ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บนิยายตามใจฉัน

    ลำดับตอนที่ #41 : ตำนานรักพ่อมดกับราชินี

    • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 57






    อันนี้เป็นตอนพิเศษที่เราเขียนเสริมน่ะค่ะ

    -----------------------------------------------------------------------------


               นิทานที่ถูกกล่าวขวัญในคฤหาสน์แห่งโลกเบื้องหลัง

     

    นิทานอันเป็นตำนานรักของ ลาวิน่าราชินีแห่งคฤหาสน์ลับแล กับ อัลเบอริคพ่อมดแห่งแดนสนธยา
     

    พ่อมดอัลเบอริคเป็นพ่อมดที่มีพลังแก่กล้าที่สุดในหมู่พ่อมดและได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาของเหล่าผู้ใช้มนตราทั้งปวง   ทว่าตัวเขานั้นกลับปรารถนาเพียงชีวิตอันสงบสุขเรียบง่าย...เคียงข้างกับสตรีที่เขาหมายจะรักเพียงหนึ่งไปชั่วนิรันดร์
     

    ทว่าแม้นมีสตรีใดกรายเข้ามาใกล้เขาก็มิได้มีจิตเสน่หาด้วย...เหตุเพราะเขารอคอยเพียงสตรีเจ้าของนัยน์ตาสีโลหิตที่ได้พานพบในความฝันเท่านั้น   สตรีที่เขาหมายจะเคียงข้างไปตราบสิ้นลมหายใจ
     

    เมื่อเขาได้บอกกล่าวกับคนในครอบครัวและคนรอบข้าง ก็ได้รับเพียงเสียงหัวเราะอย่างขบขันว่าจะมีมนุษย์คนใดบ้างที่มีดวงตาสีแดงฉานราวกับเลือดเช่นนั้นเว้นเสียแต่ปีศาจ   ซึ่งปีศาจเหล่านี้ก็ไม่ได้ชายตามองพ่อมดแม่มดที่เป็นเพียงผู้รับใช้ของพวกเขาเช่นกัน
     

    เขาไม่เคยหมดสิ้นความหวัง...เขารอคอยอย่างอดทนมาหลายปีว่าจะได้เจอหญิงผู้นั้น
     

    และแล้วเขาก็ได้พบกับเธอคนนั้น หญิงสาวที่เขาเฝ้าฝันถึงมาหลายปีจากในความฝัน
     

    เธอคือ ลาวิน่า ราชินีแห่งคฤหาสน์โลกเบื้องหลัง
     

    ลาวิน่าเป็นหญิงที่งดงามที่สุดเท่าที่เขาเคยพบ   เส้นผมสีดำขลับตัดกับผิวกายขาวกระจ่างและนวลเนียนดั่งกระเบื้องเคลือบ   หัวใจที่ด้านชาเต้นรัวเมื่อได้เห็นรอยยิ้มบางผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าอันเย็นชาของหญิงสาวที่เขาหลงรักจากในความฝัน
     

    พวกเขามักจะนัดพบกัน ณ ปราสาทร้างใจกลางป่าลึก สถานที่แรกที่พวกเขาได้พบกัน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ได้พบเห็นซึ่งกันและกัน
     

    ผิดกับคำร่ำลือถึงราชาพ่อมดที่เธอได้ยินมาจากเหล่าอัศวินและข้ารับใช้ในคฤหาสน์โดยสิ้นเชิง   พวกเขากล่าวว่าอัลเบอริคเป็นบุรุษเย็นชา เย่อหยิ่ง และยอมทำทุกอย่างกระทั่งขายวิญญาณให้ปีศาจเพื่อบรรลุเป้าหมาย   แต่ในสายตาของลาวิน่า อัลเบอริคเป็นผู้ชายที่ใจดี อ่อนโยน และขี้เล่นคนหนึ่งเท่านั้น   เขามักจะเล่าเรื่องการผจญภัยในดินแดนต่างๆที่เขาได้ผ่านไปให้กับเธอที่ไม่เคยได้ย่างกรายออกจากคฤหาสน์ไปไกลเกินกว่าเขตแดน   ส่วนเธอเองก็มักจะหยิบพิณเงินตัวโปรดออกมาขับขานบทเพลงให้เขาฟังเสมอ 
     

    จากความสัมพันธ์เพียงฉันท์มิตรแปรเปลี่ยนเป็นความรัก   หากแต่ความรักของทั้งคู่ก็มิได้ราบรื่นดั่งนิยายรักที่มักกล่าวขาน
     

    อาณาจักรมนตราของอัลเบอริคเป็นอาณาจักรที่ขึ้นตรงต่อจอมปีศาจโดยตรง   และจอมปีศาจนั้นก็เป็นศัตรูของนครลับแล
     

    “จงเลือกเสีย! ว่าจะให้ข้าทำลายนางหรืออาณาจักรทั้งมวลของเจ้า...อัลเบอริค!
     

    จอมปีศาจประกาศกร้าวยามเมื่อทราบถึงความรักต้องห้ามระหว่างทั้งสอง   พ่อมดปรายสายตามองพี่น้องและคนของเขาที่ตกอยู่ภายใต้อาณาเขตของจอมปีศาจแล้วเหลือบมองสตรีที่เขารักซึ่งยืนนิ่งอยู่ภายใต้คมดาบพร้อมปลิดชีวิต
     

    ลาวิน่า...ราชินีของเขา...ที่รักของเขา...
     

    ราชินีผู้งดงามเพียงยิ้ม...ด้วยรอยยิ้มที่อ่อนหวานที่สุด
     

    และแล้วนางก็ชักกริชที่ซ่อนอยู่ออกมาและแทงเข้าที่หน้าท้องจนมิดด้าม   จอมปีศาจผงะไปครู่หนึ่งด้วยความที่คาดไม่ถึงกับการตัดสินใจอันเด็ดขาดและกล้าหาญของราชินีในกรงทอง   เป็นโอกาสให้พ่อมดได้รีบพาร่างของนางอันเป็นที่รักออกมา
     

    “ลาวิน่า...ลาวิน่า...” เขากระซิบเรียกชื่อของราชินีที่รักด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
     

    ร่างกายของเธอเริ่มที่จะเปล่งแสงเรืองรองออกมาน้อยๆ   ด้วยอำนาจศักดิ์สิทธิ์ในลำแสงนั้นทำให้จอมปีศาจกรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมานและหนีหายไปพร้อมกับกองทัพของมัน   เหตุเพราะลาวิน่านั้นเป็นบุตรีของเทพธิดาทำให้ตัวเธอนั้นยังคงมีอำนาจของสวรรค์ติดกายอยู่บ้าง
     

    “...อัลเบอริค...” มือบอบบางของราชินีผู้มาจากสรวงสวรรค์เอื้อมไปสัมผัสแก้มของชายที่เธอมอบหัวใจให้ทั้งดวงอย่างอ่อนโยน
              .
              .
              .

    “...ข้ารักท่าน”

     

    “ข้าก็รักเจ้าเช่นกัน ลาวิน่า...ราชินีผู้งดงามของข้า”
     

    และแล้วมือที่กอบกุมเอาไว้ก็ร่วงหล่น...
     

    ว่ากันว่า พ่อมดร่ำไห้กับการจากไปของราชินีที่รักอยู่สามวันสามคืน   เสียงร่ำไห้อย่างโศกาของเขาดังก้องกังวานไปทั่วทั้งอาณาจักรทั้งสองที่กลับคืนมาเป็นพันธมิตรกันอีกครั้ง   ทั่วทั้งเมืองประดับประดาไปด้วยกุหลาบสีดำและทุกคนล้วนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำเป็นการไว้อาลัยต่อราชินีผู้เป็นที่รักยิ่ง
     

    ร่างของหญิงสาวถูกบรรจุใส่โลงแก้วและเก็บรักษาเอาไว้ด้วยมนตราอยู่ภายในปราสาทร้างซึ่งพ่อมดใช้อำนาจทั้งหมดของเขาเนรมิตมันขึ้นมาใหม่
     

    “...เจ้าไม่ต้องเหงาอีกแล้ว ราชินีของข้า”
     

    เพราะข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเอง...จนถึงวาระสุดท้าย
     

    พ่อมดทอดกายลงเคียงข้างโลงแก้วซึ่งเป็นที่พักผ่อนสุดท้ายของหญิงสาวแก้วตาดวงใจ   และแล้วในวันต่อมาก็มีผู้พบว่าพ่อมดนั้นได้หมดลมหายใจไปแล้วโดยที่มือยังกอบกุมมือบอบบางของราชินีเอาไว้อยู่   ผู้รับใช้ของทั้งคู่ได้นำร่างอันไร้ลมหายใจของทั้งสองคนบรรจุใส่โลงดอกไม้และฝังเอาไว้ยังสวนด้านหลังปราสาท...ให้พวกเขาได้หลับใหลเคียงข้างกันไปตลอดกาล
     

    บนเนินดินเหนือที่พักผ่อนของทั้งคู่ยังมีดอกไม้ประหลาดชนิดหนึ่งงอกงาม เป็นดอกไม้ที่มีกลีบสีน้ำเงินและมีเกสรสีขาว ส่งกลิ่นหอมกำจายไปทั่วทั้งบริเวณ   สีน้ำเงินคือสัญลักษณ์แทนตัวพ่อมด และสีขาวแทนราชินีผู้มีสายเลือดของทูตสวรรค์
     

    ความรักของทั้งคู่ยังคงล่องลอยอยู่เหนือผืนดินมาตราบจนทุกวันนี้   เช่นเดียวกับกลิ่นหอมของดอกลารันเชียที่ลอยอบอวลไม่จางหาย

    -------------------------------------------------------------------------------------------------


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×