คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : Fic Sanctity Knight : Last time of Another
Fan Fiction Sanctity Knight
ลีฮีเตอร์ ฮัมมิ่ง/รีเฟมแอสเซน X OC
“อ๊ะ”
เสียงหวานใสที่ร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจเรียกให้ดิวดร็อฟ ไซรีทัส ลีฮีเตอร์และคนจากปราการอัศวินทั้งหมดหันกลับมามอง และแล้วดวงตาทุกคู่ที่หันกลับมานั้นก็เบิกกว้างพร้อมๆกันเมื่อร่างบอบบางของหญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีเงินกำลังเปล่งประกายแสงสีเงินระยับ
“ฟีอาลีน...เกิดอะไรขึ้น?” ดิวดร็อฟกระซิบเรียกพี่สาวของเขาด้วยน้ำเสียงงุนงง
อดีตเงาแห่งกษัตริย์เออริแกรนเมื่อห้าพันปีก่อนเพียงระบายรอยยิ้มหวานและอ่อนโยน แต่ก็ทำให้คนมองรู้สึกโหวงในอกอย่างบอกไม่ได้
หญิงสาวยกมือที่กำลังแตกสลายเป็นประกายระยับขึ้นในระดับสายตาพลางยิ้มเศร้า “ดูเหมือนว่า...เวลาของข้าจะมาถึงแล้วล่ะ”
“ไม่นะ! ท่านพี่!!!” ในตอนนั้นดิวดร็อฟไม่สนใจสายตาของใครอีกแล้ว เขาวิ่งออกมาจากเขตวงแหวนเวทย์เคลื่อนย้ายของไซรีทัสมายังร่างสีเงินอีกร่าง ทว่ากลับถูกขัดขวางเอาไว้ด้วยไอพลังสีสวยจากร่างนั้นเอง ฟีอาลีนส่ายหน้าช้าๆและมองดูน้องชายของเธอด้วยแววตาเศร้าระคนอาวรณ์อย่างปิดไม่มิด
“ข้าทำสัญญาเอาไว้กับองค์จีอา” เสียงหวานเอ่ยเรื่อยๆโดยไม่สนใจสายตาของเหล่าคนทั้งสามภพ “เมื่อใดก็ตามที่ข้าหมดอายุขัยข้าจะแตกสลาย และกลับคืนเป็นหนึ่งเดียวกับพสุธา ไม่จะเป็นต้องจัดพิธีให้เปลืองเงินตรา ไร้ซึ่งร่างให้อาลัย...เพราะข้าเต็มใจอุทิศมันให้กลายเป็นพรของแผ่นดิน”
ร่างสูงสีเงินทรุดลงกับพื้น หยาดน้ำตาไหลรินจากดวงตาสีอเมทิสต์และร่วงลงสู่ผืนดินที่พี่สาวของเขากำลังจะหวนคืน ทำไมกันล่ะ...ทำไมต้องเป็นเวลานี้
ทั้งๆที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าสงครามจบเราจะกลับไปอยู่ด้วยกัน...
“ดิวดร็อฟ...” เธอทรุดนั่งลงยังขอบเขตที่ขวางกั้นเธอกับน้องชายเอาไว้ เพียงปลายนิ้วสัมผัสมันก็แตกสลายไปอย่างง่ายดาย
แล้วฟีอาลีนก็โอบกอดร่างของแซงค์ทิตี้ไนท์เอาไว้อย่างอ่อนโยน...เป็นครั้งสุดท้าย
“ข้าขอโทษนะ...ที่ชาตินี้ต้องไปก่อนเจ้า”
“...งั้นก็อย่าไปสิ” เสียงสั่นเครือที่กล่าวขึ้นอย่างเอาแต่ใจทำให้หญิงสาวหลับตาลงข่มความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงอยู่ในใจ
“ขอบคุณนะ...ชาตินี้กลับมาเป็นน้องชายของข้าอีกครั้ง ดิวดร็อฟ เออริแกรน โฮลี่อัลเทีย...”
นัยน์ตาสีม่วงสองคู่ที่เหมือนกันสบมองซึ่งกันและกัน
“...ไว้เจอกันอีกนะ ฟีอาลีน เอไลน์ โฮลี่อัลเทีย”
สิ้นคำกล่าวบอกลา ร่างสีเงินที่อัศวินแห่งสามภพโอบกอดเอาไว้ก็พลันแตกสลายกลายเป็นประกายเพชรสีเงินนับล้าน ลอยพัดหายไปกับสายลมหอบใหญ่ที่พัดมาสู่สนามรบ เขตรอยต่อของสามภพอันแห้งแล้งพลันกลับคืนชีวิตชีวาอีกครั้งเมื่อประกายแห่งวิญญาณเหล่านั้นตกกระทบ พื้นดินแตกระแหงกลายเป็นดินดำอุดมสมบูรณ์ สีเขียวของต้นไม้ใบหญ้างอกเงยขึ้นมาอีกครั้งหลังจากปล่อยให้พสุธาตรงนี้กลายเป็นแอ่งรองรับเลือดของคนทั้งสามภพ
จักรพรรดิปีศาจทอดสายตามองออกไปไกลด้วยแววตาว่างเปล่า...รอยยิ้มสุดท้ายที่คนคนนั้นมอบให้กับเขาปลุกความทรงจำที่ลึกที่สุดในหัวใจของวิญญาณดวงนี้ขึ้นมา
ครั้งแรกที่เขาได้พบกับหญิงสาวผู้งดงามที่สุดในแผ่นดินก็คือตอนที่เขาลักลอบเข้ามาในแผ่นดินโบราณเพียงลำพังเพื่อยืนยันข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับกษัตริย์องค์ใหม่ของพวกมนุษย์ที่ว่าเก่งนักเก่งหนา
เขาไม่ได้เพียงเจอกษัตริย์องค์นั้น...แต่ยังได้เจอหญิงสาวสีเงินที่มีใบหน้าและดวงตาคล้ายคลึงกับกษัตริย์มนุษย์เออริแกรนด้วย
นางอ่อนโยนและบอบบางเกินกว่าจะลงไปอยู่กลางสนามรบที่พร้อมจะแลกชีวิตได้ทุกเมื่อ...
แต่เขาก็คิดผิดอย่างมหันต์...
ครั้งสองที่เขาได้พบกับ ฟีอาลีน เอไลน์ โฮลี่อัลเทีย คือสงครามสามภพเมื่อห้าพันปีก่อน
เขาไม่เคยลืมดวงตาสีม่วงประกายงดงามที่ปรากฏกายเบื้องหน้ากองทัพมนุษย์เมื่อสงครามสามภพครั้งก่อน แม้ว่าจะอยู่เบื้องหน้าของศัตรูที่พร้อมจะทำลายแผ่นดินบ้านเกิด แต่ดวงตาคู่นั้นก็ไม่เคยทอประกายเคียดแค้นเลยแม้แต่น้อย
หากแต่เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนอย่างไม่แบ่งแยกเผ่าพันธุ์...
‘ข้าชื่อ เอไลน์ โฮลี่อัลเทีย จำชื่อนี้เอาไว้ให้จักรพรรดิปีศาจ...เพราะข้านี่ล่ะที่จะมีชัยเหนือท่าน!’
ต่อหน้าศัตรู...นางยังมีรอยยิ้มประดับใบหน้าอยู่เสมอ แม้กระทั่งเขานางยังกล้าท้าทายเช่นนั้น ไม่ได้ต่างไปจากสองพ่อลูกมังกรกับมนุษย์นั่นเลย! วอนบาทาเหมือนกัน!!!
ในวินาทีสุดท้ายของชีวิต...เธอก็ยังยิ้มด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนเช่นนั้น
‘ท่านไม่ได้ผิดหรอก...รีเฟมแอสเซน’
น้ำเสียงของนาง...อ่อนโยนเหลือเกิน...
‘หากข้าเป็นท่านข้าก็จะยอมถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ก่อสงคราม ท่านทำสิ่งนี้เพื่อประชาชนของท่านนี่คะ นี่ล่ะค่ะเป็นกษัตริย์ที่ดีที่สุดแล้ว...เช่นเดียวกับน้องชายของข้า’ นัยน์ตาสีม่วงเหลือบมองไปยังร่างสีเงินที่กำลังรบรากับพวกสวรรค์ มีเพียงนางที่หาญกล้านำกำลังอันน้อยนิดเข้ามาประจันหน้ากับทัพปีศาจนับล้านอย่างไม่หวั่นเกรง
แล้วสุดท้ายก็ทอดกายลง...ในอ้อมแขนของเขา...
‘ถ้าหากชาติหน้ามีจริง...’
เขาไม่ได้ยินเสียงของนางอีกแล้ว...เพราะรอบกายเขากำลังสว่างจ้าไปด้วยเวทมนตร์ของจ้าวสวรรค์ที่ฝ่าคมดาบของเจ้าสีเงินเข้ามาถึงทัพปีศาจได้ แล้วเขาก็ก้มลงมองร่างบางในอ้อมแขนซึ่งกำลังยิ้มพรายอย่างอ่อนโยน
‘พวกเขาจะผนึกท่าน...รีเฟมแอสเซน’ แล้วบอกข้าทำไม...ทำไมเจ้าไม่ใช้พลังชีวิตที่เหลือเพียงน้อยนิดนั่นหนีไปเล่า ‘ขอโทษด้วยที่ข้าไม่มีเวลาพอจะรั้งพวกเขาไว้ได้’
‘ทำไมเจ้าไม่ใช้พลังที่เหลือหนีไป...ถ้าทำแบบนี้...’
วิญญาณของเจ้าอาจจะไม่ได้กลับมาเกิดอีกครั้งนะ...
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ข้าหวั่นไหวกับรอยยิ้มอันเปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตากับแววตาที่อ่อนโยนนั่น
ข้าเสี่ยงให้นางถูกผนึกวิญญาณไปพร้อมกับข้าไม่ได้...
เพราะอย่างน้อยหากนางได้เกิดใหม่...เราจะได้พบกันอีกครั้ง...
ต่อให้นานแค่ไหนข้าก็จะรอ...เอไลน์
แล้วพลังเฮือกสุดท้ายของจักรพรรดิปีศาจก่อนจะถูกผนึกก็ส่งร่างที่ไร้ลมหายใจของเงาคู่บัลลังก์แห่งกษัตริย์มนุษย์คืนสู่มาตุภูมิของนาง และแล้วเขาก็เข้าสู่การหลับใหลไปอีกหลายพันปีก่อนจะกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง
เขากลับมาเกิดใหม่เป็นมนุษย์ที่ใช้เวทมนตร์ดำ ลีฮีเตอร์ ฮัมมิ่ง ไร้ซึ่งความทรงจำในร่างก่อน เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาๆที่ฝันถึงรอยยิ้มของใครคนหนึ่งอยู่ทุกค่ำคืนตั้งแต่จำความได้จนกระทั่งเติบโต
ใครกัน? ทำไมเขาถึงจำอะไรไม่ได้เลย?
และแล้วเขาก็ได้พบกับสีเงินอีกคน...
ทำไมช่างเป็นมนุษย์ที่มีความคิดบรรเจิดโลกได้ขนาดนี้! ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเจอใครที่มีความคิดชวนทำลายประสาทได้ขนาดนี้มาก่อนเลย!
การแก้ปริศนามังกรดาร์คอิงเรมนำพาให้พวกเขาสามคนมาเจอกันได้แก่มนุษย์สีเงินปากเสีย ชาวสวรรค์สีทองรัศมีเจิดจ้าแสบตา...และข้า จอมเวทย์ดำ
ดาร์คอิงเรมนำมาซึ่งความหวาดกลัวของผู้คนทั้งหลายเมื่อมังกรดำตนนั้นได้บินฝ่าเขตแดนเข้ามาในเบอร์เรี่ยน...และเธอคนนั้น
สีเงินอันบอบบางไม่ต่างจากตุ๊กตาแก้วที่ติดตามแผ่นหลังของดาร์คอิงเรมไม่ห่าง
ชื่อของเธอคือ เฟอาลีน โฮลี่อัลเทีย...
‘ไม่ว่าท่านจะเป็นใครก็ตาม จะเป็นจักรพรรดิปีศาจรีเฟมแอสเซน หรือจอมเวทย์ดำลีฮีเตอร์ ท่านก็คือผู้ชายคนเดียวที่ข้ารัก ตั้งแต่อดีต...จนถึงวินาทีนี้’
เพียงคำพูดสั้นๆที่นางกล่าวพร้อมกับประทับจุมพิตเบาบางที่ริมฝีปาก เขาก็รู้สึกว่าโลกทั้งใบกำลังหยุดนิ่ง
ต่อให้ต้องรออีกกี่ร้อยกี่พันปีก็ช่าง...แค่ได้พบเจ้า...แค่ได้มองเห็นรอยยิ้มของเจ้าที่มอบให้ข้าผู้เดียว
...ข้าก็ยินดีรอ...
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
เป็นตอนพิเศษที่คิดขึ้นได้หลังอ่าน Sanctity Knight ของคุณ Finch DD จบค่ะ^^
ความคิดเห็น