจิซึรุ   ถ้าไม่มีอะไรทำก็มาเล่นโชงิกับข้าก็ได้นะ” ข้ากล่าวเมื่อเห็นสีหน้าของนางไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก   แล้วข้าก็ต้องตกใจเมื่อจิซึรุเงยหน้าขึ้นมามองข้าด้วยสายตามุ่งมั่นอย่างที่ไม่เคนเห็นมาก่อน

    “โยโกะจัง” นางเว้นวรรคเล็กน้อย   จากนั้นประโยคต่อมาของนางก็ทำให้ข้าถึงกับอ้าปากค้างตะลึงไปชั่วขณะเลยทีเดียว

    “ช่วยสอนวิชาดาบให้ข้าด้วยเถอะ!

    เจ้าอยากหาเรื่องให้ข้าตายก่อนวัยรึไงน่ะจิซึรุ!

     



     

    ด้วยเหตุนั้น   ข้ากับนางจึงต้องแอบออกไปนอกสำนักชินเซ็นกุมิตอนกลางคืนทุกวันเพื่อที่จะได้สอนวิชาดาบให้โดยที่ไม่ให้สมาชิกคนอื่นรู้อย่างเด็ดขาด    ข้านึกภาพไม่ออกเลยถ้าหากทุกคนรู้ขึ้นมาแล้วข้ากับนางจะมีชะตากรรมลงเอยยังไง   

    “เอ้า!  รับนี่ไปสิ”

    ข้าโยนดาบไม้ซึ่งมีความยาวเท่ากับดาบคาตานะของจริงให้กับจิซึรุที่ได้เปลี่ยนชุดเป็นฮากามะสีดำที่สั้นกว่าฮากามะปกติเล็กน้อยกับยูกาตะบางๆสำหรับใส่ฝึกวิชาเคนโดโดยเฉพาะ   นางรับมาแล้วก็มองข้าด้วยสายตางงๆเล็กน้อย    ข้าจึงตอบกลับไปด้วยความหัวเสียก่อนที่นางจะได้ถามอะไร

    “ก็ดาบที่ใช้ฝึกยังไงเล่า   ถ้าขืนเจ้าใช้ดาบจริงมีหวังเจ้าได้แผลกลับมาแน่   ข้ายังไม่อยากถูกเชือดตอนนี้หรอกนะ”

    ข้าลืมขยายความไปว่า ข้าจะถูกฮิจิคาตะซังเชือดเอาถ้าหากข้าทำให้ว่าที่ศรีภรรยาของเขาบาดเจ็บน่ะสิ   แต่ช่างมันเถอะถ้าขืนข้าพูดออกไปมีหวังนางจะไม่มีสมาธิฝึกเอา   มีหวังนางได้แผลมากกว่าเก่าแน่ๆ   ทีนี้ล่ะเป็นเรื่องใหญ่เลย

    “ข้าจะไม่สอนให้เจ้าเก่งพอจะเทียบเท่ากับพวกฮิจิคาตะซังหรอก   แค่พอป้องกันตัวได้ก็พอแล้ว   ทีนี้มาเริ่มกันเลยนะ”

    ข้าพูดพร้อมกับถือดาบไม้อีกเล่มขึ้นมาตั้งท่าในระดับลิ้นปี่ซึ่งจิซึรุก็ตั้งท่าตามข้าเช่นกัน   จากนั้นข้าก็ขยับเท้าพุ่งเข้าไปฟันนางทันที

    “บทเรียนแรกหลบดาบของข้าให้ได้!



    นับตั้งแต่คืนนั้น   ข้ากับจิซึรุก็กลับมาถึงสำนักในสภาพสะบักสะบอมทุกครั้งไป    คนที่เจ็บตัวที่สุดไม่ใช่จิซึรุแต่กลับเป็นข้า   เพราะอะไรน่ะหรือก็เพราะนางเล่นโจมตีใส่ข้าแบบไม่ยั้งมือเลยน่ะสิ   คิดว่าจะไม่ค่อยเท่าไรแต่เล่นข้าซะช้ำไปหมดทั้งตัวเลย   แล้วก็ใช่ว่าจะแรงน้อยด้วย   พวกตระกูลโอนินี่แสบกันหมดรึไงนะ   คาซามะกับคาโอรุก็หนหนึ่งแล้ว   ยังมาเจอน้องสาวว่าที่หัวหน้าตระกูลยูคิมุระคนนี้อีกคนด้วย   ข้าอยากจะบ้าตาย!

    ฟุ่บ!

    ข้ากระโดดลงมาจากหลังคามายืนบนพื้นหญ้าโดยที่อุ้มจิซึรุลงมาด้วย   ข้ารู้สึกเหมือนตัวเองตัดสินผิดอย่างแรงที่ไม่สอนให้นางก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกายก่อนแต่ดันไปสอนวิชาดาบก่อนแทน   ไม่งั้นข้าคงจะไม่มาเหนื่อยเพื่อหอบนางไปฝึกทุกคืนแบบนี้หรอก    ไม่ใช่ว่าตัวของนางจะหนักนะแต่ข้าต้องใช้กำลังแขนเพื่อฝึกทั้งเช้าแล้วก็ดึกแบบนี้เป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน   ถึงจะไม่ใช่คนก็เถอะแต่ข้าก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะ

    “ขอโทษนะโยโกะจัง” จิซึรุกระซิบเบาๆกับข้าด้วยเหตุผลเดียวที่ว่าไม่อยากปลุกให้ใครตื่นขึ้นมากลางดึก   ซึ่งข้าก็พยักหน้าอย่างเข้าใจเช่นเดียวกัน   ในขณะที่ข้ากับนางกำลังจะเดินกลับเข้าไปยังห้องของตัวเอง   ก็มีเงาของคนหลายคนเดินออกมาจากมุมมืดอย่างเชื่องช้า

    “เลือดขอเลือดให้ข้าหน่อยเถอะ”

    ดวงตาสีแดงสดที่ทอประกายวาวโรจน์อย่างบ้าคลั่งบ่งบอกว่ากลุ่มคนที่ย่างกรายออกมาจากความมืดนั้นไม่ใช่คนเสียทีเดียว    แต่เป็นสมาชิกระดับล่างของชินเซ็นกุมิที่ถูกใช้งานเป็นตัวทดลองยาโอจิมิซึนั่นเอง!

    แต่ข้าก็พอจะจำได้ว่าในกลุ่มนั้นมีสมาชิกหน่วยของข้าอยู่คนหนึ่งด้วย   ข้าจับด้ามดาบคุโมะโอนิมารุที่เอวแน่นด้วยความโกรธจัดที่พลุ่งพล่านขึ้นมา

    จะยุ่งกับใครก็ได้แต่อย่ามายุ่งกับลูกน้องในหน่วยของข้านะ    ข้าไม่มีวันให้อภัยถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นท่านก็เถอะซันนันซัง!!!

    “จับดาบวาคิซาชิของเจ้าขึ้นมาจิซึรุทีนี้เราคงต้องลงมือจริงๆแล้ว”

    ข้ากล่าวเสียงเครียดกับนางขณะที่ยกดาบในมือขึ้นรับการโจมตีจากราเซ็ตสึคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกน้องในหน่วยแล้วใช้เท้าถีบเขาออกไปกระแทกต้นไม้อย่างงแรงจนสลบ   ถึงการทำแบบนี้จะเปลืองแรงไปหน่อยแต่ข้าก็ไม่อยากฆ่าใครโดยไม่จำเป็น   แล้วยิ่งคนที่ข้าประมือด้วยนั้นเป็นสมาชิกหน่วยที่ข้าใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันเหมือนครอบครัวด้วย   ข้าก็ยิ่งไม่อยากทำร้ายเขามากกว่าเดิม

    “ขอโทษด้วยนะคะทุกคน”

    เสียงแผ่วเบาของจิซึรุดังขึ้นเรียกให้ข้าหันกลับไปมองด้วยความงุนงง   แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนเป็นความตกใจเมื่อดาบในมือของนางเสียบทะลุแผ่นหลังของคนที่เงื้อดาบขึ้นจะทำร้ายอย่างเยือกเย็น

    ไม่ใช่แค่เพียงนางสามารถหลบหลีกวิถีดาบของราเซ็ตสึเหล่านั้นได้   แต่นางยังสามารถใช้ดาบสั้นในมือนั้นสังหารตอบกลับไปได้อีกด้วย   ข้ากับนางใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถจัดการพวกครึ่งคนครึ่งปีศาจกระหายเลือดเหล่านั้นได้จนหมด    ชุดสีขาวของจิซึรุชะโลมย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด   ใหน้าของนางกับข้ามีรอยเลือดกระเซ็นเปื้อนไม่ต่างอะไรกันนัก

    โยโกะ   ข้าเข้าใจแล้วล่ะเวลาที่เจ้าต้องฆ่าคนอื่นข้าเข้าใจแล้วว่าเจ้ากับทุกคนรู้สึกยังไง”

    ไหล่บางของนางสั่นสะท้านอย่างหนักราวกับคนที่กำลังร่ำไห้   แต่ข้ากลับไม่ได้ยินเสียงสะอื้นและไม่เห็นน้ำตาหลั่งรินออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลที่แสนใสซื่อคู่นั้นเลยแม้แต่หยดเดียว   ข้าเดินเข้าไปยึดไหล่ของนางเอาไว้แล้วยิ้มเศร้าๆอย่างปลอบโยน

    “คนพวกนี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะลงมือกับเราหรอกจิซึรุ   ไม่มีใครอยากพรากชีวิตของใครไปหรอก   การที่เราทำเช่นนี้อาจจะเป็นการดีก็ได้   ไม่มีใครยินดีหรอกที่จะจับดาบฟันคนในครอบครัวของตัวเอง   พวกเขาเองก็จะเสียใจเช่นกันถ้าหากเป็นผู้ลงมือสังหารเจ้า    ฉะนั้นทำใจเสียเถอะมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยชีวิตที่พวกพ้องของเราเสียสละให้”

    ตึงๆๆๆๆ!!!!!!

    เสียงฝีเท้าซอยถี่ดังขึ้น   พร้อมกับที่ฮิจิคาตะซังกับหัวหน้าหน่วยคนอื่นๆที่ถูกปลุกขึ้นมากลางยามวิกาลวิ่งเข้ามาถึงที่เกิดเหตุในเวลานั้นพอดี


    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×