ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บนิยายตามใจฉัน

    ลำดับตอนที่ #40 : Mermaid and Wizard

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 57




     

     

     

    นี่ข้า...อยู่ที่ใดกัน?

     

    น้ำนี่! ดวงตาสีม่วงประกายสวยเบิกกว้างด้วยความตกตะลึงเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสอันอ่อนโยนของสายน้ำอยู่รอบกาย   คาร์เนียลองว่ายช้าๆวนไปรอบๆสระใหม่ที่ตัวเองเพิ่งถูกพาตัวลงมาพบว่ามันกว้างเสียจนเธอสามารถพลิกตัวทั้งซ้ายขวาหน้าหลังได้อย่างสบายๆ   อีกทั้งยังมีความลึกไม่ต่ำกว่าสองเมตรครึ่งซึ่งเป็นอะไรที่กว้างขวางพอดูสำหรับเงือกฉลามที่มีความยาวหางมากกว่าเงือกทั่วไป   น้ำในนี้เป็นน้ำทะเล คาร์เนียนึกสงสัยนักว่าเจ้าของปราสาทไปวิ่งวุ่นหาน้ำทะเลมาจากที่ใด   แต่เมื่อนึกถึงเสียงคลื่นแว่วมาแต่ที่ไกลๆก็พอนึกออกว่าคฤหาสน์ของเจ้าราชาแวมไพร์ตั้งอยู่ติดกับชายทะเล

     

    หญิงสาวว่ายวนไปเรื่อยๆจนกระทั่งร่างกายเริ่มที่จะชินกับสภาพน้ำแล้วจึงโผล่หัวขึ้นมาเหนือผิวน้ำ   มองเห็นร่างในชุดสีดำสนิทตัวยาวของพ่อมดหน้าตายกำลังฟุบหลับในท่าที่เธอคิดว่าหมดรูปราชาพ่อมดที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา

     

    เส้นผมสีดำขลับส่วนหนึ่งของเขาทิ้งตัวลงระกับน้ำในสระ   ใบหน้าที่ผ่อนคลายและปราศจากรังสีคุกคามเหมือนเมื่อตอนอยู่ในคุกใต้ดินทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าหากพวกพี่ๆทั้งหลายของเธอมาเห็นคนหลงหัวปักหัวปำแน่นอน

     

    คาร์เนียว่ายเข้าไปใกล้ๆคนที่กำลังหลับสนิทก่อนจะขยับปากร้องเพลงกล่อมเบาๆ   มนตราที่แผ่ออกมาจากเสียงเพลงอันหวานซึ้งนั้นก่อให้เกิดกระแสน้ำไหลวนรอบๆของเงือกสาว   สายลมเย็นพัดเอื่อยร่วมกับเสียงเสียดสีเบาๆของใบไม้ราวกับท่วงทำนองแห่งธรรมชาติ

     

    ว่ากันว่าเวทมนตร์ที่ร้ายกาจที่สุดของชาวเงือกคือสายน้ำ...

     

    แต่เวทมนตร์ที่ร้ายกาจยิ่งกว่านั้นก็คือเสียงเพลง

     

    เงือกแต่ละตนจะมีมนตราเสียงเพลงแตกต่างกัน   บางตนสามารถควบคุมเหล่าปลาต่างๆได้ผ่านบทเพลง บางตนก็สร้างเกราะคุ้มกันได้   ยกเว้นแต่เพียงคาร์เนียเท่านั้นที่แตกต่างออกไป

     

    เพราะพ่อของเธอคือพ่อมดทะเล...ชายผู้แลกเปลี่ยนวิญญาณกับแม่มดพรายสมุทรเพื่อให้ได้มาซึ่งร่างกายอันเป็นอมตะและมีท่อนหางเป็นมัจฉาเฉกเช่นเดียวกับชาวเงือก   เขาแลกมันกับอิสรภาพในการเหยียบย่างบนผืนดินเพื่อปกป้องอันดิเนเวีย ดินแดนของหญิงที่เขารัก

     

    พลังของเขาเป็นหนึ่งในสิ่งที่สืบทอดมายังเธอผู้เป็นสายเลือดหนึ่งเดียวของเขา   นั่นทำให้เธอมีพลังแข็งแกร่งเทียบเท่ากับแม่มดพรายทะเล   มีพลังในการควบคุมสายน้ำที่ชาวเงือกทั่วไปทำได้เพียงเปลี่ยนมันเป็นอาวุธในมือและสร้างกระแสน้ำเล็กๆเท่านั้น   นอกจากนั้นเสียงเพลงของเธอยังมีอำนาจหลากหลาย ขึ้นอยู่กับจิตใจและความประสงค์ของเธอว่าต้องการให้ผลเป็นเช่นไร

     

    เพียงกระซิบแค่ถ้อยคำแผ่วเบา หากว่าเธอต้องการจะให้คนคนนั้น ตายมันก็จะตายดังปรารถนา

     

    เมื่อบทเพลงอันหวานซึ้งจบลง   นัยน์ตาสีแดงเพลิงของคนที่คิดว่ากำลังหลับอยู่ก็ค่อยๆลืมขึ้น   อารามด้วยความตกใจคาร์เนียจึงผลุบลงไปในน้ำอย่างรวดเร็วเสียจนหยุดน้ำเม็ดใหญ่กระเซ็นต้องใบหน้าคมคายของประมุขของผู้ใช้เวทมนตร์ทั้งปวง   ความเค็มจากน้ำทะเลที่เข้าตาโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้ชายหนุ่มร้องครางๆเบากับความแสบของเกลือเข้มข้น   แล้วไม่กี่อึดใจต่อมาเขาก็รับรู้ถึงสายน้ำบริสุทธิ์สายเล็กๆกำลังชะล้างเอาน้ำเกลือเหล่านั้นออกไป   เมื่อลืมตาขึ้นหลังจากกระแสน้ำนั้นจางหายไปแล้วเขาก็พบกับดวงตาสีม่วงกลมโตคู่สวยยิ่งกว่าอัญมณีเม็ดใดๆกำลังจ้องมองด้วยแววตาแฝงความตื่นกลัว

     

    “หายแสบตาหรือยัง?” เสียงหวานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เจือความรู้สึกผิดคล้ายกับเด็กที่ทำอะไรผิดซักอย่าง

     

    พ่อมดเสกลมร้อนขึ้นที่ฝ่ามือและเป่าให้เส้นผมสีเปียกลู่แนบหน้าแห้งสนิท “ไนซาเรสหลับไปแล้ว หมอนั่นก็เลยให้ฉันมาเฝ้าแทน”

     

    “เจ้าราชาขี้เซานั่นน่ะเหรอจะยอมพลาดเวลานอนของเขา” เงือกสาวโบกหางที่อยู่ในน้ำช้าๆ   ราชาพ่อมดแย้มยิ้มบางกับความนัยที่แฝงอยู่ในประโยคต่อว่านั้น   ได้ยินว่าพวกเงือกสามารถรับรู้ความรู้สึกของสิ่งมีชีวิตรอบข้างได้ดีและตัวเขาเองก็ประจักษ์กับตนเองมาแล้วก่อนหน้านี้   เธอรับรู้ว่าไนซาเรสต้องลำบากแค่ไหนกับการจัดการเรื่องของการมาเยือนจากต่างเผ่าพันธุ์ซึ่งกำลังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้   จึงยอมให้อีกฝ่ายนอนหลับอย่างสงบสุขในโลงส่วนตัวของเขาโดยไม่วายแอบจิกด่าอีกเล็กน้อย

     

    “ฉันจะเข้าไปในเมือง สนใจมั้ย?” พ่อมดเอ่ยพร้อมกับหยิบเสื้อผ้าซึ่งไนซาเรสได้เตรียมเอาไว้ให้แล้วขึ้นมา   คาร์เนียยิ้มกว้าง ไม่รอช้าที่จะใช้แรงแขนเหวี่ยงร่างตัวเองขึ้นมานั่งบนขอบสระได้อย่างง่ายดาย   เมื่อหางเรียวสีเงินต้องแสงแดดจ้ายามสายก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นขาเรียวผ่อง   เท่านั้นล่ะคุณพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ก็รีบโยนเสื้อคลุมให้สาวเจ้าใส่แทบไม่ทัน

     

    พระเจ้า...เขาอยากจะจับพระราชาแห่งอันดิเนเวียมาเทศน์ซักรอบ   ที่วังใต้สมุทรเดี๋ยวนี้ไม่สอนกุลสตรีบ้างรึไงหา!

     

    หญิงสาวพันหน้าอกด้วยผ้ายืดสีขาวแล้วสวมทับด้วยเสื้อยืดสีขาว   จากนั้นก็สวมเสื้อโค้ทสีน้ำเงินตัวยาวทับอีกชั้นหนึ่ง   ส่วนล่างนั้นทีแรกสาวเจ้าบอกว่าจะไม่ใส่ ทำเอาเหล่าแวมไพร์ใต้อาณัติของไนซาเรสที่เดินผ่านมาถึงกับพุ่งถลาเข้ามาแทบเท้าสาวเจ้าทั้งน้ำตา

     

    คนหนึ่งแอบกระซิบกับเขาว่าถ้าดูแลคุณเธอไม่ดีท่านซาเรสของพวกเขาจะเชือดเอาน่ะสิครับ

     

    อืมม์ เขาก็พอเข้าใจนิสัยของหมอนี่อยู่หรอก   แต่แบบนี้มันหวงไปมั้ย?

     

    “ป่ะ” หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีขาวยังคงยิ้มแฉ่งโดยไม่รู้ตัวซักนิดว่าเกือบจะทำให้มื้อเย็นวันนี้มีเนื้อแวมไพร์กระทะร้อนเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเมนูแล้ว

     

     

     

     

    คาร์เนียค่อนข้างเคยชินกับชีวิตบนบกในฐานะมนุษย์   เพราะว่าเธอเป็นหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนซึ่งบางครั้งจะต้องขึ้นมาลาดตระเวนบนเกาะหรือชายฝั่งที่อยู่ภายใต้อาณาเขตของอันดิเนเวีย   นั่นทำให้เธอและคนในหน่วยต้องฝึกฝนการเคลื่อนไหวโดยใช้เท้า ทั้งการเดิน การวิ่งหรืออื่นๆให้คล่องแคล่ว   เป็นเงือกส่วนน้อยที่เมื่อขึ้นมาบนบกแล้วสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว

     

    แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่เคยได้เข้ามายังใจกลางเมืองของพวกมนุษย์ซักครั้ง

     

    ดวงตาสีอเมธิสต์จ้องมองตึกสูงและผู้คนที่เดินสัญจรไปมาผ่านกระจกติดฟิล์มของรถยนต์ด้วยแววตาสนอกสนใจ   ท่าทางเหมือนเด็กน้อยที่ได้ออกมาดูโลกกว้างของเจ้าหญิงเงือกผู้ประพฤติตนไม่เหมือนชนชั้นสูงอย่างยิ่ง (โดยเฉพาะในสายตาของเรเวน) ทำให้พ่อมดอดระบายรอยยิ้มจางออกมาไม่ได้

     

    แต่เมื่อนึกถึงสายตาเหี้ยมเกรียมตอนที่เจอกันครั้งแรกกับจิตสังหารสุดยอดของเจ้าตัวแล้วเขาขอบายดีกว่า

     

    “แล้วนี่เจ้าจะไปไหนกัน?” คาร์เนียละสายตาจากทิวทัศน์แปลกตารอบข้างแล้วหันมาถามคนขับ

     

    “อาหารปลา...อั่ก!!!

     

    พูดจบยังไม่ทันได้หายใจพ่อมดหนุ่มก็ต้องร้องอั่กเมื่อถูกกำปั้นหนักๆของสาวเจ้าซัดเข้าที่ไหล่จนรู้สึกชาดิก   โอ ให้ตาย...ไหล่จะหลุดมั้ยเนี่ย

     

    “ข้าไม่ใช่ปลาทองโง่ๆในโหลแก้วนะยะ!!!

    พอเท๊อะ!!!

    นี่เป็นนิยายสั้นๆที่แวบขึ้นมาในหัวตอนกำลังหารูปไปแต่งนิยายน่ะค่ะ เป็นเรื่องของเจ้าหญิงเงือก (ผู้ไม่เป็นกุลสตรี) พ่อมด (ที่ดูคล้ายเบ๊ก้นครัวชอบกล) และแวมไพร์ (ผู้นอกจากการกินกับนอนแล้วได้แต่ต่อยตี ตะลุมบอนกับนักเลงไปวันๆ)

    อ่านเล่นไปพลางๆแล้วกันเนอะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×